ความคิดเห็นที่ 1 น่าสนใจดีครับ ผมเป็นคนเปิดใจรับความคิดใหม่ๆเสมอ จะลองไปทำใน Excel ดู ขอบคุณครับ จากคุณ : PD_city - [ 28 มี.ค. 48 19:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นแนวคิดที่ดีครับ ------------------------------------------------------------ ผมชอบคำพูดนี้ มากเลย กระทิง ก้าวขึ้นบันได ทีละขั้น ส่วน หมี กระโดดลงทางหน้าต่าง จากคุณ : italy - [ 28 มี.ค. 48 20:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สมัยก่อนผมเคยเสนอไอเดีย...เล่น DSM ขาขึ้น เสียงตอบรับเยี่ยมมากครับ...ถูกด่า จนผมเลิกตอบบอร์ดไประยะนึงเลย (ตั้งแต่นั้นมาคุณนินจาแซวผมว่า เป็นคน Sensitive...แปลว่า ขี้ใจน้อย อิอิ) แต่ไอเดียนี้น่าสนใจครับ...ผมจะไปลองดู ลองซื้อขายจริงๆเลย เพราะ ลองของจริง จะได้อารมณ์โลภและกลัว ที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าผมรวยนะครับ แต่ผมก็ลอกแบบมาจากอาจารย์พี่บ๊อบของผมนั่นแหละ แกเล่น DSM กับ SCIB-C1...ด้วยเงิน 2000 บาท ผมลูกศิษย์รุ่นสอง(หรือรุ่น 1 หว่า) จะลอง ReverseDSM มั่งไม่เห็นแปลกเลย อิอิ จากคุณ : ไม่เก่งแต่อยากตอบ - [ 28 มี.ค. 48 20:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลองดูได้เลยครับ     แล้วจะเข้าใจได้ชัดเจนครับ .................................... ( ยิ้ม ) ........................................ เด่นศรี   ครับ   .............................. ....  เงินอาจจะขี้เกียจทำงานไปสักประมาณ  60 %    ครับ   ( กรณีซื้อขึ้นทุก  4  ช่อง  ....  แต่ถ้าซื้อทุก  2  ช่อง   โอกาสเสียทีเจ้ามือสูงมากครับ ) .....  เสียน้อย  แต่ก็ได้น้อย     แต่ .....ถ้าใจไม่นิ่ง  จะเสียมาก  แต่ได้น้อย ................................ ต้องลองเองครับ  แล้วจะเห็น    ถ้าไม่ได้ลงมือทำจริง  จะมองไม่ออกเพราะ   ....... ยังงัยก็ระวังเจ้ามือด้วยนะครับ    เพราะเค้ารู้ทางดี  ( ยิ้ม ) ......................................... จากคุณ : เด่นศรี - [ 28 มี.ค. 48 21:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อีกนิดครับ ผมเคยใช้แนวคิดนี้   มาแก้ทาง  turtle   เป็นแนวคิดที่ปลอดภัย    แต่  ....  ในความปลอดภัย  ทำให้การโตของพอร์ต   ก็เลยน้อยไปด้วยครับ แต่อยากให้ลองดูครับ     เพราะว่า   จะได้ลองดูว่า   เจ้ามือเค้าทำอย่างไรทำให้เราขยับได้ลำบาก .................................... เด่นศรี   ครับ จากคุณ : เด่นศรี - [ 28 มี.ค. 48 21:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ได้ต้องการขัดแย้ง ผมชอบความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ แต่ได้วิเคราะห์ร่วมกับเพื่อนดูแล้ว  วิธีนี้  อันตรายมาก ๆ สำหรับ DSM ปกติ ถ้าเป็นหุ้นขาขึ้น ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว (อย่างมาก ก็ได้กำไรน้อยกว่าปกติ) ถ้าเป็นหุ้นขาลง  จำกัดความเสี่ยงได้ในระดับดีมาก  ไม่มีการติดดอย ส่วนวิธี Reverse DSM นี้  ขาขึ้นทำเงินได้ดี แต่ถ้าเป็นขาลงแรง ๆ  จะติดหุ้นมากขึ้น ๆ  เรื่อย ๆ  จนทำอะไรไม่ได้เลย เช่น  หุ้นสวนสนุก ไหลลงจาก  8 บาท เหลือ บาทเดียว  เราจะติดหุ้นสูง ๆ  ในแต่ละช่วงราคา  จนในที่สุด  เงินหมดพอร์ท  และราคาหุ้นวิ่งในช่วงราคาต่ำกว่าต้นทุน  เราได้แต่คอยอย่างเดียว ซึ่งถ้าบอกว่า เราจะใช้เฉพาะขาขึ้น  ก็คงจะบอกว่า  ยากที่จะรู้ว่า จะเป็นขาขึ้นจริงหรือไม่   สรุปว่า  วิธีนี้ยังไม่มีจำกัดความเสี่ยงที่ดี  ผู้นำไปใช้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ  และวางแผนเผื่อไว้ด้วย แค่เสนอความคิดเห็นในอีกมุมมองหนึ่ง และขอบคุณสำหรับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ จากคุณ : minibar (minibar) - [ 28 มี.ค. 48 21:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 5555 ผมดีใจมากเลยครับที่มีกระทู้นี้ จริงๆอยากบอกว่า...ลองทำมาแล้วด้วยซ้ำ ตอนนั้นที่เลิกไป เพราะ เล่นตัวที่พี่มินิบาร์ ยกตัวอย่างนั่นแหละครับ ผมซื้อตอนเกือบ 2 บาท เล่น DSM ขาขึ้นในแบบของตัวเอง...ตอนนั้นคิดว่าตัวเองเก่งเสียเต็มประดา ได้ผลครับ ขึ้นไปติดดอยเลย แรกๆ ไม่รู้ตัว ก็ปลอบใจตัวเองว่า เดี๋ยวระยะยาวก็หลุดเหมือน DSM ธรรมดานั่นแหละ กว่าจะรู้ตัวมันก็ตกมาบาทต้นๆ...ตอนนี้ซึ้งเลยครับ ก็ใช้ DSM ธรรมดานี่แหละ แก้ออกมา สรุป ผมจบลงด้วยการถอนตัวออกมาโดยไม่บาดเจ็บ แต่เสียเวลาและเครียดกะมันมาก...ดีนะมีช่วงเล่นข่าว เทคโอเวอร์ เลยได้โอกาส ไม่งั้นยังติดอยู่แหง อิอิ สรุปอีกที...เอาจะๆเลยนะครับ ไม่มีกั๊ก .....อย่าลองครับ ข้อเสียมากกว่าข้อดี จะได้มากกว่า DSM ธรรมดาก็ต่อเมื่อ ตลาดเป็นขาขึ้นแบบร้อนแรง คงไม่ต้องบอกมั้งครับ ว่าตลาดหุ้นไทยเป็นแต่ลงร้อนแรง ขึ้นร้อนแรงพบน้อยมาก ถ้าบอกแล้วยังไม่แน่ใจ ลองซื้อหุ้นลมในกระดาษดูครับ ลองสักเดือนแล้วจะเข้าใจ เขียนมาตั้งนาน..ยังไม่ได้บอกเลยว่าผมดีใจอะไร ดีใจที่ จริงๆแล้วเจ้าสำนักยังแอบดูพวกเราอยู่เสมอ แค่ผมบอกว่าผมจะไปลองดู..คุณเด่นศรี รีบออกมาช่วยเลย ดังนั้น ถ้าผมโชว์ควาย อะไรออกไปแล้ว มันจะมีผลเสียมากๆ...