ความคิดเห็นที่ 1 รอพี่กาเยฯ ด้วยคับ   (รอ รอ  รอ   หลับไปแล้ว ZZZZ) จากคุณ : Vprawat - [ 13 ก.พ. 48 14:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใช่ครับ เสียดาย ที่พี่เค้าไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้ฟังตามที่ได้เกริ่นเอาไว้ ถ้าพอมีเวลาเอามาลงไว้ในบอร์ดก้อดีนะครับ ^^ ! จากคุณ : มือใหม่DSM - [ 13 ก.พ. 48 14:49:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มานั่งรออีกคนค่ะ จากคุณ : libra - [ 13 ก.พ. 48 20:23:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มารออีกคนครับ.... จากคุณ : loaw - [ 13 ก.พ. 48 22:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มานั่งรอตาแป๋วคับ :) จากคุณ : เด็กไม่รักดี (หนุ่มน้อย ณ บาบิโลน) - [ 13 ก.พ. 48 22:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มานั่งรอ ตั้งแต่ตาแป๋ว ตาปรือ ตาโบ๋ แล้วก็ผล็อยหลับไป สะดุ้งตื่นขึ้นมา นั่งรอต่อ เพื่อรออ่านด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : noopiglet - [ 13 ก.พ. 48 22:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมก็มาต่อแถวรอเช่นกัน จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 13 ก.พ. 48 22:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หวัดดีครับ Wealth Profile มีรายละเอียดที่ต้องอธิบายมาก ผมถนัดพูดมากกว่าพิมพ์ครับ ต้องขอโทษจริง ๆ อาทิตย์ที่จะถึงนี้ ผมมีงานบรรยายหัวข้อพิเศษที่ต้องใช้ข้อมูลมาก จึงไม่สะดวกในการเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับ Wealth Profile หลังเสร็จงานบรรยาย จะค่อยทยอยมาเล่าให้ฟังนะครับ จากคุณ : ฯกาเย - [ 13 ก.พ. 48 23:10:30 A:61.91.151.109 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความมั่งคั่งมีมากกว่าที่ตามองเห็น จากคุณ : ฯกาเย - [ 13 ก.พ. 48 23:13:18 A:61.91.151.109 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 10 WEALTH DYNAMIC PROFILE จากคุณ : ฯกาเย - [ 13 ก.พ. 48 23:15:43 A:61.91.151.109 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมพิมพ์ได้เร็วพอสมควร ถ้าพี่กาเยจะให้ผมช่วยพิมพ์ละก็บอกได้ครับผม อิอิ ... มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะครับ จะนั่งรอฟังอย่างใจจดใจจ่อครับ จากคุณ : สุมาเต๊กโช - [ 13 ก.พ. 48 23:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เคล็ดลับรวยในแบบฉบับ "อยากรวยฟังทางนี้!!!" เพียงแค่ประโยคสั้นๆ อาจจะทำให้หลายคนถึงกับ "หูผึ่ง" ด้วยอาการอยากรู้ว่า หากอยากจะรวยต้องทำอย่างไรบ้าง "รวย" หรือ "มั่งคั่ง" ดูจะเป็นที่ปรารถนาของทุกคนในโลก แต่ก็ใช่ว่าความพยายามเพียงอย่างเดียว จะส่งให้คุณไปถึงดวงดาวได้ "ของอย่างนี้มีเคล็ดลับ" "โรเจอร์ ฮามิลตัน" นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในฐานะ New Entrepreneur คนหนึ่งของเอเชียบอกเอาไว้ "โรเจอร์ ฮามิลตัน" นักธุรกิจที่มีอาณาจักรของตัวเอง อยู่ในหลายประเทศในทวีปเอเชีย กล่าวว่า คอนเซ็ปท์ในการสร้างความมั่งคั่งของเขา หรือ "Strealth Wealth Weekend" นั้น ทุกคนสามารถค้นหา ทางลัดได้ไม่ยากนัก เคล็ดลับประการสำคัญที่โรเจอร์เอ่ยถึง คือ เรื่องของการสร้างมุมมอง ที่เป็นบวกกับตัวเอง และสิ่งแวดล้อมรอบข้างเสียก่อน เพราะแม้ว่าการลงทุน ด้วยเงินสักก้อน ในโลกของธุรกิจจะเต็มไปด้วยความเสี่ยง แต่หากมองความเสี่ยงเป็นหนึ่งในโอกาส และหน้าต่างบานใหม่ที่เปิดเข้าหาชีวิต ก็จะทำให้ทัศนคติ ในการทำงานเป็นไปในทางที่ดีได้ "จะเป็นผู้ประกอบการ แน่นอนว่าคำๆ นี้คู่กับความเสี่ยง หรือ Risk ซึ่งสำหรับผมแล้ว คำว่า Risk มันเกิดขึ้นจากความไม่ชำนิชำนาญของเรา ดังนั้น ปัจจัยแรกที่จะลดความเสี่ยงในโลกธุรกิจก็คือ พยายามหาสิ่งที่คุณถนัด หรือสิ่งที่คุณชอบทำ ไม่ยากใช่ไหม.... ถ้าค้นพบสิ่งที่ตัวเองถนัดได้เป็นอันดับแรก ต่อไปไม่ว่าจะเหนื่อยกับธุรกิจมากสักแค่ไหน ก็จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายและสนุกอยู่เสมอ ที่สำคัญ ไม่ได้มีความเสี่ยง เพราะเรารู้จักธุรกิจของเราดีที่สุด" โรเจอร์ กล่าว เลือกงานเถอะครับ แต่อย่าให้ "งาน" เป็นคนเลือกคุณ" เขาบอกว่าทำแบบนี้แล้ว เราจะรู้ได้ดีที่สุดว่า เราจะมุ่งไปสู่อนาคตของเราได้อย่างไร ทัศนคติที่ดีในเรื่องต่อไป ในมุมมองของโรเจอร์ คือ การเลือกที่จะ "พลาด" อย่างมีบทเรียน ....แม้ว่าเขาในวันนี้จะเป็นนักธุรกิจ ที่มีอาณาจักรของตัวเอง อยู่ในหลายประเทศในทวีปเอเชีย แต่ชายหนุ่มคนนี้ ก็เคยผ่านประสบการณ์เลวร้าย ในทางธุรกิจมาแล้ว "ผมเริ่มทำธุรกิจของตัวเองตั้งแต่อายุ 22-23 ปี โดยลงทุนด้วยเวลาของตัวเองไม่มากนัก มันจึงเหมือนกับว่า เราไม่ได้ทุ่มเทให้กับธุรกิจเต็มที่ ดังนั้นเมื่อเราเฟล มันก็ช่วยไม่ได้ แต่ถึงเราจะล้มเหลว สิ่งที่เราได้จากมันคือ การที่เราได้รู้จักความผิดพลาด ความล้มเหลวเหล่านั้น ได้เรียนรู้นิสัยใจคอคนที่ให้เงินเรา ลูกค้า หรือแม้แต่คู่ค้าของเรา" โรเจอร์ เล่าให้ฟังถึงก้าวแรก ของโลกธุรกิจของเขา หลังจากตัดสินใจทิ้งทักษะ ทางด้านสถาปัตยกรรมที่อุตส่าห์เพาะบ่ม มาจากเคมบริดจ์ สิ่งดังกล่าว ทำให้เขาได้แนวคิดมุมมองใหม่ คือ "เราต้อง plan to fail ถ้าเราถามตัวเองว่า เมื่อมีโอกาสเข้ามาแล้ว เราจะเลือกโอกาสนั้นมั้ย ถ้ามันจะแลกมาด้วยการสูญเสียเงิน และเวลา สำหรับผม ผมยินดีที่จะแลกทุกอย่าง กับโอกาสเหล่านั้น ที่สุดแล้วแม้ผมจะล้มเหลว จากบางธุรกิจ แต่รู้ไหม ผมได้เพื่อน ได้รู้จักคน ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการทำงานที่จะทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้เราก็ไม่เรียกว่าล้มเหลวหรอก" เขายังบอกอีกว่า ตัวเขาเองนั้นเริ่มต้นธุรกิจได้ โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเองสักแดงเดียว!!! นั่นเป็นเพราะเขาได้แสดง ความสามารถให้คนอื่นเห็น ทำให้มีผู้ที่หยิบยื่น "โอกาส" พร้อมกับเงินทุน ในการสร้างสรรค์ธุรกิจต่างๆ ให้ โรเจอร์ ไม่รีรอที่จะคว้าไว้ และพัฒนาธุรกิจให้เดินไปสู่จุดสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งระหว่างทางก็มีผู้มาเสนอโอกาสให้เขาอีกมากมาย จนกระทั่งวันหนึ่งเขารู้สึกว่า การเป็นมือปืนรับจ้าง อาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต... เขาจึงวางมือจากธุรกิจทั้งหมด พร้อมกับผันตัวเองมาเป็น "ผู้จ้าง" มือปืนใหม่ๆ เข้ามาแทน "จริงอยู่ว่าผมอาจจะได้ทำงาน ในสิ่งที่ตัวเองรัก ผมอาจจะนั่งเป็นซีอีโออยู่ได้ 4-5 ปี แต่หลังจากนั้น คนรุ่นใหม่อาจจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีกว่าผม ดังนั้น ผมก็เลือกที่จะจ้างเขา เข้ามาทำงานให้ และผมขึ้นไปกำกับดูแลอยู่ข้างบน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า" เพราะเจ้าตัวบอกว่า คุณค่าที่ได้สร้างขึ้นมาให้กับองค์กร ไม่จำเป็นที่จะต้องยึดมั่นถือมั่นเอาไว้ แต่เพียงผู้เดียว หากแต่จะต้องรู้จัก "จัดการ" กับทรัพย์สิน (ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเงิน) เหล่านั้นให้ดี เพียงเท่านี้ เขาก็สามารถออกไปโลดแล่น บนโลกของธุรกิจอื่นๆ ที่ท้าทายสำหรับตัวเขาได้อย่างไม่สิ้นสุด "ทุกวันนี้เจอผู้บริหารบริษัท ในเครือแค่อาทิตย์ละครั้ง ครั้งละประมาณ 45 นาทีก็พอแล้ว เวลาที่เหลือ ผมเอ็นจอยชีวิต ได้มาทำงานที่รัก ได้เป็นนักพูดเป็นคนจุดประกาย จุดพลังให้กับ Entrepreneur ตัวจริงในโลกได้อีกนักต่อนัก...เพียงแค่เราจัดสรรระบบ จัดสรรคนให้ถูกฝาถูกตัว" เขาบอกว่า สิ่งที่เขาลงทุนกับงาน กับธุรกิจนั้นไม่ใช่เงิน แต่มันคือ "เวลา" เวลาจะสะท้อนความทุ่มเท และสะท้อนความตั้งใจ นี่คือ อีกเคล็ดลับที่ทำให้เขารวยได้...... " คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่าๆ กันหมด แต่ทุกคนไม่ได้แปลงเวลา ให้เป็นความมั่งคั่งเหมือนๆ กัน" เขา กล่าว เขายังยกตัวอย่างถึงชีวิต ของเจ้าพ่อธุรกิจเครือเวอร์จิน Virgin ซึ่งมีอาณาจักรธุรกิจ อยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เกิดมาพร้อมเงินทอง แต่การทุ่มเทเวลา ให้กับการใช้ความคิด และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ทำให้เขามีโอกาสได้แจ้งเกิดในโลกธุรกิจ "ธุรกิจของเวอร์จิน ไม่ใช่เกิดขึ้นมาจากเงิน แต่มันเกิดมาจากไอเดีย การใช้เวลาทุ่มเทให้กับรูปแบบความคิด ในสมองของริชาร์ด เมื่อเขาบอกว่าจะทำธุรกิจสายการบิน ก็มีคนเอาเงินมากองให้เขาบริหาร เขาอยากทำอะไรอีก.... น้ำอัดลม คนเห็นความทุ่มเท และความสำเร็จครั้งเก่าก่อน ก็เอาเงินมาให้ริชาร์ดบริหารธุรกิจน้ำอัดลมอีก ถามว่าเขาทำได้อย่างไร ตอบได้ง่ายๆ ว่าเขาฉลาดพอที่จะรู้จักการบริหารคน คือรู้ว่ากำลังสำคัญของเขาคือ คน และวางตำแหน่ง ที่ถูกต้องให้กับคนเหล่านั้น ดังนั้น ริชาร์ดไม่จำเป็น ต้องไปนั่งประจำที่อยู่ในออฟฟิศ เขาสามารถใช้ชีวิตโลดแล่น ในโลกธุรกิจอื่นๆ ได้อีก โดยที่เขามีมือปืนรับจ้าง คอยดูแลธุรกิจทุกอย่างให้เขา" นี่คือสิ่งที่โรเจอร์ค้นพบ และบอกว่า เขาในวันนี้กำลังเดินตามรอยเท้าก้าวนั้น.... "ถ้าเราลงทุนกับเวลามากกว่าคนอื่นๆ เราก็ได้เปรียบ" เขากล่าวไว้อย่างนั้น โอกาสเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นมา เพื่อโรเจอร์เพียงคนเดียวเท่านั้น ทุกคนก็มีโอกาส เพียงแต่ "คุณต้องค้นหาตัวเองให้เจอ สร้างแรงดึงดูดในตัวคุณเอง ทำให้ตัวเองเป็นที่ต้องการของสังคมของโลกธุรกิจ แล้ววันนั้นทุกอย่างจะเข้ามาหาคุณ" โรเจอร์ กล่าว พร้อมกับบอกว่า ทุกวันนี้มีเจ้าของธุรกิจหลายคน ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับเขา และประกายไฟแห่งความมุ่งมั่นก็เกิดขึ้น ซึ่งเขายินดีที่จะเป็นผู้จุดพลังนั้น "ก่อนอื่นต้องสร้างคุณค่า ในตัวเองเสียก่อน พิสูจน์ให้เจ้าของเงินเขาเห็นว่า คุณทำได้ คุณมีความสามารถ เท่านี้คุณก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้โดย ไม่ต้องใช้เงินมากมายมหาศาล และระหว่างทางคุณ ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ให้กับตัวเองไปด้วยได้" นี่เป็นเพียงเคล็ดลับเล็กๆ ที่โรเจอร์ เปิดเผย แต่เคล็ดลับทั้งหมดของเขา กำลังจะถูกไขในเดือนหน้า เมื่อชายหนุ่มคนนี้จะเดินทางมาประเทศไทย พร้อมกับเผยความลับ "ทำให้รวย" ให้ชาวไทยได้ฟังกัน "เราต้องรู้กลวิธี ในการเปลี่ยนเวลาให้เป็นเงิน ต้องรู้จักใช้คนให้เป็น และไม่หยุดคิดสร้างสรรค์รูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ขึ้นมา ผมมั่นใจว่าการเป็น Entrepreneur แบบนี้เป็นสิ่งที่สร้างให้เกิดขึ้นได้ไม่ยาก แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถ จุดพลังในตัวขึ้นมาได้ไหม" เรื่อง : ดวงกมล วงศ์วรจรรย์ จากคุณ : ฯกาเย - [ 13 ก.พ. 48 23:25:06 A:61.91.151.109 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สุมาเต็กโช ไอเดียเจ๋งมากค่ะ อิอิ รอได้ค่ะพี่กาเยฯ เข้าใจว่าต้องเรียบเรียงเยอะ.. ยังไงถ้านินจาผ่านมา .. ร่วมแจมด้วยนะคะ เพราะพี่กาเยฯ ต้องการคุยเรื่องนี้กับนินจาอยู่แล้วค่ะ ดีใจจัง.. เจอช่างทำแว่นตาแล้ว !! จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 13 ก.พ. 48 23:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นั่งรออยุ่แถวที่สามเก้าอี้กลางครับ.... ZZZzzz..... จากคุณ : คุณชายละเมียด - [ 13 ก.พ. 48 23:41:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมส่งfile รูปภาพเพื่อประกอปการอธิบายไม่ได้คุณนินจาช่วยที่ครับ ช่วงนี้ขออนุญาตส่งบทสัมภาษณ์ Rogerให้อ่านเรียกน้ำย่อยก่อนนะครับ อาจเจออะไรดีๆในบทสัมภาษณ์ ของเขาก็ได้นะครับ ตอนที่เขามาเมืองไทย และจะมาอีกครั้งเดือนมีคนะครับ ใครอยากถามอะไรได้โดยตรงเลยครับ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 9695 00จ00จากหนังสือพิมพ์มติชน โรเจอร์ แฮมิลตัน เจ้าของสูตร"คิดเป็นเห็นทางรวย" คอลัมน์ "มืออาชีพ" หนุ่มใหญ่ลูกครึ่งสก็อต-ฮ่องกง นาม "โรเจอร์ แฮมิลตัน" คนนี้ นอกจากจะเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี คุยสนุกสนานแล้ว เขายังเป็นเศรษฐีเงินล้านตั้งแต่อายุยี่สิบปลายๆ วันนี้ชีวิตของเขาพรั่งพร้อมด้วยภรรยาและลูกสามคน โดยเลือกพำนักอยู่ที่สิงคโปร์ ประเทศที่เขามีธุรกิจหลากหลายอยู่ที่นั่นถึงเก้าธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ โรงแรม/รีสอร์ต ธุรกิจที่ดิน ฯลฯ แต่ธุรกิจที่เด่นคือ การทำนิตยสารเกี่ยวกับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและนิตยสารธุรกิจ นอกจากนี้เขายังเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่ง นักพูด และโค้ชที่บริษัทคอมเพทิทีฟเอดจ์ และมูลนิธิเอเชียส์ลีดดิ้งรีซัลทส์ เป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการในประเทศต่างๆ นับ 10 ประเทศ และยังมีธุรกิจจัดฝึกอบรม ซึ่งเขาต้องตระเวนไปพูดตามประเทศต่างๆ ในงานประชุมสัมมนาและเวิร์กช็อปนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อให้ผู้ฟังเหล่านั้นได้รับทราบถึงกุญแจที่จะนำไปสู่ความร่ำรวยในการทำธุรกิจ ซึ่งเขาย้ำอยู่เสมอว่า "จุดจบอยู่ที่จุดเริ่มต้น" (The end is in the begininning) วันก่อนเขามาเมืองไทยเพื่อมาพูดคุยให้คำปรึกษาแก่นักธุรกิจไทย พร้อมกับโปรโมตหนังสือ "คิดเป็นเห็นทางรวย" (Wink and Grow Rich) ภาคภาษาไทย แปลโดยกฤต พิทักษ์นราธรรม และสุพิชชา สัจจะมโนชัย จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อมรินทร์ โรเจอร์จบปริญญาตรีที่วิทยาลัยทรินิตี้ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สาขาสถาปัตยกรรม แต่เขากลับไม่ได้เป็นสถาปนิกออกแบบอาคาร หรือตึกรามบ้านช่องอย่างคนอื่น ด้วยความที่เป็นคนมีวิสัยทัศน์และเห็นช่องทางรวย เขาจึงเลือกที่จะสร้างบริษัทและทำธุรกิจที่มีโอกาสรวยในระยะเวลาไม่นานนัก โรเจอร์บอกว่า การเรียนสถาปนิกมาทำให้เขาตระหนักว่า สถาปนิกใช้เวลาสร้างรากฐานหรือพื้นฐานพอๆ กับการสร้างตัวตึก แต่สำหรับนักธุรกิจในปัจจุบันเรียนรู้ที่จะสร้างธุรกิจก่อนที่จะสร้างรากฐาน เขาเล่าถึงเคล็ดลับของการเป็นเศรษฐีและมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ว่า "ผมเคยถามวิศวกรและสถาปนิกว่าทำไมถึงมีเงินมีชื่อเสียงตอนอายุเยอะ คนเหล่านี้บอกกว่าจะสร้างตึกเสร็จ กว่าจะมีผลงานเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป อย่างน้อยแต่ละโครงการต้องใช้เวลา 8 ปี ฉะนั้น ควรจะหาอาชีพหรือธุรกิจใดๆ ก็ตาม ที่ใช้รอบเวลาในการทำผลงานสั้นๆ ด้วยเหตุนี้ผมจึงเลือกที่จะทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ เริ่มจากการทำหนังสือแนะนำการท่องเที่ยว ประเภทแผนที่ เมื่ออายุ 21ปี ซึ่งประสบผลสำเร็จทำกำไรเกินคาด จนมีนักธุรกิจรายอื่นต้องการเข้ามาซื้อกิจการ" ประสบการณ์อีกอย่างที่เขามักถ่ายทอดให้กับคู่สนทนาฟังอยู่เป็นประจำคือ ข้อคิดจากนักธุรกิจรุ่นพี่ที่รวยนับร้อยล้าน ซึ่งสอนเขาว่า "โรเจอร์คุณไม่มีทางรวย คุณจะรวยเมื่อคุณคิดหรือตระหนักว่าคุณโง่ ฉะนั้น คุณจะต้องไปหาคนเก่งเพื่อจะทำงานให้แก่คุณ ไม่ใช่เงินที่ทำเงินแต่เป็นคนที่ทำเงินและคนอื่นๆ ที่จะทำเงินให้คุณ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณฉลาดคุณก็ต้องทำด้วยตัวเอง ขณะที่คุณคิดว่าคุณโง่คุณก็ให้คนอื่นทำให้" โรเจอร์เริ่มทำธุรกิจเมื่ออายุ 9 ปี แต่เขารู้จุดแข็งของตัวเองช่วงอายุ 25 ปี ซึ่งเด่นในเรื่องการเริ่มต้นสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ แต่ไม่ถนัดในเรื่องการสานต่อหรือการเข้าไปดำเนินงานเอง เขาจึงมองหาบุคคลที่มีความสามารถที่จะนำไปสู่ความสำเร็จนั้น "คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการทำธุรกิจสำคัญที่สุดคือเงิน ที่จริงไม่ใช่ เราควรเน้นเรื่องเวลา และใช้เวลาที่จะรู้จักกับคนเพราะคนทำเงิน เงินไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำเงิน นอกจากนี้ จะต้องรู้ด้วยว่าตัวเองเก่งหรือถนัดด้านไหน แล้วหาทีมหาโค้ชที่ดี หลักการสร้างเงินอาจฟังดูง่ายแต่การจะเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ มันไม่ได้ง่ายเลย ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จต้องเลือกธุรกิจที่มีรอบระยะเวลาให้สั้นที่สุดแล้วจะทำเงินได้มาก" ในการลงทุนทำธุรกิจหลายอย่าง บางคนอาจจะมองว่าเสี่ยง แต่ในมุมมองของนักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งคนนี้ เห็นว่า เป็นการได้พัฒนาตัวเอง เขาเปรียบเทียบการทำธุรกิจของเขาเหมือนกับการออกกำลังกาย ตอนแรกที่ออกกำลังกายกล้ามเนื้ออาจจะล้าแต่นานไปๆ จะแข็งแรงขึ้น เขาชี้ให้เห็นว่า การทำธุรกิจนั้นวิสัยทัศน์(VISION) มีความสำคัญเป็นอันดับแรก และควรตั้งคำถามอย่างถูกต้องเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องนั่นเอง ตอนนี้โรเจอร์มีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 80 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เขาบอกพอถึงจุดหนึ่งเขาจะไม่นับแล้วว่ามีมากเท่าไหร่ แต่คิดจะให้อะไรกับสังคมมากกว่า ในหนึ่งปีเขาจะมาประเทศไทย 4 ครั้ง เพื่อมาให้คำปรึกษากับนักธุรกิจไทย ซึ่งมีทั้งหมด 15 ราย คิดค่าใช้จ่ายเป็น 1,000 เหรียญต่อชั่วโมง โดยจะบินมา 3 เดือนต่อครั้ง และตอนนี้เขากำลังเทรนคนไทยเพื่อสร้างโค้ชแทนเขา ในฐานะที่คลุกคลีกับนักลงทุนไทยมานาน เขาให้คำแนะนำว่า "นักธุรกิจไทยต้องเปิดกว้างที่จะทำการค้าระหว่างชาติ การทำธุรกิจไม่ใช่ขึ้นอยู่กับรัฐบาล นักธุรกิจทุกคนสามารถทำได้แต่ต้องเดินทางออกต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อพบนักธุรกิจต่างชาตินั่นคือวิธีการดับเบิลการทำธุรกิจ ประเทศไทยเป็นประเทศที่เศรษฐกิจดีอยู่แล้ว ยังมีคนอีกมากมายที่ต้องการติดต่อธุรกิจกับคนไทย แต่สิ่งแรกที่ต้องทำคือหาพวกเขาให้เจอ ไม่จำเป็นต้องออกงานแฟร์อย่างเดียว เพราะมีเครือข่ายอยู่แล้ว แค่นำทั้งสองสิ่งมาต่อคั่วกัน" สำหรับการทำธุรกิจกับประเทศมหาอำนาจอย่างจีนนั้น โรเจอร์บอก "คุณสามารถมองสถานการณ์แบบเป็นโอกาสหรืออันตรายก็ได้ คนบางคนมองจีนว่าจีนมีกำลังมากถือเป็นอันตราย บางคนมองจีนเมื่อประเทศไม่ค่อยดี เลยบอกว่าจีนอ่อนแอและอันตราย แต่ตอนนี้ธุรกิจจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อให้เกิดธุรกิจจำนวนมหาศาลถ้าคุณนำผลประโยชน์ตรงนั้นมาใช้ซึ่งมันเยอะมาก คุณจะประสบความสำเร็จ" เมื่อถามว่า ณ จุดนี้ เวลานี้ คิดว่าประสบความสำเร็จในชีวิตหรือยัง และวางแผนจะทำอะไรต่อ โรเจอร์พูดน่าคิดว่า "คนเราสามารถกินได้มากๆ จริงๆ แล้วสำหรับผมคิดว่าถึงเป้าหมายแล้ว แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายของการช่วยเหลือคนอื่น" หลังจบบทสนทนากับ "โรเจอร์" ทำให้ได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะวลีสำคัญๆ ของเขาที่ถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้รู้ว่า "โอกาสมีอยู่ในทุกขณะ" หรือ "คุณไม่สามารถทำเงินได้ ถ้าคุณไม่เข้าใจมัน รวมทั้งประโยคที่ว่า "ความปรารถนาอย่างแรงกล้าคือเข็มทิศนำทางคุณ" จากคุณ : ฯกาเย - [ 13 ก.พ. 48 23:42:49 A:61.91.151.109 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาขอนั่งฟ้งด้วยคนครับ จากคุณ : Neverland_Finder (cpiya) - [ 14 ก.พ. 48 07:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากครับ .................................... ขออนุญาตมาตามอ่าน ( และ เซฟ )  ต่อนะครับ ................................. ขอบคุณครับ เด่นศรี จากคุณ : เด่นศรี - [ 14 ก.พ. 48 08:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ :) จากคุณ : BeSmile - [ 14 ก.พ. 48 09:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : pattarav - [ 14 ก.พ. 48 09:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะ พี่กาเยฯ... ยินดีที่ได้คุยกันค่ะ (แม้จะยังไม่ได้เจอกันที่ meeting ก็ยังระลึกถึงอยู่เสมอ) ... จริงๆแล้ว ตอนแรก นินจาไม่ทราบเหมือนกันว่า พี่กาเย แปลเรื่อง wink and grow rich เพราะที่บ้านไม่มีเล่มแปลค่ะ ... แต่ นินจาประทับใจเรื่อง “ห้าคำถาม ตรวจวัดอิสรภาพทางการเงิน” ที่พี่กาเย postไว้ จึงเป็นจุดเริ่มต้น ให้เราทั้งสองได้พูดคุยติดต่อกันมากขึ้น ... จากที่ rich dad แบ่งคนเป็นสี่ด้าน .. และด้านหนึ่งคือ นักลงทุน ... ซึ่ง นินจาได้แบ่งนักลงทุน อีกเป็น 8 ด้าน ... คุยถึงตรงนี้ค่ะ จึงได้ทราบว่า พี่กาเย มี wealth dynamics profile ซึ่งน่าจะมีลักษณะบางอย่าง (ไม่มาก ก็น้อย) ที่เกี่ยวข้องกับ matrix ของนินจาที่แบ่งนักลงทุนเป็น 8 ด้าน จากองค์ประกอบของนักลงทุนแต่ละคนนั้นๆ (InCom Matrix = Investment Components Matrix) ซึ่ง จะประกอบด้วยแบบสอบถามทั้งปรนัย (หลายส่วน หลายร้อยข้อ) และอัตนัย (หลายส่วนเช่นกัน) ... ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงให้เหมาะกับสถานการณ์มากขึ้น ...... แต่เนื่องจาก ผู้ที่จะได้รับการวิเคราะห์องค์ประกอบนักลงทุน ต้องมี “ความพร้อม ในระดับหนึ่ง (ที่กำหนดไว้)” ก็ตั้งใจว่า จะค่อยๆเตรียมความพร้อมให้กับเพื่อนๆทุกๆท่านที่สนใจไปเรื่อยๆค่ะ (อีก 10 ปี ถึงพร้อม ก็จะรอ ...อิอิ) ********* ช่างทำแว่นตา .. ที่จะช่วย (ประคับประคอง ส่งเสริม สนุบสนุน) ให้ แต่ละคน “เห็น” ก็ต้องเป็นช่างทำแว่นตาที่ดี (กัลยาณมิตตตา) แต่การที่จะ “เห็น” ได้นั้น ... ยังต้องเป็นกระบวนการภายในจากตัวคนนั้นๆ หรือนักลงทุนผู้นั้นๆ ... โดยต้องรู้จักคิด และพิจารณาด้วยตนเองเป็นแกนหลัก (โยนิโสมนสิการ) ******** ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น wealth dynamics profile หรือ investment components matrix ก็เป็นเครื่องมือ อย่างหนึ่งเท่านั้น ที่จะทำให้ผู้นั้น มองตัวเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ... เมื่อเข้าใจตนเองได้ชัดเจน ... (มีความคิด, มีความเห็นที่ถูกต้อง .. มีสัมมาทิฏฐิ) ก็จะสามารถตัดสินใจทุกๆอย่าง (การดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม, ความคิด, จิตใจ, การเรียนรู้, การเงิน, การงาน, การลงทุน, ครอบครัว, สังคม ฯลฯ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงเป้าหมายมากยิ่งขึ้น จึงกลับมาที่ “เป้าหมาย” จำได้ว่าเคยพูดถึงไว้บ้างแล้ว ... จริงๆแล้ว เป้าหมายนั้นสำคัญมากๆ .. เทียบเท่าเป็นส่วนหนึ่งในความจริงอันประเสริฐสี่ประการ (นิโรธ , ความดับทุกข์, หรือจุดมุ่งหมาย) นั่นเอง ... และที่สำคัญคือ ทุกๆคน สามารถถึงเป้าหมายได้ ... โดยอย่าลืม ให้เวลากับคำว่า “เป้าหมาย”, “พลังทวี”, “ความคิด” และ “การเรียนรู้” ****** อิอิ ... ยังไง ก็รอฟังพี่กาเยฯ ต่อนะคะ ... แล้วจะลองส่งรูปให้ด้วย ไม่แน่ใจว่าจะส่งได้มั้ยเนี่ย... เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ ขอคำแนะนำด้วย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : คนชื่อนินจา - [ 14 ก.พ. 48 10:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับ ทั้งคุณกาเย คุณนินจา คุณซ้อสี่ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 14 ก.พ. 48 11:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาเพิ่มพลังสมองครับ ขอบคุณพี่ๆที่กรุณาให้ความรู้ ....................................................................... กะว่ามาอ่านแล้วรอยหยักจะเพิ่ม แต่ไม่ค่อยจะเพิ่มเท่าไหร่เลย ....................................................................... สงสัยต้องอ่านหลายๆรอบแล้วหล่ะครับ ...................................................................... เอ๊ะ หรือว่าเอาขวานจามหัวตัวเองดี รอยหยักจะได้เพิ่มเร็วๆ จากคุณ : กระบี่ไร้เงา - [ 14 ก.พ. 48 11:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เส้นทางนักเขียน กรุงเทพธุรกิจ ชื่อเรื่อง... "คิดเป็นเห็นทางรวย" สร้างความมั่งคั่งจากนิทานของ 'โรเจอร์ แฮมิลตัน' บายไลน์... "คิกขุ ปลาโนะ" มีหนังสือฮาวทูหลายต่อหลายเล่มที่พยายามจะตอบโจทย์ของคนอ่านที่ต้องการหาวิถีทางก้าวไปสู่ "ความมั่งคั่งร่ำรวย" แต่นั่นอาจไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะทำให้ทุกคนที่อ่านหนังสือเล่มนั้นแล้ว เดินทางไปสู่ความเป็นเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีได้ โรเจอร์ แฮมิลตัน เจ้าของงานเขียน Wink and Grow Rich หรือชื่อในภาษาไทยว่า "คิดเป็นเห็นทางรวย" หนังสือฮาวทูอีกเล่มหนึ่งที่พูดถึงแนวทางสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยสำหรับโลกตะวันออก ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งเดินทางมาเยือนเมืองไทย พร้อมกับพูดคุยถึงหนังสือเล่มนี้ของเขา ที่โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ โดยมี กฤต พิทักษ์นราธรรม และสุพิชชา สัจจะมโนชัย สองผู้แปล รับหน้าที่เป็นล่ามให้ด้วย จุดมุ่งหมายการเดินทางครั้งนี้ ไม่เพียงแค่มาเพื่อโพรโมตงานเขียนของเขาเท่านั้น แต่เขามาเพื่อร่วมสัมมนาถ่ายทอดสะพานมุ่งสู่ความรวยให้นักธุรกิจไทยได้เห็นกันจะจะ ซึ่งการบรรยายใน 15 ประเทศทั่วโลกของโรเจอร์ ตลอดระยะเวลาสิบสองเดือนที่ผ่านมา แค่เฉพาะชาวเอเชียก็มียอดผู้เข้าร่วมสัมมนาสองหมื่นคนเข้าไปแล้ว แสดงให้เห็นถึงพลังลมปากของเขาได้เป็นอย่างดีว่ามีอานุภาพเพียงใด สิ่งสำคัญที่ช่วยยืนยันน้ำหนักในน้ำลายของโรเจอร์ คือความเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจ 9 อย่าง ที่ครอบคลุมกว่า 10 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก ทั้งธุรกิจสำนักพิมพ์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงแรม รีสอร์ท ฯลฯ โดยเฉพาะนิตยสารชื่อดังของสิงคโปร์และเซี่ยงไฮ้ อย่าง Living, XL Magazine โรเจอร์ แฮมิลตัน มหาเศรษฐีลูกผสมสกอตแลนด์-จีน วัย 35 จบการศึกษาทางด้านสถาปนิกจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ แต่กลับเลือกทำงานทางด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์ ด้วยเหตุผลที่ว่า สิ่งพิมพ์เป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่การก่อร่างสร้างงานในสายสถาปนิกแต่ละโครงการ กว่าจะประสบความสำเร็จ ต้องใช้เวลาเป็นสิบปี เขาจึงเริ่มต้นธุรกิจในวัยเพียง 21 ปี ด้วยการผลิตแผนที่ท่องเที่ยวเมืองผู้ดี ภายในระยะเวลา 3 ปี ธุรกิจของเขาก็ครอบคลุมทั่ว 40 เมืองในอังกฤษ ช่วงนั้นหนุ่มลูกครึ่งทะนงตนว่าประสบความสำเร็จแล้ว เมื่อมีบริษัทอื่นยื่นความจำนงขอเทคโอเวอร์กิจการ โรเจอร์ก็เลือกที่จะรับส่วนแบ่งกำไรแทนที่จะขายธุรกิจได้เงินทุนเป็นก้อน เพราะเขามองว่า อย่างไรเสีย กิจการนี้จะยังได้กำไรอยู่แน่ๆ แต่แล้วเขาก็ต้องฝันค้าง เพราะเพียงไม่นาน แผนที่ท่องแดนผู้ดีก็เดินมาถึงทางตัน จนต้องล้มเลิกไปในที่สุด ต่อมาไม่นาน หนุ่มนักฝันพยายามเริ่มต้นใหม่ด้วยการทุ่มเงินถึง 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ต้องพบกับความล้มเหลวอีกครั้งหนึ่ง โรเจอร์จึงเปลี่ยนไปจับธุรกิจทางด้านไอที โดยคราวนี้เขาใช้เงินลงทุนไปถึง 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ยังคงเจ๊งซ้ำรอยเดิม โรเจอร์จึงเลือกลงทุนทางด้านหนังสือพิมพ์ ด้วยจำนวนเงินถึง 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทว่า ผลลัพธ์ก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่น่าแปลกที่โรเจอร์ไม่เคยเข็ด และไม่ยอมท้อถอย "ผมสูญเสียไปมากมายเหลือเกิน แต่ผมมองว่า มันเป็นการได้พัฒนาตัวเอง" เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เขาเอาปากกากับกระดาษขึ้นมา แล้วเขียนเลขศูนย์จากด้านขวา ไปทางด้านซ้ายของกระดาษ จนครบ 7 ตัว แล้วใส่เลขหนึ่งตบท้ายด้านหน้า "สร้างจากศูนย์...ก่อนจะก้าวสู่หนึ่งล้าน" โรเจอร์ว่าพร้อมรอยยิ้ม เป็นการไขปริศนาว่า ทำไมความล้มเหลวจึงทำอะไรเขาไม่ได้ ก่อนจะเสริมว่า "เหมือนกับการออกกำลังกาย ช่วงแรกอาจมีกล้ามเนื้อฉีก ล้าบ้าง แต่เมื่อออกไปเรื่อยๆ จะรู้ว่า มันดีขึ้นเรื่อยๆ จะกล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ" เขากล่าว กระทั่งถึงช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นของสหรัฐอเมริกา โรเจอร์จึงได้ร่วมมือกับผู้มีประสบการณ์ปลุกปั้นธุรกิจสิ่งพิมพ์ของเขาให้ก้าวไกลขึ้นมาได้ จนขยายมาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เมื่อกิจการเริ่มอยู่ตัวแล้ว โรเจอร์ ก็มองว่าควรถ่ายทอดแนวทางความมั่งคั่งให้คนอื่นได้รู้บ้าง ด้วยการจัดสัมมนา แต่ด้วยความเป็นนักธุรกิจฝังในสายเลือด การสัมมนาของเขาจึงได้กลายเป็นธุรกิจอีกอย่างหนึ่งของเขาจนได้ ทั้งยังทำรายได้ให้เขาไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว "เมื่อครั้งที่ผมเคยทำผิดพลาด ผมก็ไปปรึกษากับคนที่เคยเจอมาก่อนหน้ามาแล้ว จะทำให้เราได้บทเรียน การสัมมนา ผมทำหน้าที่เหมือนกระจกสะท้อนในการแต่งตัว" หนุ่มนักธุรกิจชี้ โรเจอร์ยังแนะเคล็ดลับสู่ความร่ำรวยด้วยว่า แต่ละคนต้องรู้ว่าตัวเองถนัดทางด้านไหน จากนั้นจึงพยายามโฟกัสไปยังจุดมุ่งหมายที่แท้จริง ดังเช่นการเป็นนักกีฬาที่ถึงแม้จะเล่นกีฬาได้หลายประเภท แต่ที่สุดแล้ว นักกีฬาก็ต้องเลือกมาแค่หนึ่งเดียว เพื่อจะมุ่งไปทางนั้นอย่างจริงจัง หนังสือเล่มนี้เขียนด้วยรูปแบบของนิทาน ซึ่งมีตัวละครเด็กอายุเก้าขวบที่ชื่อ ริชาร์ด มีพ่อเป็นช่างไม้ พ่อของเขาต้องการความมั่งคั่งร่ำรวย แต่ก็ไม่เคยได้รับสิ่งนั้นเลย นั่นผลักดันให้เขาต้องทำงานอย่างตรากตรำ และในที่สุดความกดดันก็บีบบังคับเขาให้ตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ถึงขนาดป่วยต้องนอนซมอยู่บนเตียง พ่อเขาต้องจ่ายเงินหนึ่งดอลลาร์ไปกับบ่อน้ำแห่งความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ (Well of Wealth) เนื่องจากว่าพ่อป่วยไม่สามารถที่จะไปที่บ่อน้ำนี้ได้ พ่อจึงเอาเงินหนึ่งดอลลาร์ให้ริชาร์ดไปซื้อน้ำแห่งความมั่งคั่งนั้นมา นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของนิทานฮาวทูเรื่องนี้ ระหว่างที่ริชาร์ดเดินทางไปที่บ่อน้ำแห่งความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ตามที่พ่อบอก ซึ่งเขาเห็นว่ามันไม่ได้ทำให้พ่อเขาหรือชาวบ้านแถบนี้มีความมั่งคั่งขึ้นเลย เขาก็ได้พบหญิงชรานางหนึ่ง และได้เข้าไปถามหญิงชราถึงหนทางที่จะนำไปสู่ความมั่งคั่งร่ำรวย หญิงชราจึงแนะนำให้เขาเดินทางไปหาช่างทำแว่น กระทั่งต่อๆ ไปถึงช่างประปา คนจัดสวน คนหาปลา คนพายเรือ นักดนตรี คนดูแลรีสอร์ท และกลับมาที่บ้านช่างไม้นั่นเอง ระหว่างรายทางนี้เองที่ทำให้เขาได้จดบันทึกแง่คิดต่างๆ จากคนที่เขาไปเจอมา และนั่นคือหนทางที่จะนำเขาไปสู่ความมั่งคั่ง อย่างไรก็ตาม "ความมั่งคั่ง" ในมุมมองของโรเจอร์ ไม่ได้หมายความถึงการมีเงินมาก หากแต่หมายถึงกำลังกาย ความคิด รวมทั้งเครือข่ายที่จะสามารถช่วยเหลือยามเราคิดจะก้าวต่อไป เมื่อยามสูญเสียเงินไป "การลงทุน อย่าใช้เพียงแต่เงิน แต่ให้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ด้วย ควรลงทุนที่การรู้จักกับคน และมุมมองในการใช้เวลา เงินไม่ใช่สิ่งที่งอกเงยขึ้นมาเองได้ ต้องใช้คนเป็นคนทำ" เศรษฐีหนุ่มย้ำ นอกจากนี้ เงื่อนไขอย่างหนึ่งในการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจจากการสัมมนาของเขาแต่ละครั้ง คือเมื่อแต่ละคนสามารถทำเงินไปถึงเป้าหมายแล้ว จะต้องบริจาคให้การกุศลด้วย โดยโรเจอร์ให้เหตุผลว่า เมื่อเดินทางมาถึงจุดหนึ่งแล้ว ก็อยากให้นักธุรกิจแต่ละคนตระหนักว่า ได้ให้อะไรกับสังคมไปบ้าง "การดูคนที่รวยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นระดับโลกหรือที่เมืองไทย คนพวกนี้เขาไม่ได้คิดว่าเขากำลังทำงานอยู่ แต่เขากำลังทำในสิ่งที่เขารัก และมีความสุขอยู่กับมัน" โรเจอร์ แฮมิลตัน กล่าวในที่สุด นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกวันนี้ของนักธุรกิจหนุ่ม สามารถสนุกสุขสันต์ไปพร้อมกับการทำงานได้ โดยไม่รู้สึกว่างานคือภาระที่ต้องรับผิดชอบ 0 จากคุณ : ฯกาเย - [ 14 ก.พ. 48 12:12:19 A:61.90.42.61 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากๆครับ ได้ข้อคิดดีๆอีกแล้ว :) จากคุณ : kidmai - [ 14 ก.พ. 48 16:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาเพิ่มหยักสมองให้สมองอ้วนขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : พิกเล็ต..สมอง...อ้วน (noopiglet) - [ 15 ก.พ. 48 04:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณครับ พี่ ฯกาเย จากคุณ : Lynk - [ 15 ก.พ. 48 08:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โหมโรงได้หมดจดดีค่ะ !! ได้ข้อคิดดีๆ อีกเยอะเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 15 ก.พ. 48 09:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมาก ๆ นะคะ เติมความรู้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว จากคุณ : moon (wonderchoice) - [ 15 ก.พ. 48 14:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ระหว่างรอพี่กาเยฯ มาเป็นช่างทำแว่นตา ไม่รู้ว่าทุกคนรู้มั้ยว่า ทำยังไงจะหา passion ของตัวเองได้..discovering your passion... ซ้อเผอิญ search ไปเจอ แล้วจะมาเล่าให้ฟัง จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 18 ก.พ. 48 00:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาจองโต๊ะรออ่านครับพี่สี่ ......................................... เด่นศรี จากคุณ : เด่นศรี - [ 18 ก.พ. 48 08:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ได้เลย !!! น้องเด่น ... ลองตอบคำถามของแต่ละข้อให้ดูบ้างนะ.. อยากรู้ว่า passion ของน้องเด่น เป็นไงบ้าง :) 7 ขั้นตอนในการค้นหาความทะยานอยากของคุณ (Passion) ในการจะค้นพบอะไร ก็ต้องมีการลงมือทำ .. เตรียมกระดาษ สมุดโน้ต และใจ ของคุณให้พร้อม ... เริ่มลุย ค่อยๆ ทำ ค่อยคิด ให้มันรินไหลออกมาจากใจของคุณเอง ไม่ต้องรีบ เพราะสิ่งเหล่านี้ก็มาจากตัวคุณเอง ... ให้เวลากับตัวคุณบ้าง 1. find your joy factor    ค้นหาว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกสนาน มองย้อนกลับไปในชีวิตที่ผ่านมา ดูซิว่า ช่วงเวลาไหนน๊าที่คุณรู้สึกสนุกสนาน มีความสุข.. ตอนนั้นคุณกำลังทำอะไรอยู่.... ในช่วงเวลานั้นคุณอยู่ที่ไหน... และใครที่คุณใช้ช่วงเวลานั้นอยู่ด้วย... และคุณรู้สึกอย่างไรในช่วงเวลานั้น ไว้จะมารอดูคำตอบ และโพสต์ข้อที่ 2 นะจ๊ะ...ลองทำกันดูค่ะ... จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 18 ก.พ. 48 17:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คำถามข้อ 1  นี้   ผมตอบแบบจริงใจเลยนะครับ ช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดคือ   ตอนนี้แหละครับ   (  คือปัจจุบันที่เป็นอยู่นี้  ครับ   หมายถึงว่า  ถ้าสามารถย้อนเวลาไปหาอดีตแล้วเปลี่ยนแปลงอดีตได้  ( เหมือนเรื่อง  Butterfly Effect  )  ผมจะไม่ขอย้อนกลับไป และไม่ขอเปลี่ยนแปลงอะไรเลยครับ  ) ปัจจุบัน  เป็นคำตอบสุดท้ายครับพี่สี่   เด่นศรีครับ จากคุณ : เด่นศรี - [ 19 ก.พ. 48 00:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 33 น่าอิจฉาจังเยย!!! งั้นน้องเด่น ลองทำข้อต่อไป และลองประยุกต์ดูให้เข้ากับคำตอบน๊า 2. ถ้าคุณมีวันที่อิสระ คือ free day โดยไม่ติดภารกิจอะไร .. จะหาตัวคุณได้ที่ไหน .. และคุณกำลังทำอะไรอยู่ .. และอยู่กับใคร ค่อยๆ ทำไปนะ แล้วเดี๋ยวรอดูตอนต่อไปปปป จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 19 ก.พ. 48 14:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตอบข้อ 2 .  นะครับ ถ้าวันนั้นเป็นวันอิสระของผม    การจะหาตัวผม   คงเป็นได้แค่ทางเดียวคือ   เบอร์โทรของผม ส่วนจะติดต่อได้หรือไม่  ไม่สามารถตอบได้ครับ  เพราะผมอาจจะปิดเครื่อง  หรือ รับสายเฉพาะคนที่ใกล้ตัวจริง ๆ เท่านั้นครับ ถ้าถามว่า กำลังทำอะไร   ก็คงยังตอบไม่ได้เช่นกันครับ  แล้วแต่ว่าตอนนั้น  กำลังอยู่ในอารมณ์ของอะไร  ( แป่ว  ) แต่ถ้าถามว่าอยู่กับใคร    มีเพียงคำตอบเดียวครับ     กับน้องกุ้ง ( อาจจะรวมถึงลูก ๆ และพ่อแม่ ในวันข้างหน้าครับ ) ตอบจากใจครับพี่สี่ เด่นศรี จากคุณ : เด่นศรี - [ 19 ก.พ. 48 23:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นคำตอบน้องเด่นแล้ว กำลังคิดว่ามีข้อต่อไปดีมั้ยเอ่ย เพราะดูเหมือนน้องเด่น... อาจจะพบแล้วเลยไม่ต้องถามต่อ อิอิ เอาเป็นว่าน้องเด่น ตอบไปเรื่อยๆ และเมื่อครบ 7 คำถามแล้ว ลองเทียบประยุกต์คำตอบกับคำถามแล้วกันนะ พี่สี่จะไม่ comment ล่ะ 3.in what area do you excel? (No modesty allowed here) คุณเก่งทางด้านไหน (ด้านที่มีคนชมเชยคุณบ่อยๆ นั่นแหละ ) ... ไม่ต้องเขินอายที่จะตอบน๊า ลองตอบดูนะจ๊า น้องเด่น !! จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 21 ก.พ. 48 23:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตอบข้อ 3.  ครับพี่สี่ เอาแบบที่คนชมเชยนะครับ ด้านการอ่าน ด้านการคิด และด้านการ  ไม่เคยยอมแพ้  ครับ ตรงคำตอบมั้ยเนี่ยะ ครับ ขอถามนิดหนึ่งนะครับว่า    passion  นี่  หมายถึงอะไรเหรอครับพี่สี่   ....................................... เด่นศรี  ครับ จากคุณ : เด่นศรี - [ 22 ก.พ. 48 08:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีค่ะ เพิ่งกลับมาอ่านอีกทีค่ะ ... อาซ้อคะ .. น่าสนใจมากๆเลยค่ะ รอฟังต่อนะคะ ***** พี่เด่นฯคะ ... passion จะมีลักษณะคล้ายๆคลึง กับความชื่นชอบ, ตัวตน, จิตวิญญาณ ของแต่ละคนค่ะ ... (เป็น subset ของ attitude ค่ะ) จริงๆแล้ว การค้นหา passion นั้นเป็นส่วนหนึ่ง ของ ศาสตร์แห่งการวางเป้าหมายชีวิตค่ะ ... ***** รอฟังอาซ้อ, พี่เด่นฯต่อนะคะ ******* รอฟังพี่กาเยฯ ด้วยค่ะ ****** ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : คนชื่อนินจา - [ 22 ก.พ. 48 16:48:15 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณครับคุณนินจา ( ผมไปเปิดดิกชันเนอรี่    เค้าแปลว่า   โลภ  หลง   ( ทำนองเนี่ยะครับ )      ก็เลยไม่แน่ใจว่า     ความหมายในกระทู้นี้  หมายถึงอะไร   ( ยิ้ม )) ( มาแก้ตัวก่อนครับ   เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่ยอมเปิดดิก ฯ  ( อิอิ )) ................................ ขอบคุณจ้า แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 48 21:07:11 จากคุณ : เด่นศรี - [ 22 ก.พ. 48 21:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มารอซ้อด้วยคนค่ะ จากคุณ : libra - [ 22 ก.พ. 48 22:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 “11. ความปรารถนาอย่างแรงกล้าคือเข็มทิศนำทางของคุณ (Your passion is your compass)” จากบทที่ 5 Wink and Grow Rich passion ยังหมายถึง desire แต่จะมีพลังมากกว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สำนวนหรือรูปประโยคของผู้ใช้กระมังครับ เฮ้อ..เบื่อภาษาอ. ครับเพราะไม่ได้แตกฉานทำให้ต้องค้นหาความหมายที่แท้จริง ขอผู้ช่วยชี้แนะเถอะครับ จากคุณ : ฯกาเย - [ 22 ก.พ. 48 23:18:46 A:61.91.151.219 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผู้รู้โปรดชี้แนะด้วยครับ จากคุณ : ฯกาเย - [ 22 ก.พ. 48 23:22:38 A:61.91.151.219 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 42 หวัดดีครับ คุณนินจา คุณซ้อสี่ (คิมิเอะ-จัง)และคุณน้องสุมาเต็กโช คารวะท่านอาจารย์ใหญ่(คุณเด่นศรี) ด้วยครับ เพิ่งว่างเว้นจากภาระกิจสำคัญ ขอนัดmeeting คุณนินจา คุณซ้อสี่ (คิมิเอะ-จัง)และคุณน้องสุมาเต็กโช นอกรอบได้มั๊ยครับ ถ้าไม่สะดวกผมจะbrief ให้ฟังทางโทรศัพย์ก็ได้นะครับ หรือแล้วแต่เห็นสมควร ช่วยแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ จากคุณ : ฯกาเย - [ 22 ก.พ. 48 23:39:50 A:61.91.151.219 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ว้า...มารออ่านเพิ่มหยักสมองค่ะ  ประสบการณ์ไม่มี ตอนนี้ขอเป็นผู้อ่านที่ดีนะคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : noopiglet - [ 23 ก.พ. 48 05:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 44 รบกวน พี่ ฯกาเย brief ในกระทู้ใหม่ได้ไหมคะ คนอื่นๆ จะได้มีโอกาสฟังด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : libra - [ 23 ก.พ. 48 13:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนแรกก็จะถามแล้วเชียวว่า .. ไม่ลองไปเปิด dictionary ดู ...ดีนะที่แก้ตัวมาก่อนนะ น้องเด่น ...ฮึ่ม ฮึ่ม อิอิ ขอบคุณทุกท่านที่มาให้ความกระจ่างเพิ่มขึ้นสำหรับศัพท์ว่า passsion ซึ่ง ซ้อก็ไม่รู้จะให้คำจำกัดความว่าอะไร จึงใช้คำว่า ความทะยานอยาก แทน แต่พออ่านคำตอบน้องเด่น .. แล้วเลยไม่รู้ว่า เรื่องเดียวกันหรือเปล่า ยังไง อย่าลืมเอาคำตอบมาประยุกต์เข้ากับคำถามด้วยนะ เมื่อทำจบแล้วครบ 7 ข้อ ใครที่ทำตามจนครบ 7 ข้อแล้ว อยากให้มาช่วยแชร์ด้วยค่ะ ว่าพบอะไรบ้างแล้วคิดว่านั่นใช่ passion ของตัวเองหรือเปล่า .. แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างนะคะ ข้อที่ 4 What do you most want to be remembered for? If you were designing your epitaph, what would you want to say?. (Not what your mum wants, or your spouse wants, but what do YOU want your headstone to say?) 4.อะไรที่คุณอยากให้คนอื่นรำลึกถึง เวลานึกถึงคุณ? ถ้าคุณกำลังออกแบบคำจารึกที่หลุมฝังศพ(ของคุณ) คุณต้องการเขียนว่าอะไร หรือ บอกอะไร (ต้องเป็นสิ่งที่คุณเองต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่คุณแม่คุณต้องการ, หรือ สิ่งที่คู่ครองของคุณต้องการ ... แต่อะไรที่คุณอยากให้หินที่จารึกบนหลุมฝังนั้นบอกอะไรเกี่ยวกับคุณ) แปลแล้วงงมั้ยเนี่ย .. ถ้างง ไปแปลจากภาษาอังกฤษ อาจจะง่ายกว่า ลองทำดูนะคะ .. มาครึ่งทางแล้ว เหลือ อีก แค่ 3 ข้อ ก็จะเจอ passion แล้ว ..และอย่าลืมมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ รอดูคำตอบน้องเด่นต่อไปจ้ะ.. ขอบคุณค่ะ พี่กาเยฯ ซ้อสะดวกเสมอ .. รอนินจา และน้องสุมาฯ ว่าว่างเมื่อไหร่ firm มาเลยค่ะ ... เข้าใจว่าเรื่องนี้จะยาว และอธิบายเยอะ .. ถ้าใช้เป็นคำพูดอาจจะง่ายกว่า เร็วกว่า และ interactive ให้เข้าใจได้เร็วกว่า ...รออยู่นะคะ แต่ถ้ายังไม่ได้เจอกันสักที เอา brief แบบในกระทู้ก็ได้ค่ะ เผื่อจะได้มีคนช่วยกันซัก หลายมุมมองดีค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 23 ก.พ. 48 19:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 46 พี่กาเยฯ ไม่มีหลังไมค์หรือคะ .. แล้วจะติดต่อได้ยังไงดีคะ รบกวนค่ะ จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 23 ก.พ. 48 19:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อีกอย่างคือ ในข้อ 3 ที่น้องเด่นตอบมา .. มีแต่สิ่งที่คนอื่นชมมา แต่จริงๆ แล้วก็คือ .. ต้องตอบว่า เราคิดว่าเราเก่งในด้านไหน คือ สิ่งที่เราคิดเองว่าเราเก่ง ซึ่งโดยปกติ สิ่งนั้นก็จะเป็นสิ่งที่คนอื่นชม .. แต่ถ้าเขาไม่ชม และเรารู้ว่าสิ่งนั้นเราเก่ง .. สิ่งนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เราเก่งด้วย ตอบเพิ่มนะจ๊ะน้องเด่น !! อิอิ งงมั้ยคะ คือ ให้ตอบเพิ่มด้วยว่า สิ่งไหนที่เราคิดว่าเราเก่ง (ถึงแม้คนอื่นจะไม่ชมเรา แต่เรารู้ตัวเราเองค่ะ) จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 23 ก.พ. 48 19:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แง๊   แง๊   .... พี่สี่แกล้ง แบบว่า  ไม่รู้จะตอบตรงจุดประสงค์หรือเปล่าครับ   แต่แบบว่า     ชอบตอบแบบสอบถามนะครับ   ( ตะแหน่ว ) .................................. ข้อ  3   ที่คิดว่าผมเก่งเหรอครับ แป่ว   .....  ตะแหน่ว  ....  หงิง หงิง ไม่รู้ว่าจะตอบยังงัยครับพี่สี่    เก่งตรงไหนหว่า   นึก นึก     แฮ่    นึกม่ายออก .......................................... เอาข้อ 4.  เลยละกันนะครับ อยากจะจารึกว่า   .... ฉันจะบิน  ....  ครับ   ( จริง ๆ เน้อ   ไม่ได้ล้อเล่น ) ....................................... ผ่านมา  4  ข้อ    สงสัยตัวเองแล้วครับว่า   ผมคงจะเป็นคนไม่ค่อยทะยานอยาก   แน่เลย เหมือนคนปลง  ปลง  ยังงัยก็ม่ายรู้     เนอะ    .... ตะแหน่ว ( ยิ้ม ) เด่นศรี   ครับผม จากคุณ : เด่นศรี - [ 23 ก.