ฟังเรื่องของเขาแล้วรู้สึกเลื่อมใสมากครับ ว่าเขามีทั้งความมุ่งมั่น และไหวพริบทางธุระกิจสูงมากๆ
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่สะดุดใจครับ
คือช่วงที่ฟองสบู่แตก เขาก็โดนเหมือนกัน ธุระกิจหลายๆอย่างที่ไปต่อ ไปขยายไว้ ก็สะดุดลง
และเขาก็ขายเกือบทุกอย่างแบบไม่กลัวขาดทุนเลย(เพราะขาดทุนแน่ๆ)
ทำไมต้องขาย??? ก็เพราะว่า แกมีหนี้อยู่ราว 100 ล้าน ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อเดือน โดนดอกเบี้ยก็เข้าไปราวๆ 2 ล้านบาทต่อเดือนแล้ว...
รายได้จากธุระกิจที่ยังเก็บเงินสดได้ก็มีเพียงเดือนละ ล้านกว่าบาท ที่แกต้องขายสิ่งที่ลงทุน หรือสิ่งฟุ้มเฟือยต่างๆ ไป ก็เพื่อที่จะลดเงินต้น....เพื่อลดดอกเบี้ย...ให้รายได้ที่มีสูงกว่าดอกเบี้ย
จากทั้งหมดที่ผมเห็นคือ ระบบบัญชีครับ
เพราะระบบบัญชีทำให้รู้ว่า ถ้าปล่อยให้ดอกเบี้ยสูงขนาดที่มากกว่ารายได้แล้ว ในที่สุดมันจะกินทุกอย่างไปจนหมด (เขาบอกว่าเป็นงูกินหางตัวเอง)
แกขายทุกอย่าง ทุกราคา (ยังบอกว่า อย่าต่อนะ...เพราะว่าต่อเท่าไหร่ก็ขาย ฮ่า) ขาดทุนเท่าไหร่ขายหมด(ในธุระกิจส่วนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) (ตึกแถวลงทุนไป 40 ล้านเพื่อนต่อ 15 ล้านแกก็ขาย)
แต่ส่วนที่เป็นทรัพย์สิน(ธุระกิจที่ยังคงสร้างรายได้อยู่) ไม่ขายครับ และยังเอาเงินเหลือจากการจ่ายดอกรายเดือนมาลงทุนขยายเพิ่มอีก
ในที่สุดด้วยเวลาแค่ ไม่ถึง 2 ปี ก็สามารถที่จะใช้หนี้จนหมด
ผมคิดว่าเพื่อนๆ พี่ๆที่ได้ดูคงได้อะไรมากกว่านี้อีกเยอะ (ผมว่าผมก็ได้อะไรอย่างอื่นอีกนะ) แต่ว่าวันนี้มะพร้าวห้าวของผมหมดแล้วเอามาขายแค่นี้แล้วกันนะครับ
^_^
จากคุณ :
มือใหม่DSM
- [
14 พ.ย. 47 22:10:42
A:61.91.106.195 X: TicketID:010952
]