ความคิดเห็นที่ 1 ผมได้ฟรีมาตัวนึง จากร้านขายอุปกรณ์ถ่ายรูปที่สิงค์โปร์มาฟรีๆ ยังไม่เคยแกะมันออกมาใช้เลยเฮีย จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 28 เม.ย. 48 12:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ...เอ..อ..เอ่...เอ่อ...อ..เอ่อ.. ดูรูปไม่ออกครับว่า เจ้าสิ่งประดิษฐ์นั่น มันเครื่องอะไร มีน้ำใส่ข้างในด้วย จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 28 เม.ย. 48 12:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มันใช่เครื่องฟอกอากาศหรือเปล่าครับ ไม่รู้จักเหมือนกัน จากคุณ : buglife - [ 28 เม.ย. 48 12:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ...งงครับคุณลุง จากคุณ : แป้นบาส - [ 28 เม.ย. 48 12:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ใช่ฟอกสิ  ต้องเรียกว่าปรับกลิ่น จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 28 เม.ย. 48 12:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยิ่งพี่ปลานิลจิ๋วมาสะกิดต่อมเสียความรู้สึก ยิ่งทำให้รู้สึกว่า เวลาถูกต้มตอนซื้อของ   เหมือนกับถูกต้ม ตอนซื้อหุ้น เพราะฝีปากนักวิเคราะห์เลยแฮะ  ฮาๆๆๆ ขอเล่าย้อนหลังแบบหนังเรื่อง memento ๕ เว้ยเฮ้ย  ทำไมน้ำยังใสแจ๋วอยู่เลยว่ะ ไหนพวกเอ็งบอกข้าว่า  เป็นระบบฟอกอากาศ โดยใช้น้ำเป็นตัวกรองสิ่งสกปรก แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 14:24:40 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 12:16:48 จากคุณ : endophine - [ 28 เม.ย. 48 12:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ๔ เอ  มันฟอกอากาศด้วยน้ำได้จริงหรือวะเนี่ย ทำไมน้ำยังใสแจ๋วอยู่เลย เอางี้ดีกว่า  ไหนๆก็เสียค่าเพิ่มความฉลาดไปแล้ว ลองให้รู้ดำรู้แดง เปิดมันทิ้งไว้ทั้งวัน โดยที่ไม่ได้เปิดเครื่องฟอกอากาศอื่นมาช่วย ดูซิว่าน้ำใสแจ๋ว  จะขุ่นขึ้นมาบ้างหรือเปล่า ในใจของข้าพเจ้าได้แต่ภาวนาว่า ขอให้น้ำขุ่นเถอะมืง ขืนใสแจ๋ว  ก็เท่ากับว่า ข้าพเจ้าได้จ่ายเงินเสียค่าโง่ เอียค่าเพิ่มความฉลาดแน่นอนแล้ว ฮาๆๆ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 14:25:47 จากคุณ : endophine - [ 28 เม.ย. 48 12:19:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ๓  ข้าพเจ้ารีบหยิบของออกมาจากกล่องด้วยความลิงโลด อา  ได้ของถูกๆ  ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง มาฟอกอากาศในห้องนอนให้บริสุทธิ์แล้วเว้ย   มีกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วด้วย ท่านที่บ้านคงต้องร้องว่า หอมจัง โอ้  โมแรนติดไม่เบา  ฮาๆๆๆ พอเปิดกล่องออกมาดู เว้ยเฮ้ย  คู่มืออะไรก็ไม่มี มีแต่ใบปลิว บอกวิธีใช้ตัวหนังสือเท่ามด แทบจะต้องเอาแว่นขยายมาอ่าน เอ  เมดอินแจแปนจริง ตามที่พี่เซลแมนให้ข่าววงในไว้หรือเปล่าวะเนี่ย ก็เลยจำใจสรุปแบบคนเจ๊งหุ้น  ฮาๆๆๆ ไม่เป็นไรนะ  เมดอินอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับ ขอให้มันดี มีคุณค่าคุ้มราคา แล้วข้าพเจ้าก็จัดการหาน้ำเปล่ามาเทใส่โหลแก้ว พร้อมกับหยอดหัวเชื้อน้ำหอมที่เขาแถมมาให้ลงไปสามสี่หยด เปิดสวิชปั๊บ  น้ำเริ่มหมุนวนส่งกลิ่นหอมของดอกมะลิ เล่นแสงสีได้เจ็ดสีซะด้วย   ฮาๆๆๆๆ คืนนี้อากาศทั้งสะอาด  ทั้งหอมฟุ้ง นอนสบายแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 14:28:38 จากคุณ : endophine - [ 28 เม.ย. 48 12:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เคยเห็นแต่ภาพที่ 2 (ตามโฆษณาเขาว่า) ช่วยทำความชื้นในอากาศ ทำให้อากาศสดชื่น ไม่แห้งเกินไปในห้องแอร์ จะเรียกอะไร ก็แล้วแต่ มีน้ำมันหอมระเหยให้เติม หลายกลิ่น หลายสรรพคุณ(ตามโฆษณา) แล้วแต่ชอบ เครื่องทำความชื้นตัวนี้ บางที่แจกฟรี บางที่ขาย 5000++ บาท บางที่ขาย 1700++ / แปลก แต่ จริง คุณภาพไม่ต่างกันเท่าไร อย่าง citibank เขาให้แลกซื้อ ที่พูดนี่ คือ ว่า มีทุกราคาเลยฮะ ที่ใช้อยู่ ส่วนน้ำยาหอมระเหยกลิ่นต่างๆ ราคาก็ไม่เท่ากัน อย่าง lavender จะแพง ประมาณ 760++ ถึง 1000 ++ก็มี ถ้าได้ฟรี ลองใช้ดู ไม่เสียหาย หอม ดี....... จากคุณ : ทิงนองนอย - [ 28 เม.ย. 48 12:21:54 A:203.172.71.118 X: TicketID:092531 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เล่าต่อ เล่าต่อเฮีย จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 28 เม.ย. 48 12:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่เอ...เท่าที่ใช้มา มันกรองอากาศไม่ได้นี่นา คราย บอก กรองได้ โม้...ส่วนใหญ่จะเปิดคู่กับ เครื่องฟอกอากาศของ AMWAY ... หอมสบายปอด จากคุณ : ทิงนองนอย - [ 28 เม.ย. 48 12:26:19 A:203.172.71.118 X: TicketID:092531 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ต้องเล่ากันพอดี   เฮียเล่าต่อครับ ใช้แล้วเป็นไง ผมยังไม่ได้แกะกล่องเลย ได้มันมาตอน พย. ปีที่แล้วน่ะ จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 28 เม.ย. 48 12:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ๒ ณ ห้างแห่งหนึ่งที่ภาษาฝรั่งเศสแปลว่าสี่แยก ข้าพเจ้าได้เดินผ่านบริเวณห้องโถงของห้าง วันนั้นไปกับลูกชายเพียงสองคน ท่านที่บ้าน  ไปอยู่เฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล ไม่ได้ตามเบรคเกมเสริฟเวลาจะซื้ออะไร  ฮาๆๆ พอเดินผ่านปั๊บ  ก็สะดุดตาทันที เอ๊  เดี๋ยวนี้เอามาขายตามห้างแล้วหรือ พี่เซลแมนเห็นเรามองด้วยความสนใจ ก็รีบปรี่เข้ามาวิเคราะห์หุ้น เอ๊ยวิเคราะห์สินค้าให้ฟังทันที "เครื่องฟอกอากาศระบบใหม่ครับ ฟอกอากาศด้วยน้ำที่คุณพี่เห็นหมุนๆอยู่นั่นแหละ แฮะ แฮะ  น้ำมันค่อนข้างจะสกปรกไปหน่อย เพราะเปิดมาตั้งแต่เช้าแล้ว" ในใจของข้าพเจ้าเริ่มนึกย้อนหลังไปถึงกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ช่างแอร์ เคยบอกข้าพเจ้าไว้ว่า น้ำเป็นตัวกรองสิ่งสกปรกที่ยอดเยี่ยมที่สุด ข้าพเจ้าเริ่มสนใจจะกินเหยื่อซะแล้วซิ พี่เซลแมนเห็นแววตาของรายย่อยเริ่มลังเล เลยใส่ก๊อกสองทันที "ตอนนี้อยู่ในช่วงโปรโมทสินค้าครับ ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง  ปกติตัวละห้าพันฝ่า เราเตรียมบุกตลาด  เลยจัดรายการพิเศษ สองตัวแค่ 3780 ครับ  แถมหัวเชื้อน้ำหอมให้ด้วยหนึ่งขวด"   แน่ะ เข้าใจวิเคราะห์ มีทอนอีกตั้งยี่สิบบาท  ฮาๆๆๆ ข้าพเจ้าก็เลยต่อรองไปแบบนึกว่า ได้หุ้น เอ๊ยได้ของดีราคาถูก "ขอเพิ่มหัวเชื้ออีกขวดก็แล้วกัน" พี่เซลแมนเล่นมุก  ทำเป็นลังเล แต่ทำไมแววตาของท่านช่างเป็นประกายเหลือเกิน "โอเคครับ  โปรโมทชั่นพิเศษ หัวเชื้อน้ำหอมปลอดแอลกอฮอลของเรา ราคาขวดละ ๓๙๐ บาทเชียวนะครับ พิเศษเพื่อพี่คนเดียว" และแล้ว ข้าพเจ้าก็พาลูกไปกดเอทีเอ็มด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง ได้ของดี ราคาถูกมาใช้แล้วเรา เฮ้อ  จาก "คือการพยายามทำให้เราเชื่อว่ามันเป็นจริง ทั้งๆที่มันอาจจะไม่จริง" มันก็กลายเป็น "การพยายามทำให้เราเชื่อว่ามันเป็นจริง จนเราคิดว่ามันจริง ฮาๆๆๆ" ข้าพเจ้ามาเสียค่าเพิ่มความฉลาดจนได้ ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองฉลาดซื้อเต็มทน สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องเสียค่าเพิ่มความฉลาดก็คือ แฮะ แฮะ  เล่นมุกหรือมุข   จะมาตอบให้ตัวเองเจ็บใจเล่นตอนบ่ายนะครับ ท่านผู้ชม รับรอง  ข้าพเจ้าจะพยายามลากให้มันเกี่ยวกับหุ้นให้ได้  ฮาๆๆๆ จากคุณ : endophine - [ 28 เม.ย. 48 12:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พี่เอนดี ขอบคุณครับ จะมาอ่านต่อรอบสองครับ โหวต ให้ แบบ หน้าม้า อีก แล้วครับ ๕๕๕๕ จากคุณ : samsam - [ 28 เม.ย. 48 13:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 นึกว่าเครื่องล้างจานรูปแบบใหม่... สำหรับคนไปปิคนิคนอกสถานที่ อิอิ จากคุณ : ตกขอบ - [ 28 เม.ย. 48 13:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เออ..ได้ฟังคุณendophineเล่าแล้ว..พูดไม่ออกเลยครับ..แบบว่าอึ้งกิมกี้ไปเลย จากคุณ : amaterasu - [ 28 เม.ย. 48 13:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เอาเสื่อมาปู ขนมพร้อม น้ำพร้อม จากคุณ : พ่อไก่โต้ง - [ 28 เม.ย. 48 13:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แหม ถ้าเฮียบอกให้รู้ นะผมต้องรีบห้ามเฮียเลย มันเป็นการ value added จากเครื่องพ่นหมอก เครื่องทำกลิ่นอโรมา อันละไม่กี่ตังค์ครับ ทำให้มันดู ดีมี function และมีประโยชน์มากขึ้น แน่นอนผู้ซื้อย่อมเทียบกับเครื่องฟอกอากาศ ราคาเรือนหมื่น ผมขอวกกลับมาเรื่องหุ้น ดูเจ้าชาเขียวนะครับ ขายดีจนผลิตไม่ทัน ต้องเตรียมขยาย การผลิต ถ้าเจ้าของมือเติบ ซื้อเครื่องจักรใหม่ลงทุน อีกมากมาย ภายใต้การไม่กระจายความเสี่ยงเช่นนี้ ต่อไปคนโชคร้ายที่สุดคือคนถือหุ้น เพราะ 1. ที่ขายดีตอนนี้ มิใช่เพราะอร่อย เป็นเพราะหวังรวย เมื่อผู้คนหมดหวังที่จะได้ นอกจากไม่กินแล้วยังเมินอีกด้วย คอยชมผลของเรื่องนี้ครับ ยี่สิบกว่าปีมาแล้วเคยมีผงซักฟอก ยี่ห้อหนึ่งเคยเจ๊ง เพราะกลยุทธนี้ครับ 2. ที่ผ่านมาขายดี เพราะกระแสครับ เห่อเรื่องการเป็น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่กระแสคือกระแสครับ ไม่นานก็ไป ถ้าไปแล้วมันคงรั้งไว้ยากครับ 3. นานๆคนจะเข้าใจเองแหละว่า ที่กินๆเข้าไปน่ะ คือ คาเฟอีน กับ น้ำตาลครับ ชาเขียวจริงๆ มันก็ชาแหละ ออกขมด้วยซ้ำ จึงต้องกลบรสด้วยน้ำตาล ถ้าหลายคนคงไม่ชอบรสขมและฝาด 4. เมื่อวงจรผลิตภัณฑ์พัดสู่ขาลง ดูสิว่าเขาจะแก้ เกมส์อย่างไร (คู่แข่งหันไปพัฒนา sport drink แล้ว เป็นสัญญาณ การอิ่มตัวของตลาด) 5.ดูกรณีศึกษา ฮารุชา ชาที่เก็บเกี่ยวได้ครั้งเดียวใน ฤดูใบไม้ผลิ ทำขวดสีทอง สวยมาก ตั้งใจจับตลาดบน ให้รสชาเขียวแท้เข้มข้น ตอนแรกขาย 35 บาท ต่อขวด คาดว่าจะไปได้ผลิตเยอะมากเชิญดู มีขายแถม 1 ขวด เมื่อซื้อ ยูนิฟธรรมดา 1 ขวดที่วัตสัน มีขายแค่ ขวดละ 5 บาท (ห้าบาทจริงๆ) ที่ตลาดนัดแถวบ้าน จากคุณ : adrenaline - [ 28 เม.ย. 48 13:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^_______________^ มาขอเพิ่มความฉลาดบ้างค่ะ มันระเหยไปเยอะแล้ว จากคุณ : อ-ริน - [ 28 เม.ย. 48 13:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณพี่ที่เล่าให้ฟังครับ เดี๋ยวนี้คนขายของทำทุกทางเลย ที่แย่ๆแล้วผมเจอเยอะมากๆก็พวกทำฟันปลอมตามบ้านหลอกแม้กระทั่งพระ...เฮ้อ จากคุณ : GABLIEL - [ 28 เม.ย. 48 13:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เจ้าเครื่องนี้วันก่อนผมไปเดินห้างฯ ก็เจอเหมือนกัน แต่ก็คุยๆ กับแฟนว่า มันกรองได้จริงๆ เหรอ........ ตอนนี้กระจ่างแล้วครับ  ^^"    เดี๋ยวมารออ่านต่อตอนบ่ายๆ ครับ จากคุณ : Patto_kung - [ 28 เม.ย. 48 13:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ฟังเฮียเล่าเพลินๆ เหลือบไปมองข้างคอมฯที่ตัวเองนั่งอยู่ เครื่องฟอกอากาศฯนอนแอ้งแม้งอยู่1ตัว อ้าว กรูก็เคยโดนมาแล้วนี่หว่า ฮาๆๆๆ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 28 เม.ย. 48 14:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คือว่ามองดูรูปตอนแรกแล้วคิดว่ามันคือ ตู้ปลาขนาดเล็ก ตกลงมันใช้งานไม่ได้เหรอครับ เสียใจด้วยครับ ผมก็เคยเหมือนกัน ซื้อมาแล้วผิดหวัง T-T จากคุณ : Zionism - [ 28 เม.ย. 48 14:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โธ่ พี่แอนดี้เอ๋ย ผมมาตกม้าตาย  ก็เพราะคำว่า "ฟอกอากาศ"นั่นแหละ ถ้าพี่เซลแมนไม่บอกว่า  "เป็นระบบฟอกอากาศด้วยน้ำ" ผมคงไม่ตกม้าตาย เสียค่าเพิ่มความฉลาดจนได้ ถ้าพี่ขุนอินได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ พี่ขุนอินจะสามารถช่วยชีวิต   เอ๊ยช่วยประหยัดเงินคนในกระเป๋าคนอื่น ได้อีกเยอะเลยครับ เพราะว่า   สาเหตุสำคัญที่สุด ที่ผมต้องเสียค่าเพิ่มฉลาดก็คือ ๑  เมื่อประมาณ ๒ เดือนที่แล้ว ข้าพเจ้าได้ไปเยี่ยมพี่สาว ที่กำลังรอรับการฉายแสง อยู่ที่ส่วนที่เป็นเรสซิเด้นท์เพลซของโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ ซึ่งเป็นส่วนที่คนไข้มาพักรอรับการรักษา หรือพักฟื้นหลังการรักษา โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยพยาบาลและแพทย์คอยดูแล ส่วนเรสซิเด้นท์ของของโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ มีอัตราการเข้าพักเต็มร้อยเปอร์เซนต์อยู่ตลอดเวลา ไม่เคยมีห้องว่างเหลือเลย คนต้องการพัก จะต้องเข้าชื่อจองไว้ก่อน เมื่อลิฟท์ที่ข้าพเจ้าโดยสารไปถึงชั้นที่ ๗ ซึ่งเป็นชั้นที่พี่สาวข้าพเจ้าพักอยู่ พอเดินออกมาจากประตูลิฟท์ ไอ้สิ่งที่เห็นสะดุดตา วางอยู่บนเคาเตอร์ของพนักงานดูแลเรสซิเดนท์ ประจำแต่ละขั้น  ก็คือ "ไอ้เจ้าสินค้าตัวดีนั่นแหละ" ข้าพเจ้าเห็นครั้งแรก ข้าพเจ้าได้คิดข้ามช็อตแบบเตลิดเปิดเปิงไปทันทีว่า "มันต้องเป็นอุปกรณ์สุดยอดไฮเทค ถึงได้มีโอกาสมาตั้งอยู่ในโรงพยาบาลห้าดาวแห่งนี้" และแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ทุ่มจนหมดใจและหมดกระเป๋า เชื่อโดยไม่ได้วิเคราะห์เจาะลึกด้วยตัวเองว่า มันมาอยู่ในโรงพยาบาลได้ยังไงกันหว่า หลังจากจ่ายค่าเพิ่มความฉลาดไปหนึ่งวัน และลองดูแล้ว  น้ำที่เคยใสแจ๋ว มันก็ยังคงใสแจ๋วเหมือนเดิม ที่เห็นมันขุ่นๆเวลามันเดินเครื่อง ก็เพราะเกิดจากหุ้น เอ๊ยฟองอากาศที่โดนปั่นต่างหากหละ ภรรยาของข้าพเจ้าก็ได้เอ่ยแย้งขึ้น ภายหลังจากข้าพเจ้าได้จ่ายค่าเพิ่มความฉลาด แล้วว่า "ง่ายนิดเดียว พี่..... เซลแมนมัน เอ๊ยเขาเอามาแจกให้แม่บ้านที่ดูแลห้องพักใช้ฟรี เป็นวิธีโฆษณาสินค้าที่ได้ผลชะงัด และประหยัดค่าใช้จ่าย (อิ๋บอ๋ายเลยหวะ อันนี้ข้าพเจ้ามาเติมเอาทีหลัง) เอ คุณน้องนี่วิเคราะห์ได้เก่งแฮะ น่าจะจับมานั่งวิเคราะห์หุ้นซะให้เข็ด  ฮาๆๆๆ สรุปแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือสินค้า เวลาเราได้ยินได้ฟังคำพูดที่ดูเหมือนน่าเชื่อถือ ก็ให้ตัดแปะสมองไว้ก่อน ด้วยคำพูดที่ว่า "สิ่งที่คุณได้ยินน้องมะนาวพูดออกทีวี  อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด" และพยายามอย่าให้ "การพยายามทำให้เราเชื่อว่ามันจริง ทั้งๆที่มันอาจจะไม่จริง" ข้ามเส้นไปเป็น "การพยายามทำให้เราคิดว่ามันจริง  จนเราเชื่อว่ามันจริง" แบบแด็กส์ด่วน  ฮาๆๆๆๆ คำสารภาพแบบแฉครึ่งเปลือก เอ๊ยหมดกระเป๋า ก็เอวังด้วยฟันที่ต้องกัดกรอดๆ  ด้วยปการฉนี้แล  ฮาๆๆๆ คาดว่า  ในเวลาหนึ่งปีต่อจากนี้ เขาคงจะเอามาเลหลัง  ซื้อหนึ่งแถมสอง หนึ่งพันบาทขาดตัว  ฮาๆๆ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 48 08:13:31 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 14:40:05 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 14:20:28 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 14:18:10 จากคุณ : endophine - [ 28 เม.