พ. 48 21:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สวัสดีค่ะพี่เด่นฯ ... เสียงเพาระดีจังค่ะ ... --> "ต๊ะแหน่ว" ของพี่เด่นฯ อะ อิอิ ****** จริงๆมีบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ แต่เป็นภาษาอังกฤษอะพี่ .... กล่าวง่ายๆคือ passion ไม่ได้แปลว่า ดีหรือไม่ดีนะคะ ... ขึ้นกับการนำไปใช้ค่ะ คำๆนี้ เป็นลักษณะกลางๆค่ะ ... หมายถึงว่า อาจเป็นแง่บวกหรือแง่ลบก็ได้ค่ะ (ไม่ต้องกังวลนะคะ) ... เพียงแต่การ รู้ และ เข้าใจ ..... ตัวตนของตัวเอง ... ก็จะดึงมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ค่ะ .... โดยเฉพาะถ้านำมาใช้ประโยชน์ในทางบวก จะเป็นแรงผลักดันที่ดีอย่างยิ่งค่ะ ... (ปรกติ แรงผลักในทางบวกจะมีประสิทธิภาพสูงสุดได้มากกว่าทางลบค่ะ) เน้นที่ "สูงสุด" นะคะ ... ถ้าบวกกลางๆ อาจไม่เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนของ ทางบวก กับ ทางลบ ****** ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันค่ะ ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 48 13:00:15 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 48 11:13:11 จากคุณ : คนชื่อนินจา - [ 24 ก.พ. 48 11:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 50 มีข่าวมาประชาสัมพันธ์นิดนึงค่ะ ... (ได้รับข่าวจากพี่กาเยฯ ต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ) วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2548 จะมีการจัดสัมภาษณ์นักธุรกิจที่มีประสบการณ์ให้ได้แง่คิดเกี่ยวกับธุรกิจและเรื่องที่เกี่ยวข้อง (มีคุณตัน โออิชิ ด้วยค่ะ) จัดโดย focus group โทร 02-9122811-2 ห่างท่านใดจะติดต่อเพื่อขอเข้าฟังการสัมภาษณ์และรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเบอร์โทรดังกล่าว ... หรือ อาจารย์กิจวัฒนา .. สามารถอ้างถึงคุณกาเย (คุณกฤต พิทักษ์นราธรรม) ... คือพี่กาเย ก็จะไปงานสัมภาษณ์นี้ด้วยค่ะ รายละเอียดทั้งหมด ท่านที่สนใจลองสอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ ขอบพระคุณในความเอื้อเฟื้อของพี่กาเยฯ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ (กลับมาแก้ไขเบอร์โทรค่ะ เกิดการผิดพลาดระหว่างการสื่อสารค่ะ...อิอิ...) แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 48 16:14:04 จากคุณ : คนชื่อนินจา - [ 24 ก.พ. 48 13:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ซ้อสี่ (คิมิเอะ-จัง)ครับ วันmeetingผมให้นามบัตรใว้หรือเปล่าครับ ติดต่อผมได้ตามนั้นนะครับ จากคุณ : ฯกาเย - [ 24 ก.พ. 48 14:31:09 A:61.91.151.2 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แก้ไขเบอร์นะครับ 02-912-2811-2 หรือ 01-308-5234 จากคุณ : ฯกาเย - [ 24 ก.พ. 48 14:33:48 A:61.91.151.2 X: TicketID:051115 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณพี่ ฯกาเย ค่ะ ที่มาแก้ไขเบอร์โทรที่ถูกต้อง ... อิอิ ... มีอะไรเสริมอีก ก็จะยินดีอย่างยิ่งค่ะพี่ จากคุณ : คนชื่อนินจา - [ 24 ก.พ. 48 16:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 54 น้องเด่น .. พี่สี่ว่าน้องเด่นคงเจอ passion แล้ว และก็คงสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว คือ ไม่ต้องค้นหา คำตอบที่ได้เลยอาจไม่ค่อยตรงกับคำถาม .. แฮ่ แฮ่ .. เห็นมั้ย หาคำตอบให้น้องเด่นจนได้ ไม่ใช่เพราะน้องเด่น ไม่ใช่คนทะยานอยากหรอก แต่เพราะพบ passion ตัวเองแล้ว และเป็นคนไม่ยอมแพ้ .. รวมๆ แล้วนั่นก็ถือว่าเป็นการทะยานอยากแล้วแหละ ลองดูข้อ 5 ต่อนะ 5. If you have a magic wand, what would you change about your life TODAY? How would it look compared to how it looks now?. Which aspects of your life ARE changable, both short term and long term ข้อ 5 ถ้าคุณมีไม้เท้าวิเศษ ที่สามารถเปบี่ยนแปลงอะไรก็ได้, คุณคิดว่าคุณอยากให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตคุณทุกวันนี้ และถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วเมื่อเทียบกับปัจจุบันมันจะเป็นอย่างไร และ ความคาดหวังในชีวิตคุณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเปลี่ยนแปลงไปด้วยหรือเปล่า ? คนอื่นๆ ทำกันบ้างมั้ยคะ share ด้วยซิคะ จะได้แลกเปลี่ยนกัน จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 25 ก.พ. 48 13:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อะ งั้นขอตอบมั่งละกัน 1. find your joy factor   ค้นหาว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกสนาน 1.1 ช่วงเวลาไหนน๊าที่คุณรู้สึกสนุกสนาน มีความสุข. ตอบ ช่วงที่เรียนอนุบาล 1.2 ตอนนั้นคุณกำลังทำอะไรอยู่ ตอบ เล่น กิน นอน 1.3 ในช่วงเวลานั้นคุณอยู่ที่ไหน ตอบ โรงเรียน 1.4 ใครที่คุณใช้ช่วงเวลานั้นอยู่ด้วย ตอบ เพื่อน ๆ มั๊ง จำไม่ค่อยได้แล้วสิ 1.5 คุณรู้สึกอย่างไรในช่วงเวลานั้น ตอบ อันนี้จำไม่ได้เลย ว่าตอนนั้นรู้สึกอย่างไร รู้แต่ว่าเมื่อ       มองย้อนกลับไปจากวันนี้ ช่วงเวลาช่วงนั้นเป็นช่วง       ที่ชีวิตมีความสุขที่สุด เมื่อเทียบกับปัจจุบัน 2. ถ้าคุณมีวันที่อิสระ คือ free day โดยไม่ติดภารกิจอะไร .. 2.1 จะหาตัวคุณได้ที่ไหน ตอบ ตามแหล่งธรรมชาติต่าง ๆ 2.2 และคุณกำลังทำอะไรอยู่ ตอบ อยู่กับธรรมชาติ 2.3 และอยู่กับใคร ตอบ อันนี้ตอบยากแฮะ เอาเป็นขอตอบว่า อยากอยู่กับคน       ที่เข้าใจธรรมชาติจริง ๆ 3.in what area do you excel? (No modesty allowed here) คุณเก่งทางด้านไหน (ด้านที่มีคนชมเชยคุณบ่อยๆ นั่นแหละ ) ตอบ ด้านคอมพิวเตอร์มั๊ง แต่สำหรับตัวผมเอง ผมรู้สึกว่าผมแค่       รู้ในสิ่งที่คนอื่นยังไม่รู้เท่านั้นเอง ในขณะเดียวกันก็มี       อีกมากมายหลายอย่างที่คนอื่นรู้แต่ผมไม่รู้ สรุปผม       ไม่เห็นจะรู้สึกว่าตัวเองเก่งด้านนี้เลยง่ะ 4.อะไรที่คุณอยากให้คนอื่นรำลึกถึง เวลานึกถึงคุณ? ตอบ จริง ๆ อยากตอบว่าไม่มีนะ เพราะไม่อยากให้ใครจดจำ       ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดี หรือไม่ดีที่ได้ปฏิบัติต่อกัน อยากให้       เป็นเพียงแค่ เหตุที่เกิดตามปัจจัย แล้วก็จบไปเพียงแค่นั้น       แต่ก็เอาเป็นว่า ขอตอบว่ารูปร่างหน้าตาตามช่วงเวลาที่ถูก       นึกถึงละกัน 5. If you have a magic wand,    what would you change about your life TODAY?    How would it look compared to how it looks now?.    Which aspects of your life ARE changable,    both short term and long term ข้อ 5 ถ้าคุณมีไม้เท้าวิเศษ ที่สามารถเปบี่ยนแปลงอะไรก็ได้ คุณคิดว่าคุณอยากให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตคุณทุกวันนี้ ตอบ เปลี่ยนแปลงวันนี้เลยนะ ก็คือไม่มีหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้       ทั้งของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็มีรายได้เข้ามา       มากเพียงพอที่จะสามารถเลือกทำงานอะไรก็ได้โดย       เรื่องเงินไม่ใช่ปัจจัยต้น ๆ ที่ต้องพิจารณา (ขอมากไปมั๊ยนี่) 5.1 ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วเมื่อเทียบกับปัจจุบันมันจะเป็นอย่างไร ตอบ ชีวิตคงสงบ และมีเวลาอยู่กับธรรมชาติได้มากขึ้น 5.2 ความคาดหวังในชีวิตคุณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเปลี่ยนแปลง     ไปด้วยหรือเปล่า ? ตอบ ถ้าหมายถึงว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว จะทำให้       ความคาดหวังในชีวิตทั้งระยะสั้นและระยะยาว       เปลี่ยนแปลงไปด้วยไม๊ อันนี้ขอตอบว่าไม่ จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 26 ก.