ความคิดเห็นที่ 1 *** ข่าวประกอบกระทู้โหวต **** "สมคิด"สั่งสรรพากรศึกษาภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 ตุลาคม 2547 19:11 น. รมว.คลังสั่งให้กรมสรรพากรทำการศึกษาโครงสร้างเงินฝากของระบบ เพื่อต้องการลดภาระดอกเบี้ยให้กับผู้ที่มีรายได้ในการดำรงชีพจากดอกเบี้ยเงินฝาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ทำการลดหย่อนภาษีให้กับประชาชนหลายประเภท โดยเฉพาะการลดภาระให้กับผู้มีรายได้น้อย ดังนั้น จึงได้สั่งการให้กรมสรรพากร ไปทำการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการลดภาระให้กับผู้ที่มีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากเป็นหลัก ซึ่งเดิมกระทรวงการคลังกำหนดให้ผู้ที่มีรายได้จากดอกเบี้ยไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษีร้อยละ 15 ดังนั้น จึงให้คณะทำงานและกรมสรรพากรไปดูโครงสร้างเงินฝากของระบบใหม่ เพื่อดูว่ารายได้ภาษีที่จากกลุ่มคนเหล่านั้น มากน้อยขนาดไหน เนื่องจากในปัจจุบันคนที่มีบัญชีเงินฝากเงินในระบบถึงร้อยละ 80 ได้ครอบคลุมยอดเงินฝากเพียงร้อยละ 20 แต่ปริมาณเงินฝากจำนวนมากกลับมาจากคนรวย ทั้งนี้เพื่อต้องการให้คนที่มีเงินฝากจำนวนมากควรเสียภาษีมาก แต่ผู้ที่มีรายได้หลักจากดอกเบี้ยที่ไม่สูงมากนัก ก็ควรได้รับการยกเว้น โดยคาดว่าจะสรุปหลักเกณฑ์ทั้งหมดได้ในเร็วๆ นี้ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี “การที่รัฐบาลได้ทำการผ่อนปรนภาษีหลายประเภทในขณะนี้ เพื่อต้องการให้ระบบการจัดเก็บภาษีมีความเป็นธรรม และเชื่อว่าจะไม่ทำให้ระบบการจัดเก็บภาษีมีความเบี่ยงเบน เพราะธุรกิจขนาดใหญ่ หรือผู้ที่มีรายได้สูง ก็ควรเป็นผู้เสียภาษีมาก และรัฐบาลก็จะหาทางช่วยเหลือภาคเอกชน และภาคเอกชนก็ต้องมาช่วยสังคมด้วย เนื่องจากที่ผ่านระบบการจัดเก็บภาษียังไม่เป็นธรรม ดังนั้นจึงต้องทยอยแก้ไขอีกหลายด้าน” นายสมคิด กล่าว จากคุณ : PANTIP CREW - [ 29 ต.ค. 47 18:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใจจริง ๆ อยากตอบว่า ไปลงทุนอย่างอื่นแทน มากกว่าอ่ะค่ะ จากคุณ : Yutaka (Real) - [ 29 ต.ค. 47 19:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ดีครับ ผมประหยัดได้ปีหนึ่ง 5 พัน เอาไปฝากธนาคารเก็บออมเอาไว้ จากคุณ : Satid (ขาจร...ขอแจม) - [ 29 ต.ค. 47 22:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 (หลังเลือกตั้ง)อะป่าว จากคุณ : Tan NB - [ 30 ต.ค. 47 05:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ... ถึงยกเว้นภาษี แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมันก็ไม่ค่อย จูงใจให้ฝากสักเท่าไหร่น่ะครับ เอาเงินไปลงอย่างอื่นดีกว่า จากคุณ : Mr. Fusion - [ 30 ต.ค. 47 10:47:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การออมเงินมีหลายลักษณะ ในภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำมาก เช่นนี้ควรออมในรูปแบบ...สะสมทุนดูจะคุ้มค่ามากกว่า จากคุณ : วเนจรป่าคอนกรีต - [ 30 ต.ค. 47 12:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น่าจะจูงใจให้คนหันมาออมเงินกันมากขึ้นนะคะ แต่คงยกเว้นคนแถวๆนี้ที่มีทางเลือกอื่นที่น่าสนใจกว่าอยู่แล้วน่ะค่ะ จากคุณ : enokwan - [ 30 ต.ค. 47 15:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น่าสนใจครับ จากคุณ : ผมร้อยตำรวจเอกสมชายปลอมตัวมา - [ 30 ต.ค. 47 21:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าลดภาษีให้ แต่ดอกเบี้ยกับอัตราเงินเฝ้อมันพอ ๆ กัน ผมว่าผมเอาเงินไปลงทุนดีกว่าครับ จากคุณ : Neomaster - [ 31 ต.ค. 47 00:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอาเงินไปซื้อทองคำแท่งดีก่า (ถ้ามีเงินนะ) จากคุณ : i.d. - [ 31 ต.ค. 47 16:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความยุติธรรมคือ ใครลงแรงลงทุนสร้างหรือผลิตอะไรขึ้นมา สิ่งนั้นก็ควรเป็นของผู้นั้น จะซื้อขายแลกเปลี่ยนกับใคร หรือจะยกให้ใคร ก็ควรมีสิทธิ์ทำได้เต็มที่ แต่ละบุคคลทำ แต่ละบุคคลก็ควรได้ ไม่ใช่เอาไปให้ส่วนรวม ถ้าส่วนรวมเป็นผู้ก่อ ส่วนรวมก็ควรได้ ไม่ใช่เอาไปเป็นส่วนตัว เจ้าของที่ดินไม่ได้สร้างที่ดินขึ้นมาสักหน่อย ราคาที่ดินก็ไม่ได้เกิดจากการกระทำของเจ้าของที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินว่างๆ ในเมือง แต่ราคาสูงลิ่ว แต่เกิดจากการมารวมตัวกันของประชากร บริการของรัฐที่ได้จาก ภาษีอากร มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้เมืองน่าอยู่น่ามาประกอบอาชีพ ต่างหาก ถ้ารัฐ (แทนส่วนรวม) เก็บภาษีที่ดินเท่าค่าเช่าศักย์ แทนที่จะปล่อยให้เจ้าของที่ดินแต่ละคนได้ไป ก็จะสามารถเลิก/ลดภาษีอื่นๆ ที่เก็บจากรายได้ของแต่ละบุคคลหรือที่ไปเพิ่มต้นทุนการผลิต แรงงานและนายทุนก็จะไม่ต้องถูกหักภาษีรายได้และได้ซื้อสินค้าราคาถูกลง เท่ากับมีรายได้เพิ่มขึ้น ยิ่งกว่านั้น ในระบบทุนนิยมปัจจุบัน เอกชนพากันเก็งกำไรแสวงหาสะสมเก็บกักปิดกั้นที่ดิน ทำให้ที่ดินมีราคา/ค่าเช่าสูงเกินจริง และที่ดินของประเทศก็เสมือนว่ามีน้อยลง แรงงานและทุนหางานทำได้ยากขึ้น เกิดการว่างงานมากขึ้น ค่าแรงต่ำลง ผลผลิตก็น้อย ความอยู่ดีกินดีก็ลด ในสภาพเช่นนี้ คนงานย่อมเดือดร้อน ขาดอำนาจต่อรอง ต้องไขว่คว้าหางานทำไว้ก่อน เพื่อมิให้ตนเองอดตาย นายทุนจึงได้โอกาสขูดรีดแรงงาน เป็นการซ้ำเติมต่อจากการปล่อยให้เอกชนเจ้าของที่ดินได้ประโยชน์จากที่ดินไป ถ้าไม่มีเหตุเดือดร้อนจากการปล่อยให้ชนชั้นเจ้าของที่ดินได้ประโยชน์ไปเฉยๆ ซึ่งกลับก่อผลร้ายมากขึ้นด้วยการเก็งกำไรสะสมที่ดินกันเป็นการกว้างขวางทั่วไป การขูดรีดซ้ำสองจากนายทุนก็จะเป็นไปได้ยาก. จากคุณ : สุธน หิญ - [ 31 ต.ค. 47 21:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (ดอกที่ธนาคารให้ลบด้วยอัตราเงินเฟ้อ) ติดลบครับ แปลว่า ที่ฝากเงินทุกวันนี้น่ะ "ขาดทุน" ถึงจะลดภาษีก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากหรอกครับ จากคุณ : เอ (@power) - [ 1 พ.ย. 47 01:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้ารัฐ (แทนส่วนรวม) เก็บภาษีที่ดินเท่าค่าเช่าศักย์ แทนที่จะปล่อยให้เจ้าของที่ดิน แต่ละคน ได้ไป ก็จะสามารถเลิก/ลดภาษีอื่นๆ ที่เก็บจากรายได้ของแต่ละบุคคลหรือที่ไปเพิ่มต้นทุนการผลิต แรงงานและนายทุนก็จะไม่ต้องถูกหักภาษีรายได้และได้ซื้อสินค้าราคาถูกลง เกิดภาวะตรงข้ามกับเงินเฟ้อ จากคุณ : สุธน หิญ - [ 1 พ.ย. 47 06:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ที่จริงภาษีที่เรียกเก็บจากดอกเบี้ยเงินฝากนั้นเป็นภาษีซ้อนภาษี กล่าวคือ เงินออมที่คนนำเอาไปฝากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ เป็นเงินได้หลังหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปรอบหนึ่งแล้ว เอาเงินไปฝากรัฐยังตามมาหักเอาเสียอีกร้อยละสิบห้าจากดอกเบี้ยที่ได้ จริงอยู่เมื่อก่อนดอกเบี้ยร้อยละสิบหกสิบเจ็ด ก็พอได้เป็นกอบเป็นกำทั้งคนฝากเงินทั้งคนเก็บภาษี แต่เดี๋ยวนี้ดอกเบี้ยลดลงเหลือร้อยละไม่ถึงสอง เก็บไปก็ไลฟ์บอย เสียความรู้สึกเปล่า ๆ ผู้ปฏิบัติที่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายก็ยุ่งยาก หากเงินฝากนั้นกระจายอยู่ตามสถาบันต่าง ๆ หลายแห่งก็จัดเก็บไม่ได้ หรือได้ก็ไม่ครบถ้วนอยู่ดี เลิกเสียเถิด จากคุณ : หมวยเล็ก - [ 1 พ.ย. 47 06:53:02 A:203.155.162.42 X: TicketID:034764 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คิดว่ามันขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ว่าการที่ลดภาษีเงินฝากเพื่ออะไร ถ้าคนที่มีเงินออมมากก็เหมาะที่จะนำเงินไปลงทุนมากกว่าฝาก แต่ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปก็คงคิดว่ายังออมเหมือนเดิม จากคุณ : ัyaya (Makinaci) - [ 1 พ.ย. 47 16:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยังไม่น่าสนใจอยู่ดี เทียบแล้ว อัตราเงินเฟ้อ ยังมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ฝากไป ก็มีแต่ผลตอบแทนที่ติดลบ ลงทุนอย่างอื่นดีกว่า จากคุณ : อาซิ่ม - [ 1 พ.ย. 47 18:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ จากคุณ : Dr.T - [ 2 พ.