I2801120 9 ลักษณะเด่นหุ้นห่านทองคำ [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 1

9 ลักษณะเด่นหุ้นห่านทองคำ

สโมสรโรตารี่เจริญนคร ได้เชิญผมไปพูดเรื่อง กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ แก่สมาชิกเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2546

เมื่อจบการบรรยาย สมาชิกท่านหนึ่งได้ถามว่า “ เราจะทราบได้อย่างไรว่าบริษัทที่มีผลประกอบการดี มีกำไร จะจ่ายเงินปันผล ?”

คำถามของสมาชิกท่านนี้เป็นคำถามที่ดีและสำคัญมากทีเดียว!

เป็นคำถามที่ยิงเข้าถึงหัวใจของกลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ!

เพราะกลยุทธ์หุ้นห่านทองคำเน้นการมีกระแสเงินรับจากการลงทุนทุก ๆ ปี

และกระแสเงินรับจากหุ้น คือ เงินปันผลนั่นเอง

ถ้าหลงไปลงทุนในหุ้นที่มีกำไรแต่ไม่จ่ายเงินปันผลก็เหมือนได้ห่านเป็นหมันมาครอบครอง จึงต้องระวังดูให้ดี ๆ

ผมได้ตอบคำถามของสมาชิกท่านนี้ไปว่า หุ้นที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ควรมีลักษณะเด่น 9 อย่าง

หนึ่ง แน่นอนครับ ต้องเป็นหุ้นของบริษัทที่ทำกำไรได้ ถ้ามีผลขาดทุนก็จ่ายปันผลไม่ได้ ยกเว้นคือถ้าบริษัทประสบกับการขาดทุนแบบชั่วคราวด้วยเหตุผลที่อธิบายได้ก็ไม่ว่ากัน

เป็นต้นว่ามีหุ้นอุตสาหกรรมการเกษตรอยู่ตัวหนึ่งถูกกีดกันการสั่งซื้อเนื้อไก่จากกลุ่มตลาดสหภาพยุโรป ยิ่งผล Q1/46 ออกมาขาดทุนด้วย นักเล่นหุ้นยิ่งตกใจใหญ่ ราคาหุ้นจึงร่วงจาก 4.40 บาทเหลือเพียง 3.20 บาท ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของบริษัทได้ชี้แจงว่าได้ร่วมมือกับรัฐบาลและผู้ผลิตอื่นๆในการลดผลผลิตไก่เนื้อลง 15% ประกอบกับมีข่าวเรื่องไข้หวัดนกกระทบถึงธุรกิจไก่เนื้อในยุโรป ราคาไก่เนื้อจึงกลับสูงขึ้นเกือบเท่าตัว ราคาหุ้นของบริษัทจึงเขยิบขึ้นรับกับข่าวดีขึ้นมาสูงกว่า 4.40 บาท การอ่อนตัวของราคาหุ้นในลักษณะนี้จึงเป็นโอกาสที่ดียิ่งสำหรับนักลงทุนมืออาชีพที่คอยติดตามครับ

สอง คือ กำไรที่ทำได้ต้องมีคุณภาพ คุณภาพอะไรหรือครับ? คุณภาพที่กำไรนั้นต้องเป็นเงินสดส่วนใหญ่ เรื่องนี้สำคัญมาก บางบริษัทโชว์ตัวเลขกำไรมาก แต่ไม่มีเงินสดเพียงพอ ต้องไปกู้เงินมาจ่ายปันผล แบบนี้ไม่ช้าก็อาจต้องจอดไม่ต้องแจว เรียบร้อยโรงเรียน NPL

วิธีดูว่ากำไรที่ได้เป็นเงินสดหรือไม่ก็ต้องดูงบกระแสเงินสดซิครับ ไม่ยากหรอกครับ เพียงพลิกไปดูยอดรวมของกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ฝรั่งเรียก Operational Cashflow เรียกย่อๆว่า OCF ถ้ามียอดเป็นบวกและมีขนาดใกล้เคียงกับกำไรสุทธิ ถือว่าเจ๋ง ใช้ได้

สาม ดูกำไรสะสม อันนี้สำคัญ เพราะถ้ามีขาดทุนสะสมอยู่ บริษัทจะจ่ายเงินปันผลไม่ได้ เดี๋ยวนี้ยังดี บริษัทสามารถนำเอายอดส่วนเกินทุนมาหักล้างขาดทุนสะสมให้หมดไปได้เร็วขึ้น ไม่ต้องมัวทำกำไรมาค่อยๆปะเหมือนแต่ก่อน หลายบริษัทที่เคยลำบากสามารถพลิกฟื้นกลับมาจ่ายเงินปันผลได้เร็วขึ้นก็เพราะเหตุนี้แหละ

นักลงทุนหลาย ๆ คน ตาแหลม เลยได้หุ้นมาถือในราคาถูก ๆ แถมยังได้รับเงินปันผลเป็นกอบเป็นกำ จากการเข้าใจถึงกฎใหม่ ที่บริษัทสามารถเร่งล้างขาดทุนสะสมให้หมดจด ด้วยการทำส่วนเกินทุนมาเป็นตัวช่วย สบายไปเลยครับ

สี่ ต้องดูเรื่องเงินสดครับ ส่วนมากบริษัทที่จะจ่ายเงินปันผลได้มักจะมีเงินสดในมือสูง บางแห่งแน่กว่านั้นคือมีเงินสดมากจนต้องนำบางส่วนไปลงทุนแบบสั้นๆเพื่อให้มีดอกผลสูงกว่าการฝากแบงก์

ผมได้ซื้อหุ้นเกี่ยวกับธุรกิจโฆษณาตัวหนึ่ง ราคา 62 บาทเพราะเห็นว่าบริษัทมีเงินสดต่อหุ้นสุทธิถึงหุ้นละ 34 บาท จึงไม่ควรมีปัญหาเรื่องการจ่ายปันผล พอบริษัทมี EPS 9 บาทกว่าก็จ่าย DPS 6 บาท เท่ากับผมได้ yield เกือบ 10%ทีเดียว ในขณะที่ราคาหุ้นก็ขยับขึ้นสูงกว่า 120 บาทเป็นของแถมอีกด้วย

ห้า ดูเรื่องภาระหนี้สิน โอเค แม้บริษัทจะมีกำไร มีสภาพคล่อง มีเงินสด กำไรสะสมเป็นบวก แต่ถ้ามีหนี้มาก ทางฝ่ายบริหารก็คงอยากจะนำกำไรที่ทำได้ไปชำระหนี้เป็นอันดับแรกๆ เพราะฉะนั้นหุ้นที่มี D/E ต่ำ ๆ จึงมักจะมีโอกาสจ่ายเงินปันผลมากกว่าหุ้นที่มี D/E สูง ๆ

หก การขยายงาน ซึ่งเป็นได้ทั้งเรื่องดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้ ถ้าผลตอบแทนที่ได้มีอัตราที่สูงและสามารถทำได้จริง การขยายงานก็เป็นประโยชน์เพราะจะช่วยสร้างมูลค่าหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมทั้งโอกาสที่จะจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นด้วยในอนาคต
แต่การขยายงานต้องมีการลงทุน และการลงทุนต้องใช้เงิน ถ้าบริษัทมีโครงการขยายงานดีๆมีผลตอบแทนน่าจูงใจก็ไม่ว่ากัน ยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แม้บริษัทจะไม่จ่ายหรือจ่ายเงินปันผลน้อยก็โอเค เพราะเท่ากับบริษัทได้นำเงินที่จะจ่ายเป็นปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในปัจจุบันไปลงทุนให้ผู้ถือหุ้นเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

