หรือทุ่งคาจะซ้ำรอย โพไซดอนของออสเตรเลีย ?

    1.  วันจันทร์ที่ ๒๙ กันยายน 1969

        ก่อนเวลาเปิดตลาดหลักทรัพย์ที่เมืองอเดเล็ด  
    ศูนย์กลางอุตสาหกรรมของออสเตรเลีย
    ผู้จัดการฝ่ายควบคุมการซื้อขาย  ได้อ่านข่าวตลาดฯมีใจความว่า
    “คณะกรรมการบริษัทโพไซดอน จำกัดแจ้งว่า  
    ได้ค้นพบแร่นิเกิลและทองแดงในหลุมขุดที่สอง
    ที่เมืองวินดาร์ร่าในรัฐออสเตรเลียตะวันตก  
    ผลการตรวจสอบปริมาณเนื้อแร่จะแจ้งให้ทราบโดยเร็วที่สุด"
    ข้อความสั้นๆที่รายงานผลการเจาะสำรวจแร่
    ของบริษัทเหมืองแร่ที่แทบไม่มีใครรู้จักนี้  
    ทำให้ออสเตรเลียปั่นป่วนที่สุด
    และจบลงอย่างเศร้าที่สุดในประวัติศาสตร์การเงินของประเทศ

    2.  โรคตื่นหุ้นเริ่มก่อตัว

    ก่อนประกาศที่จุดชนวนระเบิดโรคตื่นหุ้น
    ของบริษัทโพไซดอนในครั้งนี้  
    พวกนักเล่นหุ้นต่างก็เคยทำกำไรจากการค้นพบแร่นิเกิล
    ของบริษัทเวสเทิร์นไมน์นิ่ง คอร์เปอเรชั่น  
    โดยหุ้นของบริษัทขึ้นจาก 2.30 เหรียญไปถึง 30 เหรียญ  
    พวกนักเล่นหุ้นจึงรู้ค่าของหุ้นบริษัทเหมืองแร่นิเกิลเป็นอย่างดี  
    และตั้งตาคอยโอกาสทำเงินครั้งใหญ่ที่จะมีมาอีก  
    ในช่วงเวลานั้นแคนาดาผลิตนิเกิลได้น้อยลง
    ทำให้ราคานิเกิลซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญ
    ในการผลิตเหล็กปลอดสนิม เพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราด    
    นักเล่นหุ้นต่างพากันดีดลูกคิดรางแก้ว
    ฝันสีทองถึงผลกำไรมหาศาลของของเหมืองแร่นิเกิล
    และหาเรื่องเชื่อมโยงไปถึงราคาหุ้นเหมืองแร่
    จนกลายเป็นโรคตื่นหุ้นแห่งปี  1969 – 1971 ในที่สุด

    บ่ายวันคารที่ 30 กันยายน  
    วันรุ่งขึ้นหลังคำประกาศของบริษัทโพไซดอน  
    หุ้นของบริษัทซึ่งเคยซื้อขายกันที่ราคาพาร์ ๑ เหรียญ
    เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว  เริ่มพุ่งขึ้นเป็นหุ้นละ๖.๓๐  เหรียญ
    และได้พุ่งขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 280 เหรียญ  
    นักเล่นหุ้นที่จับหุ้นโพไซดอนไม่ทัน  
    พากันเฮโลแย่งซื้อหุ้นเหมืองแร่ตัวอื่นๆที่ราคายังถูก
    โดยหวังว่าราคาจะพุ่งขึ้นตามโพไซดอน  
    ภายในวันเดียว ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นซิดนีย์
    สูงเป็นสองเท่าของตลาดหุ้นนิวยอร์ค
    นับจากนั้นมา  ตลาดหุ้นได้กลายเป็นเรื่องพูดคุยประจำวัน
    ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวออสเตรเลีย  
    และเมื่อถึงช่วงเวลาตลาดหุ้นบูมสุดขีด  
    ชาวออสเตรเลียกว่าสี่แสนคนได้โดดเข้าร่วมวงกันอย่างเมามัน  
    เป็นการเสี่ยงโชคอย่างหน้ามืดตามัว ไม่มีครั้งใดเทียบได้
    นับตั้งแต่ยุคตื่นทองในศตวรรษที่ 19
             
