ความคิดเห็นที่ 1 ของ SCBAM ให้แนวคิดไว้ลองอ่านดูซิครับ ที่ http://www.scbam.com/inc/parkpoom/invbook2.asp?l=th บทความก็ที่ http://www.scbam.com/inc/Highlight/rmfword.asp นอกนั้นก็ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I2584855/I2584855.html หรือ ถาม-ตอบ ที่ http://www.aimc.or.th ครับ และจากที่คุณ icu กล่าวมา "เพื่อลดภาษี และผลตอบแทนค่อนข้างดี โดยยอมรับความเสี่ยงได้มาก" ไม่ต้องคิดมากเลยครับ ลงกองทุนไหนก็ได้ที่เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นมากๆ เพราะ อัตราภาษีที่คุณได้รับลดหย่อนเหมือนเป็นตัวประกันความเสี่ยงให้อยู่แล้ว (เช่นเสียภาษีอยู่ในขั้นสูงสุดที่ 30% หมายความว่ากองทุนที่คุณลงทุนขาดทุนได้ถึง 30% เสมือนคุณไม่ได้ลงทุนเสียภาษีเต็มๆ งงไหมครับ ?) ผมหามาให้แล้วกันครับ บลจ.ไทยพาณิชย์ SCBRM4 - ไทยพาณิชย์หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ (ส่วนตัวลงตัวนี้ครับ) บลจ.กสิกรไทย FERF - รวงข้าวหุ้นทุนบริพัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.วรรณ V-RMF - หุ้นคุณค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ. บีโอเอ ABNEQ-RMF - เอบีเอ็น แอมโร หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.เอ็มเอฟซี M-VALUE - เอ็มเอฟซีเงินทุนสร้างค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.ธนชาติ NERMF - ธนชาติหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.อเบอร์ดีน ABSC-RMF - อเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.ทหารไทย TMB50RMF - ทหารไทย SET50 เพื่อการเลี้ยงชีพ (น้องใหม่พึ่งเปิดปีนี้) บลจ.เอเจเอฟ AJFTSRMF - อยุธยาทวีทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.ทิสโก้ TEGRMF - ทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.กรุงไทย RMF1 - กรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 1 บลจ.บัวหลวง BERMF - บัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.ไอเอ็นจี INGERMF - ไอเอ็นจี ไทย หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.พรีมาเวสท์ PFL-RMF - พรีมาเวสท์เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (ตัวนี้ยืดหยุนครับ เสี่ยงสูงสุดของเขาแล้ว หุ้นล้วนๆไม่มีครับ) ส่วน ผลดำเนินการให้ท่านอื่นช่วยตอบแล้วกันนะครับ ผมไม่ได้ติดตาม อาศัยว่า ถ้าถึงเวลาหุ้นไม่ดี ย้ายเปลี่ยนกองทุนไปตราสารหนี้ได้สะดวก (ใช้บริการ Easy Fund/Easy Phone ผมมีทั้ง 2 บริการเลย ครับ หลาย บลจ.ก็มีครับแต่ผมไม่ทราบ) และที่คุยๆมา มีบลจ.นี้ละครับให้ความรู้ได้มาก และมีเหตุผลมากที่สุดแล้ว เพราะบางเรื่อง สรรพากรเองบางเขตยังมั่วเลย ลงกองทุนเกี่ยวกับภาษีต้องทำใจนะครับ อีกอย่างมีอะไร หรือจะทำกำไรใช้วิธีย้ายกองทุนเอาอย่าขายแล้วกันมีปัญหาไม่รู้จบแน่นอน แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 46 07:34:37 จากคุณ : pjuk - [ 17 ธ.ค. 46 06:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเพิ่งลงไป 300,000 เมื่อวานนี้เองเพราะผมอายุ 51 แล้วและเสียภาษีอยู่ในเกณท์ 30% ผมว่าอายุคุณเพิ่ง 35 อาจจะน้อยไปนอกเสียจากคุณจะแน่ใจว่าคุณจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินอีก 20 ปีเพราะกองทุนเหล่านี้เขาออกมาเพื่อออมเงินสำหรับคนใกล้เกษียณเนื่องจากดอกเบี้ยธนาคารถูกมาก ถ้าคุณถอนก่อนอายุ 55 ปีจะต้องจ่ายภาษีที่ได้รับลดหย่อนคืนทั้งหมด เงื่อนไขที่สำคัญสำหรับกองทุนเหล่านี้ก็คือ 1. ต้องซื้อหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และถ้าจำเป็นต้องเว้นการลงทุนก็เว้นได้ไม่เกิน 1 ปี 2. เงินลงทุนต้องไม่น้อยกว่า 3% ของเงินได้ในปีภาษีนั้น หรือไม่น้อยกว่า 5,000 บาทต่อปีแล้วแต่ว่าอย่างไหนน้อยกว่า 3. เมื่อเริ่มลงทุน ผู้ออมเงินต้องลงทุนอย่างต่ำ 5 ปี และต้องลงทุนต่อเนื่องจนกระทั่งอายุครบ 55 ปี (สำหรับคุณต้องลงต่อเนื่องถึง 20 ปี) หรือเมื่อทุพพลภาพหรือเสียชีวิต 4. หากผิดเงื่อนไขข้อ 3. ผู้ออมเงินจะต้องคืนภาษีที่ได้รับลดหย่อนทั้งหมด และหากผู้ออมเงินขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนดในข้อ 3. ผู้ออมเงินจะต้องเสียภาษีเงินได้ในส่วนของผลประโยชน์ที่ได้จากการขายคืนด้วย สรุปว่ากองทุนเหล่านี้เหมาะสำหรับคนกินเงินเดือนอายุประมาณ 50 ปีที่ต้องการเก็บเงินไว้ใช้หลังกระเษียณ ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงินก็เลือกกองทุนที่เสี่ยงมากได้ ถ้าเงินน้อยกลัวไม่มีเหลือหลังเกษียณก็เลือกกองทุนที่เสี่ยงน้อยไป หวังว่าคงเป็นข้อมูลที่ช่วยประกอบให้คุณตัดสินใจได้นะครับ จากคุณ : คนแก่ - [ 17 ธ.ค. 46 09:01:18 A:12.4.195.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 วารสารการเงินการธนาคารฉบับเดือน พย.2546 มีลงไว้ละเอียดเลยครับ เปรียบเทียบและจัดอันดับไว้ด้วย จากคุณ : Sueto (sueto) - [ 17 ธ.ค. 46 12:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อีกเล่มครับ Money & Wealth เดือน ธันวาคม 2546 มีด้วยครับ จากคุณ : pjuk - [ 17 ธ.ค. 46 13:34:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ จากคุณ : icu - [ 18 ธ.ค. 46 00:17:57 A:161.200.255.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 RMF เป็นการสนับสนุนให้เกิดการออมระยะยาวค่ะ อายุ 3x ขึ้นไปก็ลงทุนได้ค่ะ โดยแบ่งพอร์ตของคุณให้ชัดเจน RMF เป็นการเก็บเื่พื่อเก็บ ไม่ได้ใช้ตอนนี้ค่ะ แต่จะเอาไปใช้ในวันเกษียณอายุ โดยแบ่งประมาณ 10% ของเงินเืดือน ซึ่งถือว่าไม่ลำบากมากไปค่ะ เพื่อให้เกิดวินัยในการออม ยิ่งออมเร็ว %ในการออมก็น้อยค่ะ เช่นเริ่มออมตั้งแต่อายุ 30 ควรออม 10%ของรายได้ ถ้าเริ่มออมอายุ 40 ต้องออม 20% ของรายได้ แต่ถ้าเริ่มออมช้าเกินไปเช่น อายุ 50 ต้องออมสูงถึง 35% ของรายได้ค่ะ เพื่อคนเหล่านี้จะมีเงินใช้ในวัยเกษียณเท่ากับ 70% ของรายได้เดือนสุดท้ายไปทุกๆ เดือน เป็นเวลาอีก 20ปี หลังเกษียณค่ะ จะเห็นว่าเริ่มออมช้า จะเป็นงานหนักนะคะ อีกอย่างหนึ่งที่ดีสำหรับการออมระยะยาว คือ ประกันชีวิต เพราะหักภาษีได้ตามเงินออมจริง แต่ไม่เกิน 50000 บาท แถมยังมีค่าตัว หรือ "คุณค่าทางเศรษฐกิจ" ของตัวคุณแุถมให้ด้วยอีกต่างหาก ขอข้อมูลเพิ่มเติมการจัดพอร์ตการลงทุนระยะสั้น กลาง ยาว เพืื่อประโยชน์สูงสุดได้ที่ Supakanya_boonsing@yahoo.com ค่ะ จากคุณ : เกด - [ 19 ธ.ค. 46 15:59:15 A:203.156.23.87 X: ]