รมณี บุญดีเจริญ คนที่อดทนได้มากกว่า จะสำเร็จได้มากกว่า
|
|
วันที่ 19 ตุลาคม 2555 01:09 โดย : ลมลเพ็ชร อภิสิทธิ์นิรันดร์ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
รมณี บุญดีเจริญ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน)
"รมณี บุญดีเจริญ"ทายาทบิ๊กอสังหาริมทรัพย์ แม้ชั่วโมงบินจะยังไม่สูงในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ แต่หาญรับงานใหญ่มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
รมณี บุญดีเจริญ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ จี แลนด์ ทายาทคนสุดท้องของ "โยธิน บุญดีเจริญ" นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รุ่นเก๋า แม้รมณีจะเพิ่งเข้ามาทำงานเต็มตัวได้ไม่นาน ทว่าเธอกลับมีส่วนรับผิดชอบดูแลโปรเจกยักษ์ “แกรนด์ พระราม 9” มูลค่าโครงการกว่า 1.76 หมื่นล้านบาท บนเป้าหมายที่จะพัฒนาพื้นที่แห่งนี้เป็น “แลนด์มาร์ก” แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกตัดถนนพระราม 9 ห่างจากแยกสุขุมวิท-อโศก 2 กิโลเมตร และใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพระราม 9 ตามแผนจะแล้วเสร็จทั้งโครงการปี 57 โดยภายในโครงการ ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ โครงการเดอะไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์ พระราม 9 ก็อยู่ในโปรเจกนี้ รวมถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์พระราม 9 โดยมีพื้นที่ทั้งโครงการราว 70 ไร่ 1.14 ล้านตารางเมตร
รมณีเล่าว่า บิ๊กโปรเจกนี้ งานที่เธอรับผิดชอบหลัก คือ ดูแลงานขายพื้นที่สำนักงานให้เช่าและรีเทลพลาซ่า (บริษัทพระราม 9 สแควร์ จำกัด) ส่วนงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จะดูแลโดย เจตรศิริ บุญดีเจริญ พี่ชาย ในชื่อบริษัทเบ็ล ดีเวลลอปเม้นท์ และยังนั่่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการจีแลนด์
ก่อนที่สาวน้อยจะย้อนประวัติการทำงานให้ฟังว่า…
“ตอนแนนเรียนจบ ไปทำงานที่บีเอ็มซีแอล (บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน เอ็มอาร์ที) ทำอยู่สักพัก คุณพ่อเห็นว่าพอรู้งานก็ให้กลับมาช่วยทางครอบครัว”
โดยงานแรกๆที่เข้ามาทำให้ครอบครัว คือการวิเคราะห์การเงินซึ่งเป็นงานถนัด ในช่วงที่บริษัทแกรนด์ คาแนล จะเข้าไปทำ Backdoor Listing บริษัทมีเดียออฟมีเดียส์ จำกัด (มหาชน) ในปี 53 ก่อนจะคำขอปรับย้ายหมวดธุรกิจจากหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ เป็นหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในปัจจุบัน ก่อนที่จะได้รับความไว้วางใจมาดูโครงการนี้
เจ้าตัวเล่าว่า ซึมซับคติการทำงานมาจากผู้พ่อ ที่สอนอยู่เสมอว่า เป็นคนต้องซื่อสัตย์และอดทน
"คนที่อดทนได้มากที่สุดคือ คนที่ประสบความสำเร็จได้มากที่สุด"
ที่ผ่านมาผู้เป็นพ่อยังสอนงานทำงานแบบไม่ได้สอน จากการที่เธอมีโอกาสติดตามพ่อไปทำงาน ไปดูงานในหลายที่
"เช่น เวลาพ่อไปดูที่ดิน พ่อไม่ได้ดูแค่วันเดียว แต่จะไปดูพักนึง หรือเป็นอาทิตย์ ไปหาร้านกินข้าวแถวๆ นั้น เพื่อที่จะมองที่ที่ดินแปลงนั้นว่าทราฟฟิกเป็นยังไง เรียกว่าไปดูทุกวันจนมั่นใจ ถึงจะซื้อ ซึ่งเราก็จะเก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาคิดต่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อสอนเราไปในตัว" เธอเล่า
ทว่าประสบการณ์ในการทำงานที่ยังน้อย เมื่อเทียบกับชั่วโมงบินของคนอื่น ดังนั้นงานที่เธอได้รับมอบหมาย ย่อมท้าทายความสามารถ ที่จะต้องทำมันให้ดีขึ้นไปอีก