ย. 47 21:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบให้ตรงประเด็นก่อน ผมเห็นด้วยครับ แต่นอกประเด็น.. ผมไม่อยากให้เก็บภาษีดอกเบี้ยเลยจริงๆ จากคุณ : aston27 - [ 2 พ.ย. 47 23:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รัฐบาลมีนโยบาย ยกเว้นเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก เห็นด้วยไหม? - เห็นด้วย รัฐบาลมีนโยบาย ยกเว้นเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก (ถ้าดอกเบี้ยไม่เกิน 10,000 บาท) คุณจะหันมาออมเงินมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่? - ไม่เกี่ยว ... หากต่อไปนี้จะออมมากขึ้น หรือ ออมน้อยลง ก็ไม่เกี่ยวกับกรณีของการยกเว้นภาษีทั้งสิ้น ... ถ้ามันจะเกิดขึ้นก็เกิดจากปัจจัยอื่น บอกตรงๆว่า การยกเว้นภาษีเงินฝากนี้ ไม่มีนัยสำคัญทางตัวเลขที่จะทำให้เกิดความดีอกดีใจหรืออะไรทั้งสิ้น เก็บหรือไม่เก็บภาษีส่วนนี้ก็มีค่าไม่ต่างกันเท่าใดนัก (แต่ไม่เก็บก็ดีกว่าแน่ๆ) ทุกวันนี้คนที่มีเงินออมในธนาคารเยอะๆน่ะ ส่วนใหญ่ไม่ได้หวังนอนกินดอกเบี้ยอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปทำอะไรต่างหาก ไอ้รู้น่ะ รู้กันทุกคนว่าดอกเบี้ยมันไม่พอยาไส้ แต่ไม่รู้ว่าจะเอาเงินนั้นไปลงทุนอะไรดี บางคนรู้แต่ก็ไม่กล้า กลัวความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น... คิดแต่ว่า เอาเงินนอนไว้ ถึงดอกเบี้ยจะน้อยนิด แต่ก็ยังดีกว่ามานั่งลุ้นกับความเสี่ยง คือยังพออยู่ได้ด้วยเงินหมุนก้อนอื่นน่ะ เลยเอาเงินฝากเก็บไว้เฉยๆด้วยความหวังลมๆแล้งๆว่าวันหนึ่งดอกเบี้ยเงินฝากจะสูงขึ้นเท่ากับเมื่อ 20 กว่าปีก่อน (ถึงตอนนั้นพวกกู้เงินซื้อบ้าน กู้เงินไปลงทุน อาจจะตายกันเป็นแถว... เพราะถ้าดอกเบี้ยเงินฝากขึ้น ดอกเบี้ยเงินกู้จะขึ้นไปสูงกว่า... สรุปว่าให้ดอกเบี้ยต่ำๆแบบนี้น่ะดีแล้ว คนที่คิดจะเป็นเสือนอนกินต้องยอมรับความจริงก่อนว่า ตอนนี้บ้านเมืองกำลังต้องการผู้ลงทุนให้เกิดการหมุนเวียนของเงินตรา ต้องการผู้คนที่สร้างรายได้ มากกว่าต้องการเสือนอนกินดอกเบี้ยเฉยๆ.... คงอีกนาน กว่าจะถึงวันที่มีเงินฝากแค่สิบล้าน ก็นอนกินดอกเบี้ยสบายไปทั้งปีเหมือนเมื่อก่อน) จากคุณ : อืม - [ 3 พ.ย. 47 17:06:00 A:203.172.89.204 X: TicketID:073105 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนรับเงินเดือนก็หักภาษี เอาเงินไปฝาก ก็หักภาษี โดนภาษีทั้งขึ้นทั้งล่อง ยกเลิกภาษีเงินฝากไปเลยไม่ได้หรือ จากคุณ : โป้งจัง - [ 5 พ.ย. 47 17:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 งั้นไปฝากตังค์กะประกันชีวิตดีก่า .. เงินดีกว่าตั้งเยอะ .. จากคุณ : Vin_Diesel - [ 7 พ.ย. 47 19:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คห. 11, 19 ...คมมาก.. นับถือ...^_^ จากคุณ : Pine leaves - [ 7 พ.ย. 47 19:45:56 ]