ย. 48 14:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ฮืม........ เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่ามีเครื่องกรองอากาศแบบน้ำด้วย อย่างว่าหล่ะ ผมคนบ้านนอก อากาศบ้านนอก ไม่ค่อยสกปรก  เลยไม่มีโอกาสใช้ จากคุณ : S-sung - [ 28 เม.ย. 48 14:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่เป็นไรเฮียเคลี่ เอาไว้เลี้ยงปลา ก็ได้ จากคุณ : S-sung - [ 28 เม.ย. 48 14:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอาไว้เลี้ยงปลา !!!!! กล่องพลาสติกขนาดนี้เขาขายแค่ร้อยเดียวครับ พี่เอสซุง   แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 14:34:30 จากคุณ : endophine - [ 28 เม.ย. 48 14:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ฮ่าฮ่า ดูหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ข้าพเจ้าจองที่นั่ง A2 ข้าเจ้าดูไม่รู้เรื่อง จึ่งได้ดีตั๋วเข้ามาดูรอบสอง โห...รอบนี้คนดูเยอะด้วยแฮะ เอาวะมีที่ล่างๆยังว่าง พอดูอีกรอบ ข้าพเจ้ารู้แล้วว่า เจ้าสิ่งประดิษฐ์นั่น มันคือเครื่องฟอกอากาศนั่นเอง ตอนที่ข้าพเจ้าเคยไปเฝ้าไข้บิดาข้าพเจ้า โรงพยาบาลนี้เขาก็มีเครื่องคล้ายๆอย่างที่เฮียเอามาลง ด้วยความสงสัย ข้าพเจ้าเข้าไปดู ปรากฎว่า เครื่องดังกล่าว ถูกแปรสภาพเป็นโอ่งเลี้ยงปลาไปเสียแล้ว รูปที่ข้าพเจ้าถ่ายมาดันไม่ติดเจ้าเครื่องอย่างว่า หากมีโอกาสได้กลับไปเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาลนี้อีก จะแอบถ่ายมาให้ดู ฮา จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 28 เม.ย. 48 14:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 29 พูดถึงเจ้าเครื่องนี้ ทำให้พาลนึกถึงเจ้าเครื่องให้ออกซิเจนกับผู้ป่วย ที่บริเวณหัวต่อกับผนังห้องจะมีหลอดที่มีน้ำบรรจุอยู่ ก่อนที่ O2 จะผ่านสายยางมาต่อเข้ากับจมูกมันต้องผ่านน้ำก่อน ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเค้าเอาไว้กรอง ดักจับสิ่งสกปรกหรือเยี่ยงไร แต่ก็ไม่เคยถามพยาบาลสักที ถ้าใช่ ใช้น้ำเป็นตัวกรองสิ่งสกปรกก่อนผ่านเข้าปอดผู้ป่วย ผมก็ไม่เคยเห็นน้ำมันสกปรกเสียที หรือว่า โรงพยาบาลก็โดนต้มด้วย ขำขำ+ฮาๆๆ จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 28 เม.ย. 48 14:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เหอ ๆ ๆ พูดเล่นหน่ะเฮีย ตกลงเฮียซื้อมาเท่าไหร่ จากคุณ : S-sung - [ 28 เม.