พ. 48 10:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ดีใจที่เห็นมีคนเข้ามาแชร์ความเห็นด้วยค่ะ ..สำหรับของคุณแมลงเม่าทนไฟ .. ซ้อว่าน่าสนใจมากเลยค่ะ แต่คนที่จะตอบว่า passion ของคุณคืออะไร ก็คือตัวคุณเองค่ะ เพียงแค่ตอบคำถามจนครบ 7 ข้อ และนั่งมองคำตอบของคุณค่ะ จริงๆ แล้ว ซ้อว่า ในแต่ละคำถาม คำตอบไม่ได้มีเพียง 1 นะ สามารถตอบได้ในหลายมุมมอง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการทำงาน อาจจะเป็นเรื่องนิสัย บุคลิกภาพ หรือ อะไรก็ได้ที่นึกออก ยกตย. ของซ้อที่ทำไว้บ้าง 1. find your joy factor  ค้นหาว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกสนาน 1.1 ช่วงเวลาไหนน๊าที่คุณรู้สึกสนุกสนาน มีความสุข. ตอบ -ตอนที่ได้ไปเที่ยวที่ใหม่ๆ ที่แปลกๆ ที่ที่ไม่เคยไป เช่นต่างจังหวัด ต่างประเทศ หรือ ที่ๆ เคยไป แต่ไม่ได้ไปอีกเป็นเวลานานจนลืมไปแล้ว -ตอนเตรียมตัวจะไปเที่ยว -ออกไปทำกิจกรรมระหว่างไปเที่ยว เช่น ขี่จักรยาน, ออกแค้มป์ 1.2 ตอนนั้นคุณกำลังทำอะไรอยู่ ตอบ .. กำลังไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ ไปสงสัยว่ามันคืออะไร ทำไมใครเขาคิดออกมาได้อย่างนั้น และสิ่งนั้นเอาไปทำประโยชน์อะไรให้เราได้บ้าง เราจะประยุกต์ความเจ๋ง หรือสิ่งใหม่ๆ นี้ให้เป็นประโยชน์กับเราได้ยังไง .. คนที่โน่นเขาทำอะไรกันที่แปลกกว่าเรา เขาทำทำไม เพราะอะไร เราเอามาประยุกต์ให้เป็นประโยชน์กับเราได้มั้ย ทำไมคนที่นี่เขาสวยจัง อะไรทำให้เขาสวย มีดีอะไรซ่อนอยู่ที่เราไม่รู้ อะไรประมาณนี้ค่ะ 1.3 ในช่วงเวลานั้นคุณอยู่ที่ไหน ตอบ ต่างประเทศ , ต่างจังหวัด, สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยไป, ที่ที่เคยไปแต่ไม่ได้ไปนานแล้ว 1.4 ใครที่คุณใช้ช่วงเวลานั้นอยู่ด้วย ตอบ ครอบครัว หรือ เพื่อน หรือ คนรัก 1.5 คุณรู้สึกอย่างไรในช่วงเวลานั้น ตอบ รู้สึกตื่นเต้น ไม่เบื่อ , รู้สึกอยากค้นหา, รู้สึกแปลกใหม่ในชีวิต, รู้สึกกระตือรือร้นที่จะออกไปรู้จักทุกสิ่ง, รู้สึกว่าโลกนี้มีอะไรน่าศึกษาเยอะแยะไปหมด สนุก 2. ถ้าคุณมีวันที่อิสระ คือ free day โดยไม่ติดภารกิจอะไร .. 2.1 จะหาตัวคุณได้ที่ไหน ตอบ ที่บ้าน, ที่สถานที่ท่องเที่ยว, ที่ศาลเจ้า .. ไปไหว้เจ้า, ที่บ้านแม่ 2.2 และคุณกำลังทำอะไรอยู่ ตอบ เดินเล่น, ท่องเที่ยวดูสิ่งแปลกใหม่, กำลังทำกิจกรรมเช่น ขี่จักรยาน, เดินสำรวจสถานที่, ไปเดินดูผู้คน, 2.3 และอยู่กับใคร ตอบ ตัวเอง ครอบครัว เพื่อน และ คนรัก 3.in what area do you excel? (No modesty allowed here) คุณเก่งทางด้านไหน (ด้านที่มีคนชมเชยคุณบ่อยๆ นั่นแหละ ) ตอบ     -พูดเก่ง คุยเก่ง -เข้ากับคนง่าย มนุษยสัมพันธ์ดี -กล้าแสดงออก -กล้าทดลองสิ่งใหม่ .. เปิดใจกว้าง -ตั้งคำถามเก่ง น่าสนใจ -สงบ ใจเย็น -มีทักษะด้านวิเคราะห์ และจิตวิทยา -ยิ้มง่าย -ใช้คำพูดในการสื่อสารได้ดี ปล. อันนี้เป็นทั้งที่ซ้อคิดเองว่าตัวเองเก่ง และมีคนบอก .. คือ บางอย่างเราคิดว่าเราทำได้ดี แต่คนอื่นไม่ได้บอก หรือ บางอย่างที่เราคิดว่าเราไม่เก่ง แต่คนอื่นบอกว่าเราเก่ง จะเห็นได้ว่ามันจะมีหลายมุมมอง ทั้งเราทำให้เกิด หรือ คนอื่นทำให้มันเกิดกับเรา ฯลฯ 4.อะไรที่คุณอยากให้คนอื่นรำลึกถึง เวลานึกถึงคุณ? ตอบ -คนนี้เป็นคนดี เป็นคนที่คอยช่วยเหลือคนอื่นเวลาเขามีความลำบาก -เป็นคนที่เป็นเพื่อนที่ดี เข้าใจผู้อื่น -นึกถึงทีไร เสียดายที่เขาจากไป อันนี้ซ้ออยากให้เขารู้สึกอย่างนี้ แต่เขาจะนึกถึงอย่างนี้หรือเปล่า ก็แล้วแต่ว่าเราทำให้มันเกิดขึ้นหรือเปล่า 5. If you have a magic wand,   what would you change about your life TODAY?   How would it look compared to how it looks now?.   Which aspects of your life ARE changable,   both short term and long term ข้อ 5 ถ้าคุณมีไม้เท้าวิเศษ ที่สามารถเปบี่ยนแปลงอะไรก็ได้ คุณคิดว่าคุณอยากให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตคุณทุกวันนี้ ตอบ  ไม่มี คิดว่าทุกอย่างในชีวิต ได้ตัดสินใจให้เหมาะตามวัน เวลา ทางเลือกและสถานการณ์ในช่วงนั้นๆแล้ว ถ้าจะเกิดอะไรผิดพลาดไป ก็ต้องยอมรับ เพราะบางทีสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว และ ทางเลือกก็อาจจะเปลี่ยนไปเหมือนกัน 5.1 ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วเมื่อเทียบกับปัจจุบันมันจะเป็นอย่างไร ตอบ - 5.2 ความคาดหวังในชีวิตคุณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเปลี่ยนแปลง    ไปด้วยหรือเปล่า ? ตอบ ไม่ได้คิด ไม่ได้คาดหวัง แต่จะทำให้ดีที่สุด จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 27 ก.พ. 48 11:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 57 หลังจากผ่านมา 5 ข้อแล้วนะคะ .. เป็นไงคะ เริ่มมองเห็นตัวเองในบางมุมมองหรือยังคะว่าอะไรทำให้เราเป็นเช่นทุกวันนี้ ..อะไรทำให้เรามีความสุข .. เพราะอะไร ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น มาถึงข้อ 6 ค่ะ 6. How does your joy factor overlap with your favourite things and the areas in which you excel? Do the areas in which you excel bring YOU joy, or are they really for someone else. do you see which are obvious matches, and which do not fit?. Those that overlap, that bring YOU the most JOY, are most likely the things that would bring you into Passionate Living. ลองดูซิว่าคำตอบข้อ  1 (อะไรที่ทำให้เรารู้สึกสนุก) กับข้อ 2 (สิ่งที่เราชอบ) และ ข้อ 3 (ด้านไหนที่เราเก่ง)  มีส่วนไหนบ้างที่ทับซ้อนกัน สิ่งที่เราคิดว่าเราเก่ง หรือที่คนอื่นชมเรา (ข้อ 3) .. ถามจริงเหอะว่า สิ่งนั้นเราทำเพื่อเราเอง หรือทำเพื่อคนอื่น..คุณเห็นอย่างชัดเจนเลยมั้ยว่าอันไหนที่เหมาะกับคุณและอันไหนไม่เหมาะ .. ดูในส่วนที่ทับซ้อนกัน คุณคิดว่าสิ่งที่ทำให้คุณสนุก และคุณก็ชอบด้วย และคุณก็ทำเพื่อตัวเองด้วย .. นี่แหละน่าจะเป็นสิ่งที่เป็น Passionate Living  ของตัวคุณ หวังว่าเพื่อนๆ เริ่มจะพบ passionate living ของตัวเองนะคะ เหลืออีกข้อก็จบแล้วค่ะ รอตามนะคะ จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 27 ก.พ. 48 11:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ข้อสุดท้ายค่ะ 7.What is the first even teeny tiny step you can take to living out your Passion as you have defined in #6 Take some time to really think this one through"" concentrate and focus, and then you will be able to start the next step - BUILDING YOUR ROADMAP 7. คราวนี้คุณรู้แล้วใช่ม๊าว่า passion คุณคืออะไร ตอนนี้ลองคิดดูซิว่าคุณจะเริ่มก้าวเล็กๆ ที่จะตาม passion ของคุณยังไง .. ให้เวลาสักนิด จดจ่อกับมัน และต่อไปคุณก็จะมีแผนที่ชีวิตของคุณแล้ว จบแล้วค่ะ ... ขอบคุณที่ติดตาม หวังว่าทุกคนคงได้เจอในสิ่งที่ค้นหานะคะ จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 28 ก.พ. 48 21:17:26 ]