ความคิดเห็นที่ 1 1. มีการระบาดใหม่ในเมืองไทยหรือยังครับ? 2. ถ้ามี ที่ไหน เหตุการณ์เป็นอย่างไร? 3. อันนี้ถามแบบเจาะจงเลยอ้ะ cpf โฆษณาการเลี้ยงระบบปิดครบวงจร แล้วสามารถสร้างความเชื่อถือให้ตลาดต่างประเทศได้หรือไม่? ถ้ามีการกลับมาของไข้หวัดนกในประเทศไทยใหม่แค่ประปราย จะมีผลต่อ cpf หรือไม่ในแง่ของออร์เดอร์จากต่างชาติ 4. ตอนนี้ cpf gfpt ส่งออกไก่สดแช่แข็งได้หรือยัง? ถ้าได้คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของยอดส่งออกไก่รวม แค่นี้ก่อนนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ขุนอิน - [ 2 ก.ค. 47 22:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอร้องอ่ะไม่ต้องไปกัว เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาแล้ว มีวิธีควบคุมเยอะแยะ นิ่งๆอ่ะ จากคุณ : หกเดเเดก้เกหเกหดเกด - [ 3 ก.ค. 47 01:02:59 A:unknown X:203.148.208.155 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ได้ข่าวว่าหน้าหนาวไข้หวัดนกจะกลับมาระบาดใหม่ มีความคิดเห็นอย่างไรครับ มีโอกาศเป็นไปได้ไหม แล้วถ้าเกิดกลับมาใหม่จริงๆแต่แค่เล็กน้อยนั้น ภาพพจน์ของประเทศในสายตาต่างชาติจะเป็นอย่างไรครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ClasS_X - [ 3 ก.ค. 47 06:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอาตรงๆ ไปเลยพี่ อยากให้พี่อธิบายผลกระทบกับผลประกอบการของหุ้นที่เกี่ยวข้อง เอาแบบรายตัวไปเลย ไม่รู้จะโดนข้อหาเชียร์หรือเปล่า เพราะผมว่าข่าวไข้หวัดนกคงมีมาเป็นระยะๆ นี่ขนาดพบที่เวียดนาม ยังมีผลต่อ cpf ที่กำลังตั้งลำ ให้ถอยมาตั้งหลักได้เลย จากคุณ : Livestock - [ 3 ก.ค. 47 09:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หวัดนก มีมาทุกปี มีมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ปีที่แล้ว มันระบาดหนักและกระจายไปทั่วเลยเกิดการปั่นป่วนขึ้นมาใช่ไหม ปีนี้ก็กำลังจะมา แต่คิดว่า น่าจะเหมือนกับทุก ๆ ปี ไม่รุนแรงอะรมากนัก ผมคิดแบบนี้ถูกหรือเปล่าครับ จากคุณ : ผ่านมา - [ 3 ก.ค. 47 09:03:30 A:210.86.188.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 หวัดนกมีมานานแล้ว เพียงแต่เพิ่งถูกนำมาเป็นข้ออ้าง ในการกีดกันไก่ไทย เพื่อชะลอเศรษฐกิจไทยปี ที่แล้วรึเปล่าครับ? จากคุณ : เพื่อนพูห์ - [ 3 ก.ค. 47 09:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนอื่น copy มาให้ดูอีกทีครับ ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนเปิดตลาดขอคุยเรื่องไข้หวัดนกหน่อย ในฐานะที่เป็นสัตวแพทย์ และทำงานเกี่ยวกับภาคปศุสัตว์ เพราะเห็นคนคุยกันอีกเมื่อวาน ประเด็นจริงของไข้หวัดนกมีแบบนี้ครับ 1. โรคนี้เกิดในไทยตั้งแต่ ตค. 46 2. โรคนี้ติดจากไก่สู่คนโดยการสัมผัสใกล้ชิดเท่านั้น แต่ก้อยังติดยาก เพราะคนที่ทำงานในวงการไม่ว่าคนเชือด ผู้เลี้ยง คนทำลายไก่ ไม่มีใครติดซักคน 3. ถึงแม้ได้รับเชื้อก้อไม่ติดโรคง่ายๆ ถ้าคนได้รับเชื้อเคยเป็นไข้หวัดใหญ่มาก่อนจะมีภูมิคุ้มกันส่วนหนึ่งจาก H5 ก้อป้องกันโรคได้ดีพอสมควรเพราะไข้หวัดนกในไทยเป็น H5N1 หรือถ้าสุขภาพแข็งแรงก้อจะไม่ติด ดังนั้นจะเห็นผู้ป่วยมีแต่เด็กเล็ก หรือคนแก่ที่อ่อนแอเท่านั้น 4. ในโลกนี้ยังไม่มีรายงานการติดไข้หวัดนกจากการกินไม่ว่าจะกินสุกหรือดิบ ดังนั้นกินไก่ได้ปกติ อาจสงสัยว่างั้นทำไมอียูห้ามนำไก่ดิบเข้าประเทศ คำตอบคือ เค้ากลัวว่าเนื้อไก่ที่มีเชื้ออาจเป็นพาหะนำเชื้อเข้าไปติดไก่ในบ้านเค้า เค้าไม่ได้กลัวจะติดจากการกิน 5. เชื้อไข้หวัดนกตายง่ายมากแค่น้ำสบู่ก้อฆ่าเชื้อได้แล้ว 6. รัฐบาลรณรงค์ผิดนิดหน่อยที่บอกว่าให้กินไก่สุกจะปลอดภัย ทำให้คนเข้าใจไปได้ว่าในเนื้อไก่มีเชื้อโรคอยู่ต้องเอาไปต้มฆ่าเชื้อก่อนกิน ทั้งๆที่ไก่ก่อนที่จะส่งตลาดได้มีการตรวจอย่างเข้มงวดไม่มีโอกาสที่ไก่เป็นโรคจะมาถึงมือผู้บริโภคเด็ดขาด สังเกตจากไก่ติดเชื้อในไทยไม่เกิน 1 แสนตัวแต่ขีดวงทำลายไก่ไปถึง 40 ล้านตัว ดังนั้นเนื้อไก่ที่จำหน่ายไม่มีเชื้อแน่นอน 7. การรณรงค์ผิดทำใหคนไม่กล้ากินไก่ เปรียบเทียบง่ายๆเหมือนให้เราคิดว่าให้เอาน้ำที่คอห่านของส้วมไปต้มหรือกลั่นกิน รับรองสะอาดไร้กลิ่นเชื้อโรคตายหมด คุณจะกล้ากินมั๊ย(ทั้งๆที่ในไก่ไม่มีเชื้อขอย้ำอีกครั้ง) 8. ประเด็นที่น่าห่วงจริงๆสำหรับเรื่องนี้คือการส่งออก เนื่องจากเดิมเราผลิตไก่เดือนละเกือน100 ล้านตัวส่งออกซะ 70% และระเบียบของอียูระบุว่าหลังทำลายไก่ตัวสุดท้ายในเขตสงสัยและประกาศปลอดโรคแล้ว อีก 6 เดือนเค้าถึงอนุญาตในนำเข้าไก่ดิบได้ ตอนนี้อียูก้อลำบากเพราะโดนบลาซิลโขกราคาเพิ่มขึ้นกว่า 60% ต้องกินไก่แพง(ทั้งที่ในวงการก้อไม่เชื่อว่าบลาซิลไม่เป็นโรค แต่เค้ายังไม่ยอมรับจึงส่งออกได้) 9. ถ้ากลัวการกินไก่จากเรื่องไข้หวัดนกคุณต้องกินอะไรไม่ได้เลย เพราะสัตว์ปีกทุกชนิดเป็นหมด หมูก้อติด ปลาก้อมีการเอาขี้ไก่ไปให้ปลากิน ผักก้อเอาขี้ไก่ไปใส่(ผักสดยังน่ากลัวกว่าอีก) แม้แต่ข้าวก้อเอาขี้ไก่ไปใส่ แล้วคุณจะกินอะไร ไม่ต้องกลัวครับมันไม่ติด ถ้าติดระยะฟักตัวของโรคแค่ 3-7 วัน ถ้างั้นป่านนี้ตายกันทั้งสนามหลวงตอนมหกรรมกินไก่ไปหมดแล้ว รวมทั้งนายก .....