ความคิดเห็นที่ 1 21% รุ้สึกว่าจะเป็นปันผลพิเศษนะ แต่ปกติปันผลเท่าไหร่ไม่แนใจ *** ตามที่คุณเข้าใจถูแล้วครับ แต่จะมีการเสียภาษีเงินปันผลอีก 10% ของปันผลที่ได้ม่ แต่ๆๆ สามารถขอคืนภาษีได้ ลองศึกษาดูดีๆๆ รอท่านอื่นมาเสริมครับ จากคุณ : ตาก้อง หนองออ เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 01:17:38

ความคิดเห็นที่ 2 1.ซื้อหุ้นจะเอาปันผล ต้องซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD , ซื้อหลัง XD ไม่ได้รับปันผลนะครับ 2.% นั้นคือปันผลที่ได้รับเทียบกับราคาหุ้น ณ ปัจจุบันนั้น(ของช่วงปีนั้น) 3.หุ้นบางตัว บางช่วงเวลาอาจจะมีกำไรพิเศษ หรือกรณีพิเศษอะไรก็จะปันผลออกมามากกว่าปกติ โดยไม่ใช่ปันผลที่มาจากการดำเนินการปกติ ทำให้ระดับ % มันคลาดเคลื่อนกับปีก่อนๆ 4.จากข้อ 3 อาจจะเรียกว่า กับดักปันผล อย่างหนึ่งก็ได้ ในกรณีที่ นลท.ดูไม่ดีเข้าใจว่าจะปันได้เท่าปีที่แล้วตลอด และหุ้นโดนดันราคาไปสูงแล้ว (ลองไปหาข้อมูลคต่อดูนะครับ) แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 55 01:48:57 จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 01:48:18

ความคิดเห็นที่ 3 คิดจากราคาหุ้นณ วันนั้น คือ 83.25 บาท....และในปีที่แล้วมีการปันผล 2 ครั้ง คือ 1.38และ 16.46 บาท รวมเป็น 17.84....จากนั้นเราก็มาคิด Dividend Yield จะได้ 17.84/83.25*100 เท่ากับ 21.429 หรือ 21.43% นั่นเองครับ จากคุณ : ลุงขวด (ลุงขวด) เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 06:29:23

ความคิดเห็นที่ 4 ทั้งเข้าใจถูก และเข้าใจผิดครับ เรื่องแรก เข้าใจถูกต้องแล้ว เงินปันผล หากได้รับเข้าบัญชีแล้ว สามารถนำไปใช้จ่ายได้ จะเอาไปใช้อะไรก็ได้ รวมถึง เอาไปซื้อหุ้นใหม่ได้ด้วย โดยจำนวนหุ้นในพอร์ตที่เราถืออยู่ ยังคงมีเท่าเดิม ไม่ได้ถูกตัดทอนลงแต่อย่างใด แต่เงินปันผล จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายทันที 10% ดังนั้น อาจจะไม่ได้รับเต็มจำนวน ตามการคำนวณตรงๆ ที่คำนวณได้ โดยเงินปันผลนี้ สามารถขอเครดิตภาษีคืนได้ แต่ถ้าขอคืน จะต้องนำเงินปันผลที่ได้รับ ไปรวมกับรายได้ประจำปี เพื่อคำนวณฐานภาษีด้วย หากฐานภาษีสูง ก็ปล่อยให้หัก ณ ที่จ่ายไป ถือเป็นอันจบ จะคุ้มค่ากว่าครับ ส่วนอีกเรื่อง เข้าใจผิดอย่างมากครับ การคำนวณ % อัตราผลตอบแทนเงินปันผล เขาจะคำนวณจากเงินปันผลที่ได้รับ เมื่อเทียบกับราคาหุ้น ณ วันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD ไม่ใช่ราคาหุ้นประจำปี หรือเป็นช่วงแต่อย่างใด ดังนั้น % นี้จึงไม่แน่นอน แม้จะปันผลเป็นจำนวนเงินเท่าเดิม แต่ % จะเปลี่ยนไปแทบทุกครั้ง เพราะราคาหุ้น ณ วันขึ้น XD เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ กรณีปันผลหลายๆ ครั้งต่อปี ก็คิดคำนวณไปตาม step แล้วก็กลายเป็นตัวเลขต่อปีไปครับ เงินปันผล ส่วนใหญ่แล้ว เกิดจากบริษัททำกิจการแล้วมีกำไร และมีกระแสเงินสดเหลือ และยังไม่มีโครงการจะเอาไปทำอะไร จึงปันผลออกมา ตามแต่นโยบายของแต่ละบริษัทจะมีนโยบายว่า ปันผล ไม่ต่ำกว่าร้อยละ x ของกำไรที่ได้รับ เป็นต้น นั่นคือ ข้อแตกต่างระหว่าง เงินปันผล กับ ดอกเบี้ยครับ เงินปันผล ไม่ได้มีกำหนดไว้ตายตัวว่า ลงทุนไปแล้ว จะได้ปันผลกี่ % หากบริษัทใดๆ ดำเนินกิจการแล้วกำไรน้อยมาก และเข้าขั้นขาดทุน จะไม่มีทางปันผลออกมาครับ หรือปันผลออกมาในจำนวนเงินน้อยลง แต่ราคาหุ้น มักจะสะท้อนผลประกอบการไปล่วงหน้าก่อนงบการเงินประจำไตรมาส หรือประจำปี จะออกอย่างเป็นทางการ หรือสะท้อนลงไปก่อนจะมีการประกาศจ่ายปันผลแล้ว เวลาคำนวณ กรณีเงินปันผลเป็นจำนวนเงินน้อยลง แต่อาจจะทำให้ % เงินปันผลดูไม่น้อยลง หรือดูเยอะขึ้นก็ได้ ระวังกับดักเรื่องนี้ด้วย ระวังไว้ด้วยว่า การที่หุ้นขึ้น หรือลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น timeframe นานๆ รายไตรมาส หรือรายปี มันมักจะมีสาเหตุ และส่วนใหญ่สะท้อนผลประกอบการครับ ไม่ใช่เกิดจากแรงซื้อๆ ขายๆ แบบบ้าๆ บอๆ  ไร้ทิศทาง กรณีบริษัทกำไรเยอะก็จริง แต่มีเรื่องต้องใช้เงินเป็นอย่างมาก เช่นอย่าง dtac อาจจะต้องเอาเงินไปประมูล 3G ไปติดตั้งโครงข่ายใหม่ทั้งหมด ไปทำการตลาด ให้คนย้ายเครือข่าย 3G ฯลฯ ทางผู้บริหาร ก็อาจจะตัดสินใจ ไม่มีการปันผลออกมาก็เป็นได้ ระลึกไว้เสมอว่า การปันผล ไม่ใช่ดอกเบี้ย มันไม่แน่นอนเสมอไป ดังนั้น ข้อมูลในอดีต อาจไม่ได้การันตีว่าในอนาคต จะปันผล เท่านั้น เท่านี้เสมอไป สุดท้าย อยากพูดถึงเพิ่มเติมเกี่ยวกับปันผลพิเศษ ที่ไม่ได้เป็นจำนวนเงินตามปกติ หรือรอบการปันผลตามปกติอาจจะเกิดการการไปควบรวมกิจการมา หรืออาจจะได้รับเงินประกัน หรือ อาจจะได้ผลประโยชน์ทางภาษีเป็นกรณีพิเศษ หรือสุดท้าย อย่างในกรณีของ dtac คือ มีกำไร แต่ไม่ได้เอากำไรจ่าย แต่ไปกู้เงินเอามาจ่ายในอัตราที่สูงงงงง ดูเผินๆ เหมือนผู้ถือหุ้นพอใจ เพราะได้เงินมาก รวมถึงเจ้าของ ซึ่งเป็นฝรั่ง ก็ขนเงินกลับบ้านด้วย แต่ในระยะยาว ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ผู้ถือหุ้น รวมทั้งรายย่อย ต้องรับภาระทุกคน ผ่านทางงบการเงินครับ ซึ่งในตอนนั้น ขาใหญ่ๆ อย่างฝรั่งที่เป็นเจ้าของกิจการโดยทางอ้อม อาจจะถอนตัว ถอนหุ้นออกหมด ขนเงินกลับบ้าน หรือขายทอดกิจการให้คนอื่นไปเรียบร้อยแล้วก็ได้ ส่วนรายย่อยไม่มีทางออก ต้องแบกรับภาระนั้นต่อไป ต้องดูให้ดีว่า ที่เงินปันผลสูงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูงผิดปกติ เขาปันผลจากสาเหตุอะไร และโดยปกติ เขาปันผลเท่าไร อย่าง dtac ปันผลปกตินี่ก็แค่เลขหลักเดียวครับ และย้ำอีกครั้ง ข้อมูลการปันผลในอดีต อาจไม่ได้การันตีว่าในอนาคต จะปันผล เท่านั้น เท่านี้เสมอไปครับ การลงทุนควรพิจารณาให้รอบด้านอย่างรอบคอบ จากคุณ : mrtech เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 08:21:05

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาอ่าน ได้ความรู้สุด ๆ ขอบคุณคุณ mrtech ด้วยคนครับ จากคุณ : เซย่าแมน เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 09:27:44

ความคิดเห็นที่ 6 ถาม  : อะไรเอย  ยิ่งให้ ยิ่งได้รับเพิ่ม   ตอบ  :  1.ความรัก   2.ความรู้ ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ จากคุณ : ruddy01 เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 17:11:43

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ จขกท. และคุณ mrtech สำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ จากคุณ : Thanvarath เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 15:28:41