    หลังประกาศของโพไซดอนไม่กี่วัน  
    บริษัทเหมืองแร่อีกสามบริษัทได้ผสมโรง
    ประกาศพบแหล่งแร่บ้าง ในทุกตลาดหุ้นของออสเตรเลีย
    หุ้นเหมืองแร่เกิดอาการที่พวกโบรคเกอร์เรียกว่า
    “ขื้นทั้งกระดาน”  
    ชาวบ้านทั่วไปเริ่มสนใจอ่านข่าวเกี่ยวกับหุ้น  
    ศึกษาเรื่องเงินๆทองๆจากหน้าหนังสือพิมพ์
    และเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น    
    เมื่อถึงปลายสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม 1969  
    ตลาดหุ้นเริ่มดูดเอาเงินที่หลั่งไหลมาจากนักเล่นหุ้นที่อ่อนหัด  
    พวกโบรคเกอร์เริ่มได้รับโทรศัพท์จากนักเล่นหุ้นหน้าใหม่  
    มีอยู่รายซึ่งคงจะเพิ่งฟังราคาปิดของหุ้นจากวิทยุ
    เป็นครั้งแรกในชีวิต  ได้โทรสั่งเทรดเดอร์ว่า
    "ซื้อไอ้ที่ชื่อคล้ายๆอย่างนั้นให้ผมด้วย”    
    มือใหม่ชาวเมลเบิร์นอีกคนแอบได้ยินมาว่า
    “เอกซ์ฟอร์ดเมดเดิ้ลมีทีเด็ด”  
    ได้สั่งเทรดเดอร์ซื้อหุ้นเอกซ์ฟอร์ดเมดเดิ้ล
    ให้โดยด่วนที่สุด 10000 หุ้น  
    มาร์เก็ตติ้งควานหาหุ้นตัวนี้จนตาลายก็หาไม่เจอ  
    ความจริงที่เปิดเผยในภายหลังคือ

    “เอกซ์ฟอร์ดเมดเดิ้ลเป็นชื่อม้าแข่ง !!"

    เมื่อข่าวจากซิดนีย์รายงานผลการแยกเนื้อแร่นิเกิล
    ของโพไซดอนว่ามีถึง  9.38% จากที่คาดว่ามีเพียง 0.38 %  
    ตลาดหุ้นลอนดอนก็ได้เข้าผสมโรง ร่วมด้วยช่วยปั่น      
    ในซิดนีย์หุ้นโพไซดอนพุ่งขึ้น
    เพียงแค่ข่าวลือในงานเลี้ยงน้ำชาว่า
    “เมียกรรมการผู้จัดการกำลังใช้เงินส่วนตัวเก็บหุ้น”
    นักปั่นหุ้นโดยอาศัยข่าวลือเกิดขึ้นอย่างมากมาย  
    บาร์ในโรงแรมพาเลซเมืองคาลกัวลี่
    ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของออสเตรเลีย
    ได้กลายเป็นศูนย์รวมข่าวที่ทำให้หุ้นพุ่ง  
    นักปั่นหุ้นที่ถือหุ้นเก็งกำไรไว้มาก จะแกล้งเมาแล้วพูดเพ้อเจ้อ
    โดยเจตนาเพื่อให้ราคาหุ้นที่ถืออยู่พุ่งขึ้น  
    ก่อนช่วงตลาดหุ้นจะบูมสุดขีด  
    ตำนานเศรษฐีหุ้นชั่วข้ามคืนมีให้ฟังจนชินหู  
    เกือบทั้งหมดจะเป็นเศรษฐีใหม่จากหุ้นโพไซดอน  
    จอห์น ยัง หนุ่มวัย 29 ซึ่งนั่งกินเหล้าในโรงแรมพาเลซ
    ขณะที่เจ้ากรมข่าวลือกำลังกระพือข่าว  
    ได้ซื้อใบหุ้นโพไซดอนปึกใหญ่จากคนแปลกหน้า
    จำนวน 5000 หุ้นในราคาหุ้นละ 95 เซนต์  
    ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา
    หุ้นที่เขาถืออยู่ขึ้นไปถึงหุ้นละ 80 กว่าเหรียญ  
    สำหรับตัวผู้อำนวยการบริษัทโพไซดอน
    พวกโบรคเกอร์ตั้งฉายาให้ว่า”นาทีละล้าน”  
    หมายถึงมูลค่าหุ้น
    ที่ครอบครัวผู้อำนวยการบริษัทถืออยู่เพิ่มขึ้นต่อนาที  