"การเป็นลูกเจ้าของแล้วมานั่งตรงนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย คือ พ่อเราทำไว้ 10 เรามาต้องทำให้ได้มากกว่านั้น ทำยังไงให้เป็น 12-13 ความท้าทายอยู่ตรงนี้"
ทายาทบุญดีเจริญ ยังเล่าว่า ในปีนี้หรือปีหน้าอาจจะได้เห็นโครงการใหม่ๆพัฒนาขึ้นมาอีก 2-3 แห่ง เมื่อก่อนก็ค่อยๆ ทำไป แต่ตอนนี้พอเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว ต้องคำนึงถึงผู้ถือหุ้น ต้อง "เร่งเครื่อง" มากขึ้น เธอว่า ขณะที่ "ที่ดิน" ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาของจีแลนด์ ที่มีแลนด์แบงก์ ต้นทุนเดิม เป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สร้างความได้เปรียบเมื่อเทียบกับอีกหลายดีเวลลอปเปอร์
"อย่างที่ทราบกันดีว่า พาร์ทเนอร์และผู้ถือหุ้นของเรา (ตระกูลรัตนรักษ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ BBTV -ช่อง 7 สี) เป็นแลนด์ลอดด์ ตระกูลเรา 2 ครอบครัว คือ “บุญดีเจริญ” กับ “รัตนรักษ์” ทำงานร่วมกันตลอด สองครอบครัวรู้จักกันมานาน ไม่ได้เป็นเครือญาติกัน แต่ถ้าจะเรียกก็เรียกคุณปู่ได้เลย เราเป็นพันธมิตรมากกว่า 10 ปี" เธอเล่า
อากง (เจ้าสัวกฤตย์ รัตนรักษ์) เคยพูดให้ได้ยินอยู่ครั้งหนึ่งว่า.. "ถ้าอยากทำตรงไหนก็บอก มีที่ดินอยู่แล้ว”
เธอยังเล่าว่า ย้อนหลังกลับไป 10 ปีที่ดินโปรเจกแกรนด์พระราม 9 แห่งนี้ เป็นจุดที่ผู้พ่อ(โยธิน บุญดีเจริญ) ประธานกรรมการบริษัทจีแลนด์ กับ เจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งซี.พี. เคยยืนอยู่ด้วยกันพร้อมด้วยซินแส พวกเขาคุยกันว่าอีก 10 ปีหัวมังกรจะย้ายมาทางนี้ (ตึก) ตรงนี้เป็นหัวมังกร พ่อเลยให้คอนเซ็ปต์กับสถาปนิกไปว่าหัวมังกรจะอยู่ฝั่งซ้ายแล้วค่อยๆไล่ไปหาง เลื้อยไปทางเซ็นทรัล พระราม 9 เราเลยให้ชื่อว่า G Land เพราะมันมาจากหัวมังกร
ก่อนหน้านี้ โยธิน บุญดีเจริญ ประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ จีแลนด์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงโครงการนี้ว่า มีแนวคิดที่จะสร้างโครงการรถไฟฟ้าขนาดเบา ซึ่งจะนำไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน และบีทีเอส เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ที่พักอาศัยในโครงการของจีแลนด์ หากโครงการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ ในอีก 6 ปีข้างหน้า (58) ทั้งศูนย์การค้า กลุ่มเซ็นทรัล อาเขต สำนักงานให้เช่า คอนโดมิเนียม ที่อยู่อาศัยแนวราบ ก็จะเห็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ มูลค่าโครงการร่วม 1 แสนล้านบาท ขณะที่ยุทธศาสตร์ระยะยาวได้กำหนดสัดส่วนรายได้ว่าจะมาจากคอนโดมิเนียม 30% อาเขต 30% และสำนักงานให้เช่า 30%
โดยยังมีอีกหลายโครงการที่จะทำในอนาคต โดยไม่จำเป็นต้องซื้อที่ดินเพิ่ม เพราะปัจจุบันกลุ่มบุญดีเจริญและช่อง 7 สี ยังมีที่ดินในกลางเมืองที่รอการพัฒนาได้อีกเป็น 10 ปี
สำหรับครอบครัวบุญดีเจริญ ตระกูลนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของไทย โยธิน คือบุตรชายของ เจริญ บุญดีเจริญ (ที่มาของกลุ่มเจริญกฤษ) เจริญเองเป็นพี่ชายของศิริวรรณ กาญจนพาสน์ ตระกูลบุญดีตระกูล จึงเกี่ยวดองเป็นลูกพี่ลูกน้องกับทั้ง อนันต์ และคีรี กาญจนพาสน์ บิ๊กอสังหาริมทรัพย์ ในนาม บางกอกแลนด์ และ บีทีเอส
จากคุณ |
:
Wild Rabbit
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ต.ค. 55 13:57:11
|
|
|
|