|
ตั้งทุกวันเลยนะครับ = =a
มันลงมาตามความคาดหวังเรื่องผลประกอบการครับ
บริษัทประมาณการรายได้รวมไว้ที่ 3200 ล้านบาทในปีนี้ครับ ถ้าคิดแบบง่ายๆเป็นกำไรสุทธิร้อยละ 10% ของรายได้รวมก็เท่ากับ 320 ล้านบาทในปีนี้ เมื่อหารหุ้นทั้งหมดของบริษัทจำนวน 1,216,041,855 หุ้นจะเท่ากับกำไรสุทธิ 0.26 - 0.27 ต่อหุ้นครับ
เพราะฉะนั้นถ้าเราให้ค่า P/E ของปริญซัก 7 (เจ้าตลาดจะ 9 ขึ้นไปครับ) จะได้ราคาที่เหมาะสมตอนนี้ที่ 1.82 บาทต่อหุ้น ณ ตอนนี้ครับ เลยถือว่าราคา 2 บาทขึ้นมัน MOS มันต่ำอยู่พอสมควรเลยครับ
แต่อย่างที่บอกเมื่อวานแหล่ะครับผมซื้อ growth ของบริษัทและยอมรับความเสี่ยงตรงนี้ได้บ้างเพราะมันน่าจะแค่ซัก 10% จากราคาต้นทุนของผม ผมเลยซื้อไปเต็มที่เลย สุดท้ายถ้าผลประกอบการไม่เป็นไปตามที่บริษัทเคยสัมภาษณ์ไว้ผมก็จะขายหุ้นทิ้งครับ และจะไม่มองมันอีกเลยครับ
ประเด็นที่สำคัญคือปริญสิริที่ผมเห็นเป็บริษัทที่สามารถทำกำไร และบริหารต้นทุนและระยะเวลาการก่อสร้างได้ดีไม่แพ้เจ้าตลาดครับ และยังถือว่าเป็นหุ้นที่มีสตอรี่ เล่นเรื่องกำไรก้าวกระโดดได้ครับ แต่ที่กลัวอย่างเดียวคือ backlog บ้านพร้อมขายในไตรมาส 2 นั้นค่อนข้างน้อย แค่พันกว่าล้าน ที่หนักๆน่าจะเป็นคอนโด ซึ่งเป็นโครงการเก่าแล้ว ไม่รู้ว่าจะขายได้ซกเท่าไหร่ แต่เท่าที่ผมประมาณจากงบการเงินกำไร .27-.28 นั้นเป็นไปได้มากว่าจะทำได้ครับ เผลอๆอาจมีเซอร์ไพส์ในไตรมาศสุดท้ายครับ เพราะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ในไตรมาศนี้อีกตั้ง 7 โครงการ แถมได้ประโยชน์จากนโยบายดอกเบี้ยอีก
บางทีการลงทุนเราต้องหาหลักยึดถือไว้นะครับ จะได้ไม่ไขว้เขว ผมเข้าใจ และเคยเป็นแบบ จขกท ซื้อหุ้นแล้วมันตกๆๆๆๆๆ เครียดจะคัทก็กลัวเด้งบางทีไม่คัทมันก็ตกเอาๆ แบบนี้แหล่ะเซียนหลายๆคนเค้าเลยเปรยๆกันว่าให้ศึกษาการลงทุนให้ดีก่อนครับ ซื้อเพราะอะไรก็ให้ขายเพราะเหตุผลนั้นครับ
ว่าแต่ว่าไอ้เรามันก็หัวอกเดียวกันครับ ผมก็ติดดอบครับ เกือบทั้งพอร์ตผมลงปริญหมดครับ เจ๊งก็เสร็จไปเลย แฮ่ๆๆๆ
จากคุณ |
:
อุเหมะจัง
|
เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ย. 55 14:55:54
|
|
|
|
|