ความคิดเห็นที่ 1
<< อรุณสวัสดิ์ยามเช้าครับ >>
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ...ถ้าเป็นผมนะ จะขายทุกๆ 2 ช่อง ที่มันลงไป
กรณีที่มันลงลูกเดียว
สมมุติ ลงทุนเริ่มต้น 200,449.40 บาท บวกคอมและภาษีแล้ว ซื้อหุ้น 10000 ที่ราคา 20 บาท และไม่เหลือเงินสด
หากมันลง ก็เริ่มขายทุก 2 ช่อง
19.8 ขาย 1000 19.6 ขาย 1000
หากมันเด้งมาที่ 19.7 ก็ไม่ต้องทำอะไร หากลงอีก ก็ขายต่อ
19.4 ขาย 1000 19.2 ขาย 1000 19.0 ขาย 1000 คงเหลือหุ้น 5000 18.8 ขาย 1000 18.6 ขาย 1000 18.4 ขาย 1000 18.2 ขาย 1000 18.0 ขาย 1000 หมด
ที่เหลือก็ นั่งภาวนา ให้มันลงเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี ถ้าลงไปถึง 17.5 แล้วมันเริ่มหันขึ้น ก็จะรอให้ขึ้นซัก 3 ช่อง และซื้อกลับคืน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน สมมุติว่าสามารถซื้อกลับคืนได้ทั้งหมด
17.8 ซื้อ 10000 ( ซื้อคืนในส่วนที่ขายไป ที่ราคา 18.0-19.8) ตรงนี้จะได้กระแสเงินสดแฝง หักคอมและภาษีแล้ว 10175.35 บาท
เท่ากับว่าตอนนี้มีหุ้นเหลืออยู่ 10000 หุ้นเท่าเดิม ที่ราคา 17.8 คิดเป็นมูลค่าแล้ว เหลือเพียง 178000 บาท
แต่มีเงินสดเพิ่มขึ้นมา 10175.35 บาท และจะเอาส่วนนี้มาซื้อหุ้นเพิ่ม ที่ราคาซื้อกลับคืนนี้เช่นเดียวกัน
17.8 ซื้อ 500 หุ้น (หักคอมและภาษีแล้ว เหลือเงินสดอีก 1255.35)
สรุปตอนนี้ มีหุ้นทั้งหมด 10500 หุ้น และเงินสด 1255.35 บาท รวมมูลค่าหุ้น(17.8)และเงินสด = 188155.35 บาท
แต่ถ้าคิดที่หุ้นราคา 20 บาท ตอนเริ่มต้น ก็จะมีมูลค่า = 211,255.35 แต่ตรงนี้ไม่ได้สำคัญครับ มันสำคัญตรงที่ เราได้กระแสเงินสดแฝง ที่มันทำให้ เราได้หุ้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดของพอร์ตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แม้มูลค่าหุ้นจะลดลง
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้สนใจมูลค่าของพอร์ต แต่ให้ความสำคัญที่ขนาดของมัน
จากหุ้น 10000 อาจเพิ่มเป็น 15000 และทวีคูณไปเรื่อยๆ
ราคาที่ 20 บาท x 15000 = 300,000 บาท ครับ
ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ด้วยครับ
ส่งการบ้านให้ครูเด่นศรีครับ ด้วยความนับถือ...
จากคุณ :
Teerasae
- [
6 ส.ค. 47 07:17:19
]
|
|
|