ความคิดเห็นที่ 1 อย่าเข้าใจผิดครับหุ้นไม่ใช่ zero sum game แน่นอน เนื่องจากมี dividen ค่าเงิน และ capital gain ซึ่งตัวหลังนี่สำคัญ ยกตัวอย่างหุ้น x มี 1000 ล้านหุ้นในตลาดแต่คุณคงไม่เคยเหห็น offer หนา 1000 ล้านหุ้นแน่นอนดังนั้นราคาหุ้นที่ขึ้นไปจะเกิดส่วนจินตภาพเกิดขึ้นแน่นอนดังนั้นจงอย่าคิดแบบ linear อีกอย่างที่เขาว่าต่างชาติติดหุ้นอาจจะไม่จริงนะครับ เขาซื้อมากช่วงค่าเงินเท่ารัย เขาขายตอนค่าเงินเท่ารัย เขาได้ปันผลฟรีเท่ารัย(ptx) เขาได้จาก capital gain เท่ารัย อาจเป็น 5+3+7 ซึ่งก็เหมาะแก่การรินขายให้นักรับทั้งหลายที่เชื่อเทคนิกซึ่งรู้จิงบางไม่จริงบ้าง อย่าฝืนตลาดแต่เล่นไปตามมันแล้วจะไม่ดอย vi อาจเป็นวายได้นะครับ ตลาดวาย หลังจากนั้นก็จะทำใจกันลำบากอ่านบทความของอาจารย์วีระ ก็อาจให้ข้อคิดนะครับ ในปี 46 ท่านเป็นคนเดียวที่ทายว่าปี 47 ตลาดจะลงท่านทายไว้ช่วงตุลามั้งครับถ้าจำไม่ผิด http://www.komchadluek.net/column/think/2005/03/weera28.php อย่าอยู่ผิดฝั่ง maket maker เขาเห็นทั้งสองฝั่งอ่านใจเขาให้ออก ถ้าคิดว่าซื้อแล้วต้องภาวนาให้มันไม่ขึ้นก็อย่าลงนั้นเป็นสิ่งที่ market maker  ต้องการเป็นที่สุดว่าจะต้องทำให้คุณอยู่คนละฝั่งกับเขา จากคุณ : SinkAble - [ 28 มี.ค. 48 01:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อีกอย่างเกือบลืมไปที่เดือน มกราคม นั้นยอดขาดดุล บช เดินสะพัดนั้นประมาณ 1000 ล้านดอล แต่มีอย่างนึงที่อาจไม่ได้คิดเดือนมกรานั้นมีต่างชาติซื้อก็ราวๆๆ 1000 ล้านดอลเหมือนกันข้อสังเกตคือ เงินเข้า 1000 ล้าน แต่สุดท้ายออกมาลบ 1000 ล้าน? X+1000=-1000 แก้เองนะครับ แล้วอย่างนี้จะน่าเป็นห่วงหรือป่าวที่คิดว่าต่างชาติเหลืออีกแสนล้านจิงหรือป่าว แต่ตัวเลขมันฟ้องว่าอาจมีทั้งตัวจิงตัวปลอมนะครับ เกือบลืมอีกอย่างนะครับ ว่า mlp ต้น ปี 47 เขาก็เป็นเจ้าแรกที่ออกมาลดน้ำหนักการลงทุนใน set แล้วหลังจากนั้นเป็นงัยครับดูกราฟเอาเอง จากคุณ : SinkAble - [ 28 มี.ค. 48 01:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การ "ลงทุน" ในหุ้น ไม่ใช่ Zero Sum Game - เพราะบริษัทจดทะเบียนนั้นมีผลประกอบการ ทำให้มูลค่าบริษัทสูงขึ้นได้เอง และยังแบ่งเงินให้กับผู้ถือ หุ้นในรูปแบบของปันผลได้ นี่พูดถึงบริษัทที่มีกำไรสม่ำ เสมอนะครับ ถ้าขาดทุนสม่ำเสมอ ก็เป็นตรงกันข้ามได้ - เพราะการขึ้นของดัชนีหลักทรัพย์ อาจจะพาให้หุ้นขึ้น แทบทุกตัว ดังนั้นหากหุ้นขึ้นแทบทุกตัว ก็จะเป็น Positive Sum ได้เหมือนกัน แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าหุ้นตกทุกตัว ก็เป็น Negative Sum ได้อีก คือแทบไม่มีใครได้กำไร ถ้าราคาที่ซื้อเป็น ราคา "ยอดดอย" - เราเป็นเจ้าของบริษัท ถือหุ้นบริษัท ให้บริษัททำงานไป ทำหน้าที่ไป