ที่ผมเขียนมาทั้งหมดเพราะสงสารคนแล้ยงไก่รายหลายรายที่จะอดตายเพราะคนกลัวเกินเหตุ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 47 10:06:19 จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 11 มิ.ย. 47 10:02:39 ] จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 3 ก.ค. 47 10:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นี่อีกข้อที่เคยตอบครับ ความคิดเห็นที่ 12 อาชาไร้เงา ... ตอนนี้port ผมว่างครับ และไม่เคนซื้อหุ้นเกี่ยวกับไก่เลย ที่ไม่ชอบซื้อเพราะอยู่ในวงการเลยทราบดีว่าปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้มากระทบเยอะ ก่อนหน้านี้ก้อมีเรื่องการเลี้ยงแบบไม่ทรมานมากีดกันทางการค้า พอแก้ได้ก้อมีเรื่องยาตกค้างพวกคลอแรมและไนโตร(ทั้งๆที่ยาที่ห้ามใช้เค้าเอามาขายเราเอง) ล่าสุดนี้ก้อไข้หวัดนก ซึ่งต่อไปไม่รู้จะเจออะไรอีก เพราะฉนั้นยืนยันได้เลยว่าไม่ชอบหุ้นกลุ่มนี้เอามากๆครับ จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 14 มิ.ย. 47 09:22:43 ] จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 3 ก.ค. 47 10:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทีนี้มาตอบของใหม่ครับ ความคิดเห็นที่ 1   1. มีการระบาดใหม่ในเมืองไทยหรือยังครับ? ตอบ  มีมาตั้งแต่ ตค. 46 และยังไม่เคยหายไปจากไทยจนทุกวันนี้ครับ 2. ถ้ามี ที่ไหน เหตุการณ์เป็นอย่างไร? ตอบ  ระบาดทุกภาคครับ  ส่วนใหญ่ไก่จะตายเกือนยกเล้า  แต่กรมปศุสัตว์จะทำลายไก่ทุกตัวในรัศมี 10 กม.ครับ  เป็นเฉพาะไก่ชาวบ้าน  ฟาร์มใหญ่ยังคุมได้ครับ 3. อันนี้ถามแบบเจาะจงเลยอ้ะ cpf โฆษณาการเลี้ยงระบบปิดครบวงจร แล้วสามารถสร้างความเชื่อถือให้ตลาดต่างประเทศได้หรือไม่? ถ้ามีการกลับมาของไข้หวัดนกในประเทศไทยใหม่แค่ประปราย จะมีผลต่อ cpf หรือไม่ในแง่ของออร์เดอร์จากต่างชาติ ตอบ  ตอนนี้ต่างชาติเชื่อผู้เลี้ยงรายใหญ่ทุกรายของไทยอยู่แล้ว  แต่ที่เค้าไม่เชื่อถือคือกรมปศุสัตว์  ต่างหาก  ที่ทำให้ไทยยังส่งออกไก่ดิบไม่ได้  ส่วนผลกระทบถ้ามีการออกข่าวคงมีในระดับหนึ่งเพราะไก่ที่เหลือจากบริโภคในไทยเราเก็บแช่เย็นไว้รอเค้าให้ส่งออกไว้เต็มห้องเย็นไปหมดแล้ว(บริโภคเองแค่ 30%)  ถ้ามีข่าวออกมาต้องรออีก 6 เดือนถึงส่งไก่ดิบออกได้ ตามกฏอียู 4. ตอนนี้ cpf gfpt ส่งออกไก่สดแช่แข็งได้หรือยัง? ถ้าได้คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของยอดส่งออกไก่รวม ตอบ  ยังไม่ได้ครับ แค่นี้ก่อนนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ขุนอิน  - [ 2 ก.ค. 47 22:42:28 ] แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 47 10:18:25 จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 3 ก.ค. 47 10:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็นที่ 3   ได้ข่าวว่าหน้าหนาวไข้หวัดนกจะกลับมาระบาดใหม่ มีความคิดเห็นอย่างไรครับ มีโอกาศเป็นไปได้ไหม แล้วถ้าเกิดกลับมาใหม่จริงๆแต่แค่เล็กน้อยนั้น ภาพพจน์ของประเทศในสายตาต่างชาติจะเป็นอย่างไรครับ ขอบคุณครับ ตอบ  หน้าหนาวจะทำให้เชื้อตายในสิ่งแวดล้อมยากขึ้นครับ  เป็นไปได้ที่โอกาสจะระบาดแพร่หลายมากขึ้น  แต่ในทางปฎิบัติคงเกิดขึ้นยาก  เพราะกรมปศุสัตว์เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเปิดเผยอยู่แล้ว  ไม่เหมือนรอบก่อนต้องแอบๆทำ  ดั้งนั้นระบาดยากครับ ส่วนด้านภาพพจน์ของประเทศในสายตาต่างชาติ  คงไม่กระทบเท่าไหร่  เพราะเค้าเข้าใจธรรมชาติของโรคนี้อยู่แล้วว่าเข้าประเทศไหนแล้วออกยาก  และเค้ายากซื้อไก่เราอยู่แล้ว  เพราะการเลี้ยงและโรงเชือดมาตรฐานเราสูงกว่าเค้ามาก จากคุณ : ClasS_X  - [ 3 ก.ค. 47 06:35:32 ] แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 47 10:25:54 จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 3 ก.ค. 47 10:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สถานการณืปัจจุบัน *ด้านความปลอดภัยของพู้บริโภค ไม่ต้องห่วงครับ  เพราะ 1 กรมปศุสัตว์มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด  เช่น  -  ก่อนเริ่มเลี้ยง  จะอนุญาติให้ลงเลี้ยงได้เฉพาะเขตพื้นที่สีเขียว  และไก่ที่จะลงเลี้ยงต้องมีผลตรวจยืนยันก่อนว่าปลอดโรค -  ขณะเลี้ยงจะมีการสุ่มตรวจอยู่เสมอ  ถ้าพบว่าป่วย  จะทำลายทิ้งทันที  และทำลายสัตว์ปีกทั้งหมดในรัศมี 10 กม.รอบๆฟาร์ม -  ก่อนจับเข้าโรงเชือดจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจหาเชื้ออีกรอบก่อนถ้าไม่พบเชื้อถึงอนุญาติให้ส่งโรงเชือดได้ -  หลังเชือดเลยก่อนจำหน่ายจะสุ่มตรวจเนื้อไก่อีกรอบก่อนถ้าปลอดเชื้อจึงอนุญาติให้นำออกจำหน่ายได้ 2  ขณะนี้ฟาร์มบริษัทขนาดใหญ่สามารถ  ควบคุมโรคได้ 100%   * ด้านเศรษฐกิจยังน่าห่วงเพราะยังส่งไก่ดิบออกไม่ได้  เพราะ 1 เรายังไม่สามารถประกาศเป็นพื้นที่สีเขียวทั้งประเทศได้  ถ้าประกาศได้เมื่อไหร่ต้องรออีก 6 เดือนถึงส่งออกได้ 2 เกษตรกรของอียูถือโอกาศใช้เรื่องนี้ตั้งแง่กีดกันทางการค้าไม่ให้รัฐบาลนำเข้าไก่ดิบจากไทย  เพราะมาตรฐานการเลี้ยงและโรงเชือดเราสูงกว่าเค้ามาก  แต่ต้นทุนเรากลับถูกกว่าเค้ามาก  ทำให้เค้าแข่งขันเราไม่ได้  โดยก่อนหน้านี้ก็ใช้เรื่องการเลี้ยงการการฆ่าสัตว์ในโรงเชือดแบบไม่ทรมวน(หลักสุขศาสตร์สัตว์)มากีดกันเราไปแล้ว  