CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ผลประกอบการ GRAMMY , GMMM และ RS ประจำปี 2004...

    ประกาศผลประกอบการประจำปี 2004 ออกมาแล้วเมื่อ 2 วันก่อนสำหรับ บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) , บมจ. จีเอ็มเอ็ม มีเดีย (GMMM) และ บมจ. อาร์เอส โปรโมชั่น (RS) 2 แม่ลูกและคู่แข่งตัวยังแห่งวงการบันเทิงไทย โดยรายได้และกำไรสุทธิของแต่ละบริษัทเป็นดังนี้

    รายได้ 2004 2003 (หน่วยล้านบาท)
    GRAMMY 6,671.44 5,986.48
    GMMM 2,535.32 2,334.43
    RS 2,377.87 1,961.27

    กำไรสุทธิ 2004 2003 (หน่วยล้านบาท)
    GRAMMY 700.202 525.167
    GMMM 323.255 385.600
    RS (131.681) 107.814

    ( ) = ขาดทุน

    GRAMMY ประกาศผลประกอบการโดดเด่น รายได้พุ่งทะลุ 6,500 ล้านบาท และกำไรสุทธิพุ่งทะลุระดับ 700 ล้านบาท โดยถือเป็นรายได้และกำไรสุทธิที่สูงที่สุดของบริษัทนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมา โดยเหตุผลหลักจากการเติบโตของธุรกิจหลักคือธุรกิจเพลง โดยในขณะที่ตลาดเพลงทั่วโลกอยู่ในภาวะซบเซา แต่รายได้จากธุรกิจเพลงของแกรมมี่กลับเติบโตอย่างโดดเด่น โดยในปี 2004 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจเพลงทั้งสิ้น 3,235.95 ล้านบาท (เทียบกับปี 2003 มีรายได้จากธุรกิจเพลง 2,857.43) โดยอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงๆของบริษัทคือ เบิร์ด-เสก ที่ทำยอดขายรวมได้ประมาณ 2 ล้านชุด และต่าย อรทัย ที่ทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านชุด ในขณะที่อัลบั้มรวมฮิตซึ่งมีมาร์จิ้นสูงก็ขายดี ทำให้กำไรขั้นต้นของธุรกิจเพลงดีขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ธุรกิจภาพยนตร์ก็ขาดทุนลดน้อยลง หลังจากที่ช่วงครึ่งปีหลังได้จับมือกับพันธมิตรก่อตั้งบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ (GTH) โดยแกรมมี่ถือหุ้น 51% และถือหุ้นในหับโห้หิ้น ซึ่งถือหุ้นใน GTH อยู่ 19% อยู่อีก 51% นอกจากนี้ธุรกิจที่เติบโตโดดเด่นอีกก็คือธุรกิจอีบิสสิเนส และบริหารจัดการศิลปิน โดยในปี 2005 นี้ แกรมมี่จะรุกธุรกิจ 2 อันนี้มากขึ้น โดยล่าสุดได้จัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อ จีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล โดเมน (GMMD) ขึ้นเพื่อจับงานธุรกิจดิจิตอลอย่างเต็มสตรีม สำหรับธุรกิจสื่อของบริษัทที่บริหารโดยบริษัทลูกคือ GMMM กลับอ่อนกำลังลงอย่างมาก (อ่านต่อที่บทวิเคราะห์ของ GMMM) ซึ่งฉุดผลกำไรบางส่วนของแกรมมี่ให้เติบโตต่ำกว่าคาดการณ์ของโบรกเกอร์บางสถาบัน อย่างไรก็ตามในปี 2005 คาดว่าแกรมมี่จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอากู๋ประกาศที่จะลงมาบริหารงานเองอย่างเต็มตัวอีกครั้งหนึ่ง และจะเปิดตัวโครงการใหม่ๆของบริษัทออกมาเรื่อยๆในปีนี้ จะเป็นอย่างไรต้องติดตามกันต่อไป
    GRAMMY ยังประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอีกในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท หลังจากที่ครึ่งปีแรกจ่ายไปแล้ว 0.60 บาท รวมแล้ว GRAMMY จ่ายเงินปันผลประจำปี 2004 เป็นจำนวน 1.25 บาท สำหรับราคาหุ้นแกรมมี่เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 17.4-17.5 บาท ในขณะนี้ โดยนักวิเคราะห์จากหลายๆสถาบันให้ราคาเหมาะสมอยู่ในช่วง 21-26 บาท ซึ่งยังมี gap ที่จะขึ้นได้อีกเยอะพอสมควร


