มนุษย์เงินเดือน..รวยหุ้น 'สมเกียรติ สุขเสรีกุล'
|
|
เป็นลูกจ้างกินเงินเดือนก็เล่นหุ้น 'รวย' ได้! 'สมเกียรติ สุขเสรีกุล' มนุษย์เงินเดือนธรรมดๆ ค้นพบวิธี 'ขุดทอง' จากตลาดหุ้น ใช้เทคนิคคัลวางแผน
สมเกียรติ สุขเสรีกุล พนักงานฝ่ายไอทีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เขาก็เหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วไปที่มีความฝัน! "สักวันหนึ่งกูต้องรวย" การเล่นหุ้นเป็นหนทางแห่งความร่ำรวยที่เขามอง!! ไม่ต้องเหนื่อยไปก่อตั้งธุรกิจ ไม่ต้องลงทุนค้าขายให้เหนื่อย! แต่ช่วงๆ แรกๆ ของการออกเดินทางในตลาดหุ้นกลับ "เละ" มากกว่า "รวย"
"ผมมีตังค์จากเงินออม ผมทำงานประจำ หลายคนบอกว่า ทำไม! ไม่มาเทรด Full Time ไปเลย ได้เงินเยอะกว่าทำงานประจำอีก เข้าถูกจังหวะก็รวยไปเลยเหมือน Trader คนอื่นๆ มันน่าสนใจนะ! แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ทุกคนมีวิถีชีวิต ความรับผิดชอบ และสิ่งแวดล้อม แตกต่างกัน การก้าวเข้ามาในตลาดหุ้นเต็มตัว มีใครรับประกันไหมว่าจะประสบความสำเร็จทุกคน...มนุษย์เงินเดือนเล่นหุ้นได้แบบค่อยเป็นค่อยไป ศึกษาเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ค่อยๆ สะสมทำกำไร หลายคนอาจจะมีแนวทางการดำเนินชีวิตคล้ายผม คืออยากจะรวยจากหุ้นเร็วๆ แต่พอเอาเข้าจริงมันไม่ง่ายอย่างที่คิด"
นักลงทุนที่ท่องโลกออนไลน์ช่วงดึกอาจจะพอคุ้นหน้าคุ้นตากับแฟนเพจ isalaryman Trader ที่นำเสนอกราฟเทคนิครวมถึงแนวคิดการลงทุนในแบบมนุษย์เงินเดือนจนได้รับความนิยมจากแฟนคลับอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งได้รับรางวัล Poppular Vote จากการประกวด Thailand Blog Award ปีล่าสุดไปครอง
“ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไป สาเหตุที่เข้ามาลงทุนเหตุผลสั้นๆ คือ "อยากรวย" แต่ช่วงๆแรกๆกลับเป็นเละมากกว่า” สมเกียรติ สุขเสรีกุล เจ้าของแฟนเพจ isalaryman เริ่มต้นบทสนทนากับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek
สมเกียรติ เล่าว่า ตอนที่คิดเข้าสู่ตลาดหุ้นมองว่าการลงทุนเป็นเรื่องไกลตัวจะต้องเดินทางไปตลาดหลักทรัพย์ ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอ ต้องมีเงินหลักแสนหลักล้าน แต่พอเห็นเพื่อนเปิดโน้ตบุ๊คเทรดหุ้นทางอินเตอร์เน็ตง่ายๆ ก็เริ่มสนใจนำเงินออมส่วนหนึ่งมาลงทุน ช่วงแรกของการลงทุนเมื่อ 5 ปีที่แล้วเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ช่วงที่เล่นได้กำไรเพราะตลาดอยู่ในช่วง "ขาขึ้น" แต่ทุกอย่างก็หายไปเมื่อเข้าสู่ "ขาลง" ทำให้รู้ว่าตลาดหุ้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
ช่วงแรกๆ สมเกียรติใช้วิธีเปิดหนังสือพิมพ์หุ้นว่ากำลัง "เชียร์" หุ้นตัวไหนก็จะ "เล่น" ตัวนั้น คิดว่าวันรุ่งขึ้นหุ้นจะต้องขึ้น แต่บ่อยครั้งไม่ได้เป็นตามนั้นทำให้ “เจ๊ง” ไปหลายรอบ การเล่นหุ้นช่วงแรกๆ ไม่ประสบความสำเร็จจึงสงสัยว่าเป็นเพราะหุ้นกำลัง "ขาลง" หรือว่า "ดวงไม่ดี" กันแน่!