แล้วเราก็ได้ปันผลมาจากบริษัท ถ้าเราถือหุ้น ไปเรื่อยๆ แล้วรับปันผลไปเรื่อยๆ มันเป็น Zero Sum Game ที่ตรงไหน? ถ้า "เล่นหุ้น" ซื้อมาขายไป ซื้อเยอะตัว ขายเยอะตัวในวัน เดียวกัน ที่ดัชนีไม่ขยับ อาจจะเป็น Zero Sum เพราะถือ ว่าโดยรวมแล้ว Market Cap ของทั้งตลาดยังคงเดิม เพียง มีหุ้นขึ้นและลงผลัดสลับกันในระยะเวลาสั้นๆ นั้น และใน เงื่อนไขที่ต้องซื้อและขายในระยะเวลาสั้นๆ จนอาจจะเป็นใน วันเดียวกัน ทำให้มองได้ว่าเป็น Zero Sum.... * การพนัน, วงพนัน เป็นตัวอย่างจริงอันหนึ่งของ Zero Sum Game เพราะไม่มีมูลค่าเพิ่ม วงพนันสร้างมูลค่าเพิ่ม ไม่ได้ ต่อให้ทิ้งเวลาไว้ ก็ไม่ได้มีมูลค่าเพิ่มใน "วง" เอง แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 48 09:35:14 จากคุณ : มือเก่าหัดขับ - [ 28 มี.ค. 48 08:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คนถามรู้หรือเปล่าว่า zero sum game = ? เพราะถ้ารู้ก็คงไม่ต้องตั้งคำถามนี้แล้ว จากคุณ : เออว่ะ - [ 28 มี.ค. 48 09:23:15 A:202.176.111.41 X: TicketID:074675 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับคุณมือเก่าหัดขับ จากคุณ : หมากเขียว - [ 28 มี.ค. 48 10:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วสงสัยค่ะว่าเวลาที่เห็นข่าวว่าต่างชาติขายนี่เค้าขายให้ใครคะคือต้องมีคนคอยรับซื้ออยู่ตลอดเลยรึเปล่า ตอบ ถูกต้องนะคร้าบ มีคนซื้อ ก็แปลว่ามีคนขายให้ครับ หากดูจากตัวเลขที่รายงาน มี 3 กลุ่ม คือ "นักลงทุนรายย่อย" ,"นักลงทุนสถาบัน" , "นักลงทุนต่างชาติ" แล้วที่นักลงทุนรายย่อยติดดอยนี่คือขายแล้วไม่มีคนซื้อใช่มั้ยคะ ตอบ ซื้อที่ราคาแพงแล้ว พอราคาหุ้นตกหนัก (ขาดทุน) ก็ถือทน ทนถือ ต้นทุนสูง ขายก็ขาดทุนเยอะ เลยไม่ขาย(เค้าเลยเรียกว่า ติดดอย ติดราคาสูง) น่ะนะ ปล. จะให้ดี เจ้าของ กท. ไปหาหนังสือการลงทุนใน ตลท. มาอ่าน ประกอบด้วยนะจ้ะ จากคุณ : chaychay - [ 28 มี.ค. 48 16:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมคิดว่าแล้วแต่เราจะมองในมิติไหน ถ้าเป็นการถือหุ้นไม่คิดจะขาย ถือไปเรื่อยๆ ไม่สนใจค่าสูญเสียโอกาส ก็ไม่เป็น แต่ถ้ามีการปิดสถานะการซื้อขายโดยสมบุรณ์ (มีการขายปิดสถานะ หรือซื้อคืนในกรณี short covering) ผมคิดว่ามันเป็น Zero-sum มีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย เผื่อเหนียวไว้ก่อน.................. (คุณ กท4 เธอดุเหลีอเกิน) ผมเลยลากคุณ Lawrence Harris Professor of Finance School of Business Administration University of Southern California ดูเหมือนแกจะเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็น Zero-sum game สนใจลองค้นเปเปอร์ฉบับเต็มมาอ่านดูก็ดีครับ จากคุณ : b n' b (K.nobody) - [ 28 มี.ค. 48 22:13:32 ]