    ในขณะที่ GRAMMY ประกาศผลประกอบการออกมาน่าประทับใจ แต่บริษัทลูกที่ทำธุรกิจสื่ออย่าง GMMM กลับประกาศผลประกอบการออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง โดยกำไรประจำปี 2004 อยู่ที่ 323.255 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วเฉียด 20% ในขณะที่รายได้เติบโตน้อยมากเพียงไม่ถึง 10% มาอยู่ที่ 2,535.32 ล้านบาท เท่านั้น โดยธุรกิจวิทยุของบริษัทมีรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 1,002.28 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 1,060.84 ล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจโทรทัศน์เติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากได้เวลาออกอากาศเพิ่มในหลายๆช่อง ทำให้รายได้ของธุรกิจโทรทัศน์แซงหน้าธุรกิจวิทยุมาอยู่ที่ 1,150.53 ล้านบาท (ปีก่อนรายได้อยู่ที่ 931.58 ล้านบาท) ในขณะที่ธุรกิจสิ่งพิมพ์ก็โดดเด่นเช่นกัน แต่รายได้ยังเป็นสัดส่วนที่ไม่สูงนัก จากการที่ธุรกิจวิทยุซึ่งมีอัตราขั้นต้นสูงมีรายได้ลดลง ทำให้กำไรของบริษัทอ่อนลง นอกจากนี้บริษัทยังต้องใช้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการรักษาเรตติ้งของธุรกิจวิทยุอีกด้วย ในขณะที่ธุรกิจโทรทัศน์แม้จะมีเวลาออกอากาศเพิ่มขึ้น แต่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจนี้อยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก เป็นผลทำให้กำไรโดยรวมของ GMMM อ่อนลง โดยเฉพาะไตรมาสที่ 4 บริษัทมีกำไรสุทธิเพียง 24 ล้านบาท น้อยกว่า RS ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิชนะมาตลอดแม้จะเป็นเพียงบริษัทลูกของ GRAMMY (RS มีกำไรประจำไตรมาส 4 อยู่ที่ประมาณ 31 ล้านบาท ในขณะที่ GRAMMY มีกำไรประจำไตรมาส 4 อยู่ที่ประมาณ 133 ล้านบาท) เนื่องจากค่าใช้จ่ายปลายปีที่สูงมาก ในปี 2005 บริษัทต้องเริ่มต้นปีด้วยข่าวร้ายคือ การสูญเสียคลื่น 94 และ 94.5 ไป ทำให้ต้องวิ่งหาคลื่นวุ่น แต่ก็ได้คลื่น 89 และ 103 มา แต่ร้ายไปกว่านั้นบริษัทต้องคืนคลื่น 103 ไป เพราะคิดว่าไม่สามารถจะสร้างรายได้และกำไรได้ เพราะต้องแบ่งเวลาไพรม์ไทม์ถึง 4 ชั่วโมงต่อวัน ให้กับทางกองทัพบกออกรายการสารคดี ทำให้คลื่นวิทยุของบริษัทเหลืออยู่เพียง 5 คลื่นในขณะนี้ น้อยกว่าของ MCOT ซึ่งมี 6 คลื่น ทำให้ภาวะความเป็นผู้นำในธุรกิจวิทยุของ GMMM เริ่มสั่นคลอนอย่างมาก ซ้ำร้ายไปกว่านั้นธุรกิจโทรทัศน์ของบริษัทยังถูกลดเวลาออกอากาศอีกด้วย โดยเฉพาะในช่อง 5 (ซึ่งเห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของกลุ่มแกรมมี่กับกองทัพบก เริ่มมัวหมองลง หลังจากที่เสียทั้งคลื่นวิทยุและเวลาออกอากาศ แต่ทางกองทัพบกกลับมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ RS มากขึ้นเพราะได้เวลาออกอากาศมากขึ้นมาก) ทำให้เวลาออกอากาศรวมของกลุ่ม GMMM ลดลงจากไตรมาส 4 ปีก่อน ซึ่งก็ต้องลุ้นกันว่า GMMM จะพลิกจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ได้หรือไม่ หรือจะต้องเลี้ยงตัวเองไปเรื่อยๆจนกว่า กสช จะเกิด ซึ่งทาง GMMM ยังมีเงินสดเหลืออยู่กว่า 1000 ล้านบาท ในคราวที่ระดมทุนในตอนเข้าตลาดหลักทรัพย์ใหม่ๆเพื่อใช้สำหรับการรับมือในการประมูลช่องโทรทัศน์และวิทยุ เมื่อกสช เกิดโดยเฉพาะ ... สำหรับธุรกิจสิ่งพิมพ์ของบริษัท เติบโตไปได้สวย โดย Madam Figaro และ Her World ถึงจุดคุ้มทุนและเริ่มสร้างกำไรแล้ว สำหรับ MAXIM แม้ต้นทุนจะสูง แต่ยอดขายดี คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ในเวลาไม่นาน นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวหนังสือหัวในประเทศชื่อว่า IN magazine อีกด้วย ซึ่งก็คาดว่าน่าจะไปได้สวย ขณะที่ IMAGE ก็ยังคงความมั่นคงอยู่เช่นเคย
    GMMM ประกาศจ่ายเงินปันผลอีก 0.40 บาทต่อหุ้น หลังจากที่จ่ายไปแล้วเมื่อครึ่งปีแรกจำนวน 0.90 บาท รวมแล้ว GMMM จ่ายเงินปันผลรวม 1.30 บาท ในปีนี้ แต่น้อยกว่าปีก่อนที่จ่ายรวมถึง 2.00 บาท นักลงทุนเกิดอาการผิดหวังในผลประกอบการและเงินปันผลของ GMMM ทำให้ล่าสุดราคาหุ้นร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 19.7 บาท นับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นมา โดยนักลงทุนให้ราคาเหมาะสมสำหรับ GMMM อยู่ที่ช่วงระหว่าง 18.2-23 บาท

    ทางด้านคู่แข่งอย่าง RS หลังจากที่ 3 ไตรมาสแรกของปี 2004 ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และขาดทุนเยอะมาก ในไตรมาส 4 RS สามารถพลิกมามีกำไรได้ 31 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจเพลงที่มีอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงๆ แต่ผลขาดทุนรวมของบริษัทในปี 2004 ก็ยังเยอะอยู่ โดย RS มีผลขาดทุนอยู่ที่ 131.681 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไร 107.814 ล้านบาท สำหรับรายได้ของ RS อยู่ที่ 2,377.81 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,961.27 ล้านบาท ร่วมๆ 20 กว่า % แม้รายได้รวมของ RS ยังน้อยกว่า GMMM ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแกรมมี่ แต่คาดว่าในปี 2005 นี้ RS จะสามารถทำรายได้แซง GMMM ซึ่งยังอยู่ในอาการระส่ำระส่ายได้ หลังจากที่ RS ประกาศขยายงานในธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังห่างไกลนักที่จะเทียบเท่ากับแกรมมี่ เพราะรายได้ยังต่างกันอยู่ถึง 3 เท่ากว่าๆ โดยธุรกิจเพลงของแกรมมี่อย่างเดียว มีขนาดใหญ่กว่าธุรกิจของ RS ทั้งเครืออยู่เกือบ 2 เท่า จะกล่าวว่าขนาดธุรกิจทั้งเครือของ RS มีขนาดเท่าๆกับธุรกิจสื่อของแกรมมี่ ก็ว่าได้ ในปี 2005 นี้ RS จะต้องเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาให้ได้ และต้องสร้างผลกำไรออกมาให้มั่นคง โดยตั้งแต่ต้นปี RS รุกในธุรกิจต่างๆอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจเพลงและโทรทัศน์ ก็ต้องดูต่อไปว่า RS จะกู้สถานการณ์กลับมาได้ดีเพียงใด

    เนื่องจากขาดทุน RS จึงไม่มีการประกาศจ่ายเงินปันผล แต่ปีที่แล้วซึ่งบริษัทมีกำไร ก็ไม่มีการประกาศจ่ายเช่นกัน แม้จะบอกนักลงทุนว่ามีนโยบายจ่ายเงินปันผลมากกว่า 60% ของกำไรสุทธิ ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในหุ้น RS อย่างมาก ราคาดิ่งลงต่ำสุดที่ 9.70 บาท ก่อนที่เฮียฮ้อจะทุ่มเงินกว่า 30 ล้านบาท ประคองหุ้น RS ไม่ให้ต่ำลงอย่างน่าเกลียดอยู่ที่ระดับ 12-14 บาทมาค่อนข้างนานมาก ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ว่าไม่ยอมให้หุ้นขึ้นลงตามอุปสงค์อุปทานที่แท้จริง ทั้งๆที่นักวิเคราะห์หลายๆสำนักประเมินราคาเหมาะสมของ RS อยู่ที่ระดับ 4.8-8 บาทเพียงเท่านั้น ซ้ำไปกว่านั้น RS ยังประกาศเพิ่มทุนอีก 5 ล้านหุ้นที่ราคา 15 บาทให้กับพนักงานของบริษัทอีกด้วย ทั้งๆที่ราคาในกระดานตอนนี้ร่วงมาที่ 12.2 บาทแล้ว แต่เฮียฮ้อยังจะขายให้กับพนักงานตั้ง 15 บาท ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพนักงานจะโดนบังคับให้ซื้อหรือเปล่า (น่าสงสารพนักงาน RS) หรือเพราะว่าเฮียฮ้ออยากจะระบายหุ้นที่ตัวเองถือขาดทุนอยู่ในมือมหาศาลออกมากันแน่ หรืออยากจะให้มีคนเล่นหุ้น RS บ้าง หลังจากที่ทนบ้าเล่นมาอยู่คนเดียว เพราะมูลค่าการซื้อขายต่อวันของ RS เฉลี่ยไม่ถึง 500,000 บาทต่อวันด้วยซ้ำ.... ไม่รู้ว่าอาเฮียคิดอะไรอยู่กันแน่ คงต้องติดตามดูต่อไป อาจจะได้เห็นอะไรดีๆก็ได้ (มั้ง)

    วิเคราะห์โดย อากู๋ fanclub

    ข้อมูลจาก
    http://www.set.or.th
    http://www.settrade.com

    จากคุณ : อากู๋ fanclub - [ 3 มี.ค. 48 08:54:18 A:218.179.100.58 X: TicketID:061996 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป