Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
'เสี่ยช้าง' รีเทิร์น!! ตะวันขึ้นที่ 'บางกอกแลนด์' ติดต่อทีมงาน

ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2555 01:00
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



จริงเหรอ!! 'บางกอกแลนด์' กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค 'รุ่งเรือง' ตามที่ 'เสี่ยช้าง' อนันต์ กาญจนพาสน์ ประกาศกร้าว!!!

ผอมลงจนแทบจะจำไม่ได้ "เสี่ยช้าง" อนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บางกอกแลนด์ วัย 71 ปี ที่พระอาทิตย์กำลังจะกลับมาขึ้นอีกครั้งที่ "เมืองทองธานี" หลังนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2535 สร้างอาณาจักรเมืองทองธานีจนกลายเป็น "มหาเศรษฐีหมายเลข 1 ของเมืองไทย"

แต่แล้ววันหนึ่งงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกดังโผละ! ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เสี่ยช้างกลายเป็น "คนเคยรวย" หนี้สินจำนวนมหาศาลกลายเป็น "ภาระผูกมัด" จนธุรกิจเดินหน้าต่อไม่ได้ คอนโดถูกทิ้งร้าง ออฟฟิศไร้ผู้คน ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แทบจะตายสนิท

เดือนตุลาคม 2542 เสี่ยช้างพลิกเกมจัดตั้ง บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด (อิมแพ็ค) บางกอกแลนด์ถือหุ้น 99.97% ทำธุรกิจศูนย์แสดงสินค้านานาชาติในเมืองทองธานีแจ้งวัฒนะ ระหว่างนั้นก็เพิ่มทุนใช้คืนเจ้าหนี้ และปรับโครงสร้างขอลดหนี้มาตลอด โดยกัดฟันกอดที่ดินผืนงามที่เหลือที่ถนนแจ้งวัฒนะ และย่านถนนศรีนครินทร์อีก 1,350 ไร่ เอาไว้ โดยหวังว่าวันหนึ่ง "เมืองทอง" ซึ่งหมายถึง "ยุคทอง" จะต้องกลับมาสักวัน

เมื่อธุรกิจขาดเงินในปี 2550 เสี่ยช้างตัดใจขายหุ้นอิมแพ็คบางส่วนให้แก่ Juutland Limited สัดส่วน 45% บางกอกแลนด์เหลือหุ้น 55% ล่าสุดเพิ่งไปขอซื้อหุ้นกลับคืนจาก South East Asia Opportunities Fund Limited ทำให้บางกอกแลนด์ถือหุ้นในอิมแพ็ค 100% ตามเดิม โดยมีแผนจะนำหุ้นอิมแพ็คเข้าตลาดหลักทรัพย์สร้างมูลค่าเพิ่มให้บางกอกแลนด์ แต่งเติมสตอรี่ใหม่ไปพร้อมๆกับเดินแผนเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้ามาในเมืองทองแจ้งวัฒนะ พร้อมรับปากจากนี้ไปจะจ่ายปันผลทุกปี การันตีตัวเลข 0.02 บาทต่อหุ้นเป็นอย่างน้อย

ก่อนที่เสี่ยช้างจะประกาศกร้าว! นำบางกอกแลนด์ก้าวเข้าสู่ “ยุครุ่งเรือง” อีกครั้ง แถลงข่าวใหญ่ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาณที่ถูกส่งออกมาตลอด 1-2 ปีนี้ อนันต์ไล่เก็บหุ้น BLAND ของตัวเองไว้เต็มกระเป๋าใช้เงินไป "หลายร้อยล้านบาท" ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BLAND พุ่งทะยานจาก 0.70 บาท ขึ้นไปสูงสุด 1.46 บาท เป็นการ "รีเทิร์น" ที่ไม่ธรรมดา

"บิซวีค" สืบเสาะได้ความว่า เสี่ยช้าง เกิดวันที่ 24 มิถุนายน 2484 ปีนักษัตร “มะเส็ง” (งูเล็ก) ซึ่งมะเส็ง "ชง" (ปะทะ) มะเส็งในปี 2556 (ปีชง 2556 คือ กุน, มะเส็ง, ขาล, วอก) ขณะเดียวกัน คีรี กาญจนพาสน์ เจ้าสัวบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) และ วีจีไอโกลบอล มีเดีย (VGI) น้องชายของเสี่ยช้าง เกิดวันที่ 18 ตุลาคม 2493 ปีนักษัตร “ขาล” (เสือ) ซึ่งปีขาลชงกับมะเส็งเช่นกัน ปี 2556 จะใช่ "ปีทอง" รึเปล่า!!! ถ้าตามพื้นดวงก็ยังไม่น่าจะดีเท่าไร

