PANTIP.COM : I3078652 คุยโขมงหุ้นไทยในสินธรภาคบ่าย ประจำวันที่ 21-10-47 ตอน เฮียปลาสบายคนเดียว{แตกประเด็นจาก I3077957} [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 2

ดัชนี nasdaq ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 3 จุด

ดัชนี nasdaq ล่วงหน้า วันที่ 21/10/47เวลา 11.53 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 1,455.5 จุด เพิ่มขึ้น 3 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1,453.0 จุด และปิดตลาด ครั้งก่อนที่ระดับ 1,452.5 จุด

นายกฯเชื่อการขึ้นราคาเบนซินไม่ส่งผลกับราคาสินค้า

นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าการปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน ไม่ส่งผลกระทบกับราคาสินค้า ในประเทศ

พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประกาศลอยตัวราคาน้ำมัน เบนซิน ให้เป็นไปตามกลไกตลาดโลก ส่วนน้ำมันดีเซลยังคงตรึงราคาต่อไปเพราะไม่ต้องการให้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ว่า ในการประชุม เอเปค เดือนหน้าที่ประเทศชิลี จะเรียกร้องให้ ประเทศร่ำรวยพิจารณา ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศยากจน จากการเก็งกำไรราคาน้ำมัน

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่า การที่รัฐยังตรึงราคาน้ำมันดีเซลจะไม่ส่งผล กระทบต่อราคาสินค้า แม้ว่าทางผู้ประกอบการเตรียมจะปรับเพิ่มราคาสินค้าก็ตาม ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ตลาดหุ้นฮ่องกง : ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดเช้าบวก 2.39 จุด

ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดภาคเช้าที่ระดับ 13001.52 จุด เพิ่มขึ้น 2.39 จุด

ตลาดหุ้นสิงคโปร์ : ดัชนีสเตรทส์ไทม์ ปิดเช้าบวก 12.22 จุด

ดัชนีสเตรทส์ไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดภาคเช้าที่ 1965.22 จุด เพิ่มขึ้น 12.22 จุด

ตลาดหุ้นมาเลย์ : ดัชนีคอมโพสิต ปิดตลาดเช้าบวก 0.87 จุด

ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นมาเลย์ ปิดภาคเช้าที่ระดับ 849.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.87 จุด

นายแบงก์เผยลอยตัวดีเซลปีหน้า ไม่กระทบลูกค้าจนมีผลต่อหนี้NPLของแบงก์

นายแบงก์-นักวิเคราะห์ เชื่อผลการลอยตัวน้ำมันดีเซลปีหน้าไม่กระทบต่อหนี้ NPLของแบงก์ เนื่องจากมีสัดส่วนต่ำกว่า 10% แต่ยอมรับทำให้ผลประกอบการบริษัทลด ลงบ้าง

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงการลอยตัวน้ำมันดีเซลของรัฐบาลในปีหน้าว่าผลจากการลอยตัวน้ำมันทำ ให้ต้นทุนของผู้ประกอบการปรับเพิ่มขึ้นบ้างตามประเภทของธุรกิจ แต่หากพิจารณาจากภาวะ เศรษฐกิจโดยรวมที่ยังมีการขยายตัว ก็จะทำให้ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นลดลง

นายชาติชาย กล่าวว่า ลูกค้าที่จะได้รับผลกระทบมากได้แก่ ลูกค้าอุตสาหกรรมลูกค้าที่ เกี่ยวกับขนส่ง และธุรกิจที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรซึ่งในส่วนของธุรกิจสินค้าเกษตรเป็นลูกค้าที่ ธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อมากที่สุดในระบบ แต่เนื่องจากในปีหน้าราคาสินค้าเกษตรยังมีแนวโน้ม ที่เติบโตดี ทำให้ต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นไม่มีผลกระทบมากนัก

“ในส่วนของการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลจะกระทบต่อลูกค้าของแบงก์มากน้อยแค่ไหนคง ต้องไปดูสัดส่วนของต้นทุนน้ำมัน แต่เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวไม่เป็นต้นทุนหลักที่ทำให้หนี้NPLของ แบงก์เพิ่มขึ้นและหากเศรษฐกิจยังเติบโตดีก็จะช่วยรับผลกระทบได้ระดับหนึ่ง” นายชาติชาย กล่าว

ด้านนายกวีชูกิจเกษมหัวหน้าหน่วยงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน จำกัด กล่าวถึง การลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อหนี้NPLของธนาคาร เนื่องจากต้นทุน น้ำมันไม่ใช่ปัจจัยใหญ่ โดยมีสัดส่วนเฉลี่ยต่ำกว่า 10% นอกจากนี้ก่อนที่ทางการจะประกาศลอย ตัวน้ำมันคงต้องพิจารณาถึงผลกระทบเป็นอย่างดีแล้ว

“ผลจากการประกาศลอยตัวน้ำมันดีเซลของรัฐบาลจะทำให้ผลประกอบการของบริษัท ปรับลดลงบ้าง แต่ไม่มากจนทำให้ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้กับธนาคารได้ และน้ำมันก็ เป็นต้นทุนส่วนหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่ต้นทุนใหญ่” นายกวีกล่าว

ข้อมูลหลักจาก efinancethai.net

จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 21 ต.ค. 47 12:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23

เห็นเงียบ ๆ กัน ฝากบทความเรื่อง As Islam Catches you มาให้อ่านเล่น ๆ
เป็นบทความจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการฉบับเมื่อวานนี้ เท็จจริงอย่างไร ให้ไปถามคำนูน สิทธิสมานเอาเอง

เดือนรอมฎอน -- ระวัง As Islam Catches You !

ความจริงบางส่วนเกี่ยวกับสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงถูกปกปิดไว้ ส่งผลให้ทั้งประเทศชาติ รัฐบาล และประชาชน กำลังเสียหายอย่างยับเยิน

....ก่อนที่นายดุษฎีบุญ ฤทธิ์สุนทร นักศึกษาปีที่ 2 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มอ.ปัตตานี จะถูกสังหารประมาณ 1 สัปดาห์ ได้เกิดเหตุนักศึกษาไทยพุทธถูกฟันเข้าที่กลางหลังในบริเวณมหาวิทยาลัย

....ตามมาด้วยการทิ้งใบปลิวขู่เอาชีวิตนักศึกษามอ.ปัตตานีที่นับถือศาสนาพุทธ

ทั้ง 2 เหตุการณ์ถูกเก็บเป็นความลับดำมืดมาจนทุกวันนี้

หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีสำเหนียกแม้เพียงน้อยนิด ดุษฎีบุญ ฤทธิ์สุนทรก็อาจไม่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสถานการณ์ที่เลยขั้นวิกฤตไปไกลโข

ผลที่ตามมาอย่างชัดเจนคือเกิดความตื่นตัว ตื่นเต้น และตื่นกลัว ในวงกว้าง

การที่นักศึกษาคณาจารย์ต่างหวาดกลัวหาใช่ไร้เหตุผล เป็นเพราะมีการสังหารตามที่มีการขู่ไว้ล่วงหน้าเกิดขึ้นจริง ๆ

เช่นเดียวกับข่าวคราวการตายรายวันของประชาชนที่ถูกอธิบายความว่าเป็นผู้บริสุทธิ์นั้น แท้จริงแล้วหลายราย เป็นสายลับของหน่วยงานที่ทำงานด้านการข่าว แฝงตัวเป็นพ่อค้าในหลายรูปแบบเข้าไปหาข่าวในพื้นที่ แต่ด้วยความเป็นมือสมัครเล่น อ่อนหัด และถูกกดดันจากผู้เป็นนายอย่างหนัก ในที่สุดก็พลาดท่า เสียลับ ถูกจับได้ และโดนฆ่าทิ้งในที่สุด

การลอบสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ก่อการก็เลือกเฉพาะบุคคลที่เคยมีภาพก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชน หรือไม่ก็เป็นพวกที่ทำหน้าที่หาข่าวในพื้นที่

ผู้ก่อการในขบวนนี้ไม่ “กระจอก” เหมือนที่คิดกัน !

พวกเขามีเป้าสังหาร

ตำรวจทุกนายมิได้เป็นเป้าหมาย ตำรวจจากภาคอื่นที่ถูกส่งลงไปต่างได้รับการยอมรับจากพี่น้องมุสลิมในพื้นที่เป็นอย่างดี เพราะพวกเขาอ่อนน้อมถ่อมตน ให้ความเคารพ และใช้ปิยะวาจากับพี่น้องต่างศาสนา ผิดกับการปฏิบัติตนของตำรวจในพื้นที่อย่างเทียบกันไม่ได้เลย

คนมุสลิมก็ตกเป็นเป้าสังหารจากกลุ่มก่อการ เพราะเป็นสายลับให้กับหน่วยข่าวสารพัดหน่วยในพื้นที่

สายข่าวที่ปิดลับในพื้นที่ ในที่สุดก็เสียลับด้วยน้ำมือของเจ้าหน้าที่ข่าวที่ต่างฝ่ายต่างชิงดีชิงเด่น แย่งชิงกันหาข่าวจากแหล่งข่าวคนเดียวกัน

การตายของสายข่าวทั้งที่เป็นตำรวจ ประชาชนทั้งไทยพุทธและมุสลิม นับร้อย ไม่เห็นมีใครกล้าประกาศตัวออกมารับผิดชอบ เปิดเผยความจริงกับสาธารณะ

แต่การตายของดุษฎีบุญ ฤทธิ์สุนทรต้องไม่ปล่อยให้เงียบหายไป ต้องมีการสอบสวนให้กระจ่างชัด หาผู้รับผิดชอบให้ได้ ทั้ง ๆ ที่มีการข่มขู่ด้วยใบปลิวก่อนหน้านี้ว่าจะฆ่านักศึกษาไทยพุทธเป็นการแก้แค้น แต่ไม่มีการเตรียมการป้องกัน ไม่แจ้งเตือนให้นักศึกษาทราบ

ยุทธการใบปลิวข่มขู่มุ่งหมายเอาชีวิตเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนทางการจะไม่ค่อยใส่ใจต่อ “รหัส” ที่กลุ่มก่อการส่งมาถึงล่วงหน้า

ก่อนการไล่ฆ่าตำรวจ 2 นายติดต่อกันในเขตอำเภอปานาเระ ในช่วงวันที่ 6- 7 ตุลาคม ก็มีการทิ้งใบปลิวขู่ฆ่าเช่นกัน

ใบปลิวข่มขู่คนมุสลิมก่อนหน้านี้ระบุอย่างชัดเจน ห้ามคนมุสลิมเกี่ยวข้องและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ หากใครเข้าไปเกี่ยวข้องจะถือเป็น ”มูนาฟิกส์” (munaafig = คนมุสลิมที่ทรยศต่อศาสนาอิสลาม)

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ใน “คัมภีร์มรณะ” ที่พบจากศพผู้ก่อการในเหตุการณ์ 28 เมษายน 2547 ก็ได้กล่าวถึง “มูนาฟิกส์” อย่างละเอียด

อันที่จริง เป็นความผิดพลาดที่ภาครัฐพยายามอธิบายว่าเป็น ”คัมภีร์มรณะ” ทั้งที่ข้อเท็จจริงมันเป็น “คู่มือการต่อสู้ของขบวนการมุสลิมจารีตนิยม” โดยตรง !

“เปาะสี” ผู้เขียนคู่มือดังกล่าว นำความบางส่วนมาจากข้อเขียนของ “อิบนิ ตัยมียะฮ์” นักคิดคนสำคัญคนหนึ่งในขบวนการมุสลิมแนวจารีตนิยม

อิบนิ ตัยมียะฮ์ ได้อรรถาธิบายความ (tafsir) คำสอนในอัล-กุรอานเพื่อการฟื้นฟูอิสลาม

อิบนิ ตัยมียะฮ์ ในโลกมุสลิมจารีตนิยม มีสถานะไม่ต่างไปจาก คาร์ล มาร์กซ์, เฟรดริค เองเกล, วี.ไอ. เลนิน และเหมาเจ๋อตง แห่งขบวนคอมมิวนิสต์ในอดีต แต่อิสลามไม่ใช่คอมมิวนิสต์ อิสลามเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่คอมมิวนิสต์เชื่อในมนุษย์ที่เป็นชนชั้นกรรมาชีพ

“ญีฮาด” ในอัฟกานิสถานคือบทพิสูจน์ชัยชนะของโลกมุสลิมที่มีต่อคอมมิวนิสต์รัสเซีย
การใช้กรอบแนวความคิดและประสบการณ์จากยุคสงครามเย็นยุคเก่าเท่านั้นมาเป็นแนวทางแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้นั้นต้องพึงระวัง เพราะ 10 เดือนที่ผ่านมาได้อธิบายตัวของมันเองแล้วอย่างชัดเจนว่าล้มเหลวไม่เป็นท่า

กลุ่มที่ก่อการมิใช่คนในขบวนแบ่งแยกดินแดนยุคเก่าอีกต่อไปแล้ว แท้จริงบางกลุ่มพังไปแล้ว บางกลุ่มมีอยู่แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากมวลชน บางกลุ่มปรับตัวไปตามกระแสโลก ขบวนพูโลก็ได้บอกไว้ใน website ของเขาอย่างชัดเจนว่ากลุ่มใดที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในขณะนี้ และพูโลเองมีจุดยืนต่อกลุ่มนี้อย่างไร

หากคนในขบวนเก่ายังคงอิทธิพลอยู่ตามที่ “อำนาจรัฐที่ 2” ปั้นน้ำเป็นตัว คำถามคือแล้วทำไมเจาะเข้าไปไม่ได้ ทั้งที่ในอดีตทำสำเร็จมาแล้วด้วยยุทธวิธี ”ใช้โจรจับโจร” คือส่งคนแอบแฝงเข้าไป

ปฏิบัติการเมื่อวันที่ 12 ต่อเนื่อง 13 ตุลาคม 2547 เป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งที่ล้มล้างความเชื่อของอำนาจรัฐที่ 2 ที่พยายามจะอธิบายว่ากลุ่ม 28 เมษายน 2547 เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อความไม่สงบทั้งปวง

เพราะไม่พยายามเข้าใจอะไรที่เป็นจริง ไม่เข้าใจประวัติศาสตร์และผู้คนในประเทศ ไม่สนใจความคิดต่าง ๆ จากมุมอื่นของโลก ผลก็คือสิ่งที่อยากจะเรียกขานว่า...
As Islam Catches You !

กล่าวเฉพาะสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ “เดือนรอมฎอน” เคลื่อนตัวเข้ามาเยือน

การที่อำนาจรัฐที่ 2 พยายามอธิบายว่าสถานการณ์ความรุนแรงน่าจะยุติลงชั่วคราวนั้น ถือว่าขาดความรู้ ขาดสติ ทำให้ตกอยู่ในสภาพเสมือนไร้เดียงสา

รอมฎอนมิใช่เดือนที่ไร้ซึ่งสงคราม

ในประวัติศาสตร์อิสลาม รอมฎอนเป็นเดือนที่มีสงครามและการสู้รบที่สำคัญหลายครั้ง โดยเฉพาะในวันที่ 20 ของเดือนรอมฎอน เป็นวันที่ศาสดานำทัพบุกยึดนครศักดิ์สิทธิ์มักกะฮ์ โดยปราศจากการนองเลือด และถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของอิสลาม

เดือนรอมฎอนทั้งเดือนของปี 2547 นี้จะเป็นบททดสอบครั้งสำคัญอีกครั้งระหว่างกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย

จากคุณ : มะเดี่ยว - [ 21 ต.ค. 47 15:33:24 A:61.90.25.197 X: TicketID:041524 ]