เราต้องแกไขโรงเรือนเลี้ยงและโรงเชือดทั่วประเทศหมดไปหลายร้อยล้าน  พอเราแก้ได้  เค้าก้อเปลี่ยนเรื่องกีดกันเป็นการห้ามใช้ยาปฏิชีวนะ  คลอแรม และ กลุ่มไนโตรฟูราโซน  มากีดกันอีก โดยตรวจในระดับต่ำมากๆเรียกว่าคนๆหนึ่งต้องกินไก่เป็นล้านๆกิโลถึงจะอันตราย  และการตรวจยังเข้มงวดขนาดว่าถ้าโรงอาหารโรงไหนเคยผสมยาตัวนี้  ต่อให้ล้างโรงงานยังไงก้อยังตรวจพบ  แถมวิธีตรวจต้องทำตามเค้าใช้เครื่องมึอเค้า  เครื่องหนึ่งตั้งหลายสิบล้าน  และตรวจทุกล็อทการผลิต  ใหม่ๆเราก้อตรวจไม่ทัน  รัฐบาลก้อบ้าจี้ทำตามเค้าทุกอย่าง(ผิดกับจีนไม่ทำตามแต่แก้ปัญหาด้วยการเผานมที่นำเข้าจากอียูทิ้ง  เพราะตรวจเจอสารตกค้างเหมือนกัน  ปรากฎว่าอียูรีบปลดล็อคให้  และนมที่เหลือก้อส่งมาขายบ้านเราแทน)  แต่เราก้อยอมเค้าและก้มหน้า  แก้ปัญหาจนแก้ได้  ก้อบังเอิญซวยไข้หวัดนกระบาด  เค้าเลยได้โอกาสกีดกันอีกรอบ  ทั้งๆที่ประเทศอื่นที่ส่งเข้าอียูก้อระบาดแต่เค้าไม่ยอมรับก้อส่งออกต่อได้  บางประเทศยอมรับก้อส่งออกได้เช่น USA  ระบาด  แต่พลังต่อรองสูงอียูก้อยอมให้ส่งออกได้ 3  เค้ากำลังพิจารณาแบ่งเขตให้เราส่งออกได้  เพราะเค้าต้องกินไก่แพงมากในปัจจุบันเนื่องจากเราส่งออกเป็นอันดับ 3 ของโลก  พอส่งไก่ดิบออกไม่ได้ไก่จึงหายไปจากตลาดมาก  แต่กรมปศุสัตว์ต้องทำให้เค้าเชื่อได้ก่อนว่าจะไม่หลอกเค้าอีกก่อน แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 47 00:50:26 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 47 00:47:22 จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 3 ก.ค. 47 11:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณคุณก้อนหินค่ะ จากคุณ : สาวออฟฟิศสีลม (TTma) - [ 3 ก.ค. 47 11:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 thank you krab. จากคุณ : samsam - [ 3 ก.ค. 47 12:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาอีกแล้วเหรอ ไก่กุ๊กๆ จากคห.9 ตอบข้อ 1 ...มีมาตั้งแต่ ตค.46 และยังไม่เคยหายไปจากไทยจนทุกวันนี้....อะจึ๋ยยยยยย ฟังแล้วเหมือนไวรัสตกค้าง พร้อมออกปฏิบัติการณ์ในหน้าหนาวเลย หวังว่า รัฐบาล ถ้ามันมีมาใหม่งวดนี้ ไม่ต้องแอบหมกไว้อีกนะจ๊ะ ป๋าจ๋า รายย่อย รู้ข้อมูลทีหลังนักการเมือง กะต่างชาติ มันจะไม่งามมมมมม เอาแบบข้อมูลจริงๆ ยิงมาเลย รับด้ายค่า ไม่เอาแบบให้รายย่อยออกสตาร์ททีหลังเพื่อน ...อย่างงั้นไม่อาวอ่ะ จุกอ่ะ จากคุณ : 007-s - [ 3 ก.ค. 47 14:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณในข้อมูลครับ.... จากคุณ : BSW - [ 3 ก.