CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    =====วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน 2=====

    ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดของผม หากเทียบกับผู้รู้หลายท่านในห้องนี้แล้ว ผมคงจะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของประสบการณ์ที่พวกท่านเหล่านั้นได้สะสมมา บทความ งานเขียนของผม มีข้อผิดพลาดประการใด ขอให้พวกท่านเหล่านั้น ได้ชี้แนะให้กับผมด้วยครับ เพื่อเกิดประโยชน์แก่ทั้งผู้ให้และผู้รับ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในอนาคต

    =====วางหมาก…กระดานหุ้น ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน 2=====

    คราวที่แล้ว ปฐมบทแห่งการลงทุน 1 ว่าด้วยเรื่อง “ทำอย่างไร คนหาเช้ากินค่ำ มนุษย์เงินเดือน คนรับจ้างทั่วไป จะมีเงินเป็นกลุ่มก้อน เพียงพอที่จะนำไปลงทุนให้เกิดดอกออกผลต่อ?” ซึ่งคำตอบก็คือ “การจัดการการเงินส่วนบุคคล (Personnel Finance Management)” ทำให้เกิดเงินออมขึ้นมา อ่านได้ตามลิงค์นี้ครับ

    http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I3243022/I3243022.html

    เมื่อทั้งผู้มีอันจะกิน คนหาเช้ากินค่ำ มนุษย์เงินเดือน คนรับจ้างทั่วไป ฯลฯ มีเงินเพียงพอที่จะนำไปลงทุนให้เกิดดอกออกผลแล้ว คำถามต่อไปก็คือ “แล้วจะทำอย่างไรล่ะให้เงินที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมา นำไปลงทุนแล้วให้เกิดดอกออกผลได้?”

    จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผม ผมได้แบ่งแยกองค์ประกอบที่จะทำให้เงินก้อนที่นำไปลงทุนนั้นเกิดดอกออกผลได้ โดยเปรียบเทียบ “ตลาดหุ้น” เป็น “ยุทธภพ” พวกเรา “นักลงทุน” เปรียบเทียบได้กับ “จอมยุทธ์”

    จอมยุทธ์ จะอยู่รอดปลอดภัยในยุทธภพ และก้าวเข้าสู่ “จ้าวยุทธภพ” เป็นหนึ่งในใต้หล้า ที่ไม่มีจอมยุทธ์ใดๆ สามารถจะเทียบทัน ต้องประกอบไปด้วย 5 อย่าง คือ 1. คัมภีร์ยุทธ์  2. อาวุธ  3. กระบวนท่า  4. เคล็ดวิชา 5. การฝึกฝน

    1. คัมภีร์ยุทธ์
    จอมยุทธ์ในหนังจีนจะต้องตามหาอาจารย์และฝากตัวเป็นลูกศิษย์ พอเก่งแล้ว ก็ออกท่องยุทธภพ ตามหาสุดยอดคัมภีร์ยุทธ์เพื่อฝึกวิชาให้เป็นหนึ่งในใต้หล้า แต่ในตลาดหุ้น การตามหาอาจารย์แบบนั้นค่อนข้างจะเป็นเรื่องยาก และส่วนใหญ่จะไม่สอนให้ฟรีๆ เสียด้วย คิดค่าสอนเป็นหลักหมื่นขึ้นไปแทบทั้งนั้น ดังนั้นถ้าหาอาจารย์ลำบากจึงต้องหาคัมภีร์ยุทธ์ก่อน เพราะหาง่ายกว่า

    ผมชอบที่จะเป็นจอมยุทธ์ที่ครบเครื่อง คือ ได้ทั้ง “บุ๋น” และ “บู๊” ดังนั้นคัมภีร์ยุทธ์ที่ผมหามาใช้ ผมใช้ “คัมภีร์ยุทธ์ทางบุ๋น” และ “คัมภีร์ยุทธ์ทางบู๊”

    1.1 คัมภีร์ยุทธ์ทางบุ๋น
    คัมภีร์ยุทธ์ทางบุ๋นที่ผมใช้ ผมจัดให้เป็นองค์ความรู้ส่วน “การวิเคราะห์ทางด้านปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)” คือ จะต้องมีความรู้ครอบคลุมในเรื่อง

    ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ เพื่อที่จะได้รู้จักตลาดหลักทรัพย์ หลักทรัพย์ที่ทำการซื้อขาย ความรู้เบื้องต้นต่างๆ ที่ควรทราบ

    เศรษฐศาสตร์จุลภาค เพื่อที่จะได้รู้ถึงลักษณะของตลาดแบบต่างๆ เช่น ผูกขาด กึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด หรือตลาดเสรี รู้ถึงผลกระทบของปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลในระดับจุลภาค

    เศรษฐศาสตร์มหภาค เพื่อที่จะได้รู้ถึง ผลกระทบทางด้าน Financial Factor ต่างๆ นโยบายของรัฐ หรือปัจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อตลาดหุ้น

    การวิเคราะห์งบการเงิน เพื่อที่จะได้รู้ถึงภาวะทางด้านการเงินในบริษัทที่เราสนใจว่ามีทิศทาง แนวโน้มน่าลงทุนหรือไม่ โดยอาศัยดูตัวเลขที่เป็นตัวชี้ภาวะ คือ พวก Ratio ต่างๆ

    Five Forces Model ของไมเคิล อี พอร์เตอร์ เพื่อจะได้รู้ถึง ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่เราสนใจว่า มี ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลกระทบ และส่งผลแรงเพียงใด ซึ่งแบ่งแยกออกเป็น 5 ปัจจัยได้แก่
    ภาวะการแข่งขันของบริษัทคู่แข่งในตลาดที่มีอยู่เดิม (Rivalry among existing firms) ถ้ามีภาวะการแข่งขันสูง ย่อมส่งผลเสียต่อบริษัทที่เราสนใจ
    อุปสรรคในการที่บริษัทคู่แข่งหน้าใหม่จะเข้ามา (Threat of new entrants) ถ้าเข้ายาก ย่อมเป็นผลดีต่อบริษัทที่เราสนใจ
    อุปสรรคของสินค้าที่จะเข้ามาทดแทนกันได้(Threat of substitute products) ถ้าทดแทนกันได้ยาก ย่อมส่งผลดีต่อบริษัทที่เราสนใจ
    อำนาจในการต่อรองของผู้ขายปัจจัยการผลิต (Bargaining power of suppliers) ถ้าผู้ขายปัจจัยการผลิตมีอำนาจในการต่อรองราคาสูง ย่อมส่งผลเสียต่อบริษัทที่เราสนใจ
    อำนาจในการต่อรองของผู้ซื้อ (Bargaining power of buyers) ถ้าผู้ซื้อมีอำนาจในการต่อรองราคาสูง ย่อมส่งผลเสียต่อบริษัทที่เราสนใจ

    SWOT คือ การวิเคราะห์ จุดแข็ง (Strength) จุดอ่อน (Weakness) โอกาส (Opportunity) อุปสรรค (Threat) ของบริษัทที่เราสนใจ

    ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ หาอ่านได้จากหนังสือของตลาดหลักทรัพย์ มีหลายเล่ม เศรษฐศาสตร์จุลภาค และมหภาค, การวิเคราะห์งบการเงิน หาอ่านได้ไม่ยากเพราะชื่อหนังสื่อตรงกับชื่อองค์ความรู้ ส่วน Five Forces Model และ SWOT หาอ่านได้ในหนังสือ “การจัดการเชิงกลยุทธ์”

    สาเหตุที่ผมนำเอาองค์ความรู้ “การจัดการเชิงกลยุทธ์” มาช่วยในการตัดสินใจเลือกหุ้น ผมจะกล่าวใน “ปฐมบทแห่งการลงทุน 3” ที่จะลงในสัปดาห์หน้า

    1.2 คัมภีร์ยุทธ์ทางบู๊
    คัมภีร์ยุทธ์ทางบู๊ที่ผมใช้ ผมจัดให้เป็นองค์ความรู้ส่วน “การวิเคราะห์ทางด้านเทคนิค (Technical Analysis) ซึ่งในตอนแรกที่ผมเข้ามาในตลาด หรือก้าวเข้าสู่ “ยุทธภพ” ผมไม่เคยสนใจองค์ความรู้ส่วนนี้เลย เพราะช่วงนั้นผมมีความเป็น EGO สูง คือ ผมเรียนต่อโท Finance ซึ่ง องค์ความรู้ทางด้าน “การวิเคราะห์ทางเทคนิค” นักการเงินไม่ให้ความยอมรับ เพราะถือว่าเป็น “Voodoo Finance” หรือ “ศาสตร์การเงินทางด้านมืด” ไม่เหมือน “Pure Finance”

    ต่อมา ผมมานั่งคิดว่า “เหตุใดผมถึงได้ปิดกันความคิดตัวเอง มีประโยชน์อะไรหรือที่ผมจะปิดกั้นองค์ความรู้ใหม่ ซึ่งผมไม่เคยศึกษามาก่อน?” เมื่อหาเหตุผลมาหักล้างไม่ได้ ผมจึงเปิดใจยอมรับศึกษาองค์ความรู้ใหม่นี้ และเริ่มศึกษา “การวิเคราะห์ทางเทคนิค” อย่างจริงจัง

    หนังสือหรือคัมภีร์ที่ผมใช้ ถ้าเป็นหนังสือต่างประเทศผมใช้ของ John J. Murphy : Technical Analysis of the Futures Markets (1986) ซึ่งเป็น Text book ที่อ่านง่าย อีกเล่มหนึ่งของ Edwards and Magee : Technical analysis of stock trends (1997) ซึ่งเป็นที่นิยมเหมือนกัน แต่อ่านยากกว่า ถ้าเป็นหนังสือไทยผมใช้ของ สุรชัย ไชยรังสินันท์

    มีหนังสือหรือคัมภีร์ที่เกี่ยวกับ “การวิเคราะห์ทางเทคนิค” อีกหลายเล่มที่ผมไม่ได้กล่าวถึงซึ่งน่าอ่านแทบทั้งสิ้น โดยมีผู้รู้หลายท่านเคยลงไว้ให้แล้ว ผมกล่าวถึงเล่มที่ผมใช้อยู่บ่อยๆ เท่านั้น

    นอกจากคัมภีร์ยุทธ์ทางบุ๋นและบู๊ ที่ผมได้กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีคัมภีร์ยุทธ์อีกทางหนึ่งที่ผมแนะนำคือ “ความรู้รอบตัวเกี่ยวกับตลาด การเมือง และสังคม” ตลาดในที่นี้คือ ตลาดหุ้น ตลาดเงิน ตลาดทองคำ และตลาดธุรกิจของบริษัทที่เราสนใจ ส่วนการเมืองและสังคม ต้องยอมรับว่าส่งผลต่อตลาดไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นภาวะการณ์การเมืองในขณะนั้น นโยบายของรัฐบาล เหตุการณ์ทางสังคมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ความรู้เหล่านี้หาอ่าน ฟัง ดู ได้ไม่ยาก จากหนังสือพิมพ์ ข่าววิทยุ โทรทัศน์ รวมไปถึงในห้องสินธร pantip.com นี่เอง

    จากคุณ : หมากเขียว - [ 26 ม.ค. 48 11:47:26 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป