ความคิดเห็นที่ 1 บริษัทใหญ่ ที่ดินทำเลทองนับพันๆไร่ ทำไรต้องสมสักสี(อ่านว่าศักดิ์ศรี)นะครับ อย่าให้อายเค้า  จากคุณ : อมยิ้มไม่หวาน เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 11:22:44

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าขาย หรือให้เช่าทรัพย์สินที่เค้ามีอยู่ โดยผู้ซื้อต่อ หรือเช่าต่อ เช่นกองอสังหาก็เอา ทรัพย์สินนั้นเอามาเก็บค่าเช่าต่อ งบการเงินมันก็จะมีรายการ รับรู้รายได้เป็นเงินก้อนเข้ามา ถ้าทำได้บ่อยๆ เรื่อย บนสมมติฐานว่า ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว ตลาดยังมีความต้องการอีกเยอะ ยังขายได้ราคาดีอย่างนี้ไปตลอด ราคาหุ้นมันก็จะพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ตอบสนองรายได้นั้นๆ ถ้าไม่สามารถทำอย่างนั้นได้บ่อยๆ เรื่อยๆ แสดงว่ามาถึงยุคปลายทางของมัน จากคุณ : go to the sea เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 11:54:50

ความคิดเห็นที่ 3 CPN ได้ประโยชน์มากๆ ผมคิดแบบนี้ ถ้าผมมีพื้นที่ให้เช่าอยู่แล้ว เก็บค่าเช่าได้ทุกวัน เป็นเงินรายเดือน ผมเซ้งพื้นที่นี้ให้คนอื่นไป เอาเงินก้อนมาก่อน จากนั้นรับจ้างบริหารพื้นที่เช่านั้นอีกที สรุปคือ ได้เงินก้อน ได้รายเดือนเป็นค่าเช่าบริหาร แทนค่าเช่าโดยตรง แถมยังถือหุ้นไว้อีก 30% เวลาปันผลก็ได้ปันกับเค้าด้วย อนาคตที่ดินขึ้น ทั้งหมดกลับมาเป็นของผมอีกครั้ง (Leasehold) ในอีก 30 หรือ 90 ปี ข้างหน้า ผมว่าเป็นอะไรที่ฉลาดมากๆ CPN ได้ประโยชน์เต็มๆ แต่ Freehold จะต่างกันตรงไม่ได้กลับมาเป็นเจ้าของอีก ตัวไหนครับ บอกกันมั๊ง ^^ จากคุณ : T-N-K เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 12:00:18

ความคิดเห็นที่ 4 ของเสี่ย จ.... หรือเปล่าครับ จากคุณ : Tee1 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 12:18:31

ความคิดเห็นที่ 5 เจ้าของทรัพย์สินได้ประโยชน์เต็มๆ บ.อสังหาฯ ส่วนใหญ่เอาทรัพย์ที่ขายไม่ออกมาทำกองอสังหาฯ freehold แต่ถ้าทรัพย์สินที่ดีก็ทำ leasehold ซึ่งไม่ต่างกับการกู้เงินดอกเบี้ยถูกๆ คนซื้อหน่วยมักได้ผลตอบแทนคงที่คล้ายๆ เป็นดอกเบี้ย ซึ่งมากกว่าฝากแบงก์อยู่บ้าง แต่ก็มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง เพราะขายยากและอาจขาดทุน จากคุณ : yut-san เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 12:55:59

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีคุณเพื่อน มาร่วมวงเสนอคำศัพท์ ไม่เกี่ยวกับการลงทุน   สม tattoo color = สม สัก สี = สมศักดิ์ศรี มุขนี้ผ่านมั้ย   cpn สำหรับเรามองตั้งแต่ยังไม่ 40 ตอนนี้ได้แต่รู้งี้ ส่วนหุ้นของเสี่ย จ เราก็เล็งนะ แต่ขอดูท่าทีอีกสักหน่อย จากคุณ : แอปเปิ้ลน้อยสีชมพู เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 12:58:34

ความคิดเห็นที่ 7 ที่ดินของ CPN  ที่นำมาจัดสรร  เช่าเอาทั้งนั้นค่ะ CTW  ก็เช่าช่วงต่อ ที่ดินเป็นของทรัพย์สิน ตึกเป็นของกลุ่มเตชะไพบูลย์ จุดประสงค์หลักของกองทุนอหังสา   เพื่อกู้เงินก้อนใหญ่ๆจากประชาชน โดยล่อด้วยดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝาก   ไม่มีหลักประกันใดๆมารับรองว่า เราจะได้เงินคืนแน่นอน 100%   และรัฐบาลก็ไม่รับประกันการคืนเงินต้นด้วย   ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ได้อยู่ในฐานะเจ้าหนี้  แย่ยิ่งกว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ ที่ดินที่ว่าซื้อมานั้น  มากกว่าครึ่ง เป็นที่ดินที่ติดจำนองไว้เป็นหลักประกันเงินกู้กับสถาบันการเงิน  (ส่วนจะเอาเงินไปทำอะไร เราต้องสืบเอาเอง) เขาไม่ได้มีจุดประสงค์จะให้เราร่วมเป็นเจ้าของดอกค่ะ  เพราะที่ดูๆมาทั้งหมด ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องหมุนเงินสด หรือมีทุนพอเพียงในการทำธุรกิจ  เจ้าของบริษัทจะไม่มีวันยอมให้คนนอก (คนที่ไม่ได้ถือหุ้นบริษัทนั้นๆ) ได้มีส่วนในอหังสาของเขาแน่นอน 1  นำเงินไปชำระหนี้คงค้างและดอกเบี้ยทั้งหมด  แบบนี้ถือว่าไถ่โฉนดออกมาแล้ว คนที่ถือกองทุนพอจะเย็นใจได้ระดับหนึ่งว่ามีหลักประกัน แต่เขาจะเอาไปจำนองใหม่เมื่อไรก็ได้  เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากองทุนได้จดทะเบียนเป็นเจ้าของกับกรมที่ดินหรือเปล่า 2  เพื่อ refinance เงินกู้  ตราบใดที่ยังติดหนี้อยู่ เราไม่ได้เป็นเจ้าของอยู่ดี แบบนี้ต่อให้เป็น freehold ก็ไร้ความหมาย ยิ่ง lease hold  ซึ่งพอครบกำหนด  ใช่ว่าจะกลับมาเป็นของเราตามที่ คห 4 บอก คุณเข้าใจผิดมโหฬาร  ต้องมีการประมูลสิทธิการเช่าใหม่ และจ่ายเงินก้อนใหม่ จากคุณ : คุณแม่ลกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 13:21:14

