ไม่เกี่ยวกับเรื่องหุ้นครับ แต่น่าจะให้ข้อคิดได้เหมือนกัน
พรุ่งนี้ขอให้บวก ๆ ครับ...
.
.
.
.
.
****ในช่วงแรกของกระทู้เป็นช่วงเดือนตุลาคมนะครับที่อ่านมา คนโพสเป็นเพื่อนกานต์
จากคนที่เคยสนุกสนานร่าเริง เฮฮา มีความสุขกับทุกอย่าง มีความฝัน มีความหวัง มีความทะเยอทะยาน อยากทำทุกอย่างที่ใจต้องการ ไฟแห่งความหวังลุกโชติช่วงเต็มที่ พร้อมที่จะนำทางไปยังความสำเร็จ แต่แล้วทุกอย่างก็ดับวูบ มืดลง มันรวดเร็วมาก เหมือนลมพัด ให้แสงสว่างในชีวิตผมดับลง ผมยืนนิ่งอยู่เนิ่นนาน นานจนน้ำตาเริ่มไหลจากหยดเล็กๆ..จนเป็นทาง และตอนนี้มันได้เหือดแห้งไปแล้ว พร้อมกับเวลาที่เหลือน้อยเต็มที...เวลาที่ผมถูกขโมยไป
ผมเป็นนักศึกษาปี 4.ที่มีความฝันมาโดยตลอด ผมเป็นความหวังเดียวของพ่อแม่ ผมบอกพ่อแม่ตลอดเวลา ว่าต่อไปผมเรียนจบครอบครัวเรา จะไม่ต้องลำบากอย่างนี้อีกแล้ว รอยยิ้มของแม่ผมยังจำติดตา มันแฝงไปด้วยความภูมิใจ ความดีใจ และที่สำคัญความหวัง ผมเป็นนักเรียนที่เรียนดี ทำงานไปด้วย ทำกิจกรรมไปด้วย แต่ผมมีโรคประจำตัว ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้ว่าผมจะปวดหัวเหมือนเข็มสักร้อยอันทิ่มแทงไปในสมอง จนน้ำตาผมไหล ผมเป็นบ่อยมากในช่วง2-3เดือนมานี้ แต่ไม่ได้บอกใคร จนที่สุดผมทนไม่ไหว หมดสติไป ตอนกลางคืนตื่นขึ้นมาพบตัวเอง นอนอยู่ในห้องไอซียู
หลังจากนั้นผมก็หลับไป...นานเท่าไรไม่รู้ รู้แต่ว่าผมตื่นมาอีกครั้ง ผมไม่มีผมบนศรีษะ ผมไม่เสียง ไม่มีแรง แม่ของผมซูบผอม แก้มตอบ ร่วงโรย ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร แม่บอกผมทั้งน้ำตา ว่าให้ผมทำใจดีๆทั้งที่น้ำเสียงของแม่สั่นเครือ ผมรู้แล้วว่าผมไม่สบาย แต่ก็อาจหายไม่ใช่เหรอ แม่ส่ายหน้า แม่บอกว่าใน2เดือนข้างหน้า แม่จะรักผมให้มากที่สุด แม่จะอยู่กับผมจนถึงวันสุดท้าย เท่านั้นเองครับ ที่แสงสว่าง แห่งความหวัง และความฝันของผมดับไปผมรู้แล้ว น้ำตาผมเริ่มไหลเป็นหยด...จนเป็นทาง
ผมถูกขโมยเวลาไปพร้อมๆกับความหวัง และความฝันของผมและพ่อแม่ อีกแค่ 4 เดือน ผมจะรับปริญญาแต่ผมก็ทำไม่ได้ แม่บอกว่าแม่จะตัดชุดจากผ้าไหม ที่พ่อซื้อมาฝากจากนครพนม แม่ตัดแล้ว แต่คงไม่มีโอกาสใส่ พ่อของผมไม่มีแม้แต่น้ำตา แต่ผมรู้ว่าพ่อเจ็บปวดแค่ไหน ผมบอกพ่อว่าจบแล้ว ผมจะไปสมัครงานที่การบินไทย ผมอยากเป็นนักบิน จากนั้นก็จะเก็บเงินสร้างบ้านให้พ่อให้แม่ พาพ่อแม่ไปเที่ยวฮ่องกง ซื้อของ จากนั้นผมจะแต่งงานมีหลานให้ท่านอุ้ม ฟังดูมีความสุขนะ
แต่...ผมก็ทำให้ท่านผิดหวัง เสียน้ำตา ให้ท่านต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดของผม ผมแอบเห็นแม่ร้องไห้ในตักพ่อ ถ้าใครได้มาเห็นภาพนั้น คงจะเข้าใจคำว่าใจจะขาดเป็นยังไง มันเจ็บ เจ็บทั้งตัว ทั้งใจ ทรมานมากผมเคยถามตัวเอง ว่าชาติก่อนผมเคยทำอะไรให้ใคร ชาตินี้ผมจึงต้องมารับกรรมพร้อมกับพ่อแม่อย่างงี้
เหลือเวลาอีก 21 วัน ในขณะที่คนอื่นนับเวลาที่จะเดินไปข้างหน้า ผมกลับนับเวลาเดินถอยหลัง ไม่รู้ว่าวันนั้น ผมจะเจ็บปวดมาแค่ไหน พ่อแม่ผมจะเป็นอย่างไร ผมเป็นห่วง ผมบันทึกข้อความนึง ไว้ในสมุดบันทึกเงินเดือนของพ่อ เพราะว่าอีก 28 วันแม่ต้องเปิดมันเพื่อเขียนรายรับในบ้าน ผมบอกท่านว่า "ผมรักพ่อกับแม่นะครับ ชาติหน้า เรามาเป็นพ่อแม่ลูกกันอีกนะ ผมสัญญาว่า จะไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังและเสียใจอีก..สัญญาครับ"
ทุกคนที่อ่านอยู่ขอให้รู้ไว้นะครับ ว่าเราไม่มีทางรู้เลยว่าพรุ่งนี้เราจะเป็นอย่างไร อยู่หรือตายจากโลกนี้ไป ตอนนี้ผมรู้แล้ว ว่าเวลาสำคัญกว่าอื่นใด ไม่ว่าเงินหรือทองก็ซื้อมันไม่ได้ ขอให้ทุกคนใช้ว่าให้คุ้มค่า และหวงแหนมัน อย่าให้ใคร ขโมยมันไปจากคุณเหมือนกับผมนะครับ
ในที่สุดวันที่พวกเราไม่อยากให้มันเกิดก็มาถึง กานต์ซึ่งเป็นเพื่อนกับเรามาตั้งแต่ม.4ก็มาจากเราไป จากพ่อแม่ของมันไป
**************************************************************************************
จากคุณ :
แคนนอน
- [
28 ก.พ. 48 00:07:00
]