ก็สบายใจได้ เจ้าสำนักออกมาช่วยแน่ๆ ปล.1 ผมศิษย์รุ่นแรกๆของอาจารย์พี่บ๊อบ ไม่ตกม้าตายง่ายๆหรอกครับท่านเจ้าสำนัก...แต่อาจตกควายแทน เพราะโชว์มากไป ปล.2 ถ้าท่านคิดว่าผมขี้โม้ก็ไม่เป็นไร ขนาดข้อหา"โชว์ควาย "ผมยังไม่กลัว จะกลัวอะไรกับข้อหา"ขี้โม้" อิอิ ปล.3 ต่อไปผมจะตอบแบบผู้ทรงภูมิ คือ สั้นๆ+ตรงPiont +ได้สาระ ไม่มาตอบเล่นๆอีกแล้วนะครับ จากคุณ : ไม่เก่งแต่อยากตอบ - [ 28 มี.ค. 48 22:44:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีค่ะคุณ Mr_BooDoo .. สิ่งที่เสนอแนวคิดมา ... เยี่ยมยอดค่ะ ------> ตรงที่ได้ฝึกคิดค่ะ ... เพื่อจะได้ไม่ยึดติด ไม่ว่าจะวิธีการใดๆก็ตาม .. เยี่ยมจริงๆค่ะ ***** จริงๆอ่านปุ๊บ ก็เห็นบางประเด็นให้คิดเพิ่มดังนี้นะคะ (1) ที่คุณบอกว่า .... ขายเมื่อราคาเริ่มตกลงมา 3-5 ช่อง โดยขายให้แพงกว่าที่ซื้อไป ทุกจำนวน (2) ที่คุณบอกว่า ....เมื่อหุ้นลงไป 15 ข่องให้เปลี่ยนจุดซื้อใหม่(ซื้อเพื่อสร้างจุดขาย) ไม่ต้องสนใจราคาซื้อหรือ มูลค่า ให้มองแต่ความต่างของการขายซึ่งต้องแพงกว่าซื้อ ******* จะเห็นได้ว่า จากสองข้อดังกล่าว ... จะทำให้เกิด conflict ในระหว่างการดำเนินการในพอร์ตการลงทุน การซื้อจะไม่สามารถสร้างจุดขายได้ทุกครั้ง (เพราะไม่สามารถขายให้สูงกว่าที่ซื้อ) และนอกจากนั้น ก็จะไม่สามารถมาซื้อเพื่อสร้างจุดขายต่อไปได้อีก ... เกิด conflict ที่ตรงนี้ เคยลองมาหมดแล้วค่ะ ... แหะ แหะ ... ชอบทดลองค่ะ มีแนวคิดอะไรใหม่ๆ มาคุยกันอีกเยอะๆนะคะ ... ****** แต่มีการบ้านให้คิดเพิ่ม ..... วิธีการนี้ สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องมี "หลักการ" มาเสริม ... ลองคิดดูเล่นๆนะคะ ว่าจะเสริมหลักการอะไรให้รัดกุม ... จงให้เวลากับ "การเรียนรู้ วางแผน ทดลอง" แล้วจะได้รับสิ่งที่มีค่ามากๆค่ะ ****** ปล.1. พี่มิกซ์คะ .... แหมๆๆๆ นินจาไม่ได้มีเจตนาแซวอย่างนั้นนะคะ เพราะจริงๆแล้ว นินจา มองเห็น สิ่งที่เป็นประโยชน์มากๆจากพี่มิกซ์นะคะ ... เพราะ มีพันธมิตรคนหนึ่ง บุคลิกภาพคล้ายๆพี่มิกซ์มากๆค่ะ ... ขอบอกว่า สุดยอดมากๆ .... สามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างยอดเยี่ยมค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ quick responsibility .... ไว้เจอกัน จะเล่าให้ฟังก็ได้นะคะ แต่จริงๆ หนูแอบชื่นชมพี่มิกซ์อยู่ค่ะ (เป็นพ่อที่น่ารักมากๆ แถมเก่งอีกต่างหาก ... รู้นะว่าเก่ง แต่ถ่อมตัวไปงั้น) ขอบคุณค่ะ ******* ปล. 2 ขอบคุณพี่เด่นฯ ที่ยังเป็นห่วงพวกเราอยู่เสมอค่ะ นินจา online MSN ได้แล้วนะคะ ไว้จะไปคุยด้วยค่ะ ... ****** ปล.3. เมื่อวันมีตติ้ง มีโชว์วัวด้วยค่ะ ชอบมากๆค่ะ ก็ชอบพอๆกับโชว์ควายค่ะ ***** ความเห็นส่วนตัวค่ะ ขอคำแนะนำด้วย ******* แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 48 22:53:25 จากคุณ : คนชื่อนินจา - [ 28 มี.