ค. 47 21:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับคุณหมอก้อนหินฯ เอ... ผมนึกว่ามันหายไปแล้วซะอีก นี่ผมกินไก่ไปตั้งหลายตัวแล้วนะเนี่ย... กุ๊กๆ กุ๊กๆ ฮ่าๆๆ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ - [ 4 ก.ค. 47 00:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กินได้ครับขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน อีกทีว่าปลอดภัย ระวังแค่กินมากๆแล้วจะอ้วนแค่นั้นละครับ จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 4 ก.ค. 47 06:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ Rocky ช่วย ๆ กันทานไก่และไข่เถอะครับ นอกจากช่วยเกษตรกรแล้วยังช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีต่อประเทศว่าเรามีความรู้ความเข้าใจกับโรคนี้ดี รอบที่ผ่านมาทำเอาคนไม่กล้ากิน รัฐบาลเองก็ทำอะไรไม่ได้ ดูแล้วน่าหดหู่สังคมความรู้ต้องไม่เป็นอย่างนี้ครับ ตกเป็นเบี้ยล่างเค้าตลอด ตอนไข้หวัดนกที่แล้วผมสั่งอาหารพอบอกใส่ไข่ดาว แม่ค้าถามว่าไม่กลัวตายเหรอ อะไรกันจะขนาดนั้น จากคุณ : ขุนอิน - [ 4 ก.ค. 47 11:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณ คุณสโตนนี่ ร็อกกี้ ด็อกเตอร์ ครับ อ้ายผมก็ชอบข้าวมันไก่ซุ่ยเฮง และ ไก่เบตง ซะด้วย ถ้าจะกินน้อยลงก็คงไม่ใช่กลัวไข้หวัดนกหรอกครับ กลัวเก๊าถามหาตอนแก่ต่างหาก 5555 จากคุณ : japan45 - [ 4 ก.ค. 47 15:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบสินธรก็ตรงนี้ล่ะค่ะ...หลากหลายดี เชี่ยวกันไปคนละอย่าง และที่สำคัญ.. มีการนำข้อมูลจากความถนัดที่แต่ละคนมีอยู่มาแชร์กัน ทำให้โลกไซเบอร์แห่งนี้มีประโยชน์+น่าอยู่ขึ้นแยะ น่ารักจริงๆเลย....ขอบคุณคุณทองก้อนมากค่ะ (เรียกตามป้าน่าลักอ่ะ...อิๆๆ) ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบกินไก่ค่ะ จะหยุดกินเฉพาะตอนที่ ไม่มีขายช่วงหวัดนกเท่านั้นเอง ช้อบ..ชอบ ค่ะ ไม่รู้เป็นไร (หวังว่าถ้าน้องไก่มาได้ยินเข้า อย่าเคืองกันนะ ก้อเค้าชอบตัวเองจริงๆนี่ ) จากคุณ : enokwan - [ 4 ก.ค. 47 17:22:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณขุนอินพูดได้น่าฟังมากครับ ถ้าเราคนไทยมีครวมรู้ความเข้าใจที่ดีแล้วใครก้อมาเอาเปรียบเราไม่ได้ ครับ ตลาดหุ้นก้อเหมือนกันคนเข้าใจมากกว่าก้อได้เปรียบคนเข้าใจน้อยกว่า ในตำราเรียนยังมีเป็นหลักการเลยว่า การซื้อหุ้นคือการซื้อมาขายให้คนที่โง่กว่า ฟังแล้วเศร้านะครับ เพราะเรามักเป็นคนที่โง่ประจำ จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 4 ก.