ไม่ใช่อาจารย์ note แต่ขอตอบให้แล้วกันนะครับ ถ้าลองศึกษาเรื่องกราฟ จากที่มาจะรู้กฏข้อนึงบอกไว้ว่า Market Discount Everything ความหมายคือ ราคาของหุ้นได้ซึมซับทุกอย่างมาไว้ในตัวมัีน(เราเอาราคาจากตรงนั้นมาพอทกราฟ) แยกย่อยจากประโยคตรงนั้นออกมาอีก -อย่างตรงที่ถามว่าไม่ต้องดูกิจการพื้นฐานเลยเหรอ คนที่เล่นหุ้นมีหลายประัเภทเช่น VI กลุ่มนี้จะศึกษาราคาพื้นฐาน และคาดการณ์อนาคตเพื่อตัดสินใจก่อนทำการซื้อ เพราะฉนั้นซื้อเมื่อคาดการณ์ว่าดี ดังนั้นเมื่อคนกลุ่มนี้ซื้อ มันก็จะส่งผลสะท้อนออกมาในส่วนของ Bid คือฝั่งเสนอซื้อถูกไหมครับ นอกเหนือจากคนกลุ่มนี้ก็ยังมีสายเทคนิค ที่วิเคราะห์จากกราฟ แต่เราจะไม่รู้เลยว่าคนกลุ่มไหนซื้อก่อนซื้อหลัง แต่ผลมันจะออกมาเป็นกราฟทั้งสิ้นเพราะสุดท้ายไม่ว่าใครจะซื้อหรือขาย ซื้อแพงหรือถูก ซื้อเยอะหรือน้อย ก็ต้องมาจบตรงกราฟครับ -ทำไมกราฟถึงถูก 100% แต่อยู่ที่การตีความ เพราะกราฟคือข้อสรุปไงครับ อย่างที่บอกก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่ว่าคุณจะซื้อถูกหรือแพง มากหรือน้อยมันก็ต้องมาจบและสรุปว่าจะพอทกราฟยังไง -อยู่ที่การตีความ ก็เพราะหลักการในการตีความมันมีเครื่องมือเข้ามา่ช่วยหลายอย่าง หลายประเภท หลายสำนัก อย่างตัวที่คุณโน๊ตเอามาตีให้เห็นบ่อยๆผมเดามานานแล้วว่าน่าจะเป็น อีเลียดเวฟ และรู้สึกว่าคุณโน๊ตมาเฉลยมาใช่ ไอ้เจ้าอีเลียตเวฟเนี่ยะ ดูยากสุดๆ เคยอ่านเจอว่าคนที่ว่าเก่งๆแน่ๆ ยังอ่านได้ไม่เหมือนกัน นี่หละครับเป็นเหตุผล -กราฟเป็นตัวชีนำราคา กราฟเป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาครับ แต่เป็นผู้เล่นเองที่เอาส่วนนั้นมาเป็นสถิติเพื่อนำไปพยากรณ์การซื้อขายในอนาคตเพื่อลดความเสี่ยง และบอกเลยครับว่า ไม่ได้ว่าจะถูกต้องทุกครั้ง เพราะทุกอย่างมีข้อยกเว้นเสมอครับการเข้าซื้อขายหุ้นด้วยเทคนิคนั้น ต้องมีจุด cutloss เพื่อลดความเสี่ยงเสมอ และต้องใจเย็นพอเพื่อ let profit run ในกรณีหุ้นขึ้น ตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยากและมีอะไรให้ศึกษาเสมอ ลองดูนะครับ
หวังว่าสิ่งที่ผมอธิบายให้นั้นจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
จากคุณ |
:
EXGolf
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ต.ค. 55 19:56:47
|
|
|
|