ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าจะเอาไว้ใช้จ่ายแน่นอนไม่ควรลงทุนในหุ้นหรือกองทุนหุ้น จากคุณ : ExpressNet เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 21:20:50

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านแล้วงง คุณก็หาที่ลงทุน ที่ให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี จะให้ได้ หกหมื่นบาทต่อปี (ห้าพันต่อเดือน) ก็ต้องใช้เงินทุน 1,200,000.- บาท งงไหมเอ่ย จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 21:30:42

ความคิดเห็นที่ 3 งงครับ ขอตอบเเบบรวมๆนะครับ พอีใช้เเนวคิดนี้อยู่ สมมุติว่าผ่อนบ้านเดือนล่ะ 10,000 บาทครับ ยกตัวอย่าง kfsdiv สมมุติ ปันผล 0.50 บาท/หน่วย จำนวน 4 ครั้ง/ปี = 2 บาท ถ้าราคา kfsdiv อยู่ที่เฉลี่ยซื้อสะสม 15 บาท/หน่วย ปีนึงจ่ายค่าบ้าน 120,000 บาท ถ้ากองทุนปันผล 2 บาทต่อปีต้องมีอย่างน้อย 60,000 หน่วย(ไม่รวมหักภาษีนะครับ) เบื้องต้นประมาณไว้ที่ 70,000 หน่วย (คิดคร่าวนะ เเบบเผื่อเหลือ เผื่อขาด) ใช้เงินลงทุน 70,000 x 15.00 = 1,050,000 บาท (โดยประมาณการนะครับ คิดเเบบเฉลี่ยๆ) ถ้ามีครบ 70,000 หน่วย = ( 70,000 x 2 )=140,000-14,000(ภาษีหักที่จ่าย) = 126,000 บาท ก็เอามาจ่ายรายเดือนได้เเล้วครับ คร่าวๆนะครับ หลักการตรงกับคำถามหรือเปล่า ปล. ปันผลคิดจาก ข้อมูลที่กองทุนเคยจ่ายนะครับ อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ก็เป็นไปได้ รวมถึงราคาต่อหน่อยลงทุนเช่นกัน จากคุณ : DJ_korn47 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 21:35:49

ความคิดเห็นที่ 4 แยกเงินส่วนที่จะใช้จ่ายทั่วไป ไว้จำนวนหนึ่ง ใช้กี่เดือนก็กำหนดไป ส่วนที่เหลือนำมาลงทุน หรือฝากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูง ผลตอบแทนที่ได้ อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ก็ได้ แล้วค่อยนำผลตอบแทนที่ได้ มาเป็นค่าใช้จ่ายต่อไป ถ้าน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ ลำบากหน่อย ถ้ามากกว่า ส่วนที่เกินก็นำไปลงทุนต่อ จากคุณ : คีตกานต์ เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 21:48:25

ความคิดเห็นที่ 5 บอกตรงๆ เลยนะครับ ทั้ง 4 ข้อ คำตอบคือ.."ไม่รู้" การลงทุนในหุ้น ไม่เคยการันตีผลตอบแทนให้ใครได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเงินปันผลที่เคยจ่ายอาจมากขึ้นหรือน้อยก้ได้ จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 21:58:59

ความคิดเห็นที่ 6 ลองศึกษา ดูในนี้ครับ     http://siamchart.com/ จากคุณ : มารหุ้นแสวงพ่าย เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 22:06:01

ความคิดเห็นที่ 7 การลงทุนในกองทุน ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหุ้นปันผล/ไม่ปันผล  ไม่ใช่การฝากเงินนะคะ ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน กองทุนขายหน่วยลงทุนให้เรา  แล้วเขาก็เอาเงินไปลงในตลาดหุ้นอีกที  ถ้าตลาดหุ้นขึ้นราคาของหน่วยก็ขึ้น ถ้าราคาหุ้นตก  ราคาก็ตก  ถ้าราคาตกมากๆ  ก็ไม่มีปันผลจ้า  จึงไม่มีใครตอบได้ว่าจะได้เงินเท่าไร พอใช้ไหม ตอนนี้อย่าลงทุนในกองทุนนะ เพราะอ่านข้อความที่คุณโพสต์แล้วยังเข้าใจอะไรไม่ถูกอยู่มาก  ให้ฝาก ME MMF ไว้ก่อน   แล้วช่วงนี้ศึกษาให้มาก  เมื่ออ่านอะไรไม่เข้าใจก็มาถามได้ค่ะ  คนห้องนี้ใจดีค่ะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 22:25:11

ความคิดเห็นที่ 8 อยากได้ดอกเบี้ยเดือนละ5พันเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านทำไง จะฝากจะลงทุนเท่าไหร่ หนูอาจใช้คำพูดผิดถามไม่ถูก แต่หนูรู้จักกองทุนMMFต่างกับกองทุนหุ้นปันผลแต่ไม่รู้เทคนิคการทำกำไรการลงทุนพูดแบบนี้ใช่มั้ยคะ หนูตั้งใจแบ่งเงินมาลงทุน5แสนคะจะฝากแบบที่คุยไปเรื่อยๆ เพราะเข้าใจจากการอ่านๆในกระทู้ ไม่เป็นไรหนูคอยหาอ่านทำความเข้าใจถามๆพี่ๆเรื่อยๆอาศัยเวลาประสบการณ์ทดลองทำตามคำแนะนำพี่ๆแล้วกันคะ ขอบคุณคะ ซี แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 55 23:23:15 จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 23:13:34

ความคิดเห็นที่ 9 อย่างที่คุณต๊อตโตะจังเขียนครับ โดยภาพรวมถ้าตลาดหุ้นลงมากๆ กองทุนหุ้นก็จะไม่สามารถปันผลได้ครับ นอกจากกองทุนหุ้นแล้ว ผมแนะนำให้ "ศึกษา" และถามเพื่อนๆ ในห้องสินธรนี้ก่อนตัดสินใจลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ครับ ได้ปันผลเหมือนกันครับ แต่อาจได้เงินปันผลไม่มากเท่ากองทุนหุ้น (ในสภาวะที่ดัชนีตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น) แต่ก็ได้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากครับ ลิงค์เว็บ http://thaipropertyfund.com/ จากคุณ : นายโอเค เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 23:15:37

ความคิดเห็นที่ 10 หนูต้องการพี่ๆแนะนำวิธีการลงทุน พูดแบบนี้จะถูกมั้ย ถ้าให้หนูอ่านเองก็ไม่มีวันเข้าใจต้องสอนวิธีหนูถึงจะเข้าใจคะ หนูฝากไว้อยู่ในME MMF บัญชีฝากประจำ ออมสิน กระจายฝากแต่ละที่รวมจำนวนหนึ่งมากกว่า1ล้านบาทคะ จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 23:39:20

ความคิดเห็นที่ 11 พี่ความเห็นที่2 เขียนวิธีให้หนูเห็นทำความเข้าใจได้มั้ยคะลงทุนในกองทุนยังไงคิดยังไง จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 23:41:47

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องการห้าพันต่อเดือน ก็ต้องได้ผลประโยช์ 60000 บาทต่อปี ก็หาที่ได้ผลประโยชน์ประมาณ 5% ต่อปีก็มีลองดูนะ ฝากยาวหน่อย หรือหุ้นกู้ แล้วก็รอรับผลประโยชน์ ( เพราะเห็นว่ามีเงินมากกว่า 1 ล้านนะครับ ) จากคุณ : N8080N เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 08:58:36

ความคิดเห็นที่ 13 คห.11 เริ่มต้นคุณก็ประมาณการ ผลตอบแทนที่ต้องการได้รับก่อน เช่นถ้าคุณคิดว่าอยากได้ผลตอบแทน 5% คุณต้องมีทุน 1.2 ล้าน แต่ถ้าคุณมีที่ให้ลงทุนซึ่งได้รับผลตอบแทน 10% คุณก็ต้องการทุนแค่ 6 แสน (ซึ่ง 10% แบบปลอดภัย มันไม่มีในตลาด ณ เวลานี้นะครับ อันนี้ยกตัวอย่างให้ฟัง ว่าผลตอบแทนคาดการณ์ และเงินทุน มันสัมพันธ์กับเป้าหมาย 5 พันที่คุณต้องการ) แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่า 4 กองที่ไปลงทุนหน่ะ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละกี่ % ส่งอีเมล์หลังไมค์มาให้ผมหน่อย เดี๋ยวผมจะส่ง excel ไฟล์นึงไปให้ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 09:00:56 จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 09:00:34

ความคิดเห็นที่ 14 พี่ความเห็นที่12 อธิบายยาวกว่านี้หน่อยได้มั้ยคะ จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 13:53:07

ความคิดเห็นที่ 15 หลังจากอ่านทบทวนหลายรอบ ต้องการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในบ้านเดือนละ 5 พัน ปีละ 6 หมื่น (รวมภาษีเป็น 6.6หมื่น) จากเงินต้น 5 แสน หมายถึงผลตอบแทน 13.2% ต่อปี เปรียบเทียบให้น้องดูคร่าว ๆ นะครับ เอาข้อมูล 3 ปี หลัง คือ 53-55 (ต้องคิดไว้อย่างนะครับ 3 ปี ที่ผ่านมานี้จ่ายปันผลกันมาก แต่ถ้าย้อนไปตอนเศรษฐกิจไม่ดี บางปีนี่แทบไม่จ่ายเลย) ปันผล3ปี ปันผลเฉลี่ย ราคาปัจจุบัน ผลตอบแทน% scbd 6.02  /       2.01   / 12.32  / 16.29 kfsdiv 5.3  /       1.77   / 15.36  / 11.50 hidiv 9.92  /      3.31    / 11.22  / 29.47 bkd 3.21  /      1.07    / 4.81  /       22.25 จะเห็นว่า kfsdiv ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าตัวอื่น เพราะราคาสูงแล้ว 15.36 สำหรับวิธีที่จะประกันความเสี่ยงให้กับตัวน้องเอง เท่าที่คิดได้ตอนนี้คือ เวลาได้ปันผลมาให้แบ่งส่วนหนึ่งมาซื้อกองทุนอีกเพื่อเฉลี่ยต้นทุน เพราะเราได้หุ้นเพิ่มแต่ไม่ได้ออกเงินเพิ่ม เช่น หุ้นราคา 10 บาท เราซื้อ 100 หุ้น เป็นเงิน 1,000 บาท เราได้ปันผลหุ้นละ 2 บาท เป็นเงิน 200 บาท เราใช้ 100 บาท เอา 100 บาทมาหุ้นเพิ่ม อีก 10 หุ้น เท่ากับเรามีหุ้น 110 หุ้น ด้วยเงิน 1,000 บาท (เพราะเงิน 100 ที่เอามาซื้อเราได้จากปันผล ไม่ได้ลงทุนเพิ่ม) ราคาหุ้นเฉลี่ย เราก็จะเหลือ 1000/110 = 9.09 บาท แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 20:55:27 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 20:49:23 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 20:47:43 จากคุณ : ภูตน้อย เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 15:39:19

ความคิดเห็นที่ 17 ลองค่อย ๆ คิดแล้วตอบคำถามตัวเองอีกทีนะคะ 1. ตอนนี้มีรายได้อื่นนอกจากบัญชีคุณพ่อหรือไม่ รวมทั้งรายได้เพิ่มจากดอกเบี้ยเงินฝากประเภทต่าง ๆ 2. ค่าใช้จ่ายในบ้าน 6 เดือน คิดเป็นเงินเท่าไหร่ --- ส่วนนี้ต้องไว้ในที่ปลอดภัย นำมาใช้ได้ทันทีที่ต้องการ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินตอนที่ไม่มีรายได้อื่นเข้ามาแล้ว 3. ค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่นเจ็บป่วย เข้า รพ. และอื่นๆ หนัก ๆ   --- ส่วนนี้ก็ต้องปลอดภัยและนำมาใช้ได้ทันทีเหมือนข้อ 2 4. เงินส่วนที่เหลือ ลองแบ่งสัดส่วนเป็นเงินลงทุนระยะสั้น-เสี่ยงต่ำ ระยะกลาง-เสี่ยงปานกลาง ระยะยาว-เสี่ยงสูง แล้วคำนวณผลตอบแทนคร่าว ๆ ดูค่ะ ว่าจะได้ประมาณเท่าไหร่ แต่อย่าเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ก็จะรู้เองแหละว่าจะจัดสรรเงินลงทุนแบบไหน ยังไงดี 5. แนวคิดในการลงทุนกองทุนหุ้นแบบข้อ 1 และ 2 ก็ถูกต้องตามแนวทางการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยระยะยาวแล้วค่ะ เพียงแต่ต้องให้เวลาเงินได้ทำงานบ้าง รวมทั้งให้ตัวเองคุ้นเคยกับการลงทุนในตลาดหุ้นผ่านกองทุนรวมด้วยค่ะ ช่วง 6 เดือนแรกลองทำอย่างที่คิดดูก่อนก็ได้ แล้วถ้าคุ้นเคย เริ่มจับทางได้ ก็ค่อยเพิ่มเงินลงทุนในส่วนนี้ลงไปได้ค่ะ แต่ต้องมีเป้าหมายในใจเสมอค่ะ ว่าถ้ากำไร จะทำอย่างไร ถ้าขาดทุน จะทำอย่างไร ปันผลออกมาจะเอามาใช้อย่างไร บางคน ขาดทุน เพราะตลาดขึ้นลง ก็อาจจะไม่ขาย ถ้าไม่ได้ร้อนเงินและมั่นใจว่ากองทุนของเราดีจริง จะกลับมาได้ (ของเรา กองทุนที่ซื้อเคยขาดทุนอยู่ประมาณปีกว่าแล้วก็กลับมาได้ เพราะเป็นช่วงหุ้นตกทั้งประเทศ เศรษฐกิจไม่ดีในตอนนั้น แต่ตอนนี้ก็โอเคแล้วทุกกอง) บางคน ขอขายเอากำไรทุกกี่ ....% ก็แล้วแต่จะกำหนด ออกมาก่อนเพื่อความปลอดภัย บางคน ปันผลได้มา ยังไม่ใช้ เพราะมีเงินอื่นอยู่ เอามาซื้อกลับเพื่อเพิ่มจำนวนหน่วย ครั้งต่อไปก็จะได้ปันผลมากขึ้นไปอีก บางคน ก็อาจจะลงทุนในกองทุนอสังหา หรือหุ้นปันผลดี ๆ ไปเลย ถ้ามั่นใจว่าจะได้มากกว่ากองทุน อันนี้เป็นการจัดการบริหารการลงทุนของตัวเองแล้วค่ะ ขอให้ค้นพบแนวทางของตัวเองเร็ว ๆ นะคะ โชคดีค่ะ จากคุณ : arce เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 00:25:58

ความคิดเห็นที่ 18 วันนี้หนูคงคุยรู้เรื่องขึ้นนะคะ จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 16:52:15