ความคิดเห็นที่ 1 มารอฟังจากพี่กุ้งไร้สารด้วยนะคะ *********** สวัสดีค่ะน้อง macro art พี่นำข้อมูลบางส่วนมาให้อ่านนะคะ .... เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง ... ถ้าน้อง macro art เคยอ่านแล้ว ... ก็ต้องขออภัย อยากเป็นส่วนหนึ่ง .... ที่ช่วยเหลือแบ่งปันน่ะค่ะ (อิ อิ ... เพราะน้องช่วยพี่มาก็เยอะ) ****** การเขียนโครงการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน ในการเขียนโครงการขอกู้เงินจากสถาบันการเงินนั้น หลักการเขียนส่วนใหญ่จะเหมือนกัน แต่จะมี รายละเอียดการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกันตามประเภทธุรกิจ ซึ่งสถาบันการเงินต่าง ๆ มักจะแบ่งกลุ่มลูกค้า ออกตามประเภทของธุรกิจที่ลูกค้าประกอบกิจการอยู่ ส่วนใหญ่จะแบ่งออกดังนี้ 1. ประเภทธุรกิจอุตสาหกรรม หมายถึง การดำเนินกิจการที่เปลี่ยนสภาพวัตถุดิบให้เป็นผลิตภัณฑ์ ด้วยมือ หรือเครื่องจักร หรือเคมีภัณฑ์ ตลอดจนการดำเนินงานเกี่ยวกับการประกอบชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น ทั้งนี้รวมถึงธุรกิจอุตสาหกรรมเหมืองแร่ด้วย 2. ประเภทธุรกิจก่อสร้างและขนส่ง จะประกอบด้วย ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจจัดสรรที่อยู่อาศัย รวมถึงธุรกิจที่มีการประมูลทางสร้างถนน เขื่อน เป็นต้น 3. ประเภทธุรกิจสั่งสินค้าเข้า หมายถึง การประกอบกิจการหลักที่เป็นการสั่งสินค้าจากต่างประเทศ เข้ามาจำหน่ายในประเทศ รวมทั้งการเป็นตัวแทนและนายหน้านำสินค้าเข้า อาทิเช่น กิจการนำเข้าเคมีภัณฑ์ กิจการนำเข้าอาวุธสงคราม จำหน่ายให้หน่วยราชการ เป็นต้น 4. ประเภทธุรกิจส่งสินค้าออก หมายถึง การประกอบกิจการหลักเพื่อการส่งสินค้าออกไปจำหน่าย ต่างประเทศ รวมทั้งเป็นตัวแทน และนายหน้าส่งสินค้าออกไปจำหน่ายต่างประเทศ อาทิเช่น บริษัทเทรดดิ้งคอมปานี กิจการส่งออกพืชไร่ เป็นต้น 5. ประเภทธุรกิจการเกษตร หมายถึงการประกอบกิจการเกี่ยวกับการเกษตร ทั้งการประมง กสิกรรมและการเลี้ยงสัตว์ ทั้งในรูปนิติบุคคลและกลุ่มเกษตรกร สามารถแบ่งได้ดังนี้ 5.1 เกษตรกร หมายถึง ผู้ประกอบอาชีพทางการเกษตร คือ กสิกรรม ประมง และการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ เกษตรกร กลุ่มเกษตรสหกรณ์ ที่มีสมาชิกเป็นเกษตรกร และรวมทั้งบุคคลหรือ นิติบุคคล 5.2 ธุรกิจการเกษตร หมายถึง ผู้ประกอบกิจการเกษตรในส่วนที่เป็นปัจจัยที่ใช้ในการผลิตการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ปัจจัยที่ใช้ในการผลิตทางการเกษตร หมายถึง ธุรกิจที่ทำการผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อเป็นปัจจัย ทั้งทางตรงและใกล้ชิดต่อการผลิตทางการเกษตร อาทิเช่น การผลิตรถไถนา การผลิตปุ๋ย