ความคิดเห็นที่ 4
5. สำหรับเทคนิคคัลนั้น เมื่อก่อนผมคิดว่าต้องยากๆซับซ้อนถึงจะดี แต่ไปๆมาๆขนาดไปเรียนรู้ถึงระบบtrackหุ้นก็แล้ว อีเลียตเวฟชั้นสูงก็แล้ว (คลื่นแทรกใน A B C เค้าเรียกดับเบิ้ล หรือไม่ก็ทริบเปิ้ล wave เช่น A(B(C)) อันนี้ไม่มีในหนังสือtextขายนะครับ เพราะพวกนี้ต้องเข้าคอร์ส ) ไปๆมาๆถึงได้รู้ว่า
ระบบพวกนี้ที่ซับซ้อนเค้ามีไว้ เพื่อให้โมเดลเทรดสู้กับมนุษย์ได้ เวงกรรม ....
สุดท้ายความเข้าใจพื้นฐานธรรมชาติดีสุดครับ แต่เนื่องด้วยมนุษย์ลึกๆแล้ว อยากให้มีคนชื่นชมหรือเข้าใจว่าเราเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ (ตัวอย่างเช่นผมก็ไม่พ้นธรรมชาติมนุษย์ทั่วไป มีคนชมในเว็ปบอร์ดก็แอบชอบใจลึกอยู่เหมือนกันนะครับ) มันเลยเกิดการเรียนหรือนำเสนอสร้างระบบซับซ้อนขึ้นมา ซึ่งทำความเข้าใจยาก ตย.มีให้เห็นเยอะในเรื่องต่างๆ เช่นโมเดล เศรษศาสตร์ที่ซับซ้อน
แต่ถ้าศึกษาจากประวัติบุคคลที่ประสบความสำเร็จหลายๆคน ผมเห็นเค้าล้วนใช้วิธีเบสิกมากๆ เช่น อลันกลีน สแปน บางที่คาดการณ์เศรษฐกิจโดยดูปริมาณคลิปกระดาษ หรือ โซรอสขายหุ้นตอนปวดหลังเป็นต้น ผมเลยสรุปและคิดเห็นว่า บางทีการที่เราไม่นำระบบที่ยากซับซ้อน เกินกว่าที่เราจะเข้าใจหรือจะเข้าใจต้องกินเวลานานมาใช้เนี่ย ก็ไม่เห็นเป็นปัญหาเลยจริงมั้ยครับ ตลาดหุ้นเนี่ยเราไม่ต้องไปแสดงให้ใครเห็นว่าเก่งก็ได้
บางคนคิดว่าคนเก่งต้องเล่นได้ขาขึ้นและขาลง เลยพยามเล่นมันหมดเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
แต่สำหรับผมแล้ว ถ้าไม่มีโอกาสหรือผมไม่แน่ใจผมก็จะไม่เล่นครับ ผมยอมให้คนว่าผมว่าเล่นหุ้นไม่ได้ทุกจังหวะ หรือจะว่าอะไรก็แล้วแต่ ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งเหมือนกัน ตามธรรมชาติลึกๆของมนุษย์ที่พยายามจะพิสูจน์ตัวเอง จึงทำให้เกิด error ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ถ้าตัวเองทำตามระบบหรือแผนการ ที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรกก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เช่น การพยายามเอาคืน เวลาพลาดพลั้งไปแล้วเป็นต้น แล้ว loop อารมณ์ตอนต้นก็จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เกิดผลกระทบต่อเป็นลูกโซ่กับการตัดสินใจครั้งต่อไป บางทีผู้คนที่เก๋าๆมีประสบการณ์ในตลาด ก็จะใช้วิธีแก้เช่น ออกจากตลาดสักระยะหนึ่ง ไปหากิจกรรมอย่างอื่นทำแล้วค่อยกลับมาเป็นต้น
สรุปก็คือ พื้นฐานเป็นสิ่งที่สำคัญครับ หากเราเข้าใจพื้นฐานแท้จริง ไม่ต้องกลัวว่าเราจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ เพราะสมองมนุษย์นั้นน่าทึ่งจริงๆครับ ถ้าเราเข้าใจรากฐานมันแล้ว เราก็สามารถต่อยอดความคิดไปแก้ไขปัญหาที่มันซับซ้อนขึ้นไปได้
6. โมเดลอื่นเช่นปัจจัยพื้นฐานนี่ ผมไม่พูดนะครับ เพราะน่าจะพอทำความเข้าใจกันได้ และมีหลายท่านในที่นี้มีประสบการณ์สูง เช่นถือหุ้นต่อสู้กับเจ้าของมานักต่อนักแล้ว หลังจากเรารู้ว่าเทคนิคคัลมีอะไรบ้างแล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้ถึงขั้น high class เราก็น่าจะมีกำลังใจขึ้นมาบ้างแล้วใช่มั้ยครับ เทคนิคคัลพื้นฐาน วางกระบวนการเรียนรู้ไว้ดังนี้ครับ ศึกษาอดีต<---->เรียนรู้ปัจจุบัน<---->ป้องกันอนาคต เริ่มเห็นภาพมั้ยครับว่า เดี๋ยวนี้มันจะกลายเป็นแบบนี้ไปแทน ศึกษาอดีต ------> คาดการณ์อนาคต ....
7. ว่ากันทีและตัวแล้วกันนะครับ,
ศึกษาอดีต---->ก็คือ
การพยามทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่ผ่านมา มีผลอย่างไรก่อให้เกิดภาพกราฟแบบไหน (กราฟจะเป็นเหมือนวิดีโอ บันทึกถึงการกระทำและความรู้สึกของมนุษย์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา) ,
เรียนรู้ปัจจุบัน
(มองดูนะปัจจุบันว่ามันเกิดสถานการณ์แบบไหน มีปัจจัยอะไรบ้าง ก็ให้เกิดภาพกราฟอะไร พอเทียบเคียงกับภาพกราฟในอดีตได้ไหม ),
ป้องกันอนาคตคือ
ปัจจุบัน เมื่อเทียบกับอดีตแล้ว มันจะเกิดเหตุการณ์แบบไหนได้บ้าง เราควรจะทำอย่างไร เมื่อเกิดแต่ละเหตุการณ์ (กลายเป็นศาสตร์ใหม่ของฝรั่งขึ้นมาอีก เรียกว่าหลักการบริหารความเสี่ยง) ต่างกับหลักการเทคนิคคัลฉบับคาดการณ์อนาคตคือ
"เราเห็นอดีตแบบนี้ ปัจจุบันแบบนี้ เราจึงตัดสินใจซื้อหรือขาย ในแบบที่ควรจะเกิดจากอดีตทันที"
ซึ่งระบบจะง่ายและรวดเร็ว แต่ error จะมีมากกว่า และบุคคลที่ใช้ จำเป็นต้องมีระเบียบวินัยสูง
เช่นการเน้นระบบ cut loss เมื่อตัดสินใจพลาด
(จริงๆระบบcut loss มีความจำเป็นในหลายๆระบบ แต่ระบบนี้จะเน้นมากหน่อย เพื่อให้กลับมาสู่ loop การตัดสินใจวิเคราะห์ใหม่ได้) ... เหนื่อยเหมือนกันนะครับเนี่ยการเล่นหุ้น ผมยินดีแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ เพราะการจะที่บุคคลนั้นจะเรียนรู้และสำเร็จได้นั้น ต้องมีความพยายามค่อนข้างสูง ผมถือว่ามันเป็นสิ่งที่ดี ที่เราจะบอกสิ่งที่เราพอรู้บ้าง ให้กับบุคคลที่มีความพยายาม เป็นไกด์ไลน์คร่าวๆได้ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการให้กำลังใจเล็กๆน้อย สำหรับคนที่ต้องเจอมาหนักแล้วกันนะครับ ปล. อย่าถามผมนะครับว่าหุ้นตัวไหนดี ซื้อเมื่อไร ขายเมื่อไร ผมเจอคำถามนี้มาเยอะจริงๆตั้งแต่เป็นวิทยากรเทคนิคคัล เพราะผมจะตอบอยู่เสมอว่าผมไม่รู้อ่ะ งวดนี้พักไว้แค่นี้ก่อนเนอะครับ ยังนึกไม่ออกเลยจะอธิบายกราฟไงดี เอาแต่หลักการไปก่อนเนอะ หยวนๆน่า ไว้ค่อยมาต่อกัน มีไรก็แลกเปลี่ยนความรู้กันผ่านกระทู้ได้ครับ ขอบคุณมากครับที่ทนอ่านมาขนาดนี้
จากคุณ :
คลาย เครียด
- [
10 พ.ย. 47 14:50:35
]
|
|
|