ข้อจำกัดของมนุษย์เงินเดือนที่เล่นหุ้นไปด้วย ทำงานไปด้วย เวลาที่หุ้นกำลังตกและต้องเข้าประชุม ใจจะเริ่มไม่อยู่กับตัวเริ่มสับสนและเครียด บางครั้งต้องรีบ Cut Loss (ตัดขาดทุน) ไปก่อน แต่พอหุ้นกำลังขึ้นใจก็จะคิดตลอดเวลากลัวหุ้นตกขายไม่ทันพอมีกำไรนิดหน่อยก็รีบ "ขายหมู" ออกไปก่อน อารมณ์ประมาณนี้วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ 3-4 ปี และพยายามตั้งคำถามกับตัวเองว่า..คนที่ประสบความสำเร็จมีวิธีลงทุนอย่างไรถึงได้กำไร!!
สิ่งที่สมเกียรติสงสัย ทำไม! หุ้นบางตัวผลประกอบการก็ดีแต่หุ้นไม่ได้ขึ้นเสมอไป ซื้อหุ้นตามที่นักวิเคราะห์เชียร์ให้ซื้อบ่อยครั้งผลตอบแทนกลับไม่ดี ซื้อหุ้นตามข่าวก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เขาบอกว่าปฏิบัติครบสูตรแมลงเม่า "ขายหมู-ติดดอย" จนต้องกลับมานับหนึ่งใหม่เริ่มศึกษาการลงทุนโดยใช้ "กราฟเทคนิค" ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดใหม่ในตลาดหุ้น
"เทคนิคคัลเหมือนกับเป็นแผนที่ให้เราเดินทางถูก อย่างการรบในสมัยก่อนยังมีการวางหมาก การใช้เทคนิคก็เหมือนการวางแผนเทรด สำหรับมือใหม่ไม่มีความจำเป็นต้องใส่เทคนิคเข้าไปเยอะๆ เริ่มแรกให้ดูที่กราฟแท่งเทียน ยังไม่ต้องรีบร้อนเข้าทำกำไรแค่ขอให้ดูทิศทางเป็นก่อนว่ากราฟแบบนี้กำลังบอกอะไรกำลังเป็นขาขึ้นหรือขาลง"
เมื่อพัฒนาถึงจุดหนึ่งที่รู้ลึกถึงเทคนิคต่างๆ เขาเชื่อว่า การใช้เครื่องมือเทคนิคอย่างเดียวไม่จำเป็นต้องดูพื้นฐานหุ้นประกอบเลยก็ได้ แม้แต่หุ้นพื้นฐานไม่ดีแต่เทคนิคสวยก็สามารถลงทุนได้ แต่ต้องแยกด้วยว่าเป็นหุ้นเล็กหรือหุ้นใหญ่ เพราถ้าเป็นหุ้นตัวเล็กกราฟจะสวิงตัวแรงมาก ส่วนหุ้นใหญ่พื้นฐานดีกราฟจะเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ สำหรับมือใหม่แนะนำให้เล่นเฉพาะหุ้นในกลุ่ม SET50 ก่อน เพราะคัดกรองหุ้นมาให้อย่างดีแล้ว ส่วนตัวเคยเล่น TFEX อย่าง SET50 Future เหมือนกันแต่ราคาจะเหวี่ยงมากเกินไปไม่เหมาะกับคนที่ทำงานไปด้วยเล่นหุ้นไปด้วย
“ส่วนที่มาของคำว่า isalaryman มาจาก i ถ้านำไปใส่กับ Phone ก็จะเป็น iphone เหมือนเป็นโทรศัพท์ที่ไม่ธรรมดา ผมเลยนำ i มาใส่กับ salaryman จึงมีความหมายว่า "มนุษย์เงินเดือนที่ไม่ธรรมดา" เพราะเราลงทุนไปด้วยทำงานไปด้วย”
"บิซวีค" ถามว่าแบ่งอย่างไรระหว่างการทำงานกับการเล่นหุ้น!! สมเกียรติ ตอบอย่างภูมิใจว่า “ผมมีจรรยาบรรณว่าถึงเล่นหุ้นแต่เวลาทำงานเราต้องไม่เสียด้วย ไม่งั้นหัวหน้าคงไม่แฮปปี้” สมัยก่อนไอโฟนยังเทรดหุ้นไม่ได้ก็จะใช้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานนั่นแหละ! เปิดโปรแกรมเล็กๆ ไว้ แต่สมัยนี้มีแอพลิเคชั่นที่สะดวกขึ้น และมาลงตัวที่การใช้เทคนิคคัลมาช่วยวางแผนการเทรด เวลากลางวันจะให้เวลากับการทำงานเต็มที่ สมัยก่อนอาจจะยกมือถือมาดูราคาทุกสิบนาทีแต่ถ้าฝึกฝนไปเรื่อยๆ จิตใจจะนิ่งขึ้น เพราะถ้าใจเรากังวลกับหุ้นตลอดเวลามันจะทำได้ไม่ดีสักอย่าง
จากคุณ |
:
หมูอวบ
|
เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ย. 55 07:47:10
|
|
|
|