เจ็ด ดูนโยบายเงินปันผลของบริษัท มีบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์แห่งหนึ่งประกาศว่าจะจ่ายปันผล 60% ของ EPS ปรากฎว่าบริษัททำได้ติดต่อกันกว่า 10 ปีทีเดียว ในปีที่ 11 บริษัทจ่ายเพียง 50% เพราะมีกำไรต่อหุ้นสูงมาก แต่เงินปันผลที่จ่ายในปีที่ 11 ก็สูงกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา ที่บริษัทจ่ายอัตราลดลงเพราะต้องการเก็บกำไรไว้ให้มากขึ้นเพื่อเตรียมขยายงานให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นนั่นเอง การดูสถิติการจ่ายเงินปันผลย้อนหลังไปหลายๆปีจะช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ข้อมูลเหล่านี้มีในรายงานประจำปีหรือจะเช็คดูกับโบรกเกอร์หรือตลาดหลักทรัพย์โดยตรงก็ได้นะครับ

แปด คือเรื่องจำนวนหุ้น ผมไม่ค่อยชอบบริษัทที่เอะอะอะไรก็เพิ่มทุน เพราะมักจะทำให้มูลค่าต่อหุ้นลดลง เพราะอะไรหรือครับ? เพราะเมื่อมีจำนวนหุ้นมากขึ้นตัวหารก็เพิ่มขึ้น กำไรสุทธิต่อหุ้นแต่ละหุ้นก็จะลดลงที่เรียกว่าเกิด Dilution Effect นอกจากว่าบริษัทจะเก่งจริง สามารถทำให้การเพิ่มของกำไรสุทธิสูงกว่าการเพิ่มของจำนวนหุ้น

เก้า ดูอัตราความเจริญเติบโต ถ้าบริษัทมีการขยายงาน อัตราเติบโตของยอดขายสูงกว่าอัตราเติบโตของต้นทุนและค่าใช้จ่าย ถือว่าเจ๋งเลย เพราะอัตราเติบโตของกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นสูงกว่า อัตราเติบโตของยอดขายอย่างแน่นอน บริษัทอย่างนี้ต้องถือเป็นหุ้นห่านทองคำชั้นอ๋อง ลงทุนแล้วไม่ผิดหวัง สามารถนอนหลับ ฝันดีได้

ครับทั้งหมด 9 อย่างคือคุณลักษณ์เด่นของหุ้นห่านทองคำ

ถ้าใครเจอ! อย่าลืมชวนผมไปร่วมวงด้วยนะครับ

................................................................

คำนำผู้เขียน: เป็นการรวมบทความที่ได้ลงในนิตยสาร Money & Wealth รายเดือนส่วนหนึ่งและได้เขียนเพิ่มเติมจนครบทั้ง 5 ภาค คือ ก่อนเข้าถ้ำเสือ ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ เครื่องมือสำคัญ พลังแห่งมด และ ความสุขในสวน

รายละเอียดหนังสือ:หนังสือ “วิถีแห่งเซียน...หุ้นห่านทองคำ” เขียนโดย เทพ รุ่งธนาภิรมย์ ผู้เขียนหนังสือกลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ ซึ่งติดอันดับหนังสือขายดีของร้าน ซีเอ็ด บุ๊คเซ็นเตอร์ เนื้อหาของหนังสือประกอบด้วยแนวคิด กลยุทธ์ และเทคนิคการ วิเคราะห์การลงทุน ในหลักทรัพย์ในเชิงลึก หนังสือเล่มนี้จะช่วยเสริมให้ผู้ที่เคยอ่านหนังสือกลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ มีความรู้ความเข้าใจ ในหลักการลงทุนได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีเนื้อหาที่เป็นอิสระจากกัน ไม่จำเป็นที่ผู้อ่านจะต้องอ่านหนังสือ กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำมาก่อน จึงจะอ่านเข้าใจ

หาซื้อหนังสือได้ที่ Book Shop ชั้น 1 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศูนย์หนังสือจุฬาฯธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Asia Books

จาก
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/1083811328075/index_expert_thep5.html

จากคุณ : kor_kor - [ 6 พ.ค. 47 13:36:29 A:10.132.1.90 X:202.12.97.116 ]