Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คุณ Noteperfect ดังจริง.... ติดต่อทีมงาน

ปัญหาอินไซเดอร์เรื้อรังในตลาดทุนไทย (1) : กรณี ก.ล.ต. กับห้องสินธร
โดย : สฤณี อาชวานันทกุล

ผู้เขียนเพิ่งเขียนถึงความกังขาในคุณวุฒิของ “กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ” รายใหม่ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปไม่ทันไร

ก็มีเหตุให้ต้องตั้งข้อกังขาอีกคำรบหนึ่งถึงหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหุ้น

คราวนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมาภิบาลองค์กร แต่เป็นวิธีตีความกฎหมายและใช้อำนาจ เพราะเกิดเหตุการณ์ที่น่าตั้งคำถามว่า ก.ล.ต. ใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ และใช้อำนาจอย่างนั้นเพียงเพราะไม่เข้าใจโลกแห่งมือสมัครเล่นของศตวรรษที่ 21 หรือเปล่า

ผู้เขียนกำลังพูดถึงกรณีผู้ใช้เว็บบอร์ดพันทิปดอทคอม ผู้ใช้นามแฝง Noteperfect ถูกเว็บพันทิปยึดล็อกอิน หลังจากได้รับจดหมายเตือนจาก ก.ล.ต. ว่าการโพสต์กราฟหุ้นและทิศทางราคาอาจเข้าข่าย “ประกอบธุรกิจการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน” ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. และ “การเผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จให้เลื่องลือจนอาจทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าหลักทรัพย์ใดจะมีราคาสูงขึ้นหรือลดลง เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 240”

ผู้เขียนคิดว่าการยึดล็อกอิน (ถึงแม้ภายหลังจะคืนให้กับคุณ Noteperfect ก็ตาม) เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุของทีมเว็บพันทิป แต่ที่แย่กว่าคือการใช้อำนาจของ ก.ล.ต. ในกรณีนี้ ซึ่งไม่มีเหตุอันชอบธรรมใดๆ ที่จะส่งคำเตือนดังกล่าวตั้งแต่ต้น

ผู้เขียนเห็นด้วยกับข้อวิเคราะห์เบื้องต้นของทีมงานพันทิปว่า ลำพังการโพสต์กราฟราคาหุ้นที่เกิดขึ้นจริงย่อมไม่เข้าข่ายการเผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จ ส่วน “การให้คำแนะนำการลงทุน” ยิ่งไม่เข้าข่าย “ประกอบธุรกิจการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน” ตามกฎหมายเข้าไปใหญ่ ต่อให้เป็นการแนะนำการลงทุนตรงๆ ไม่ใช่แสดงความเห็นส่วนตัวก็ไม่เข้า เพราะคุณ Noteperfect ไม่ได้ “ประกอบธุรกิจ” เป็นที่ปรึกษา ไม่ได้รับค่าธรรมเนียมหรือค่าตอบแทนใดๆ จากการโพสต์ เพียงแต่แบ่งปันความรู้และทัศนะกับผู้ใช้พันทิปคนอื่นๆ เท่านั้น

ผู้เขียนเข้าไปดูกระทู้เก่าๆ ในพันทิปที่คุณ Noteperfect เคยโพสต์ ไม่เห็นมีอะไรที่ใกล้เคียงจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหลักทรัพย์ได้เลย มีแต่กราฟราคาหุ้นประกอบการวาดแนวรับ แนวต้าน ฯลฯ ดูแล้วเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

ไม่เห็นมีโพสต์ของคุณ Noteperfect โพสต์ใดที่เข้าข่ายเผยแพร่ข่าวอันเป็นความเท็จ นอกจากนี้ยังมีคุณภาพสูงกว่าข่าว (เต้า) หลายข่าวในหนังสือพิมพ์บางฉบับ รวมถึงบทสัมภาษณ์ออกสื่อของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์อาชีพบางคนด้วยซ้ำไป

ในระดับหลักการ ที่ปรึกษาการลงทุนเป็นธุรกิจที่ต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ก็เพราะมันเป็น “ธุรกิจ” นั่นคือ ผู้ให้บริการ “ขาย” คำแนะนำให้กับนักลงทุน หน่วยงานกำกับดูแลคือ ก.ล.ต. จึงต้องมีบทบาทป้องกันไม่ให้นักลงทุนถูก “หลอก” - เสียสตางค์ให้นักการเงินกำมะลอที่อ้างตัวว่ามีความรู้ ดูหุ้นเป็น ฯลฯ แต่ที่จริงมั่ว รู้ตัวว่ามั่ว และฉวยโอกาสหารายได้งามๆ จากการที่คนอื่นไม่รู้ว่าตัวเองมั่ว

แต่การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ทัศนะ คำแนะนำ ข้อคิด เสียงบ่น ฯลฯ ระหว่างนักลงทุนด้วยกันนั้นเป็นคนละเรื่องคนละโลกกันอย่างสิ้นเชิง โปรแกรมคอมพิวเตอร์สมัยใหม่และโลกออนไลน์ทำให้มือสมัครเล่นเข้าถึงข้อมูลมากกว่าในอดีตมหาศาล ไม่แปลกอะไรที่มือสมัครเล่นบางคนจะศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเองจนเก่งไม่แพ้มืออาชีพ หรืออาจจะเก่งกว่าด้วยซ้ำไป ก.ล.ต. ไม่มีหน้าที่หรือความจำเป็นใดๆ ที่จะเฝ้าดูการพูดคุยเหล่านี้ เพราะไม่มีใครทำเป็นธุรกิจ ไม่มีใครได้ค่าตอบแทน ยกเว้นว่า ก.ล.ต. จะมีเหตุให้เชื่อว่า ผู้ใช้เน็ตรายใดจงใจเผยแพร่ข้อมูลเท็จเพื่อปั่นหุ้น หรือนำข้อมูลภายในมาหาประโยชน์ - ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายร้ายแรงทั้งคู่

ในยุคนี้ “ความเป็นมืออาชีพ” ไม่ได้สืบสานโดยอัตโนมัติจากยี่ห้อของ “ต้นสังกัด” อีกต่อไป แต่เป็นคุณสมบัติที่ปัจเจกแต่ละคนต้องสร้างด้วยตัวเอง ผู้เขียนเห็นว่าสื่อมวลชนและนักวิเคราะห์หลักทรัพย์หลายคน มี “ความเป็นมืออาชีพ” น้อยกว่ามือสมัครเล่นอย่างคุณ Noteperfect ที่ขยันอาสาทำกราฟราคาหุ้นให้เพื่อนๆ นักลงทุน แสดงแนวรับ แนวต้าน ฯลฯ ตามวิธีวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มืออาชีพหลายคนก็ใช้ แต่คุณ Noteperfect ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น

ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้น ผู้เขียนจึงมองว่า การส่ง “คำเตือน” ของ ก.ล.ต. ในกรณีนี้น่าจะเข้าข่ายการใช้อำนาจโดยมิชอบ แต่สาเหตุของการใช้อำนาจโดยมิชอบคืออะไร ผู้เขียนไม่อาจทราบได้ - ก.ล.ต. อาจเพียงแต่ไม่เข้าใจในธรรมชาติของโลกออนไลน์ ตีความตัวบทกฎหมายอย่างเคร่งครัดเกินเลยจนไม่ดูเจตนารมณ์ของกฎหมายก็ได้

ในภาวะที่การปั่นหุ้นและการซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายใน หรือ “อินไซเดอร์ เทรดดิ้ง” ยังดำเนินไปชนิดที่หลายครั้ง “ใครๆ ก็รู้กัน” แต่ ก.ล.ต. ก็ไม่เคยจับตัว “เจ้ามือรายใหญ่” หรือผู้ร่วมสมคบคิด ซึ่งบางกรณีมีตั้งแต่โบรกเกอร์ นักวิเคราะห์ ไปจนถึงหนังสือพิมพ์บางฉบับ มาลงโทษได้สักที ถึงแม้จะมี ก.ล.ต. มาแล้วสองทศวรรษ

ผู้เขียนคิดว่าการใช้อำนาจแบบ “ผิดที่ผิดทาง” และ “ผิดฝาผิดตัว” ของ ก.ล.ต. ในกรณีนี้ นอกจากจะไม่ช่วยให้สถานการณ์อินไซเดอร์ดีขึ้นแล้ว ยังจะทำให้ตลาดทุนไทยถอยหลังเข้าคลองยิ่งกว่าเดิม เพราะบั่นทอนทั้งแรงจูงใจของนักลงทุนจิตอาสาอย่างคุณ Noteperfect และบรรยากาศการแลกเปลี่ยนเรียนข้อมูลและความคิดเห็นอย่างเสรีระหว่างนักลงทุนด้วยกัน ซึ่งสำคัญต่อการพัฒนาตลาดทุนไทยไม่น้อยไปกว่าการทำงานของมืออาชีพทั้งหลาย

นสพ.กรุงเทพธุรกิจ วันนี้
http://goo.gl/Xq3Db

แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 55 07:06:13

จากคุณ : หมูอวบ
เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 07:00:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com