ค. 48 22:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คือความคิดนี้ตกผลึกมาจากการคิดจะใช้ DSM กับการซื้อขายเงินต่างประเทศซึ่งกำลังสนใจ (แต่ไม่กล้า) ด้วยความไม่รู้ระบบการซื้อขายเลยคิดไปว่า ถ้าซื้อ ตัวอย่างเช่น USD/JPY ยูเอสอิงเจแปนเยน แล้วเราก็ซื้ออีกข้างหนึ่งด้วย JPY/USD ทีนี้ไม่ว่าข้างไหนลงก็จะใช้วิธี DSM ในการจัดการ ก็น่าจะทำให้เราสามารถทำกระแสเงินสดแฝงได้เป็นสองเท่า เพราะราคาเงินสองค่านี้อิงกันอยู่ โดยที่ถ้าอีกตัวนึงขึ้นอีกตัวก็ต้องลง เป็นเหมือนกระจกเงาของกันและกัน นั่นเท่ากับว่าผมจะสามารถใช้ DSM ได้เกือบตลอดเวลา เพื่อสะสมจำนวน USD และ JPY มากเท่าที่ DSMers ต้องการสะสมจำนวนหุ้น. แต่จากการถามเพื่อนๆเค้าบอกว่าเห็นมีแต่การขาย USD/JPY อย่างเดียว แต่ไม่เห็นมีการขาย JPY/USD เลย หลังจากนั้นกลับมานั่งคิดใหม่...อ๋อ...ไอ้สองตัวนี้ในความเป็นจริงก็คือ ถ้าขาย ตัวนึงก็เป็นการซื้ออีกตัวนึง โดยอัติโนมัติอยู่แล้ว นั่นหมายความว่าแทนที่ผมจะไปเล่นฝั่ง JPY/USD ผมก็แค่กลับหัวกราฟ USD/JPY และก็กลับวิธีการทุกอย่าง ก็เลยเป็นแนวคิดที่ได้เสนอ ออกมา เวปไซด์ที่ผมเข้าไปดูเรื่องเงินคือ Forex.com ซื้อขาย 24 ชั่วโมง ให้มาร์จิ้น 1:200 เหรียญ ผมเปิดบัญชีทดลองดู เค้าให้ 2000 เหรียญเริ่มต้น เท่ากับมีเงิน 400,000 เหรียญ ผมก็ทดลองซื้อตัวนึง 100,000 เหรียญ หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงก็ขายได้กำไร 500 กว่าเหรียญ เห็นแล้วตกใจครับเพราะถ้าเข้าผิดแล้วออกตรงกันข้ามผมคงเสียจำนวนเท่ากันในเวลาแค่ 20 นาที นี่จึงเป็นที่มาของ Reverse DSM รับผม (ยิ้ม) ผม...ศรีเด่น รายงาน จากคุณ : Mr_BooDoo - [ 29 มี.ค. 48 08:28:25 A:203.170.242.2 X: TicketID:093167 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อื่มมม ดีใจจัง เคยคิดและใช้วิธีนี้เหมือนกัน ตีกันจนธาตุไฟเข้าแทรก 555 ชอบชื่อนี้จัง ก่อนหน้านี้คิดไม่ออกเลย จะตั้งเป็น anti-DSM มันก็ฟังดูไม่ดี อิอิ ผมลองเล่าประสบการณ์ผมบ้างละกัน จริงๆแล้วในการบ้าน workshop ผมก็ทำทั้ง DSM และ Reverse DSM เหมือนกัน เพราะผมคิดว่าในเมื่อขาลง DSM ทำงานได้มีประสิทธิภาพมาก (ได้กสงสฝมาก) ถ้าทำตรงข้าม DSM หล่ะ น่าจะดีตอนขาขึ้น...เพราะฉะนั้นเงินสดจะเป็นพาหนะขาขึ้นของผม ผมก็เลยแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน 2ส่วนเอามาซื้อหุ้นเริ่มต้น อีกส่วนเอาถือเป็นเงินสด เคยลอง หุ้น:เงินสด 50:50 ก็พบว่ามันมีเงินเหลืออยู่เฉยๆมากเกินไป เลยพยายามลดจำนวนเงินลง ให้มีมากพอที่จะใช้ในตอนขาขึ้น ส่วนหุ้นก็ทำ DSM ตามปรกติ ขาลงขายซื้อกลับมือหักหัว รึ ลงมาประมาณ 10% ขาขึ้นไม่ทำอะไร ถ้ามีกสงสฝก็เอามาซื้อหุ้นเพิ่ม ขายแล้วขึ้นไป 15% (ตามแนวคิด มันก็น่าจะเป็นขาขึ้น) ก็เอาเงินมาแปลงร่างซื้อหุ้นเดิมกลับ ส่วนเงิน ขาลงถือ ขาขึ้นซื้อ ขายเมือหักหัวลง หรือเมื่อได้ 10% ก็ขายซะ แต่ถ้ามันไม่ขึ้นกลับลง ผมไม่รอ 15% เหมือนกรณีหุ้น เพราะเงินมันลดค่าลงตามหุ้น ก็เลยจะขายถ้าผิดแผนแล้วลงมาเกิน 5% (เหมือน cutloss จัง ... ผมเรียกว่า cut loss แล้วกันนะ) ตรงนี้แหละที่ผมว่าเป็นความเหมือน...ที่แตกต่าง ของสองวิธีนี้ (เขียนเอง งง เอง :P) DSM ขาย แล้ว หุ้นขึ้น เราสามารถนั่งดูมันขึ้นไปเฉยๆได้ ขึ้นไปมากๆก็เอาเงินที่ขาย ไปทำอย่างอื่น เราปักหมุดราคาขายไว้ได้ เพราะว่าเราได้เงินออกมาแล้ว แต่ R-DSM ซื้อ แล้ว หุ้นลง เราไม่สามารถนั่งดูมันลงไปเฉยๆได้ เพราะมันยิ่งลง เงินที่จะได้จากการขายก็จะน้อยลง เราปักหมุดราคาซื้อลำบาก เพราะเราต้องปักไว้พร้อมกับเงินที่ใช้ไปในการซื้อ ผมไม่แน่ใจว่าอันนี้ตอบการบ้านพี่นินจาได้บ้างรึปล่าว ... Cutloss เป็นหลักการที่ต้องเพิ่มเข้ามารึปล่าวครับ...เป็นเหมือนแผนสำรองของวิธีการนี้ ส่วนผลลัพท์จาก Workshop ด้วยวิธีการนี้...ยังไม่ดีเท่าไหร เพราะถึงจะได้ กสงสฝมากกว่าเดิม แต่ว่าเสียหุ้นไปกับการแปลงร่าง และเสียเงินไปกับการ cutloss มากกว่าหุ้นที่ได้มาจากการเอา กสงสฝมาใช้ซื้อ (ตรงนี้ถ้าเอา 15% ไป"เพิ่มทุน" แทน"แปลงร่าง" แล้วตัดหุ้นนี้เป็นกองหลัง อาจจะแก้ปัญหาได้ < พอดีพึงนึกได้ ผมขอโน็ตไว้เตือนตัวเองนะครับ) สำหรับผม วิธีการนี้ น่าสนใจแต่ยังต้องปรับปรุง ข้อดี คือสามารถทำ กสงสฝ ในขาขึ้นได้มากทีเดียว ข้อเสียคือ ต้องมีการกันสำรองเงินไว้ส่วนนึง เผื่อ 5% ที่อาจจะผิดพลาดจากการซื้อแล้วมันกลับลง และกรณีที่ราคาถูกลากขึ้นไป แต่ยังไม่ถึงจากล๊อกขาย แล้วโดนทุบลงมามากๆ จนต่ำกว่าจุดที่ซื้อมา (เพิ่มครับ) ตอนนี้ยังสนใจวิธีนี้อยู่แต่น้อยลง เพราะกำลังง่วนอยู่กับการหา solution ของวิธีที่น่าจะดีกว่า เรื่องอะไรต้องถือเงินไว้รอ ให้หุ้นตัวนี้เป็นขาขึ้น... เอาเงินไปฝากไว้กับหุ้นตัวอื่นที่เป็นขาขึ้นไม่ดีกว่าเหรอ... 30 ตัว 30 ตัว ไว้ถ้ามันไม่มีตัวไหนจะขึ้นจริงๆค่อยกอดเงินไว้ละกัน ขอคำชี้แนะด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 48 10:13:29 จากคุณ : -กร- - [ 29 มี.ค. 48 09:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ............................. แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 48 09:48:40 จากคุณ : ขวัญชัย - [ 29 มี.ค. 48 09:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับ คุณบูดู และทุกท่าน ผมอ่านแล้วสะดุดชื่อ Reverse DSM คล้ายๆreverse osmosis น่าจะลองทำดู แต่ควรมีอะไรบ้างอย่างคล้าย pressure ของการทำreverse osmosis DSM ตามกระแสไม่โต้คลื่น reverse DSM ควรตรงข้าม (ขออภัย ถ้าว่าไม่ตรง วิธีของเจ้าของกระทู้) ดังนั้นต้องมีอะไรที่ทำให้ทวนคลื่นได้ อันที่จริงที่ผมทำอยู่ใกล้เคียงมาก เรียกว่าmsd ฮาๆ แล้วผลงานก็เป็นอย่างคุณเด่นศรีว่าไว้ข้างบน ขอบคุณครับสำหรับกระทู้ที่สร้างสรรค์นี้ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 29 มี.ค. 48 09:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สำหรับรุ่นแรกส่วนใหญ่ไปถึงทางตันผมว่าเจอกันทุกคน เจอกับดัก ถ้าอยากลองอยากรู้ลองดูได้ แต่ลองเทรดในกระดาษเอาข้อมูลเก่ามาดูเอาของจริง ยืนยันเหมือนกันเบสิกดีที่สุด เก็บข้อมูลเรื่อยฯเด้วจะได้เห็นอะไรดีฯ ผมก็เจอกับดักตัวนี้เหมือนกัน ดีที่ผมทำข้อมูลละเอียดพอสมควรทำให้เห็นอะไรดีฯที่จริง ซื้อถูกกว่าขายดีที่สุด ถึงจุดหนึ่งจะรู้เองว่า ขายแพงซื้อถูก กับซื้อถูกขายแพง มันอาจอยู่ในขบวนการเดียวกันสัมพันธ์กันอย่างลงตัว จากคุณ : ยิ้ม (ลำชี) - [ 29 มี.ค. 48 10:14:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พี่ลำชี เยี่ยมมาก ผมชอบประโยคนี้จัง .................... ถึงจุดหนึ่งจะรู้เองว่า ขายแพงซื้อถูก กับซื้อถูกขายแพง มันอาจอยู่ในขบวนการเดียวกันสัมพันธ์กันอย่างลงตัว .................... ผมจะต้องพยายามให้มากขึ้นแล้วซิ  อิ อิ จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 29 มี.ค. 48 13:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอเข้ามาศึกษาครับ จากคุณ : พเนจรศึกษาวิชา (red comet II) - [ 29 มี.ค. 48 18:04:39 A:61.90.61.168 X: TicketID:091348 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ ที่เปิดกระทู้ เปิด อีกมุม ได้อีกมุมมอง แต่ก็ยังคงต้องเดินแบบเบสิก ต่อไป............ จากคุณ : มรรค8 - [ 29 มี.