ความคิดเห็นที่ 1 MACD ไม่ใช่โปรแกรมครับมันเป็น อินดิเคเตอร์ ชนิดนึง ผมไม่แน่ใจในส่วนที่พูดถึงการติด เพราะในตัว macd ที่แต่ละคนใช้ไม่เหมือนกัน โดยปกติที่ผมใช้มีเส้นหลักๆอยู่ 3 เส้น เป็นเส้นค่าเฉลี่ย 2 เส้น และเส้น 0 โดยอุปมาว่า ถ้าตัวเส้นค่าเฉลี่ยวิ่งอยู่เหนือเส้น 0 คือ อยู่ในช่วงขาขึ้น หรืออยู่ในรอบขาขึ้น และในทางกลับกันหากอยู่ต่ำกว่าเส้น 0 คืออยู่ในช่วงขาลง หรือภาวะขาลง ส่วนเรื่องการตัดนั้น มันพูดเป็น 2 ส่วนได้เช่นกันคือ การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย หรือ การตัดของเส้นค่าเฉลี่ยผ่านเส้น 0 แนะนำว่า คุณควรหาหนังสืออ่านอีกให้มากๆและทำความเข้าใจดูนะครับ จากคุณ : EXGolf เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 19:12:27

ความคิดเห็นที่ 2 MACD = indicator ตัวนึงค่ะ จากที่คุณ doc d บอกน่าจะหมายถึงอย่างนี้หรือป่าวคะ (ตามภาพ) จากคุณ : แมวกลมจัง เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 19:17:47

ความคิดเห็นที่ 3 ครับ ถ้าจุดปลายสุดของแกนx นี่คือเวลาปัจจุบันเปล่าครับ แล้วเราจะรู้ได้ไงครับว่ามันจะตัดกันยังไง ที่เห็นวงๆใว้นี่มันเป็นอดีตใช่เปล่าครับ จากคุณ : doc d เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 19:45:03

ความคิดเห็นที่ 4 สมมุติว่า เช้าวันจันทร์ , อังคาร, พุธ, พฤหัส กินบะหมี่ คุณคิดว่าเช้าวันศุกร์เค้าจะกินอะไรคะ? จากคุณ : la esperanza เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:17:58

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าหมายถึ่งว่าถ้ามันตัดกันก่อน แล้วค่อยทำตามครับ ถ้ามันยังไม่ตัดกัน ก็รอจนกว่ามันจะตัดกันครับ จากคุณ : คุราคุง เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:20:26

ความคิดเห็นที่ 6 คนเราบางคนมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต่างกัน  แต่ก็มีพื้นฐานในการทำอะไรในแบบตัวเองที่คล้ายกันตลอดเวลา ทุกครั้งที่เราไปพักร้อนไปไกล ๆ เราชอบไปพักวันธรรมดา แล้วก็กลับมาบ้าน Weekend เพื่อชาร์ตพลัง เพื่อการทำงานใน week ถัดไป  ; p เล่าได้เป็นเรื่องราวอีกเยอะเลยค่ะ จากคุณ : la esperanza เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:23:04

ความคิดเห็นที่ 7 คำถามของ จขกท คงน่าจะสงสัยว่า ตามปกติแล้ว MACD นั้นวิเคราะห์โดยอาศัยการตัดกันของเส้น MACD กับแกนศูนย์ หรือ การตัดกันของ MACD Line กับ MACD Signal แต่ถ้าปัจจุบัน ยังไม่มีการตัดเส้นใดเส้นหนึ่งทั้งสองลักษณะ แล้วผู้วิเคราะห์จะตีความอย่างไร MACD เป็นอินดิเคเตอร์สารพัดประโยชน์ชนิดหนึ่งที่เป็นทั้ง Lagging and Leading Indicator Lagging บอกสถานะการณ์ที่ผ่านมาแล้ว จนถึงการเปลี่ยนแปลงของสถานะปัจจุบัน Leading บอกสถานะการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จากคุณ : musar เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:26:47

ความคิดเห็นที่ 8 คุณใช้ประโยชน์เมื่อมันตัดกัน.. มันตัดกันวันไหน..  เวลาไหน.. คุณก็เทคแอคชั่นตอนนั้นแหละ..  ซึ่งไม่มีใครรุ้หรอกว่ามันจะตัดกัน วันไหน.. เวลาไหน.. ก็รอกันไป นักเทคนิคต้องรู้จักการรอคอย ต้องมีความอดทน.. ระหว่างที่รอก็ นั่งเล่นเกมส์ไป ฟังเพลงไป ดูหนังไป จิบกาแฟไป ไลน์กับหญิงไป ฯลฯ อดทนรอไปเรื่อยๆ.. เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ อย่าทำก่อนมัน อย่าไปคาดเดามันก่อน ทำหลังมันได้.. แต่ช้ามากก็ไม่ทันคนอื่นเขา จากคุณ : nai_aoum เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:30:44

ความคิดเห็นที่ 9 อดีตมีไว้ศึกษา  มีไว้เป็นตัวอย่างครับ  เรียนรู้จากอดีต จขกท.ถามว่า รู้ได้อย่างไรว่ามันตัดกัน....ราคาขึ้น มันก็ขึ้นตัดกันให้เห็นครับ ถ้าราคาลง มันก็ลงตัดกันให้เห็นครับ  ตัวนี้ผมไม่ใช้ครับ  ให้สัญญาณช้าไปหลายวัน แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 20:39:42 จากคุณ : รูปหล่อหมาไม่กัด เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:31:38

ความคิดเห็นที่ 10 Lagging การตัดกันของเส้นต่างๆสามารถบอกการเปลี่ยนทิศทางของราคาโดยที่ 1. MACD กับแกนศูนย์ บอกการเปลี่ยนทิศทางระยะยาว (Trend) 2. MACD Line กับ MACD Signal บอกการเปลี่ยนทิศทางระยะสั้น (Ripple or Wave) จากคุณ : musar เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:36:58

ความคิดเห็นที่ 11 MACD ดูประกอบเท่านั้น คุณจะใช้ตัวเดียวไม่ได้ เพราะ MACD ช้า กว่าสัญญาณจะมา หุ้นก็ขึ้น ไปหลายช่องแล้ว จากคุณ : Shinosuke08 เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:46:54

ความคิดเห็นที่ 12 ลองศึกษาจากที่ผมเขียนไว้ก่อนครับ   หากยังไม่เข้าใจค่อยสอบถามมาใหม่นะครับ   http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I12849986/I12849986.html จากคุณ : kitty63 เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:26:43

ความคิดเห็นที่ 13 ผมจะบอกว่า การศึกษาทางเทคนิค. คือ การกระทำในอดีต ก็คือผลที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งมันจะสะท้อนอนาคต.  ไม่ใช่ว่าเราศึกษาประวัติศาสตร์. แล้วจะล่วงรู้อนาคตเลยหาใช่ไม่.   รู้ประวัติศาสตร์ แล้วมาศึกษาผลลัพธ์ ในปัจจุบัน ถ้าดีแล้วก็ทำให้ดียิ่งขึ้น หรือทำตามในอดีตที่ผ่านมา  ถ้ายังไม่ดีก็ปรับปรุงแก้ไขให้ดี  โดยคาดว่าเมื่อเราปรับปรุงแก้ไข. แล้วในอนาคตน่าจะดียิ่งขึ้น.   นี้และทางเทคนิค.   ความเห็นส่วนตัว แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 09:37:56 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 09:37:02 จากคุณ : Black_money เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 09:30:12