การรับจ้างเก็บเกี่ยวผลิตผลทางการเกษตร ฯลฯ อุตสาหกรรมเกษตร หมายถึง อุตสาหกรรมที่ใช้ผลผลิตเบื้องต้นที่เกิดจากผลิตผลทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบในการผลิต เป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 50% ของมูลค่าวัตถุดิบทั้งหมด เช่น โรงสีข้าว โรงงานน้ำตาล โรงงานทำวุ้นเส้น ฯลฯ 6. ประเภทธุรกิจทั่วไป จะประกอบด้วยประเภทธุรกิจค้าส่ง ค้าส่งที่ซื้อจากเกษตรโดยตรง ค้าปลีก สถาบันที่ไม่แสวงหากำไร การเงิน ธุรกิจบริการ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และอื่น ๆ ทั้งนี้ ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ในแต่ละประเภทและแต่ละขนาด จะใช้วงเงิน สินเชื่อไม่เหมือนกันทีเดียว ถ้าหากเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดกลางมักจะใช้วงเงินสินเชื่อพื้นฐานไม่กี่อย่าง แต่ถ้าหากเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มักจะใช้สินเชื่อเกือบทุกประเภทที่ธนาคารมีอยู่ นอกจากนี้ตัวธุรกิจบางครั้งยังก้ำกึ่งกับธุรกิจประเภทอื่น ๆ เช่น ธุรกิจส่งออกหรือธุรกิจนำเข้า เป็นต้น กล่าวโดยภาพรวมแล้ว ต่อไปเราจะต้องพร้อมที่จะเขียน การเขียนไม่ว่าจะเขียนอะไร ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่หนักใจ สำหรับผู้ที่ไม่เคยเขียน จึงขอเสนอวิธีเขียนแบบง่าย ๆ ให้นำไปใช้ได้จริง โดยขอยกตัวอย่างการเขียนโครงการขอกู้เงินของธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถนำไปเป็นตัวอย่างสำหรับธุรกิจของท่านได้ หัวข้อที่ใช้ในการเขียนโครงการขอกู้เงิน 1. หนังสือเสนอขอกู้เงินกับสถาบันการเงิน 2. บทสรุปผู้บริหาร · เป็นการสรุปจากแผนต่าง ๆ ทั้งด้านการตลาด การจัดการ การผลิต และการเงิน เพื่อให้ทราบถึงพันธกิจขององค์กร วัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร พร้อมทั้งแผนที่จะไปสู่เป้าหมายอย่าง ย่อ ๆ ควรจะเขียนเป็นลำดับสุดท้ายโดยสรุปย่อ มีเนื้อหาที่กระชับ มีประเด็นสำคัญครบถ้วน 3. ภาพรวมของกิจการ 3.1 ประวัติความเป็นมาของกิจการ · เป็นการกล่าวถึงแนวความคิดและความเป็นมาของกิจการว่าเกิดได้อย่างไร อะไรคือเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ 3.2 สถานที่ตั้ง · เป็นที่ตั้งของกิจการ หรือโรงงาน พร้อมหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อได้สะดวก 3.3 ผู้ถือหุ้นและผู้บริหาร/ประสบการณ์ของผู้บริหาร · มีใครบ้างเป็นผู้ร่วมทุน จำนวนเงินลงทุน ความสามารถ และความชำนาญงานของแต่ละคน 3.4 การแสดงโครงสร้างองค์กรและผังบริหารองค์กร (ถ้ามี) 3.5 ผลการดำเนินงานในอดีต (ถ้ามี) 4. วัตถุประสงค์ที่จะขอสินเชื่อ 4.1 วงเงินสินเชื่อที่ต้องการ · โดยแยกเป็นประเภทของสินเชื่อ เช่น เงินกู้ เงินทุนหมุนเวียน (O/D) 4.2 จะนำสินเชื่อที่ขอครั้งนี้ไปทำอะไร · เช่น เพื่อซื้อที่ดิน ปรับปรุงอาคารสถานที่ ก่อสร้างอาคาร ซื้อเครื่องจักร 4.3 เงื่อนไขที่ต้องการมีอะไรบ้าง · เช่น ระยะเวลาการชำระคืน อัตราดอกเบี้ย 4.4 หลักประกันที่เสนอ · รายละเอียดหลักประกัน · มูลค่าหลักประกัน 5. ลักษณะและโครงสร้างธุรกิจ 5.1 สินค้าและบริการมีอะไรบ้าง 5.2 การตลาด การจำหน่ายในประเทศ ต่างจังหวัดหรือกรุงเทพฯ เป็นสัดส่วนเท่าใด ระยะเวลาการให้เครดิตกี่วัน หรือถ้าเป็นการจำหน่ายต่างประเทศ กลุ่มประเทศแถบใด วิธีการจำหน่ายโดยการให้ลูกค้าเปิด L/C หรือ Open Account ระยะเวลาการให้เครดิตกี่วัน 5.3 ตลาดเป้าหมายที่ต้องการขยายเพิ่มขึ้น · กลุ่มลูกค้า · ขนาดของตลาด ความต้องการ ภาวะการผลิต · ตำแหน่งทางการตลาด · กลยุทธ์และแผนการตลาด 5.4 การวิเคราะห์อุตสาหกรรม 5.5 คู่แข่งขัน 6. ลักษณะของโรงงานและแผนการผลิต 6.1 ที่ตั้ง เนื้อที่ดิน ผู้ถือกรรมสิทธิ์ 6.2 การวางผังโรงงาน นอกอาคาร/ในอาคาร 6.3 เครื่องจักร อุปกรณ์การผลิต ประสิทธิภาพเครื่องจักร เก่า-ใหม่ แหล่งผลิต 6.4 อาคาร สิ่งก่อสร้าง และสำนักงาน ขนาดเนื้อที่ ถาวร--ชั่วคราว เก่า-ใหม่ 6.5 ผังการบริหารในการผลิต 6.6 แผนการดำเนินการ 6.7 กำลังการผลิต ปัจจุบันผลิตเต็มกำลังการผลิตหรือยัง 6.8 เทคนิคการผลิตได้มาจากไหน/กรรมวิธีในการผลิต 6.9 แรงงานมีจำนวนเท่าใด โครงสร้างแรงงาน มีสหภาพแรงงานหรือไม่ 7. ข้อมูลทางการเงิน เพื่อศึกษางบทางการเงินต่าง ๆ ดูผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและน่าจะมีความเป็นไปได้ในอนาคต ข้อมูลทางการเงินจะต้องใช้ความระมัดระวังในการประมาณการให้สอดคล้องกับการขอวงเงินสินเชื่อ 7.1 งบดุล – งบกำไรขาดทุน (ย้อนหลัง 3 ปี) (ถ้ามี) 7.2 ประมาณการทางการเงินของโครงการ 7.3 การวิเคราะห์การลงทุนของโครงการ 7.4 งบกระแสเงินสด 7.5 การวิเคราะห์ระยะเวลาคืนทุน 7.6 การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน 7.7 การวิเคราะห์มูลค่าปัจจุบันสุทธิ 7.8 การวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนของการลงทุน 8. รายละเอียดการใช้บัญชีต่าง ๆ เป็นการให้ข้อมูลต่อผู้วิเคราะห์ของสถาบันการเงินแสดงความจริงใจ เปิดเผยข้อมูลไม่ปิดบังสามารถตรวจสอบได้ 8.1 ชื่อสถาบันการเงินที่เดินบัญชีทุกแห่ง พร้อมทั้งการเคลื่อนไหวทางการบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน 8.2 รายละเอียดวงเงินสินเชื่อที่มีอยู่ / เงื่อนไข / หลักประกันกับสถาบันการเงินนั้น 9. ภาคผนวก 9.1 ข้อมูลลูกค้า ประกอบด้วย · ข้อมูลลูกค้ารายใหญ่ 5 ราย เรียงตามลำดับยอดขาย · แผนหรือกิจการที่จะเพิ่มยอดขายกับลูกค้าแต่ละรายข้างต้น · ลูกค้าเป้าหมาย 9.2 การวิเคราะห์คู่แข่ง ระบุคู่แข่งขันรายใหญ่ 3 ราย โดยประกอบด้วย · ระยะเวลาที่อยู่ในตลาด · ส่วนแบ่งตลาด · ราคา/กลยุทธ์ · ระบุจุดแข็ง-จุดอ่อนของเราเมื่อเทียบกับคู่แข่ง 9.3 การแบ่งส่วนตลาดและลูกค้าเป้าหมาย กล่าวโดยสรุป ควรจะจัดทำในลักษณะรูปเล่มโดยเขียนตามหัวข้อที่กล่าวมาแล้ว กำหนดหัวข้อเขียน จะทำให้ง่ายต่อการเขียนโครงการขอสินเชื่อ และถ้ามีการทำแผนธุรกิจมาก่อน ก็สามารถที่จะนำข้อมูลจาก แผนธุรกิจมาใส่ได้ View Best With IE5.0 or Later at 800 X 600 Copyright (c) 1999 http://www.sfac.or.th All Rights Reserved. ศูนย์ให้คำปรึกษาทางการเงินสำหรับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และประชาชน (ศงป.) SMEs & P Financial Advisory Center โทร. (662) 628 0335-7 แฟ็กซ์. (662) 628 0338 E-mail: admin@sfac.or.th ******* แต่เอาเข้าจริงๆนะ .... ขอกู้ (คร้งแรก) ... ยากพอสมควร ... เหมือนกับการที่ยังไม่มีใบผลการเรียนน่ะค่ะ ... (แต่ถ้าทำสำเร็จโครงการแรก ... แบบนี้นะ .... ใครก็อยากเอาเงินมาให้เราลงทุนค่ะ) bank ใหญ่ ... จะขอกู้ยากพอสมควร เรื่องหลักประกัน ... ต้องขอแน่นอน (ถ้ามีก็ง่ายขึ้น) บุคคลค้ำประกัน, หรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ... สามารถติดต่อ บรรษัทค้ำประกันสินเชื่อได้ค่ะ ... แต่ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงกว่า (เหมือนจ่ายให้ผู้ค้ำน่ะค่ะ ... ถ้าจำไม่ผิด ตอนนี้เค้าคิด อีก 1.75% ต่อปีน่ะค่ะ) ถ้าทำตรงไปตรงมา ... ดอกเบี้ยเงินกู้จะสูงพอสมควร แต่ถ้าซิกแซกได้ (ไม่กล้าแนะนำในที่นี้) ... อาจได้ดอกเบี้ยถูกลงค่ะ ลองดูนะคะ ... จากคุณ : คนชื่อนินจา - [ 17 พ.ย. 47 09:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับพี่นินจา เพิ่งรู้ว่ามีบรรษัทค้ำประกันสินเชื่อด้วย จากคุณ : MacroArt - [ 17 พ.ย. 47 10:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอลองตอบดูนะครับ .... 1. ต้องทำอะไรบ้าง .... 2. ขั้นตอน ...... 3. เอกสารอะไรบ้าง ...... 4. ระยะเวลาที่ใช้ในการอนุมัติ ...... 5.ถ้ากู้โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน....จะปล่อยกู้ไหม ------------------------------------------------------------------ 1. ต้องทำอะไรบ้าง .... อันดับแรกเลย คือ เราจะทำอะไร นั่นก็คือ Business Plan ที่คุณ MacroArt คงเขียนไว้แล้ว (รายละเอียด ตามที่คุณคนชื่อนินจา ว่าเอาไว้ทุกประการ) ต้องทำให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ ถ้าทำเป็น presentation แบบ powerpoint ได้ก็จะดีมากๆ เสร็จแล้วก็ต้องไปติดต่อธนาคารล่ะครับ ใช้วิธีโทร. ไปก่อนจะดีกว่า ถ้าวงเงินที่ต้องการไม่มาก (ไม่เกิน 5 ล้านบาท) ก็ติดต่อไปสาขาแถวๆ บ้านก่อนครับ ติดต่อแผนกสินเชื่อ บอกความต้องการเค้าไปครับ ว่าเราจะขอกู้เงิน ลองโทร. ไปหลายๆ ธนาคารนะครับ ฟังน้ำเสียง, ความเต็มใจในการให้บริการ และการตอบคำถาม, ความกระตือรือร้น ของพนักงานดูครับ รวมถึงสอบถามถึงอัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมแบบคร่าวๆ ดู ทางธนาคารจะนัดให้เข้ามา present หรือไม่ก็จะมาหาเราเองครับ หรือไม่ก็ให้ส่ง Feasibility Study ไปให้เค้าพิจารณา แต่ผมแนะนำว่าให้ไป present ด้วยตัวเองจะดีกว่าครับ ------------------------------------------------------------------ 2. ขั้นตอน หลังจากติดต่อครั้งแรกเสร็จเรียบร้อย ธนาคารก็จะให้เราทำหนังสือ(จดหมาย) อย่างเป็นทางการไปให้เค้า ในจดหมายก็ต้องบอกว่า ...จะกู้เงินไปทำอะไร ...เสนอหลักประกันอะไร ...ขอดอกเบี้ยที่อัตราเท่าไหร่ ...ระยะเวลากี่ปี (กรณีกู้ลงทุน) ...อะไรประมาณนี้....ครับ เสร็จแล้วเค้าก็จะขอเวลาพิจารณา โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 1 เดือนครับ โดยระหว่างนี้ เค้าอาจจะขอข้อมูลเพิ่มเติมเป็นระยะๆครับ เราสามารถโทร. ไปสอบถามได้เรื่อยๆ ครับว่า เรื่องไปถึงไหนแล้ว ------------------------------------------------------------------ 3. เอกสารอะไรบ้าง ถ้าเป็นบริษัท เค้าก็จะขอเอกสารประมาณนี้ครับ ...หนังสือจดทะเบียน ...หนังสือบริคณฑ์สนธิ ...ทะเบียนผู้ถือหุ้น ...รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ว่ายินยอมให้ไปขอกู้เงิน ...งบการเงิน ...บัตรประชาชน ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ...ทะเบียนบ้าน ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ...บัตรประชาชน ของผู้ค้ำประกัน ...ทะเบียนบ้าน ของผู้ค้ำประกัน ------------------------------------------------------------------ 4. ระยะเวลาที่ใช้ในการอนุมัติ ...... ตอบให้แล้วใน ข้อ 2. ครับ ประมาณ 1 เดือน แต่ทำใจไว้ได้เลยครับ เกินแน่นอน :-D ------------------------------------------------------------------ 5.ถ้ากู้โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน....จะปล่อยกู้ไหม บอกตรงๆ เลยครับว่า ยาก (มาก ถึงมากที่สุด) แต่ไม่อยากให้เสียกำลังใจนะครับ ถ้า project เราดีจริงๆ ก็ยังมีหวังครับ เค้าจะดู cashflow ของเราครับ แม้ธนาคารจะแข่งขันโฆษณาว่าให้มาใช้สินเชื่อกับเราเถอะ บริการฉับไว, ดอกเบี้ยถูก ฯลฯ แต่ในความเป็นจริง มันไม่สวยหรู ง่ายดายแบบในโฆษณาน่ะครับ เพราะธนาคารเอง ก็มีชะนักปักหลังกันอยู่เป็นแถวๆ .... NPL .... ทำให้การพิจารณาสินเชื่อกับผู้ประกอบการรายใหม่ เป็นไปได้ค่อนข้างยาก...ทั้งๆ ที่เงินฝากล้นธนาคาร!!! สังเกตไหมครับ ว่าระยะหลังๆ ธนาคารจะเน้นหารายได้จากแหล่งอื่นๆ มากขึ้น เพื่อชดเชยรายได้จากการปล่อยกู้ให้ธุรกิจ เช่น สินเชื่อรายย่อย, ค่าธรรมเนียมจุกจิกต่างๆ จากคุณ : Dalglish - [ 17 พ.ย. 47 14:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับคุณMacroArt วันนี้ต้องขออภัยด้วย ช่วงเช้าเพื่อนเก่ามาเยี่ยมครับ(ไมเกรน) เลยต้องนอนตลอด ตอนนี้ค่อยยังชั่ว เลยขอตอบเท่าที่ทราบนะครับ (ขอบคุณคุณนินจาและคุณDalglishด้วยครับ ที่กรุณาช่วยตอบให้) ก่อนอื่นเลย ก็ต้องเริ่มที่แผนธุรกิจก่อนครับ แบงค์ต้องการอะไร? แบงค์ต้องการเงินต้น พร้อม ด้วยดอกเบี้ย ครบถ้วนตามจำนวนและเวลาที่เขากำหนดครับ แล้วจะเขียนอย่างไรให้แบงค์พอใจ นี่เป็นประเด็นมากกว่าครับ (ส่วนเอกสารที่เหลือก็เตรียมไปตามที่แบงค์เขาต้องการครับ อันนี้ก็เยอะ ที่สำคัญก็คือ เงินหมุนเวียน ที่เรามี และ ที่สำคัญที่สุดก็คือ รายได้ที่เราได้แน่นอนครับ เช่น เรามีตึกแถวให้เขาเช่าไหม มีสัญญาให้เช่าซึ่งแสดงว่าเป็นรายได้ที่ได้แน่นอนหรือเปล่า แบบนี้อ่ะครับ หรือ ถ้าเราทำงานประจำ เงินเดือนก็เป็นรายได้อ้างอิงอีกตัวหนึ่ง ที่แบงค์เขาพิจารณาเป็นอย่างมากครับ ) การเขียนแผนธุรกิจ ผมว่า คงไม่ยากสำหรับ คุณMacroArt กระมังครับ (อันนี้ผมขอผ่านเลย เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำครับ) ประเด็นหลักของแบงค์ คงอยากได้เงินคืนมากกว่าอยากได้หลักประกันของเราครับ ถ้าไม่มีหลักประกันเลย แล้วกู้ได้ไหม มันก็เคยมีคนกู้ได้มาแล้วครับ เคยอ่านในหนังสือพิมพ์รู้สึกเขาจะเอาแค่สัญญาเช่านี่แหละครับ เกาะอะไรก็จำไม่ได้แล้ว เอาไปทำบลูติก รีสอร์ท แถมได้แบงค์เพื่อการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและย่อม ร่วมลงทุนด้วยครับ การเลือกแบงค์ที่จะขอกู้ก็เป็นประเด็นหลักที่จะต้องพิจราณาครับ ผมมีน้าชายเป็นถึงรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารใหญ่แห่งหนึ่ง เขายังไม่ยอมให้กู้เลยครับ เพียงเพราะว่าประเภทธุรกิจที่ผมขอกู้นำไปลงทุนนี่ เป็นประเภทธุรกิจที่แบงค์ไม่ได้สนใจวิเคราะห์เอาไว้ ( เพิ่งทราบเหมือนกันว่ามีอย่างนี้ด้วย ) เอาใจช่วยคุณMacroArt ครับ ขอโทษด้วยครับที่ตอบแบบสั้นๆ เดี๋ยวต้องไปสอนหนังสือแล้ว คุณMacroArt ถ้าธุรกิจที่จะทำเล่าได้ก็เชิญหลังไมค์ได้เลยครับ กลับจากสอนแล้ว(ถ้ายังมีแรงเหลืออยู่จะรีบตอบกลับครับ) จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 17 พ.ย. 47 15:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณครับพี่ ธุรกิจที่จะทำก็เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนี่ แหละ หลักประกันที่มีก็คงเป็นพวกสัญญาเช่าพื้นที่ครับ จากคุณ : MacroArt - [ 17 พ.ย. 47 17:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โอ้โฮ...คุณ นินจา นับถือ.... เดี๋ยวคงมีอะไรต้องปรึกษาแน่นเลยครับ..... จากคุณ : ลำชี - [ 17 พ.ย. 47 20:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมย้อนกลับมาเขียนเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยครับ คือ คำถามของคุณMacro ชี้นำว่าต้องกู้จากแบงค์ ที่นี้ผมก็ต้องตอบตามน้ำ แต่ถ้าให้ตอบตามความเป็นจริงว่า ตอนแรกๆผมกู้เงินแบงค์อย่างไร ก็ต้องตอบว่า แบงค์ไม่ให้ผมกู้ และก็ไม่คิดจะกู้แบงค์เลย เหตุก็เพราะว่า ไม่มีหลักทรัพย์ใดๆที่จะสามารถไปจดจำนองเป็นหลักประกันให้กับแบงค์ได้เลยครับ ผมก็เลยต้องกู้เงินนอกระบบครับ ดอกเบี้ยแพงหน่อยก็ต้องทนครับ เขาคิดแบบไฟแนนซ์เลยนะครับ แล้วก็ทำผ่อน สี่หรือห้าปีบ้าง ตอนนี้ก็ยังผ่อนอยู่เลยครับ และก็เพราะเงินหมุนเวียนจากการกู้นอกระบบนี้แหละครับ ทำให้ผมมี Passive income ประมาณครึ่งหนึ่งของเงินค่างวดที่ผ่อนเลยทีเดียว ถ้าหากผมผ่อนหมดเมื่อไหร่ รายได้เหล่านี้ ก็จะกลายเป็นกำไรทันทีครับ มันเหมือนกับเรากำลังเล่นเกมส์อยู่นั่นแหละครับ กู้เงินมาลงทุน เพื่อให้เกิดสินทรัพย์ที่ดี สร้างรายได้ให้เราแบบยั่งยืนน่ะครับ เพียงแต่ในเกมส์คิดดอกเบี้ยโหดมาก เพราะฉนั้นเวลาเล่นเกมส์ผมจึงไม่กลัวการกู้เงินเพื่อมาลงทุนเลย( ก็เพราะชีวิตจริง ก็ทำอยู่ด้วยความคุ้นเคยอยู่แล้ว ) การใช้ชีวิตจริง กับ การเล่นเกมส์ มันก็สนุกพอๆกันแหละครับ มันอยู่ที่แนวคิดจริงๆ จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 18 พ.ย. 47 21:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมดูพวกสินเชื่อบุคคลอยู่เหมือนกันครับพี่ มีแบงก์นึงให้ ผมกู้ Dream Loan ได้หนึ่งแสนบาท (เค้าเอาเงินเดือนผม สมัยเป็นลูกจ้างมาเป็นฐานคิด) ดอกเบี้ยเดือนละ 1.25% ทีนี้ผมอยากได้เงินมากกว่านี้ ก็เลยนึกถึงการกู้แบงก์แบบ เข้าระบบครับ ผมเองไม่เคยสัมผัสกับการกู้เงินนอกระบบเลยครับ ไม่รู้ว่า เค้าไปกู้ที่ไหนยังไง จากคุณ : MacroArt - [ 18 พ.ย. 47 23:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รู้สึกจะมีธนาคารนครธน (สแตนดาร์ต ชาร์ทเตอร์ นครธน)เนี่ยกู้ค่อนข้างง่ายครับ เขาดูแค่เรามีกระแสเงินสดหมุนเวียนมากน้อยขนาดไหนเท่านั้นเอง แต่มีการจำกัดวงเงินเช่นกัน นอกจากนั้นก็มี ธนาคารที่สนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและย่อม นี่จำกัดวงเงินไม่เกิน หนึ่งถึงสองล้านบาท อันนี้เพื่อนๆผมที่ทำโรงงานเขากู้กันเยอะครับ นึกอะไรออกแล้วจะมาคุยด้วยครับ จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 18 พ.ย. 47 23:58:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่งมีเซลขายบัตรของ Standard Chartered มาชวนให้ ผมทำบัตรเงินสด ว่าจะทำไว้เผื่อจะใช้สินเชื่อ พวกเงินกู้นอกระบบเค้าคิดดอกเบี้ยสูงแค่ไหนเหรอครับ? จากคุณ : MacroArt - [ 19 พ.ย. 47 18:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 2-3% ต่อเดือนเป็นอย่างต่ำ เคยเจอใจดี ก็ 1.5% ต่อเดือนครับ เทียบกับเล่นเกมส์แล้วหมูมากครับ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำ แต่ต้องตีเช็คไว้ให้เป็นหลักฐาน บางรายก็มีสัญญาด้วย แต่ผมก็รู้ว่าเวลาเป็นเรื่องเป็นราว เขาก็ไม่กล้าเอาสัญญาไปฟ้องเราหรอกครับ จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 19 พ.ย. 47 22:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น่ากลัวเค้าไปฟ้องศาลเตี้ยนะครับ จากคุณ : MacroArt - [ 19 พ.ย. 47 23:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เสียชีพอย่าเสียสัตย์ครับ จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 20 พ.ย. 47 11:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ถ้าเสียสัตย์แล้วจะเสียชีพ อิ อิ จากคุณ : MacroArt - [ 20 พ.ย. 47 14:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ้อ กู้จากกรมธรรม์ประกันชีวิตของเราก็ได้ครับ หากกรมธรรม์นั้น มีมูลค่าแล้ว อันนี้ก็ไม่ต้องมีหลักประกันอะไรเลย เงินก็เอาออกมาได้ง่ายๆด้วย เพียงแจ้งตัวแทนเท่านั้น ภายในเจ็ดวันก็ได้รับเช็คครับ แถมความคุ้มครองก็ยังคงอยู่ การประกันชีวิตไว้ ก็ดีหลายอย่างนะครับ ( ถ้าตัวแทนไม่ใช้แต่ลูกตื้ออย่างเดียว ) จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 21 พ.ย. 47 19:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมทำประกันแบบออมทรัพย์ไว้น่ะครับ เจอหน้าตัวแทนปีละครั้ง ใส่เงินเข้าไปปีละหมื่น เพิ่งใส่ไปแค่ 3 ปีเองครับ จากคุณ : MacroArt - [ 21 พ.ย. 47 22:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณมาโคร เคยซื้อเครื่องทำน้ำดื่มหยอดเหรียญหรือเปล่าครับ ขอความคิดเห็นด้วยครับ ผมกำลังคิดว่าจะลงพร้อมเครื่องซักผ้าน่ะครับ จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 23 พ.ย. 47 10:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยังไม่เคยครับ เท่าที่ทราบมา รายได้จะดีกว่าเครื่องซักผ้า เพียงแต่ต้องคอยดูแลอะไหล่ต่างๆ ให้ดีครับ เรื่องเครื่องซักผ้า ให้ระวังเครื่องฝาบนนะครับ ตอนนี้มีปัญหา เรื่องลิขสิทธิ์อยู่ จากคุณ : MacroArt - [ วันลอยกระทง 00:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมกะจะลงเครื่องฝาหน้าครับ และเครื่องดื่มน้ำซักเครื่องหนึ่ง จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ วันลอยกระทง 13:34:35 ]