ความคิดเห็นที่ 1 มือใหม่เหมือนกันครับ การซื้อแบบ dca การลงทุนแบบลดต้นทุนครับ เช่นซื้อตอน 11 มา 5000 ซื้อมา9 มา 5000 เฉลี่ย ได้มา 10 บาท/หุ้นในเงิน10000 บาทครับ จากคุณ : หนึ่ง ณ ครับ เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 17:22:21

ความคิดเห็นที่ 2 ที่ผมเข้าใจคือ ได้กำไร แล้วขาย ราคาลงแล้วช้อนมาเก็งกำไรครับ จากคุณ : หนึ่ง ณ ครับ เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 17:24:01

ความคิดเห็นที่ 3 อยากช่วยนะครับ เพราะเห็นความพยายามที่อยากจะทำให้ได้ แต่คงสับสนอยู่ เพราะเพิ่งเริ่มต้น แต่ผมไม่ค่อยชำนาญเรื่องกองทุนรวมเลยครับ แล้วก็ไม่รู้ว่าที่ปันผลสูงขนาดนั้น มันเฉือนตัวมันเองมาจ่ายปันผลด้วย หรือเปล่า (ใครทราบช่วยบอกหน่อยก็ดีนะครับ) ส่วนเรื่องวันที่เข้าซื้อ ผมก็ไม่รู้อีกว่าทำไมต้องวันจันทร์ แต่ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกวันศุกร์ เพราะวันศุกร์น่าจะเป็นวันที่คน เล่นสั้นบางกลุ่ม อยากขายหุ้นทิ้งเพราะไม่อยากถือผ่านวันหยุดอีกสองวันครับ ส่วนที่คุณคิดว่าจะซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มในวันที่หุ้นตก อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ ถ้าคุณซอยการซื้อถี่ขนาด 1000 บาท ทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ไม่น่าจะต้องไปซื้อวันที่หุ้นตกแล้วล่ะ เพราะไม่มีอะไรการันตีได้ว่าวันถัดจากที่คุณซื้อหุ้นจะไม่ตกหนักกว่า คือผมว่าความถี่ที่ซื้อ น่าจะเพียงพอต่อการเฉลี่ยราคา แล้วล่ะครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 17:28:01

ความคิดเห็นที่ 4 1. สะสมหน่วยลงทุนเพื่อรับเงินปันผลระยะยาวแบบทบต้น 2. ลดต้นทุนให้ต่ำที่สุด เพื่อลดความเสี่ยง ความกดดัน จากความผันผวนของตลาด หรือ เรียกว่ามีส่วนเผื่อความปลอดภัย จากภาวะวิกฤต ในอนาคต ทำแค่นี้พอครับ จากคุณ : กองทุนหุ้นปันผล เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 17:33:03

ความคิดเห็นที่ 5 อยากช่วยเหมือนกันค่ะ  แต่ดิฉันเองไม่เคยลงทุนกองทุนหุ้นปันผลเลย  เพราะต้องถูกหักณ.ที่จ่าย ๑๐% ค่ะ และรายได้ก็ไม่อยู่ในข่ายที่จะเคลมคืนได้  ก็เลยไม่เคยศึกษาทางด้านนี้เลย  ส่วนใหญ่จะรอซื้อกองทุนหุ้นทั่วไป ตอนราคามันลง (ก็คือหุ้นลง)  และรอขายตอนขึ้น  แล้วก็สะสมทุนและกำไรไว้ใน MMF ค่ะ  พอหุ้นตก ก็โอนมาซื้อ  ก็เลยช่วยเลือกให้ไม่ได้    และโดยส่วนตัวไม่เชื่อเรื่อง DCA  ใช้วิธีดูเองสั่งซื้อสั่งขายเองค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ให้คำแนะนำไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 55 17:36:08 จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 17:35:01

ความคิดเห็นที่ 6 แนะนำเน้นการลดต้นทุนตนเองให้มากที่สุดในระยะยาว แล้วความสุขจากการลงทุนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลจังหวะ เข้าๆๆ-ออกๆๆ ระยะยาวมันเหนื่อยนะครับ เวลาอายุมากขึ้น ให้เงินมันดูแลเรา ดีกว่าเราต้องไขว่คว้าหามันเอง เหมือนนกล่าเหยื่อ พลาดขึ้นมา ตกจากที่สูงมันเจ็บหนักครับ ผมอาจจะกลัวจนกลายเป็นคนคิดมากไปก็ได้นะครับ แต่ผมว่าเข้า-ออก บ่อยเท่าไหร่ เหมือนเอาตัวเองขึ้นเขียง บ่อยเท่านั้นครับ เพราะอนาคตราคาหุ้น ไม่มีใครทราบได้ แต่การลงทุนระยะยาว จะช่วยลดความผันผวนได้ดีที่สุด ความกดดัน ความกลัว จะลดลง เรื่อยๆ ซึ่งในที่นี้หมายถึง เราควรบริหารความเสี่ยง ณ เวลาปัจจุบัน ตอนนี้ ที่เราบริหารได้ จะดีกว่า ความเสี่ยงในอนาคตที่จะเกิดขึ้นได้ แต่เราอาจจะตั้งตัว และ บริหาร ทำอะไรไม่ได้ครับ โปรดใช้วิจารณญาณ อย่างสูงนะครับ จากคุณ : กองทุนหุ้นปันผล เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 17:44:34

ความคิดเห็นที่ 7 ขอโทษนะครับ สะดุดกับประโยคนี้ครับ   "หนูคิดไม่เป็น" คำถามแรก หนูอายุเท่าไหร่ครับ? จากคุณ : นายโอเค เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 19:31:35

ความคิดเห็นที่ 8 หนูเข้าใจว่าซื้อแบบสะสมทุกอาทิตย์เป็นจำนวนเงินเท่าๆกัน โดยที่ไม่ต้องสนใจราคาหุ้นตกหุ้นขึ้น พี่อธิบายอย่างนี้ก่อนครับ ตอนนี้น้องอาจได้ยินแต่ข้อมูลบวกจากพี่ๆ ในห้องสินธร ว่ากองทุนหุ้นปันผล ปันผลเท่านั้นเท่านี้บาท คิดแล้วก็มากกว่า 10%/ปี  แต่พี่อยากบอกว่า ตอนนี้ตลาดหุ้นเป็นช่วงขาขึ้น ดังนั้นกองทุนหุ้นส่วนใหญ่จึงมีกำไรมาจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุน แต่ถ้าหากปีไหนเศรษฐกิจแย่มากๆ เช่น เกิดวิกฤตเศรษฐกิจแบบอเมริกาเมื่อหลายปีก่อน ตลาดหุ้นก็แย่ตาม  กองทุนหุ้นก็ไม่มีกำไรที่จะจ่ายปันผลให้น้องนะครับ เอาละทีนี้น้องอ่านหนังสือมาบ้างแล้ว และจะเลือกซื้อกองทุนแบบ DCA หรือเฉลี่ยซื้อทุกวันจันทร์  (จริงๆ เลือกวันอื่นก็ได้ แล้วแต่เรา แต่คนเขียนยึดวันจันทร์เพราะเปิดมาวันแรกของสัปดาห์การทำงานก็ซื้อได้เลย น้องอาจเลือกซื้อวันอังคารก็ได้ ถ้าน้องคิดว่า เราไม่ลืม) แต่ถ้าวันไหนหนูเจอหุ้นตกหนูก็จะซื้อเพิ่มอีกจำนวนเท่าๆกัน ไม่รู้ว่าแบบนี้จะเป็นไง  - น้องทำแบบนี้น้องก็ใช้เงินเท่าเดิมแต่ซื้อหน่วยลงทุนได้มากขึ้น  แต่คำถามคือ แล้วถ้าวันพรุ่งนี้หุ้นตกล่ะ หรือถ้าหุ้นตก 3-4 วันติดต่อกัน น้องจะซื้อทุกวันรึเปล่า? หรือน้องจะเลือกซื้อแค่วันใดวันนึงในสัปดาห์  ?   แล้วทำไมที่หนูอ่านเจอต้องซื้อสะสมวันจันทร์ เพราะถ้าวันอื่นหุ้นตกจะซื้อเพิ่มได้อีกมั้ย แล้วมีวิธีคิดยังไง  -   เรื่องซื้อวันจันทร์ตอบแล้ว  ส่วนถ้าวันอื่นหุ้นตก จะซื้อเพิ่มได้ไหม ซื้อได้ครับ   หนูสงสัยว่าถ้าหุ้นตกจากเดิมวันที่เราซื้อครั้งก่อนเป็นจำนวนล่าสุดหรือ%เปลี่ยนแปลงให้ดูตัวไหนคะ -  คำถามนี้ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ครับ เอางี้ กองทุนหุ้นปันผลที่น้องซื้อไว้แล้วนะครับ พี่ขอให้น้องเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมอีกนิดในหน้าเว็บของ บลจ เช่น น้องบอกว่า น้อมี Hi-Div แล้ว ก็เข้าไปที่เว็บ บลจ ของ MFC http://www.mfcfund.com/ แล้วดู "fund fact sheet"  ของกองทุนนี้ ตามลิงค์ http://www.mfcfund.com/mfc/incfile/ffs_type2_th.php?fundcode=HIDIV&fundtype=ofle ในไฟล์ขอให้ดู "สัดส่วนการลงทุน"  กับดู "5อันดับแรกตามผู้ออกตราสาร" ดูทำไม?  หน่วยลงทุนของกองฯ นี้ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นพวกนี้ครับ ในไฟล์จะเห็นว่า กองฯ นี้ลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 18% กว่า หุ้นกลุ่มสื่อสาร 14% กว่า หมายความว่า ถ้าวันจันทร์หุ้นทั้ง 2 กลุ่มนี้ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าวันนี้ (ศุกร์) หน่วยลงทุนของน้องก็จะมีราคาสูงขึ้น (ดูการเปลี่ยนแปลงราคาหน่วยลงทุนได้ที่หน้าเว็บ บลจ วันจันทร์ตอนดึกๆ ครับ ) จากคุณ : นายโอเค เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 20:03:09

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่รู้ตอบข้อสงสัยได้รึเปล่า หรือยิ่งงงเข้าไปอีก แต่เหนือกว่านั้นคือ  น้องต้องถามตัวเองมากๆ ด้วยครับว่า "น้องรับความเสี่ยง" ได้มากแค่ไหน  อย่างกอง BKD ที่ราคา 4 บาทกว่าๆ ในตอนนี้ ตอนเริ่มต้นราคาอยู่ที่ 10 บาท/หน่วยนะครับ  แต่กองผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ จนราคาเป็นอย่างที่น้องเห็นวันนี้แหละ ฉะนั้นขอย้ำเลยครับให้ถามตัวเองก่อนว่า "รับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน?!!?" จากคุณ : นายโอเค เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 20:12:27

ความคิดเห็นที่ 10 ลองเข้าไปกะทู้นี้ดูนะคะ เพื่อนๆเค้าเล่นกองทุนกันเผื่อจะมีคนช่วยได้ เราก็ใหม่ค่ะ กำลังศึกษาอยู่. http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I12871543/I12871543.html จากคุณ : joyly_polly เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 21:55:14

ความคิดเห็นที่ 11 แค่มีความพยายามศึกษาก็เยี่ยมแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ เข้าใจว่า ตอนนี้ ห้าแสนที่เอามาเริ่มต้น ยังไม่ได้ต้องการเอาผลตอบแทน (ที่หนูเรียกว่าดอกเบี้ย) มาใช้จริง   แค่อยากยกตัวอย่างเพื่ออยากเห็นวิธีคิด ว่าจะสามารถลงทุนได้ผลตอบแทนปีละ 12 % ไหวมั้ย ประมาณนี้หรือเปล่า ขอบอกเป็นแนวคิดแบบนี้ละกันนะคะ แล้วพิจารณาต่อเองนะคะ อาจจะประหลาดเข้าใจยากรึเปล่าไม่รู้นะ 1. ลองหากระทู้อธิบายวิธีการ DCA ใช้ smart search หาดูในพันทิปหรือในคลังกระทู้เก่า หรือทางลัดอีกทางก็ลองเข้าไปดูกระดานสนทนาของเวบบอร์ดบลจ. ธนชาติ แล้ว search ค่ะ มีการอธิบายไว้ชัดเจนมาก DCA คือแนวคิดค่ะ ไม่มีใครกำหนดว่าจะต้องซื้อถี่เท่าไหร่ หรือต้องซื้อวันไหน เรากำหนดเองค่ะ ซื้อทุกอาทิตย์ ทุกเดือน ทุกไตรมาศ ก็ถือว่าเป็น DCA ได้ทั้งนั้น 2. วิธีการลงทุน แล้วแต่แนวคิดและความถนัดของแต่ละคนค่ะ ดังนั้น พอศึกษาแล้วเลือกวิธีลงทุนแบบนี้แล้ว พอมั่นใจก็ลองไปเลยค่ะ ให้เวลาวิธีการที่เราใช้พิสูจน์ตัวเองนิดนึง อย่างที่บอกค่ะ 3-6 เดือนก็รู้แล้วว่าเวิร์คป่าว ต้องปรับวิธีหรือปรับตัวเอง ไม่มีอะไรตายตัวค่ะ เราสามารถปรับวิธีการลงทุนได้จนกว่าจะเจอวิธีการที่เราใช้แล้วเหมาะกับตัวเองและได้ผลตอบแทนที่พอใจ ดังนั้น บางท่านใช้การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย บางท่านรอดูราคาแล้วลงทุน บางท่านชอบหุ้นมากกว่า บางท่านรักแต่ตราสารหนี้ MMF เพราะเกลียดชังความเสี่ยงและการติดลบเหลือเกิน บางท่านชอบหุ้นต่างประเทศ บางท่านชอบทองหรือน้ำมัน ได้ลุ้นกันทุกวันดี อะไรแบบนี้เป็นต้น 3. ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นค่ะ ดังนั้นกองทุนไหนไม่สามารถบริหารให้ได้กำไรมากกว่า passive fund หรือไม่สามารถจ่ายปันผลออกมาได้ ผู้จัดการกองทุนก็สมควรต้องพิจารณาตัวเองได้แล้วมั้ง และเราก็ต้องพิจารณาด้วยว่าจะรักเดียวใจเดียวกะกองทุนที่เลือกมานี้ หรือจะไปหาที่พึ่งใหม่ข้างหน้าดี และถ้าเกิดหุ้นตก กองทุนส่วนใหญ่ก็ตกตามอยู่แล้ว มากน้อยแล้วแต่ฝีมือผู้จัดการกองทุนแล้วล่ะ ตอนนั้นหนูจะวางแผนยังไง ขาดทุนไหวมั้ย ขาดทุนได้เท่าไหร่ ลำบากหรือเปล่า 4. ตอนนี้สถานการณ์เริ่มไม่แน่นอน จะขึ้นก็ไม่แน่ใจ จะลงก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ดังนั้น พูดตามตรง การลงทุนในตอนนี้มีความเสี่ยงกว่าคนที่เริ่มต้นมาหลายปีแน่ ๆ ค่ะ ถึงจะลงทุนในกองทุนเดียวกันก็ตาม แต่มองอีกแง่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เริ่มต้นเลย ถึงได้แนะนำให้ศึกษามาก ๆ จนเข้าใจแล้วลองน้อย ๆ ก่อนจนกว่าจะจับทางได้ค่ะ 5. ปันผลของกองทุนที่ได้รับ จะถูกหักภาษี 10% ค่ะ ถ้ารับได้ ก็ให้เค้าหัก ณ ที่จ่ายไปเลย แล้วค่อยเอามาขอคืนภาษีก็ได้ ถ้าไม่มีรายได้หรือยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าไม่อยากเสียภาษีในส่วนนี้ ต้องพิจารณากองทุนที่ไม่ปันผลค่ะ แต่ต้องศึกษาวิธีการลงทุนและปกป้องกำไรในส่วนนี้เองด้วย เพราะเค้าไม่ปันผลออกมาให้ อยากได้ต้องขายออกมาเอง 6. ข้อสุดท้าย ลองคิดดูอีกทีว่า ทำไมถึงคิดจะซื้อกองทุนหุ้นปันผล 4 กอง แต่ละกองลงทุนเหมือนกันหรือไม่ ให้ปันผลดีพอ ๆ กันหรือไม่ หรือมีเหตุผลอื่น ที่ถามนี่เพราะจริง ๆ แล้วการกระจายการลงทุนเป็นเรื่องที่ดี แต่มากเกินไปก็ไม่ดีค่ะ มันไม่เป็นกอบเป็นกำเท่าไหร่ ซื้อหลายกองก็ไม่ผิดนะคะ เพราะพี่เองก็ลงทุนหลายกองมากเลย^^; แต่ต้องมีเหตุผลตอบตัวเองให้ได้ว่า ทำไมไม่เลือกแค่ 1-2 กองที่ดีที่สุด จากคุณ : arce เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 22:37:26

ความคิดเห็นที่ 12 ขอขอบคุณพี่ๆทั้งหลายมากๆอีกครั้งคะ หนูออกตัวก่อนว่าหนูสมองช้าอ่านข้อความของพี่ๆอ่านซ้ำหลายรอบอ่านไปคิดไปทำความเข้าใจไป จนป่านนี้หนูยังไม่ค่อยเข้าใจทั้งหมด แต่หนูขอคลิกกิฟให้พี่ๆทุกคนก่อนนะคะเป็นการขอบคุณคะ และหนูจะพยายามศึกษาต่อๆไปถามต่อๆไปคงไม่รำคาญซะก่อนนะคะ หนูชอบหลังไมค์ถามถ้ารบกวนไปบอกด้วยนะคะเพราะตั้งกระทู้ๆมันหาย พี่ๆก็หลังไมค์แนะนำให้หนูได้นะคะ ขอบคุณคะ ซี จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 23:05:26

ความคิดเห็นที่ 13 หนูสงสัยว่าถ้าหุ้นตกจากเดิมวันที่เราซื้อครั้งก่อนเป็นจำนวนล่าสุดหรือ%เปลี่ยนแปลงให้ดูตัวไหนคะ คือมีพี่ญาติสอนให้ดูเว็บตลาดหลักทรัพย์ราคาดัชนีตลาดหลักทรัพย์อิงราคาหุ้นขึ้นลงหนูก็เคยอ่านเจอจากพันทิปว่ามีคนดูอิงเหมือนกันหนูเลยดูตามคะ พี่ความคิดเห็นที่ 8 เว็บที่พี่ให้มันเปิดออกมาเป็นภาษาต่างดาวคะอ่านไม่ได้ ประโยคนี้หนูไม่เข้าใจนึกไม่ออก กองฯ นี้ลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 18% กว่า หุ้นกลุ่มสื่อสาร 14% กว่า หมายความว่า ถ้าวันจันทร์หุ้นทั้ง 2 กลุ่มนี้ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าวันนี้ (ศุกร์) หน่วยลงทุนของน้องก็จะมีราคาสูงขึ้น (ดูการเปลี่ยนแปลงราคาหน่วยลงทุนได้ที่หน้าเว็บ บลจ วันจันทร์ตอนดึกๆ ครับ ) หนูคิดว่ารับความเสี่ยงได้เพราะตั้งใจจะทำให้มีกำไรมีเงินงอกเงยแต่ไม่รู้จะได้มากแค่ไหนยังไม่มีประสบการณ์เลยคะว่าถ้าเป็นตัวแดงๆแค่ไหนถึงจะใจเสีย อยากลองดูถ้าไม่ไหวจะรีบเข้ามาถามพี่ๆ จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 23:18:04

ความคิดเห็นที่ 14 พี่ความคิดเห็นที่ 10 หนูอ่านไม่เข้าใจเลยคะ จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 23:20:31

ความคิดเห็นที่ 15 พี่ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องภาษีหนูทำงานรับจ้างรายได้น้อยไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีและก็ไม่เคยเขียนภาษียื่นส่งเพราะพี่ๆเค้าบอกว่าเสียเวลาเปล่าๆ แต่การฝากการลงทุนครั้งแรกนี้พี่ๆเค้าบอกว่าให้เลือกให้หักเสียภาษีไปเลยแล้วก็ไม่ต้องไปยื่นเขียนขอคืนด้วย หนูทำตามที่พี่ๆเค้าแนะนำ เค้าคงคิดให้แล้วว่าเหมาะสม ที่หนูไปเปิดซื้อไว้4กองทุนไม่มีความคิดของตัวเองเลยคะ พี่ญาติแนะนำแค่2แห่งแต่หนูอ่านในพันทิปก็เจอแล้วคิดตามก็ไปเพิ่มอีก2แห่งเพราะเข้าใจว่าราคาตอนนี้ถูกสำหรับหนูเพิ่งเริ่มน่าจะมีไว้เริ่มต้น หนูรู้จักแต่ฝากออมทรัพย์ ฝากประจำ สลากออมสิน เพิ่งมารู้ว่ามีกองทุนMMFที่ดีกว่าออมทรัพย์ กองทุนตราสารหนี้ และก็เข้าใจว่ามีกองทุนกี่ประเภท แต่ตอนนี้รู้จักอีกตัวคือกองทุนหุ้นปันผลเข้าใจว่าจะทำกำไรได้มากกว่า2กองที่บอกแล้วก็บัญชีที่ฝากอยู่ แต่เสี่ยงเท่าไหร่ก็เข้าใจว่ามากแต่ก็ไม่รู้ว่าจะรับความเสี่ยงได้แค่ไหนคะ เพราะตอนตอบใบประเมิณความเสี่ยงบางทีก็ได้ตัวเลขน้อย บางทีก็ได้ตัวเลขมาก ตอนนี้หนูอยากได้คำแนะนำที่ว่ากองทุนหุ้นปันผล4กองทุนนี้ถ้าให้เรียงลำดับ1-2-3-4 หนูอยากจะวางแผนการลงทุนฝากเป็นระยะตามนี้คะ 1-2 ฝากทุกอาทิตย์ 1000 บาทเท่าๆกัน 3-4 ฝากทุกเดือน 5000 บาทเท่ากัน หรือฝากทุก2อาทิตย์ 2000บาทเท่าๆกัน ขอความคิดเห็นด้วยคะ ในใจหนูเข้าใจว่า1-2 เป็น HIDIV BKD เพราะNAVต่ำได้หน่วยเยอะกว่า หนูซื้อได้ตอนเปิดขายโชคดีอ่านเจอที่พี่ๆเขียนกัน 3-4 เป็น KFSDIV SCBDV แค่นี้ก่อนคะไว้คุยกันใหม่เริ่มปวดหัวคิดไปคิดมางงอีกแล้ว จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 23:41:42

ความคิดเห็นที่ 16 กองทุนหุ้นทั้งปันผลและไม่ปันผล  เขาเอาเงินที่น้องซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนไปซื้อหุ้นต่อครับ ดังนั้นหลังจากวันที่น้องจ่ายเงินซื้อกองทุนฯ ไปแล้ว ถ้าวันรุ่งขึ้นหุ้นที่กองทุนซื้อมาเก็บไว้ราคาเพิ่มขึ้น มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนก็จะเพิ่มตาม ตรงกันข้ามถ้าหุ้นราคาตก มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนก็ลดลง แต่... กองทุนหุ้น ไม่ได้ซื้อหุ้นแค่ 1 ตัว เขาซื้อหุ้นและถือหุ้นไว้หลายสิบตัว ซึ่งในตลาดหุ้นจะแบ่งหุ้นของบริษัทต่างๆ ออกเป็นหมวดหมู่ เช่น หมวดธนาคาร หมวดพลังงาน หมวดสื่อสาร หมวดเกษตร ฯลฯ ทีนี้ถ้าวันจันทร์หุ้นในหมวดธนาคารราคาเพิ่ม มูลค่าของหน่วยลงทุนของกองทุน Hi-Div และกองอื่นๆ ที่น้องมี ก็มีโอกาสเพิ่มตาม  (หรือมีกำไร) ทำนองเดียวกันถ้าหุ้นในหมวดธนาคารราคาลดลง มูลค่าหน่วยลงทุนก็มีโอกาสลดลง (หรือขาดทุน) ยกตัวอย่างจากเว็บ Hi-Div มีปัญหา เข้าไปดูประวัติปันผลของ BKD ละกันครับ   http://www.bblam.co.th/asset/20120828112853_1.pdf จะเห็นว่า บางช่วงกองทุนไม่ได้จ่ายปันผลออกมา เพราะตลาดหุ้นเจอวิกฤติ ดังนั้นน้องต้องเข้าใจก่อนว่า บางปีกองทุนอาจไม่ปันผลออกมาได้นะ ถ้าหากว่า หุ้นในตลาดหุ้นราคาลดลงมามากๆ ของ BKD เหมือนเดิม ลองเข้าไปดูข้อมูลใน fund fact sheet จะได้รู้คร่าวๆ ว่า หุ้นที่กองทุน BKD ซื้อและถือไว้มีบริษัทอะไรบ้างครับ http://www.bblam.co.th/web2/fundDetail.php?fundID=32&langsel=th ถ้าจะดูว่า วันนี้ราคา BKD เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ( + หรือ - กี่%) ก็ดูที่นี่ http://www.bblam.co.th/web2/fund_nav.php?id=15&langsel=th เป็นต้น จากคุณ : นายโอเค เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 00:14:41

ความคิดเห็นที่ 17 คำถามคือ ถ้ากองทุนไม่ปันผลออกมา เพราะไม่มีกำไร น้องทำใจได้รึเปล่า? เพราะเวลาที่ไม่มีการปันผลอาจนานเป็นปีได้นะครับ คำแนะนำสำหรับการศึกษาเกี่ยวกับกองทุนรวมคือ ค่อยๆ อ่านข้อมูลในเว็บไซต์ของ บลจ เช่น บลจ บัวหลวง http://www.bblam.co.th/web2/index.php?id=1&langsel=th ที่น้องซื้อหน่วยลงทุนกอง BKD อยู่ ส่วนใน pantip ไม่เหมาะสำหรับการทำความเข้าใจแต่เบื้องต้นเท่าไหร่  เพราะมีปริมาณข้อคิดเห็นพอๆ กับข้อมูล (โดยภาพรวมของกระทู้ทั้งหลาย) ถ้าต้องการความรู้ควรอ่านสิ่งที่เป็นสาระ ไม่ใช่ข้อมูล น้องลองเข้าไปศึกษาจากลิงค์เว็บข้างล่างดูครับ   http://www.start-to-invest.com/webedu/content.html?menu_id=66 จากคุณ : นายโอเค เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 00:33:25

ความคิดเห็นที่ 18 ติงเรื่องภาษีนะ   ถ้าน้องอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ต้องเสียภาษี  ไม่ต้องยื่นก็ถูกแล้ว  แต่.....ถ้าน้องได้เงินปันผล แล้วถูกหักไป 10%   น้องควรยื่นเพราะจะได้ขอภาษีคืนค่ะ  การยื่นภาษีก็ไม่ใช่เรื่องยาก ยื่นทางเน็ตก็ได้  ถ้ายื่นต้นๆ ปี (เขาให้ยื่นภายใน 31มีค.)  ก็จะได้เงินคืนเร็ว  ที่คนอื่นเขาบอกว่าให้เลือกหักภาษีแล้วจบ ก็เพราะบางคน เขาเสียภาษีมากอยู่แล้ว  เอาไปรวมก็ยิ่งเสียภาษีเยอะขึ้นค่ะ  เขาจึงไม่ยื่น  หรือไม่ก็คือเขาไม่เข้าใจ เงื่อนไขของน้องนะคะ ว่ายื่นได้  และจะได้เงินคืนด้วยค่ะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 01:05:00

ความคิดเห็นที่ 19 ขอตอบหลาย ความเห็นหน่อยนะ เพราะ น้องถามเยอะ เอาความคิดของพี่นะ โจทย์คือ เงินปันผล นะ พี่ตัด BKD ออก เพราะ นโยบายการลงทุน เขาต่างจากอีก 3 ตัว ที่เหลือ (เน้นลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ) เขาลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโต bkd ตั้งปี 37 เริ่มจ่ายปันผลปี 38 จ่ายปันผลมาแล้ว 17 ครั้ง เป็นเงิน 8.57 แต่nav เหลือ 4.84 คือ มันกินเงินต้น ถึงน้องจะได้ปันผล แต่ เงินต้นหาย พี่ตัดทิ้ง kfsdiv พี่ตัดออก เพราะ ราคาสูงแล้วตอนนี้ 15.xx *ปันผลได้แค่ 11.50%* (โจทย์อยู่ที่ปันผลนะ) ไม่เอา แคปปิตอลเกรท ถ้าน้องไม่เสียภาษี เวลาเปิดกองทุน ก็ใส่ตรงช่องไม่ให้หักภาษี ถ้าใส่ไปแล้วก็ไปยื่นเรื่องไม่ขอเขายกเลิกหักภาษีได้ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 18:26:36 จากคุณ : ภูตน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 17:45:48

ความคิดเห็นที่ 20 คำถามต่อมา 5 แสน ต้องลงทุนนานเท่าไหร่ หมายถึง มีเงิน อยู่ในมือ 5 แสน แล้วเนอะ (พี่คงเข้าใจถูก) เป็นพี่ ลงทุนให้หมดภายใน 50 อาทิตย์ หรือ 1 ปี (ขาดไป 2 อาิทิตย์) คือ อาทิตย์ละ 1 หมื่น เพราะ ยิ่งเราได้ปันผลเร็ว ก็ยิ่งทำให้ต้นทุนเราลดลงเร็วด้วย ถามว่า ลงทุน แบบไหนดีกว่ากัน 1.ซื้อเท่ากัน ทุกวันที่กำหนด (วันจันทร์หรือวันอะไรก็ได้ตามใจน้อง พี่ ซื้อทุกวันที่ 5,15,25 เดือนละ 3 ครั้ง) คือแบบ dca 2.ถ้าหุ้นตกซื้อเพิ่ม อันนี้ คห.8 ตอบได้ดีมากครับ คือ ตกแค่ไหน ถ้าตกไปเรื่อยๆ เราจะทำยังไง พี่แนะนำ ว่า ให้น้อง ซื้อแบบ va (ฮิๆ พี่ใช้วิธีนี้อยู่) คำถามแบบไหนดีกว่ากัน มีคำตอบ พี่ใส่ิลิ้งค์แล้วมันไม่ขึ้นอะครับ น้องเข้า google หาคำว่า "เทคนิคการลงทุน 3 แบบ เพื่อการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ" http://thaipropertyfund.com/2012/06/01/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99-3-%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88/ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 18:19:54 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 18:17:56 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 18:13:52 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 18:12:04 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 17:59:47 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 17:58:43 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 17:56:53 จากคุณ : ภูตน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 17:56:26

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านจบแล้ว 2 เล่มนี้ หนังสือบริหารเงินเก็บผ่านกองทุนรวม กับรวยด้วยกองทุนรวมไม่ยาก จากคุณ : ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 23:10:11