การเพิ่มทุึน คือการที่บริษัทระดมทุนจาก ผู้ถือหุ้นเดิมเพิ่มขึ้น
อย่าง TTA เพิ่มทุน ราคา 14 บาท สัดส่วน 1:1 ก็คือ
ผู้ถือหุ้นเดิม มีหุ้นนี้อยู่ 1 หุ้น ก็ จ่ายเงินซื้อหุ้นใหม่นี้ได้ ในราคา 14 บาท จะไม่ซื้อก็ได้ แต่เหมือนเสียโอกาส ถ้าถือหุ้นไว้เฉยๆ
เพราะว่าโดยทั่วไป ราคาขายหุ้นเพิ่มทุนมักต่ำกว่า ราคาในกระดาน(ขายแพงกว่า คนก็ไปซื้อในกระดานดีกว่า)
หลังจากเพิ่มทุนแล้วส่วนใหญ่ราคาหุ้นก็จะมี การ Dilute ลงมาตามส่วน ขึ้นกับ อัตราส่วนการขาย และราคาที่ขาย (ดังนั้น ถ้าถือหุ้นแม่ไว้ แต่ ไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน ก็เสียหายตรงนี้)
กรณี ของ TTA ราคาขายหุ้นเพิ่มทุน 14 บาท ราคา หุ้นในกระดานตอนนี้ ราวๆ 17 บาทกว่า (สมมุติว่าวัน สุดท้ายก่อนปิดจ่ายค่าหุ้น) ยังคงอยู่แถวนี้ ถ้าไม่มีปัจจัยอื่นราคา หุ้น ก็จะ Dilute ลงมา เป็น 17+14 /2 = 15.5 หรืออาจจะมากกว่านี้ เล็กน้อย
อันนี้ ราคา Dilute ไม่ค่อยมาก เนื่องจากราคา ขายเพิ่มทุนค่อนข้างแพง เกือบเท่าตัวแม่
แต่ถ้ากรณีที่ ราคาขายหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่ามากๆ เช่น ตัวแม่ 20 ตัวลูก ขาย5 บาท ราคาเฉลี่ยหลัง Dilute แล้ว ก็จะเหลือแค่ ประมาณ 12.5 ลดลงเกือบครึ่ง ซึ่งใครไม่ซื้อ ขาดทุนยับเยินหลังการเพิ่มทุึน
ดังนั้นคนส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่มทุนกัน (ถ้าไม่มีปัจจัยอื่น)
หรืออีกทางเลือกนึง ก็คือ ถ้าคิดว่าการเพิ่มทุนนั้นแพงไป ไม่เหมาะสม หรือ ตัวเองไ่ม่มีเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนพอ ก็จะ รีบขายทิ้ง เหมือน TTA วันนี้ที่ร่วงลงมา เกือบสองบาท นั่นแหละครับ
ส่วนกรณี หุ้นเพิ่มมาอย่างอืื่น นอกจากขายหุ้นเพิ่มทุนก็มี
เช่นถ้าให้หุ้นเรามาเฉยๆ ตามสัดส่วนที่ถือครองไว้ อย่าง Hompro ที่แจกไปไม่นาน อันนั้นเรียกว่า ให้หุ้นปันผล
หรือกรณีเอาหุ้นที่มีอยู่แยกให้เล็กลง เช่นจาก พาร์ 10 บาท หนึ่งหุ้น แยกเป็น พาร์ 5 สองหุ้น นี่ เรียกแตกพาร์ พวกนี้ ราคาในตลาดจะลดลง ไปประมาณครึ่งนึง
แต่สำหรับสองกรณีหลัง เราไม่ต้องทำอะไร และไม่มีผลเสียกับ ผู้ถือหุ้น ต่างกับกรณี เพิ่มทุนข้างบน