ความคิดเห็นที่ 15
แรงเทขายหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่กดดัชนีลบ 2.98 จุด วันศุกร์โบรกมองต่างมุมมีทั้งขึ้น/ลง
แรงเทขายหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ กดดัชนีฯสู่แดนลบสำเร็จ โบรกคาดผลงาน สถาบันในประเทศ ส่วนวันศุกร์มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งสองทาง หลังโบรกมองต่างมุมทั้งรีบาวน์ และรูดต่อเพราะยังมีความเสี่ยงเรื่องปัจจัยลบใหม่ ตลาดหุ้นไทย วันนี้ปิดที่ระดับ 646.64 จุด ลดลง 2.98 จุดมูลค่าการซื้อขาย 21,429.37 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสด 5 อันดับ 1.PTT ปิดที่ 154.00 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,127.55 ล้านบาท 2.AST ปิดที่ 91.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 942.32 ล้านบาท 3.AOT ปิดที่ 51.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 923.96 ล้านบาท 4.ATC ปิดที่ 54.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 792.95 ล้านบาท 5.UCOM ปิดที่ 49.25 บาท ลดลง 1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 680.78 ล้าน นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอบีเอ็น แอมโร เอเชีย เปิด เผยถึงภาวะตลาดวันนี้ว่า ในช่วงบ่ายดัชนีฯได้แกว่งตัวในขาลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากหุ้นที่มี มาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่มีการถูกขายออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ หุ้น PTT และกลุ่มธนาคารขนาด ใหญ่ โดยคาดว่าหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ดังกล่าวถูกขายออกมาจากสถานบันการเงินของไทย เอง ส่วนกรณีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น ถ้ามีการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อย่างที่ได้มีการ คาดการณ์เอาไว้แล้ว คาดว่าคงไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจากตลาดรับรู้ข่าวแล้ว แต่ดัชนีอาจไม่มีการปรับขึ้น เพราะนักลงทุนอาจจะมีการรอฟังผลประชุมของธนาคารสหรัฐใน เดือนสิงหาคมนี้ก่อน ส่วนราคาน้ำมันถือว่ายังคงทรงตัว และไม่ใช่ปัจจัยหลักที่มีผลต่อตลาดหุ้นใน ช่วงนี้ สำหรับแนวโน้มในวันศุกร์ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นมีการปรับตัวลง โดยคาดว่านักลงทุนต่าง ประเทศจะมีการเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่ต้องระวังคือการอ่อนตัวของค่าเงินว่าต่ำกว่า 41 บาทต่อ 1 ดอร์ล่าสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันศุกร์ ถ้าดัชนีสามารถยืนเหนือ 630 จุดได้ นัก ลงทุนสามารถเล่นเก็งกำไรได้ ส่วนนักลงทุนระยะยาวแนะนำให้ชะลอการลงทุน เนื่องจากช่วงนี้ยัง ไม่ถือว่าหุ้นราคาถูก ควรจะรอให้มีการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาก่อน จึงค่อย ตัดสินใจในการลงทุน สำหรับแนวรับอยู่ที่ระดับ 630 จุด และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 650-660 จุด นายธนัท รังษีธนานนท์ นักวิเคราะห์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์วันนี้ดัชนีฯยัง มีความผันผวน และแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยก่อนปิดตลาดฯมีแรงเทขายทำกำไรออกมาจาก นักลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดคืนนี้ ว่าจะมีทิศทางเป็นเช่น ไร 'บรรยากาศการลงทุนวันนี้ไม่คึกคักมากนัก เนื่องจากนักลงทุนส่วนมากยังจับตาดู ประเด็นการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดว่าจะเป็นในทิศทางใด โดยคาดว่าหากเฟด ปรับขึ้นในอัตรา 0.25% ตามที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าจะไม่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจไทย'นายธนัท กล่าว ทั้งนี้ มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดย ในระยะสั้นน่าจะปรับขึ้นในอัตรา 0.25% ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทางเฟดต้องรอดูผลกระทบต่อ เศรษฐกิจว่าเป็นเช่นไร และหากเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความร้อนแรงอยู่ เฟด อาจต้องมีการปรับ ขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ] สำหรับแนวโน้มตลาดวันศุกร์ ดัชนีฯมีโอกาสปรับตัวเป็นบวกได้ หากไม่มีปัจจัยลบเข้า มากระทบตลาดฯ ประกอบกับปัจจัยลบต่างๆ ทั้ง เฟดปรับอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันในตลาด โลก รวมถึงการก่อการร้ายคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ดัชนีฯจะรีบาวน์ขึ้น ได้ อย่างไรก็ดี แนะนำนักลงทุนให้เข้าถือหุ้นระยะยาว และทยอยเข้าสะสมหุ้นมาร์เก็ตแค็ป ขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มเคมีภัณฑ์ ATC ,TOC กลุ่มสื่อสาร ADVANC ,SHIN กลุ่มธนาคาร BBL ,KBANK , SCB โดยประเมินแนวรับวันศุกร์หน้าไว้ที่ 640 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 660 จุด
จาก efinancethai
จากคุณ :
ใจดีมาก
- [
30 มิ.ย. 47 18:03:26
]
|
|
|