    พวกนักปั่นหุ้นได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมจากความจริงที่ว่า
    ตลาดหุ้นลอนดอนจะเปิดทำการ
    เมื่อตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดแล้ว
    ดังนั้นหลังจากนำหุ้นใหม่
    เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นออสเตรเลีย  
    พวกมืออาชีพจะบินไปลอนดอนพร้อมใบหุ้นปึกใหญ่
    แล้วเอาไปเร่ขายให้นักเล่นหุ้นชาวอังกฤษ
    ทำให้เก็งกำไรกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง  
    เล่ห์เหลี่ยมในการปั่นหุ้นอันหนึ่งที่จับผิดได้ยากคือ
    กลุ่มนักปั่นหุ้นในออสเตรเลียจะรวมหัวกันทุ่มซื้อ
    หุ้นบริษัทเหมืองแร่ที่เน่าในช่วงบ่ายวันจันทร์  
    เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นจะเริ่มพุ่งขึ้น  
    พอตลาดหุ้นลอนดอนเปิดทำการให้เช้าวันจันทร์
    ซึ่งตรงกับเย็นวันจันทร์ของออสเตรเลีย  
    นักปั่นหุ้นชาวอังกฤษซึ่งจับมือร่วมด้วยช่วยปั่น
    จะทุ่มซื้อต่อจนราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นไปอีก    
    เมื่อตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดทำการในเช้าวันอังคาร  
    นักเล่นหุ้นที่อ่อนหัดจะหลงไหลได้ปลื้ม
    ที่ลอนดอนสนใจหุ้นบริษัทในออสเตรเลีย
    และเฮโลกันเข้าไปซื้อหุ้นตัวนั้นบ้าง
    เพราะนึกว่าเจอหุ้นทีเด็ด  
    แน่นอนว่าพวกนักปั่นหุ้นวงในจะเทขายฟาดกำไรก้อนโต
    จากหุ้นที่ถือไว้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง

    3.  ความโลภไม่เคยปราณีใคร

    ความจริงชาวออสเตรเลียผู้ไร้เดียงสา
    ไม่ได้สนใจจะเล่นหุ้นเลย  
    แต่เมื่อสื่อพากันสัมภาษณ์บรรดา”เศรษฐีใหม่จากหุ้น” ทุกวันๆ  
    นักเล่นหุ้นหน้าใหม่ที่หวังรวยลัดจึงมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    จนโบรคเกอร์หลายแห่งต้องหยุดรับลูกค้า
    โดยไม่รับคำสั่งซื้อขายที่มีมูลต่ำกว่า 500 เหรียญทางโทรศัพท์
    แต่คำสั่งซื้อขายก็ยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด  
    พวกเทรดเดอร์จึงเลือกบริการเฉพาะลูกค้าเก่า
    และเมื่อสายโทรศัพท์ถูกเรียกเข้าจนเต็ม
    เทรดเดอร์ของโบรกเกอร์บางแห่งก็ไม่รับโทรศัพท์เอาดื้อๆ

    เมื่อถึงต้นเดือนมกราคม 1970  
    พวกเจ้าของบริษัทเซียนปั่นหุ้นได้ออกหุ้นบริษัทใหม่
    ซึ่งอาจจะมีค่าเพียงเศษกระดาษกันอย่างคึกคัก  
    เพื่อยั่วน้ำลายนักเล่นหุ้นที่มีฝันสีทองในหัวใจ  
    บริษัทเหมืองแร่รายใหม่ 23 ราย
    ได้นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาด
    และอีกกว่าร้อยบริษัทก็เริ่มเดินเรื่องเข้าตลาด  
    ถึงตอนนี้ปริมาณและราคาของหุ้นเริ่มพองโตขึ้นจนน่าตกใจ
    จากปี 1969 – 1971  กว่าร้อยบริษัทเหมืองแร่สารพัดชนิด
    ที่ชาวออสเตรเลียจะเคยได้ยินชื่อแร่นั้น  
    พากันออกหุ้นใหม่ไม่น้อยกว่า 820 ล้านหุ้น  
    เท่ากับชาวออสเตรเลียทุกคนซื้อได้มากกว่าคนละหนึ่งร้อยหุ้น
    แต่ถึงขนาดนั้น หุ้นบริษัทใหม่ก็ยังไม่ค่อยกับความต้องการอยู่ดี  
    นักปั่นหุ้นรายใหญ่รายหนึ่งถึงกับบ่นอย่างเซ็งๆว่า
     
    “อีตอนนี้ปัญหาหนักอกของการขายหุ้นIPO ก็คือการตั้งชื่อบริษัท”

    แต่สูงสุดย่อมคืนสู่สามัญ  ภายในไม่กี่สัปดาห์  
    ตลาดหุ้นเริ่มคลายความคึกคักลง  
    หุ้นหลายตัวเริ่มยืนกับที่  หลายตัวเริ่มตก  
    ดังนั้นข่าวการค้นพบแหล่งแร่แบบบริษัทโพไซดอน
    กลายเป็นยาโด๊ปที่จำเป็น
    สำหรับอัดฉีดให้ตลาดหุ้นบูมสุดขีดอีกครั้ง

    แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 46 11:06:54

    จากคุณ : คลาย เครียด - [ 26 ส.ค. 46 08:34:32 ]