ค. 47 20:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อยากทราบการแพร่กระจายของโรค (ในอดีต เช่นที่ ฮอลแลนด์ ฮ่องกง) มีการระบาดแล้ว เมื่อควบคุมในวงจำกัดแล้ว ยังมีการแพร่ระบาดซ้ำหรือไม่ วงจรในระยะกลาง - ยาว เป็นอย่างไรครับ เคยอ่านเจอในกระทิงเขียวครั้งหนึ่ง ว่าโรคนี้เมื่อระบาดประเทศไหนแล้ว มักจะมีการระบาดซ้ำอีก 2-3 ปี จนกว่าจะชิน หรือจนกว่า ไก่ในประเทศนั้นจะมีภูมิต้านทานโรคแล้ว ฮา จากคุณ : buglife - [ 4 ก.ค. 47 23:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ..."ในตำราเรียนยังมีเป็นหลักการเลยว่า การซื้อหุ้นคือการซื้อมาขายให้คนที่โง่กว่า"... 5555555 ประโยคนี้ของคุณทองก้อน แทงใจดำ มากเลยค่ะ ฟังแล้วขำ แต่พอคิดว่าเราเป็นคนรับซื้อแล้วชักฮาไม่ออกแฮะ==" จากคุณ : enokwan - [ 5 ก.ค. 47 00:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ buglif ตรับ ประเทศที่ระบาดแล้วเป็นเรื่องยากมากๆที่จะทำให้กำจัดออกไปได้ ส่วนใหญ่มักกลับมาระบาดอีกเป็นระยะๆครับ เพราะเวลาติดในนกป่ามักไม่ทำให้นกตายแต่จะเป็นตัวอมโรคคอยแพร่มาไก่อีกที ครั้นจะฆ่านกป่าให้หมด  กลุ่มนักอนุรักษ์ก้อไม่ยอมแน่ๆ รออย่างเดียวครับให้มันระบาดไปทั่วโลก  จนคนคิดว่ามันก้อคือไข้หวัดใหญ่ธรรมดา  ไม่มีใครกลัวอีก ถ้าคิดดูให้ดีคนถูกหมากัดตายมากกว่าเป็นโรคนี้ตายอีกนะครับ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 47 00:54:33 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 47 00:40:24 จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 5 ก.ค. 47 00:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จากคุณ buglif ประเทศที่ระบาดแล้วเป็นเรื่องยากมากๆที่จะทำให้เคียร์ออกไปได้ ส่วนใหญ่มักกลับมาระบาดอีกเป็นระยะๆครับ เพราะเวลาติดในนกป่ามักไม่ทำให้นกตายแต่จะเป็นตัวอมโรคคอยแพร่มาไก่อีกที ครั้นจะฆ่านกป่าให้หมดกลุ่มนักอนุรักษ์ก้อไม่ยอมแน่ๆ รออย่างเดียวครับให้มันระบาดไปทั่วโลก จนคนคิดว่ามันก้อคือไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ไม่มีใครกลัวอีก ถ้าคิดดูให้ดีคนถูกหมากัดตายมากกว่าเป็นโรคนี้อีกนะครับ จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 5 ก.ค. 47 08:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะคุณ ก้อนหิน MBAสำหรับความรู้ที่มอบให้ ขออนุญาตคุยกับคุณวินนี่ค่ะ(คห.ที่23) ดิฉันคิดว่าเป็นการมองต่างมุมของผู้ซื้อผู้ขาย ผู้ขายคิดว่า Take profit ดีกว่าในขณะที่ผู้ซื้อคิดว่าราคาจะไปต่อจึงเข้าไปรับของ ไม่งั้นจะมีคำว่าขายหมูหรือคะ ทั้งนี้ขึ้นกับว่าฝ่ายใดรับรู้ข้อมูลและทำการบ้านมาแน่นหรือไม่ ประทับใจคำพูดของคุณคลายเครียดที่ว่า นักลงทุนต้องมีความรู้ให้พอเพียงกับ ความโลภ ดิฉันเป็นผู้หนึ่งที่มีความโลภค่ะ ถ้าไม่โลภคงไม่ถอนเงินมาเล่นหุ้น (ก็ดอกเบี้ยมันต่ำ-เตี้ยเกินไปหน่อย) ปรากฏว่าเล่นไปๆ ชักมันส์ค่ะ (แม้ว่าตัวเองประสบทั้งภาวะขายหมู และติดดอย) เพราะมีโอกาสค้นข่าวสารข้อมูล และบริหารสมองรวมทั้งฝึกจิตใจ ได้ลุ้นว่าที่เราวิเคราะห์ไว้นั้นถูกต้อง หรือเปล่า แต่ไม่ได้เล่นDay Trade นะคะ เพราะต้องทำงานตามปกติ ถ้าจำไม่ผิด คุณวินนี้เป็นเจ้าของสำนวน "นักลุ้นทุน" ใช่ไหมคะ มีอยู่ช่วงหนึ่ง หุ้นตกมากๆ ดิฉันอ่านเจอสำนวนนี้ หัวเราะชอบใจมากค่ะ เพราะนั่งลุ้นอยู่เหมือนกัน (ตอนนี้พอร์ตยังแดง แต่ถ้าขายหมดทุกตัว ถือว่ามีกำไรเมื่อเทียบกับเงินลงทุน) คงไม่ขายหรอกค่ะ เพราะเล่นหุ้น มันมีอะไรๆที่มากกว่าการลงทุน ปล. ประทับใจคุณวินนี่ที่ EQดี เหมือนเช่นอีกหลายท่านในสินธรสถานแห่งนี้ จากคุณ : Gain - [ 5 ก.ค. 47 17:52:04 A:unknown X:202.12.73.9 ]

ความคิดเห็นที่ 27 EQ พอใช้ได้ค่ะ คุณกินนี่ แต่ IQ นี่ ยอมรับว่าต่ำค่ะ 5555 (ขออนุญาติคุณทองก้อน แอบใช้พื้นที่คุยกะคุณกินนี่ หน่อยนะคะ :) ขอบคุณสำหรับมุมมองดีๆของคุณกินนี่ค่ะ เพิ่งเข้ามาในวงการได้แค่ 4-5 เดือนเองค่ะ นับว่าใหม่มากๆ เล่นเอาเสียค่าเล่าเรียนไปหลายอยู่ค่ะ แหะๆ..แต่ก็ได้อะไรจากมันมากพอสมควร จากคนที่ปิดหูปิดตาต่อข่าวสาร ดูแต่ละครน้ำเน่า กลายเป็นคนที่ "กระหาย" ต่อข่าว ทุกประเภท โดยเฉพาะ ถ้าเป็นข่าวเศรษฐกิจ จะ "กระเหี้ยนกระหือรือ" เป็นพิเศษ (ใช้คำน่ากลัวไปหน่อยมั้ยคะ 555) และที่สำคัญ มันเป็นการ "ฝึกฝนจิตใจ" ที่ดีอย่างหนึ่งเลย ค่ะ ถ้าเราสามารถดูราคาหุ้นที่ขึ้น-ลงด้วยจิตใจที่สงบนิ่งได้ ต่อไป ไม่ว่าเราจะเจอเหตุการณ์ที่พลิกผันขนาดไหน เราจะได้ตั้งรับมันได้อย่างมีสติ เพราะ.. ...หนักกว่าเธอก็เจอมาแล้ว...55555 แต่ยอมรับว่าแรกๆ ก็เต้นตามมันอยู่ค่ะ (ไม่เชื่อ ถามคุณหมอวีคดูได้ค่ะ..555) นอนหลับมั่งไม่หลับมั่ง เด๋วนี้ดีขึ้นแยะค่ะ (แน่ะ ...ชมตัวเองซะ) หลับได้ทุกสถานการณ์ แม้วันแดงมาก...ชินซะแล้วค่ะ อิๆๆๆ ถึงตอนนี้ในปอดน้อยจะลบไป 15 % แล้ว แต่ก็ยังยิ้มได้ค่ะ.. (ถึงจะดูซีดเซียวไปหน่อยก็เหอะค่ะ อิๆๆ) กล. เท่าที่ได้ฟังมา เชื่อว่า คุณกินนี่ ก็เป็นอีกคนหนึ่งค่ะ ที่มีทั้ง IQ &EQ และที่สำคัญ สามารถควบคุมความโลภให้ พอเพียงกะความรู้ที่มีอยู่ได้ (รึอาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ) ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับไอเดียดีๆเช่นนี้...สวัสดีค่ะ จากคุณ : enokwan - [ 6 ก.ค. 47 00:48:48 ]