ตลาดไทยเป็นตลาดเก็งกำไรสุดๆ
นักการเมืองเอาตลาดหุ้น เป็นแหล่งหาเสียง อ้างเหตุขึ้นหรือลงในการหาเสียงหาคะแนน
รายใหญ่เอาตลาดเป็นแหล่ง เพาะเงิน ด้วยกลยุทธหลากหลายให้เร็จเป้าหมายจงได้
รายย่อยเอาตลาดเป็นที่พักเพื่อเก็งกำไรไปวันๆ ซื้อแล้วได้เหมือนเฮง ซื้อแล้วขายเหมือนโชคร้าย การวางแผน การตั้งเป้าหมายไม่มี (อ้างว่าขึ้นกับรายใหญ่ ขึ้นกับเจ้ามือ และเหตุผลต่างๆอีกมากมาย..จนดูการเล่นคือการพนันโดยแท้)
แท้จริงตลาดหุ้นก็เป็นอย่างที่คน 3 กลุ่มนี้คิดกันคนละแบบ ถูกต้องคนละทาง แต่สุดท้ายของคำตอบคือ คุณต้องเอากำไรให้ได้ ในเวลาที่เหมาะสม ด้วยเงินทุนที่ตนมีอยู่ให้ได้ผลกำไรมากที่สุดเท่าที่โชคและฝีมือตนเองจะทำได้ นักการเมืองอาจเอาประโยชน์นี้มาเป็นอำนาจ และสุดท้ายของอำนาจคือกำไรสู้พวกพ้อง
รายย่อยจะเป็นเหยื่อที่โอชะที่สุดของทั้ง 3 กลุ่ม และมีปริมาณมากที่สุด อ่อนหัดที่สุด อ่อนเชิงที่สุด เข้าง่ายออกง่ายที่สุด ขาดทุนง่ายที่สุด แต่กำไรยากที่สุด
ช่างมันเถิด เรื่องที่พูดข้างบนนี้ วันข้างหน้าค่อยมาคุยสนทนากันใหม่ แต่วันนี้มาคุยสภาวะตลาดหุ้นบ้านเราก่อน
ผมตะเวนหลายเวป เห็นผู้รู้ทั้งหลายบอกว่า วันนี้หุ้นลงเพราะ ข่าว ซาร์ที่สิงค์โปร์ ผู้อ่านทั้งหลายเชื่อไหมล่ะ
ผลสุดท้าย ทั้งกองทุนทั้งต่างชาติซื้อสุทธิบานเบ่อะ ต่างชาติและกองทุนไม่รู้เรื่องซาร์รึ น่ากลัวขนาดนี้แล้วยังซื้อสุทธิรึ น่าคิด
ถ้าคุณเป็นนักเล่นมานาน ช่างสังเกต ช่างเดา ลองมาพิเคราะห์ดู
เช้านี้ตลาดเปิดกระโดด พอตั๋วที่ 2 มูลค่า 800 กว่าล้านซื้อ ซื้อหุ้นฟื้นฟูปนหุ้น Mc ดัชนีขึ้นไปเตะ + 6 จุด สบาย แล้วก็ขายตามแนวจิตวิทยารวม คือ หุ้นขึ้นมาต่อเนื่อง 3 วัน รวมวันนี้ก็เป็น 4 วัน รวมกัน 4 เปอร์เซ็นต์กว่า (ไม่น้อยเชียว) จึงเป็นเหตุผลที่ต้องปรับตัว นี่แหละที่รายใหญ่แฝงเอาเหตุข้อนี้ เริ่มขายตอน หลัง 11.30น (เพื่อนผมก็ขาย แล้วยังโทรมาบอกให้ผมขายด้วย บอกว่าขายให้หมดอีกต่างหาก ใครจะไปเชื่อ ถามเอาเหตุผลอขาบอกว่า ข่าวซาร์แรงกว่าข่าวนายก บอกว่าอัตราโตปีหน้า 8 เปอร์เซนต์เสียอกี) เอ้า การที่หุ้นขึ้นมาตั้ง 2 - 3 เดือนไม่ใช่ข่าวเศรษฐกิจรึนี่ ผมไม่แน่ใจ แต่ผมเอาเหตุผลที่ว่าขึ้น 4 วันแล้ว น่าขายให้เบาตัวหน่อย จึงตัดใจขายหุ้นออก 30 % พอตอนบ่าย15.30 I เจ้าเพื่อนรายใหญ่คนเดิมโทรมาอีก บอกเตรียมซื้อตอนปิดได้เลย ผมถามว่า ซาร์หายไปไหน เขาบอกว่า ซาร์เป็นข่าวซ่า ซื้อปิดตลาดพรุ่งนี้ได้กำไรก่อน เฮ้ย นี่มันการพนันชัดๆเลย เขาตอบว่า เอ้าเพื่อนเรา นายยังไม่รู้รึว่า ตลาดหุ้นคือการพนัน จังหวะ เวลา ช่องทาง กลยุทธ เล่ห์เหลี่ยม ล้วนแต่เป็นวิธีหาเงินของรายใหญ่ พวกรายใหญ่มีใครเป็นนักวิชาการลึกๆ มีใครอ่านงบลึกๆข้ามบริษัทอื่นได้ ในเมื่องบบริษัทตัวเองยังหาทางโกงทุกวิถีทางเลย อย่าคิดมาเลยเพื่อน รีบๆเอาเงินใส่กระเป๋า เอากำไรไปใช้จ่าย เงินสดในกระเป๋าเป็นสิ่งจีรังยั่งยืนกว่าใบหุ้นเป็นไหนๆ ตามใจโว้ยเพื่อน
ผมก็งงๆ นั่งสมาธิคิดอยู่ตั้งนาน จนตลาดปิด แล้วก็ตั้งซื้อ เมทชิ่งปิดคืนมาได้ 15 % ซึ่งก็คืนมาด้วยกำไรหุ้น (เงินเท่าเดิมซื้อหุ้นเดิมได้มากขึ้น) แต่รู้สึกไม่สบายใจ เพราะเมื่อราคามาสูงถึงจุดหนึ่ง ใครๆก็เริ่มโยนของกัน ไม่ยอมถือนานแล้ว อย่างนี้ ก็ได้เห็น 1700 จุดเมื่อชาติหน้า มั่ง หรือ 4 หมื่นกว่าล้านเมื่อไร
การเล่นหุ้นก็ใกล้เกมพนันเข้าไปทุกที ไม่ happy เสียแล้ว ทุกอย่างเข้าเขตการเดา การโยนหัวก้อย รึนี่ (สังเกตหุ้นที่ขึ้นเป็นหุ้น ฟื้นฟู แล้วยังวอลุ่มมากซะด้วย เป็นอย่างงี้มาหลายสัปดาห์แล้ว)
ระวัง ให้มากๆครับ เพื่อนๆ จับตาตลาดให้ดีๆ ห้ามเข้าห้องน้ำนะจะบอกให้ 55 55 55
จากคุณ :
อยากเชือก
- [
9 ก.ย. 46 20:20:37
A:203.148.252.236 X:210.203.182.69
]