"นานมาแล้วที่ผมไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับสื่อมวลชน ไม่เหมือน “ปีเตอร์ กาญจนพาสน์” ลูกชายคนโตวัย 39 ปี และ “พอลล์ กาญจนพาสน์” ลูกชายคนสุดท้องวัย 37 ปี ที่เขาได้พบท่านบ่อยๆ ผมแก่แล้วกะจะวางมือแล้วปล่อยให้ลูกชายได้จัดการงานเต็มที่ ถึงแม้จะแก่แต่ก็ยังมีเมียสาวนะ (หัวเราะ)” เสี่ยช้างในวัย 71 ปี กล่าวติดตลกในงานแถลงข่าว “ซื้อหุ้นอิมแพ็คคืน”

เสี่ยช้าง พูดไม่อ้อมค้อมว่าหากมีโอกาสจะไล่ซื้อหุ้น BLAND ไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแท้จริง ถ้าได้รับเงินปันผลจากบริษัทก็จะนำมาซื้อหุ้นอีก เราจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ยิ่งบริษัทซื้อหุ้นอิมแพ็ค กลับคืนมาในราคาถูก 2,700 ล้านบาท จะทำให้ฐานะการเงินของบริษัทดีขึ้นมากๆ

"ผมมีลูกชาย 2 คน สุดท้ายเขาแบ่งหุ้นกันไป ผมเชื่อว่าจากนี้บริษัทจะฟิตมาก (ลากเสียงยาว) จนสามารถจ่ายเงินปันผลได้ทุกปี ขอการันตีที่ตัวเลข 0.02 บาทต่อหุ้น หรือมากกว่านั้น"

เสี่ยช้าง กล่าวว่า อิมแพ็คมี Net Profit Margin (อัตรากำไรสุทธิ) สูงถึงปีละ 300-400 ล้านบาท ถ้ารวมค่าเสื่อมก็จะมีอัตรากำไรสุทธิเกือบ 1,000 ล้านบาท แถมบริษัทนี้ยังมีกระแสเงินสดสูงถึง 1,000 ล้านบาทต่อปี ด้าน พอลล์ กาญจนพาสน์ ลูกชายคนรอง พูดเสริมคุณพ่อว่าในปี 2557 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2557) อิมแพ็คอาจมีรายได้เติบโตปีละ 5-10% ส่วนในปี 2556 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 2,200-2,400 ล้านบาท

อนันต์ บอกว่า จุดเด่นตรงนี้จะทำให้ BLAND สามารถจ่ายเงินปันผลได้ทุกปี หลังหยุดจ่ายมาตั้งแต่ปี 2540 เพิ่งกลับมาจ่ายได้ 0.02 บาทต่อหุ้นเมื่อไม่นานมานี้ ก้าวต่อไปจะนำอิมแพ็คเข้าตลาดหลักทรัพย์จะขาย IPO สัดส่วน 25% แต่จะขายเมื่อไร ราคาเท่าไร เข้าตลาดตอนไหน “ยังไม่รู้” การได้ของรัก (อิมแพ็ค) คืนมาครั้งนี้ เหมือนได้ “แม่นมพันธุ์ดีกลับมา” เราสามารถรีดนมกินได้ทุกปี

"หน้าที่ของเราคือ เลี้ยงให้แม่นมเติบโตเรื่อยๆ เมื่อก่อนผมเคยอยากนำอิมแพ็คเข้าตลาดหุ้น แต่ติดตรงที่เราไม่ได้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้ต้องล้มความคิดนี้ น่าเสียดายจริงๆ แม้เราจะเคยมีปัญหาเรื่องการเงิน แต่ก็ไม่เคยเดินเข้าไปสู่หมวดฟื้นฟูกิจการ (รีฮาฟโก้) เหมือนคนอื่นๆ ที่สำคัญเจ้าของที่ร่วมกันก่อตั้งบริษัทเมื่อ 20 ปีก่อนจนถึงวันนี้ก็ยังคงเป็นกลุ่มเดียวกัน เปลี่ยนแปลงเพียงจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่านั้น”

