 |
ETF ทองคำ ง่ายที่สุดแล้วครับ
1. ค่าธรรมเนียมถูก สมมติว่าซื้อทอง 1 ล้านบาท จะต้องเสียค่าธรรมเนียมราวๆ 1,688 บาท
หากเราไปซื้อทอง ถือเงินสดไปเยอะๆ อาจเสี่ยงภัยต่อการโจรกรรมได้ รวมถึงว่าหากเช่าตู้เซฟธนาคาร
อย่างน้อยก็ต้องปีละ 1,000 บาทหลังรวมค่านู่นนี่นั่นแล้ว ยังไม่รวมค่ารถค่าเสียเวลาอีกมากมาย
ค่าธรรมเนียมคิดตามอัตราของคอมมิชชั่นบริษัทหลักทรัพย์ที่ 0.1578% + 7% Vat ค่าคอม
2. ไม่ต้องกลัวเรื่องทองปลอม เพราะ ETF ทองคือหน่วยลงทุนที่อ้างอิงจากทองคำจริงๆ
เพราะกองทุนจะสั่งทองคำมาจากบริษัทหรือร้านทองที่เชื่อถือได้ (ส่วนใหญ่ในกลุ่ม Big 6)
และร้านทองก็ต้องนำทองคำมาให้สุ่มตรวจด้วย ดังนั้นค่อนข้างมั่นใจได้ว่ากองทุนซื้อมาล็อตใหญ่
เป็นทองคำจริงๆ แท้ๆแน่นอน และเขาก็เอาไปเก็บไว้ในตู้เซฟอย่างปลอดภัยและแน่หนา
3. ซื้อง่ายขายคล่อง เพราะมันเก็บโดยระบบเหมือนหุ้น ก็คือมีการบันทึกการซื้อขาย
สมมติว่าหน่วยลงทุนหาย มันก็ตรวจสอบได้ แต่ไม่เคยเห็นกรณีนี้เกิดขึ้น และถึงเกิดขึ้นก็ตามจับไม่ยาก
4. ราคาขึ้นลงเหมือนเราถือทองคำจริงๆเอาไว้ เพียงแต่มันขึ้นลงเป็นระบบอิเลคทรอนิกส์
เช่นว่าราคาทองปรับตัวขึ้น ราคาหน่วยลงทุน ETF ก็มากขึ้น หรือราคาลดลง ราคาหน่วยก็ลดลงตามราคาตลาด
โดยมากมักไม่ผันผวนด้วยตัวของมันเอง ยกเว้นว่าราคาทองคำสวิงแรง อันนี้ก็อาจส่งผลให้ ETF สวิงได้แรง
5. ค่าธรรมเนียมเรียกเก็บทั้งขาซื้อและขาย ดังนั้นการซื้อขายก็ต้องคำนวณต้นทุนค่าคอมมิชชั่นให้ดีๆ
ค่าธรรมเนียมเรียกเก็บเท่าหุ้น แต่ถ้าซื้อเยอะๆเช่นตั้งแต่หลายๆล้านบาทขึ้นไป สามารถต่อรองค่าธรรมเนียมได้
6. ETF มีให้เลือกหลายชนิด หลายแบบหลายราคา ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.settrade.com/C13_ETF.jsp
ตัวที่เป็นทองคำได้แก่ GLD, GOLD99, KG965, TGOLDETF (อาจมีเพิ่มเติมในอนาคต) แต่ละตัวเป็นยังไงอ้างอิงยังไง
ลงทุนแบบไหน ถือผลประโยชน์อะไรใครยังไง ไปศึกษาเอาเองครับ
| จากคุณ |
:
venezier 
|
| เขียนเมื่อ |
:
1 ธ.ค. 55 22:39:11
|
|
|
|
|
อยากซื้อทองคำมาสะสมแต่ไม่อยากเก็บไว้ที่บ้าน