ความคิดเห็นที่ 8 ผมคิดแบบเดียวกับพี่ T-N-K เลยครับ การออกกองทุนอสังหาฯ เหมือนลงทุนทำร้านแล้วปล่อยต่อ Free Hold คือ ลงทุนทำร้านเสร็จปุ๊บ ขายทั้งเครื่องมือทำมาหากิน หน้าร้านและที่ดิน ให้คนอื่นมาดำเนินการต่อหมดเลย Leasehold คือ เซ้ง แต่หน้าร้าน ตัวตึก เครื่องมือทำมาหากินทั้งหมด วิธีแบบนี้ มีข้อดีคือ ถ้าธุรกิจที่ทำอยู่ ทำแล้วดี ใครๆก็อยากมาซื้อต่อ อยากมาเซ้ง ครับ ได้เงินก้อนเร็วกว่า ค่อยๆเก็บเงินจากธุรกิจเองด้วย ตัวไหนหรือครับพี่อมยิ้มฯ ผมแว่วๆมาเหมือนกัน B...... รึเปล่าครับ ปล.ช่วงนี้พี่อมยิ้มฯ ไม่ค่อยตั้งกระทู้เล่าเรื่องชีวิตเลย ชอบอ่านนะครับ มีประโยชน์ดี จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 13:24:48

ความคิดเห็นที่ 9 ตามที่ผมคิดนะครับ (ถูกผิดอีกเรื่องนึงเน้อ) มันเป็นวิธีระดมทุนโดยใช้ทรัพย์สินและชื่อเสียงของตัวเองหาเงิน ผมยกตัวอย่างกองทุนเทสโก้ เทสโก้อยากจะได้เงินเพื่อขยายกิจการ หรือเพื่อโอนกลับบริษัทแม่ก็จัดการขายสินทรัพย์ตัวเองซะ โดยขายในราคาที่มี premium มากๆ แต่เป็นการขายเข้ากองทุนซึ่งรับประกันได้ว่าจะไม่สั่งให้เทสโก้ออกไปจากที่ของกองทุนแน่นอน เทสโก้ก็ยังทำมาหากินในส่วนของ retail store ได้ ขณะที่ส่วนที่เช่านั้นกำไรก็ปันให้กับผู้ซื้อกองทุน ซึ่งมักได้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอนในอัตรา6-7% ทุกฝ่าย win-win คนซื้อกองได้เงินปันผลที่ความเสี่ยงต่ำในอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก เทสโก้ได้ระดมทุน และทำกำไรจากสินทรัพย์ที่ตัวเองลงทุนมา ขณะที่กำไรจากธุรกิจหลักก็ไม่กระทบเพราะเทสโก้สามารถทำธุรกิจขายปลีกได้เหมือนเดิม โดยที่จ่ายค่าเช่าที่ตัวเองกำหนดเองในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป และไม่ต่ำจนน่าเกลียด (การจ่ายค่าเช่าเป็นอะไรที่ win-win เพราะห้างยินดีจะมีค่าใช้จ่ายตรงนี้มากกว่าซื้อที่เก็บไว้แล้วไม่สามารถ realize profit  จากที่ดินให้ผู้ถือหุ้นได้ หากถือครองไป 100 ปีผู้ถือหุ้นในวันนี้คงตายหมดแล้ว) และที่ดินที่เช่านี้ก็ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องการขึ้นค่าเช่าด้วย เพราะหลักการขึ้นค่าเช่ามันได้วางไว้ตั้งแต่เปิดกองทุนแล้ว จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 13:51:41

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ดินผึ้ง สินะครับ จากคุณ : beercu เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 16:26:28

ความคิดเห็นที่ 11 แสดงว่า เพราะสิทธิที่ได้มีเท่านี้ จึงต้องจัดเป็นกองทุนอสังหาฯ แบบ Leasehold ขอบคุณ คุณแม่ลกสอง (P.Stone) ครับ "ที่ดินของ CPN  ที่นำมาจัดสรร  เช่าเอาทั้งนั้นค่ะ CTW  ก็เช่าช่วงต่อ ที่ดินเป็นของทรัพย์สิน ตึกเป็นของกลุ่มเตชะไพบูลย์" จากคุณ : T-N-K เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 17:12:52