CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    n-park กับ นิทาน เจ้าสัว ความเหมือนที่ไม่น่าเชื่อ อ่านไปก็นึกถึง n-park ไป อดไม่ได้ที่จะเอามาให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน

    คืนนี้  เจ้าสัวนอนไม่หลับ   ความจริง  เจ้าสัวนอนไม่หลับ

    มาหลายคืนแล้ว  นับตั้งแต่วันที่ผู้จัดการฝ่ายการเงินบอก

    ว่า     บริษัทของท่านกำลังขาดสภาพคล่อง และภายในสิ้น

    ปีนี้ถ้าท่านไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้ใหม่เข้ามารีไฟแนนซ์

    หุ้นกู้  500  ล้านบาท  ที่กำลังจะครบกำหนด  บริษัท จะมี

    ปัญหาถึงขั้นถูกเจ้าหนี้ฟ้องล้มละลายได้


    ยิ่งคิด  ยิ่งนอนไม่หลับ  เจ้าสัวนึกน้อยใจในโชคชะตา  ว่า

    ทำไมชีวิตตของท่าต้องเป็นเช่นนี้  ท่านยังจำได้ว่าช่วงเศรษฐกิจดีดี  หากบริษัทต้องการเงินสัก 500  ล้านบาท  ท่านเพียงแต่โทรศัพท์ไปคัยกับผู้จัดการใหญ่ของธนาคาร  ปรารภสองสามคำ  ไม่ถึงครึ่ง  หรือหนึ่งชัว่โมง ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อก็รีบมาพบท่านถึงที่บริษัท เสนอช่องทางต่าง ๆ ที่จะระดมเงินไม่ว่าการ od  ธนาคาร  การกู้ระยะยาว  หรือแม้แต่การหาแหล่งเงินกู้จากต่างประเทศ


    แต่เวลานี้  หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ  ท่านเจ้าสัวลงแรงไปพบผู้จัดการใหญ่ที่ธนาคาร  ผู้จัดการใหญ่ได้แต่ส่ายหน้า  พร้อมพูดว่า  ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว  มาระยะหลัง  ผู้จัดการใหญ่ไม่ยอมให้พบ  โดยให้เลขานุการหน้าห้องแจ้งว่าท่านติดประชุม

    เจ้าสัวนึกถึงเรื่องนี้แล้วได้แต่ถอนใจ  แต่ท่านไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา  ท่านคิดว่า  ทรัพย์สินต่าง ๆ ท่านสร้างมากับมือ  ต้องใช้ชั้นเชิง  เล่ห์เหลี่ยม และวิธีการสารพัดกว่าจะได้มา   จะปล่อยให้หลุดมือไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร คิดได้เช่นนั้นแล้ว  สมองอันปราดเปรื่องแกมโมงของท่านก็เริ่มทำงาน


    แหม  ก็ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทกว่า 50 %  อีกทั้งยังกุมอำนาจในการบริหารแบบเบ็ดเสร็จในฐานะประธานกรรมการ  มีลูกชายคนโตเป็นกรรมการผู้จัดการ   เจ้าสัวจึงเริ่มดำเนินการผ่องถ่ายทรัพย์สิน  ด้วยสารพัดวิธี ดังนี้

    1. ขายสินทรัพย์ดีของบริษัทออกไปในราคาถูก ๆ อาจจะเป็น  อาคาร  ที่ดิน หรือหุ้นในบริษัทย่อย  โดยอ้างว่า ธุรกิจนั้นขาดทุนอยู่  ไม่รู้ว่าราคาตลาดอยู่ที่เท่าไร  หรือสมคบกับบริษัทประเมินราคาตีค่าทรัพย์สินเหล่านั้นในราคาถูกแล้วขายให้ตัวแทนของตน  หรือบริษัทอีกแห่งที่ตนมีส่วนได้ส่วนเสียเป็นผู้ได้ประโยชน์ไป

    2.  ซื้อสินทรัพย์เน่าราคาแพงเข้าบริษัท  หากบริษัทยังมีรายได้เข้ามาเทนที่จะนำไปชำระหนี้สิน  เจ้าสัวกลับสั่งให้นำเงินนั้นไปซื้อทรัพย์สินที่ไม่มีความจำเป็นกับธุรกิจ  เช่น หุ้น  ที่ดิน  หรือบริษัท เน่า  ๆ ที่ตน  ถือหุ้นอยู่ 100  %  เข้าบริษัท  เป็นการระบายขายของเสียให้บริษัท  หรืออาจให้บริษัทไปเทคโอเวอร์กิจการที่แพงเกินเหตุ  โดยตนเองได้รับค่านายหน้าในการจัดการให้

    3.  ปล่อยกู้ให้กิจการในเครือ  ที่เจ้าสัวถือหุ้นใหญ่อยู่  หรือตั้งริษัทกระดาษขึ้นบังหน้า  เพื่อขอกู้เงิน  โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน  ทุนจดทะเบียนต่ำไม่มีการประกอบกิจการที่ชัดเจน  แล้วภายหลังแจ้งว่า  ลูกหนี้ขากสภาพคล่องไม่มีความสามารถในการชำระหนี้  บริษัทเลยตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งที่ความจริง  เจ้าสัวรู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่าไม่ได้เงินคืน  เพราะเงินที่ปล่อยกู้  ใช้วิธีจ่ายเช็คเงินสด  โอนถ่ายกันหลายมือหลายทอด  ยากต่อการตรวจสอบ  แต่คงเอาได้ว่า  สุดท้ายเงินตกไปอยู่ในกระเป๋าใคร

    4. เบียดบังทรัพย์สินของบริษัทไปใช้ธุรกิจส่วนตัว  รวมถึงการนำค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจส่วนตัว  เช่น  ค่าเครื่องบิน  ค่าที่พัก  ไปเบิกจากบัญชีบริษัท

    5.  ตั้งบริษัท ส่วนตัว รับช่วงหาประโยชน์  กินหัวคิว  เช่น  รับจัดหาวัตถุดิบให้กับบริษัทแม่  ทั้งที่บริษัทแม่เองก็ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสียกำไรที่ควรได้ให้บริษัทนายหน้าไป

    6.แต่งบัญชีสร้างราคาหุ้น  เพื่อระบายหุ้นออก  เร่งบันทึกกำไร  ชะลอการบัทึกค่าใช้จ่าย สร้างภาพธุรกิจของบริษัทกำลังฟื้นตัว  อาจแถมท้ายด้วยการแจก warrant  ฟรี 4 ต่อ 1 เดิม  เพื่อดึงรายย่อยเข้ามาเก็งกำไร ตนเองจะได้ระบาย  ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

    จากคุณ : bluefay - [ 9 พ.ย. 47 15:59:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป