ความคิดเห็นที่ 1 ทราบ แต่ทำไม่ได้ค่ะ กลัว T^T ชอบซื้อตอนเขียวอ่อนไปขายเขียวกว่าหน่อย ขายหมูก็เอา ตอนแดงๆมันแสลงใจ กลัวมีถูกกว่าค่ะ ฮืออออ จากคุณ : เม่าขนานแท้ (=p o o k p u i=) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:13:11

ความคิดเห็นที่ 2 เดี๋ยวนี้เจ้ามือกลยุทธแยะมาก ก่อนงบออกลากๆๆๆๆ พองบออกมาดีเม่าวางบิดตรึมถึงเวลาขายโยนลูกเดียว   ถ้างบเน่าก็ลากๆๆๆๆ ใกล้งบออกราคาจะไม่ไปไหน แต่เผลอมีโยนโครมๆ จากคุณ : ต้นไม้พันปี เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:23:34

ความคิดเห็นที่ 3 เข้าใจแต่ทำไม่ได้จริงๆ จากคุณ : สิบเด้งตะล้อดๆ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:25:51

ความคิดเห็นที่ 4 เม่าทุกคนรวมทั้งผมต้องผ่านพบกันทุกคนครับ จังหวะนี้ผมมองว่ามันคือไซด์เวย์ หากเรามั่นใจในหุ้น เลือกจังหวะแล้ว ควรมองข้ามไปที่เป้าหมายระยะกลางเลยครับ ระหว่างทางอย่าไปมองปล่อยมันทำไป..... ปล.ที่ผ่านมาพอเอาเข้าจริงผมก็ทำไม่ได้เพราะหุ้นในตลาดมันแพงแทบทุกตัว ทุนของเราเลยสูง พอคนทุนต่ำเท ทำให้เราต้องหนีตายครับ ตอนนี้ผมได้ IPO มาตัวหนึ่ง กำไรแล้ว 50% ถึงแม้ราคาจะผันผวนขึ้นลงผมก็ไม่เสียดายเพราะกำไรเยอะทำให้เราใจนิ่ง ดังนั้น เม่าแบบเราต้องเริ่มต้นที่หาหุ้นสร้างกำไรให้เจอก่อนครับ เมื่อฐานแน่นใจจะนิ่ง จากนั้นเงินทองไม่ใช่หายากครับ ซึ่งการเล่นรายวันตอบโจทย์ตรงนี้ไม่ได้แน่นอนครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:33:48

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อความนี้โดนใจยิ่งนัก  ของ คุณทองเนื้อเก้า "คนส่วนใหญ่มองงบ มองพื้นฐานในระยะยาว เพื่อแทงหุ้นระยะสั้นกันแทบทั้งนั้นครับ อย่าแปลกใจครับที่คนส่วนใหญ่เจ๊งหุ้น 555"   จากคุณ : ทองเนื้อเก้า     ^ เรามองว่างบนี้สวยสามารถไปได้ไกล  ในปี 56 ได้เห็นแน่ๆ  แต่พอมาเล่นจริง ถือกันไม่ทันได้ดูความสำเร็จปี 56 กันสักคน  สรุปแล้วเราเสียเวลาดูงบอ่านงบไปทำไม ปรับใช้ โดยใช้เวลาอย่าใช้เงินเป็นที่ตั้ง  รับรองคุณชนะได้ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 11:39:44 จากคุณ : Black_money เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:33:58

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าได้หุ้น ipo แล้วกำไร 50% เป็นใครใจก็นิ่งได้แน่นอน จากคุณ : ต้นไม้พันปี เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:38:09

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่ครับ...ซึ่งผมก็มองว่าถึงแม้คนที่ไม่ได้ IPO ก็ไม่ถึงกับว่าจะไม่มีโอกาสที่ดีเลิศ แต่มีโอกาสเช่นกันครับ แต่ลองลงมาครับ หุ้น IPO วันนี้บวก 50% และมีอนาคต ถ้าให้เลือกเทียบกับหุ้นเก่าหน้าเดิมที่โตมาจาก IPO เดิม 500% ผมขอเสี่ยงเลือกแบบแรกมากกว่าครับ ปล.เป็นการแชร์กันนะครับ อย่ามองว่าผมมาดันหุ้นตัวไหน แต่อยากให้มองเป็นหลักการครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:42:43

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ความคิดเห็นที่ 6  ขอโทษนะครับ ผมไม่เชื่อครับ ยังมีอีกหลายคนที่ ทนเห็นกำไร  50% ไม่ได้ต้องขาย  และยิ่ง  50 มา 45  ทำใจยอมรับไม่ได้ ขายกันส่วนใหญ่ครับ  ดูเหมือนไม่โลภ แต่นั่นคือความโลภ  เหตุเพราะราคาจะลงไปมากกลัวจะเสียกำไรไปมากกว่าเดิม   ใช่ครับ เขาอาจะได้ในช่วงนี้ แต่พฤติกรรมการเล่นครั้งต่อๆไปจะติดตัวไปตลอด  เช่นลบ  10% ไม่ขาย  เดี๋ยวมันจะเด้ง ผ่านไป 20%  มันมากไป ไม่ขาย ก็ขาดทุนสิ ถือยาวเลยเป็นงัย งบดี ปีหน้าว่ากันใหม่ ลงมาอีก 30%  เอาอย่างไรดีนี้  ขายดีไหม  เห็นหุ้นตัวอื่นๆที่เราเล็งไว้มันขึ้นตลอด  กลัวตกรถ ตัดสินใจขาย  ไปซื้อหุ้นตัวที่เล็ง เอา สิ มันนิ่งเลย มันจะเอาอย่างไรจะไปต่อไหม  ขอแค่ 10 % พอแล้ว ได้สัก 3-4 ครั้ง เดี๋ยวก็คืนทุนจากที่เสียตัวทีแล้ว  อ้าว  มันลงมาแล้ว 4% เอาแล้วงัยคงเหมือนกับตัวแรกแน่เลย ชิงขายก่อนดีกว่า  เอาเวรล่ะ กำจริง ไม่กี่วันมันขึ้นไปอีกแล้ว ไม่ซื้ออีกแล้วโว้ย  เห้อ... มันไปซิลลิ่งเลย ทำไมไม่ซื้อเนอะ  เอาแวะมันน่ามี 2 ซิลลิ่ง สรุป แล้วก็วกกลับมาที่คำว่า  แพ้   จุดแก้ไขของผม  คือ  มีแนวรับ  แบบเราพอมีกำไร (ป้องกันการขายหมู) หรือ ขาดทุนที่ยอมรับได้ (เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมเองทั้งนั้น ไม่ได้พลาดพิงใคร หรือบุคคลใด) แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 12:02:53 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 11:56:58 จากคุณ : Black_money เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:56:04

ความคิดเห็นที่ 9 SC และ Spali เทียบกับกำไร 9 เดือนปีที่แล้ว ลดลงครึ่งต่อครึ่ง ในขณะที่ราคาหุ้นช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว ต่ำกว่าตอนนี้ ครึ่งต่อครึ่ง หุ้นยอดนิยม กำไรเฉลี่ยในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา เพิ่มเพียงปีละ 20%   แต่ราคาถูกไล่ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว + 1000% ยังมีการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเพื่อเพิ่มยอดขาย  แต่ไม่มีเงินจะซื้อจริง   ต้องใช้วิธีเพิ่มทุน (มหาศาล) หรือกู้สถาบันการเงิน ต้องเอาสินทรัพย์ ทั้งของเดิมและของที่ซื้อใหม่ จำนองเป็นประกันเงินกู้   แล้วยังลง บช มูลค่าสินทรัพย์  BV ไว้เต็มเหนี่ยว   ทำให้ไล่ราคาหุ้นขึ้นไปอย่างต่ำๆ 500%   โดยหวังแค่กำไรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตในระดับ +20% แต่ลืมคิดไปว่า ในอนาคต ต้องกำไรเพิ่มอย่างน้อยที่สุด 30% ต่อปี เพื่อว่าหลังจากจ่ายดอกเบี้ยและทยอยคืนเงินต้นแล้ว ยังเหลือกำไรสุทธิ 10-15% จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:04:40

ความคิดเห็นที่ 10 อืมส์....เรื่องพฤติกรรมนี่ก็ส่วนหนึ่งนะครับ มันจะติดตัวไปตลอด บางคนบอกว่าน่าจะล็อคกำไรไว้ก่อน (มาร์ผมเอง) แล้วกลับไปซื้อใหม่....ซึ่งวงจรนี้ผมมองว่า หาเช้ากินค่ำครับ ซึ่งต้องมีบางวันที่อด ผมอยากลงทุนประเภทแบบมองพอร์ทแล้วยิ้ม หลับสบาย มีความสุข ไม่ต้องมาหวาดผวาบ้าบอ ซื้อๆขายๆ เฝ่าหน้าจอแบบนี้ไปตลอดชีวิตครับ 5555  ซึ่งท้ายที่สุดเมื่อพอร์ทใหญ่ จนถึงขนาดเงินปันผลครอบคลุมค่าใช้จ่าย ตรงนั้นหล่ะครับ ปริญาบัตรการลงทุนสำหรับผม ปล.ตอนนี้ยังอนุบาลอยู่ครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:05:36

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับคุณ  Black_money ผมได้ IPO เกือบทุกตัวหลายๆตัวกำไรแต่ละตัว 100 % up ส่วนใหญ่ผมจะขายที่ ATO ครึ่งนึงที่เหลือเอาไว้ลุ้น  แต่ตัวไหนเปิดมาแล้วกำไรหายไป 10-20 % อย่าง TMC  ผมขายทิ้งอย่างเดียวเลย เพราะวันแรกที่เทรดอะไรก็เกิดขึ้นได้ จากคุณ : okus เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:08:54

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเล่นหุ้นอย่างเดียวไม่ได้อ่ะ. ต้องนี้มีงานเสริมกำไรดีมาก.  คือ ส่งรหัสใต้ฝาอิชิตัน ไปทุกวันเลย. เขาแจกให้ตั้ง 60 ล้าน.  ผมลองนั่งคิด ถ้าเราได้สัก. 10.  วันติดต่อกัน. เราก็จะได้เงินตั้ง 10 ล้าน อืมๆ. มันคุ้มมากเลยนะ.  อิอิ จากคุณ : Black_money เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:30:59

ความคิดเห็นที่ 13 งานนี้มั๊ยกำไรดีนะ นั่งไหว้เห็ด 55555 จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:34:52

ความคิดเห็นที่ 14 5555555555+.  ลงทุนยี่สิบห้าบาท ค่าธูปกับเทียนและพวงมาลัย จากคุณ : Black_money เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:40:05