ค. 48 18:10:24 A:61.90.12.134 X: TicketID:092649 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เจ๋งมาก กับความคิดนี้ค่ะ .. แต่ก็รู้สึกเหมือนกันว่า ยิ่งหุ้นขึ้น เราก็ยิ่งเฉลี่ยราคาซื้อแพงขึ้น แต่กว่าจะขายต้องรอลงก่อน .. อย่างนี้ เราก็มีกองหลังอยู่บนซิคะ เก็บยากกว่าแน่นอน แต่ก็ทึ่งในไอเดียค่ะ ว่าคิดได้ไง ... แปลกดี .. ดีค่ะ ยิ่งเพิ่มมุมมองให้มากขึ้น ขอบคุณคุณ บูดู ที่แชร์ไอเดียด้วยค่ะ และก็ชอบประโยคของพี่ลำชีเหมือนกัน "ถึงจุดหนึ่งจะรู้เองว่า ขายแพงซื้อถูก กับซื้อถูกขายแพง มันอาจอยู่ในขบวนการเดียวกันสัมพันธ์กันอย่างลงตัว " ไม่รู้พี่ลำชีกำลังใบ้อะไรหรือเปล่าน๊า จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 29 มี.ค. 48 19:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จะได้มากกว่า DSM ธรรมดาก็ต่อเมื่อ ตลาดเป็นขาขึ้นแบบร้อนแรง ------------------------------------------------------- ขอแย้งคุณมิกเล่นฯ ครับ โชร์วัวบ้าง ผมติดกับดักตัวนี้แหละครับเลยไปลอง เทรด ptt ดูขึ้นแบบราคาไม่กลับมาที่เก่า ได้เหมือนกันครับไม่เสียหาย แต่ได้น้อยกว่าเบสิกครับ โชคดีมีคุณ มินิบาร์ช่วยชี้แนะเลยหลุดกับดักตัวนี้ ผมชอบที่คุณเต่าหยวนเปียว เรียก msd ชอบครับ กับดักตัวนี้ทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายอย่าง จากที่คุณเด่นฯ กับคุณนินจา พูดทุกเรื่องที่ผ่านมา ผมจับมามาใส่หัวแบบ รู้บ้างไม่รู้บ้าง มาเขย่ารวมกัน แล้วมันผสมกันตกตะกอนออกมา เหมือนคุณ กุ้งไร้สาร แซวผม ให้จดเอาไว้ ผมไม่จดครับยัดใส่หัวเลย (หัวเราะ) แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 48 09:14:54 จากคุณ : ลำชี - [ 30 มี.ค. 48 09:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19 พี่ลำชีครับ...มาสอนผมด้วยสิ ว่าพี่มินิบาร์ บอกวิธีหลุดจากกับดักตัวนี้ได้ไง เคยแอบทำวิธีนี้จริง แต่ไม่เคยคิดเทียบว่า ถ้าใช้แบบเบสิคจะได้มากกว่าไม๊ แต่เมื่อก่อน ผมใช้วิธีขายแบบปิรามิดกลับหัวอ่ะครับ นี่ผมโชว์ควายไปแล้ว...พี่ต้องช่วยแก้ให้ถูกต้องหน่อยสิครับ อิอิ จากคุณ : ไม่เก่งแต่อยากตอบ - [ 30 มี.ค. 48 16:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จากที่คุยกับคุณมินิบาร์ ทำให้ผมสรุปได้ตามในหนังสือพ่อรวยที่ว่า กระแสเงินสำคัญที่สุด รองลงมาคือ พลังทวี ผมก็ยังไม่รู้ความคิดผมถูกต้องหรือเปล่า เพราะอาจารย์เด่นฯ ขีดเส้นให้พวกเราเดิมตามตรง มากฯ คดนิดเดียวก็ออกนอกทางแล้ว ผมประจำ วิธิเบสิกdsmน่าจะยึด กระแสเงินเป็นหลัก ส่วนพลังทวีนี่ น่าจะเป็นช่องว่าง ของคุณเด่นฯ ผมก็คิดเล่นฯโชร์ควายนะครับ  ไม่รับรองความถูกต้อง ต้องให้อาจารย์ตอบครับว่าคืออะไรผมแค่คิดตาม นุกฯ จากคุณ : ลำชี - [ 31 มี.ค. 48 07:34:04 ]