เสี่ยช้าง ก้มหน้าพลิกเอกสาร ก่อนเงยหน้าขึ้นมาพูดว่า ตั้งเป้าอยากมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมงานประชุมและนิทรรศการต่างๆ ในอิมแพ็ค เพิ่มขึ้นจาก 15 ล้านคนต่อปีเป็นกว่า 25 ล้านคนต่อปี ถามว่าจะดึงคนเข้ามาได้อย่างไร เราได้มีการพูดคุยกับ รฟม.ว่า อยากให้รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ปากเกร็ด-หลักสี่-มีนบุรี-สุวินทวงศ์) ต่อเข้ามาถึงในเมืองทองธานี

รฟม. เขาตีมูลค่าลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท เราขอให้ออก "คนละครึ่ง" (600 ล้านบาท) เขาคงต้องกลับไปคิดก่อน ถ้าโอเคคงส่งเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนตัวตั้งใจจะทำโครงการช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ขนาดไม่ใหญ่มากในเมืองทองแล้วให้รถไฟฟ้าวิ่งเข้ามาในชั้น Underground เราจะทำพื้นที่จอดรถ 20-30 ไร่ จอดได้สัก 15,000-20,000 คัน

"สมมติโครงการนี้ ครม. หรือ รฟม. ไม่เห็นด้วย ก็ไม่เป็นไร เพราะผมคิดจะสร้างโครงการโมโนเรลระยะสั้นเชื่อมต่อรถไฟฟ้าเอง มูลค่าลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งมันก็เท่ากับที่เราจะออกคนละครึ่ง กับ รฟม.ออกแบบทุกอย่างไว้หมดแล้ว ตอนนี้ได้จ้างบริษัท เทสโก้ ให้เข้ามาดูแลโครงการนี้เรียบร้อยแล้ว"

ในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อนันต์ วางแผนจะทำที่อยู่อาศัยขนาด "จุ๋มจิ๋ม" (หัวเราะ) ประมาณ 300-500 ยูนิต ขนาดใหญ่หลายพันหลายหมื่นยูนิต "คงไม่ทำ" ปล่อยให้คนเก่งๆ เขาลุยกันไปเองดีกว่า “พอลล์” เสริมว่า ส่วนของโรงแรมในอนาคตก็คงจะทำต่อเนื่อง แต่รายละเอียดยังไม่รู้จริงๆ อย่าพยายามถามเลย “พ่อบอกไม่ให้เชื่อนักข่าว” (หัวเราะ)

นักข่าวถามว่ามีแผนจะทำโน่นทำนี่จะนำเงินมาจากไหน เสี่ยช้าง..หัวเราะ!! เงินภายในเราเยอะนะจะบอกให้ ตอนนี้ผมมีแผนจะขายที่ดินทั้งในส่วนของเมืองทองและถนนศรีนครินทร์ที่มีรวมกันประมาณ 2,000 ไร่ มูลค่าเท่าไรยังกราบเรียนไม่ได้จริงๆ ที่ดินของเราเปรียบเหมือน “เหล้าที่ดองไว้นาน” ฉะนั้นราคาน่าจะดีกว่า “เหล้าใหม่”

ตอนนี้บอกได้เพียงว่า ที่ดินทำเลงามกว่า 1,350 ไร่ ย่านถนนศรีนครินทร์ มูลค่าประมาณ 12 ล้านบาทต่อไร่ มีนักธุรกิจทั้งที่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และไม่ได้เป็นสนใจเยอะมาก ส่วนตัวตั้งใจจะขายที่ดินให้ได้ 600-700 ไร่ ส่วนที่ดินบนถนนเพชรบุรียาวไปถึงแอร์พอร์ตลิงค์ที่มีอยู่ 7 ไร่ คงไม่ขายตั้งใจจะให้ลูกชายนำไปทำเป็นอสังหาริมทรัพย์ บางกอกแลนด์ถือเป็นบริษัทที่ครอบครองที่ดินมากสุด (ในกรุงเทพฯ) แล้วมั้ง!!! เจ้าตัวพูด

“ผมไม่อยากเป็นหนี้ใครอีกแล้ว ถ้าไม่จำเป็น บทเรียนเมื่อครั้งปี 2540 มันยังฝังใจอยู่เลย กู้เงินคนอื่นมาวันหนึ่งเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ดอกเบี้ยมันจะบานตะไท จากนี้ไปผมจะพยายามทำอะไรคนเดียว ไม่ไปร่วมทุนกับใครอีก” เสี่ยช้าง ระบายความในใจ

จากคุณ : Wild Rabbit
เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 11:48:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com