ย. 48 14:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาอ่าน หลายปีก่อนร้านค้าเช่าบู๊สตามห้างขายสินค้าเครื่องไฟฟ้ายี่ห้อแปลกๆ ของแปลกๆเครื่องฟอกอากาศ เครื่องกรองน้ำเป็นตู้พลาสติกมีถ่านชาโคลและหินเกล็ดหลายสี วางซ้อนอยู่ในโหลใสให้เห็นกรรมวิธีการกรอง ดูน่าเชื่อถือสาธิตให้ชิมด้วย มีโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อพร้อมเครื่องดูดฝุ่นเอย เครื่องซักผ้าเอย แอร์ วิทยุเครื่องเสียง อะไรอีกเยอะแยะ หากซื้อเป็นชุดจะให้จับชิงรางวัลด้วย เคยเดินผ่านแต่ไม่สนใจ เพราะของใช้ไฟฟ้ามีครบหมดแล้ว  และดูๆเป็นสินค้าชื่อแปลกๆ มีบ้างบางอย่างที่มีชื่อก็เอามาปะปนกันด้วย ที่ตลกก็คือ บังเอิ๊ญมีไปรษณีย์ส่งมาให้ไปรับรางวัลคุณคือหนึ่งในผู้โชคดีได้เครื่องเสียงชุดวีดีโอ น้องชายห้ามว่าอย่าไปนะเขาหลอก...ฮาๆๆ รู้ว่าเขาหลอก..ก็ไปให้เขาหลอกดู แอบกระซิบบอกแม่ไปนั่งรถเมล์เล่นนะ หุ้นปิดตลาดวันนั้นไม่หุงข้าวแอบไปกัน เอานามบัตรรางวัลไปตามห้างที่เขาระบุ รถติดตั้งชั่วโมงไปถึงเดินหา อ๋อ..เขาเปิดเช่าสถานที่ของห้าง ตกแต่งห้องแอร์เย็นๆมองตามชื่อร้านที่ระบุไว้ เราแม่ลูกเดินเข้าไปยื่นบัตรในซองไปรษณีย์ ให้เขาดู คราวนี้พนักงานสาวหลายคนออกมาพร้อมหนุ่มผูกเย็ทไทออกมาอีก2คน พวกเขาแต่งตัวหล่อและสวย ในห้องมี 6 คน ให้เรานั่งที่โซฟาและชมว่าเราโชคดีมากๆได้รางวัลใหญ่ที่สุดของร้านเขาๆจะให้เราทั้งชุด 7หมื่นกว่าบาท พาเราไปชมรางวัล  เรางงๆอยู่ดีๆได้รางวัล แม่สะกิด " ออกมาเถอะ ของดีมีใครเขาให้ฟรีๆ กลับบ้านเถอะ " กระซิบบอกแม่ว่า รู้..ว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น จะลองดูว่าเขาจะชวนซื้ออะไร  จริงๆด้วยค่ะ เขายกแก้วน้ำหวานเย็นๆมา 2 แก้ว ให้พักผ่อนเพราะเห็นเราเหนื่อย สักครู่ก็เอารายการสินค้าต่างๆมาก ว่าต้องช่วยอุดหนุนรายการอย่างไรอย่างหนึ่งเป็นเงินขั้นต่ำ2หมื่นบาท ฮา..เราเองก็ขายเครื่องไฟฟ้ามา 22 ปีมีหรือจะไม่รู้ราคาสินค้าที่ขาย แต่ละอย่างแพงเกินมาตรฐาน ถ้าคนเคยไปจะรู้ เราบอกเขาว่าที่บ้านมีหมดแล้วไม่อยากได้อะไร อยากได้รางวัลที่คุณให้..ไหนล่ะ  โชคดีต้องได้เลย คน 6 คนเห็นกล่อมเราไม่สำเร็จ เลยเอากล่องลูกปิงปองมาให้จับใหม่ เพราะรางวัลที่ส่งไปต้องซื้อสินค้าตามที่ระบุ เราก็แกล้งจับทำตามดูว่า จะมีมุขอะไรมาอีก แม่สะกิดอีกแล้ว "กลับเถอะ สงสารเขา " เราไม่ฟังแม่เพราะอยากรู้ว่า  ทำไม่ต้องหลอกต้มคนด้วยวิธีนี้ จับแล้วได้รางวัลพิเศษที่สุดในร้านอีก ได้เครื่องกรองน้ำ มูลค่า 2 หมื่นบาท เราเฉยๆ ต้องมีอะไรมาอีก ก็จริง เอารายการสินค้าให้เลือกซื้ออีก ในราคา 1 หมื่นบาท เราแกล้งลองใจว่าไม่พกเงินมา มีแต่เอทีเอ็ม เขาบอกเอทีเอ็มก็ได้ รอได้ ที่นี่ปด 2 ทุ่ม นี่เพิง ทุ่มเอง เราบอกมีเงินแค่ 1 พันบาท เขาบอก พันเดียวก็ได้ส่งสินค้าเก็บที่บ้านก็ได้ แม่..เลยบอกว่าไม่ซื้อค่ะ อย่างนี้แล้วกัน ของรางวัลที่คุณส่งจดหมายมา บอก 7 หมื่นบาท ไม่ได้ซักอย่าง เอาของรางวัลเล็กสุดแล้วกันพัดลม 1 ตัวดีไหม? แล้วเราจะได้กลับเสียที เสียเวลาถ้าไม่ได้เราจะได้กลับบ้าน พวกเขาหน้าจ๋อยยืนเงียบไปเลย เพราะโดนคำถามของแม่ เขายืนนิ่งมองตากัน เราก็เลยบอกเขาว่า " ตกลง หลอกให้มาซื้อของใช่ไหม? " พวกเขายืนพูดไม่ออก เลยเดินออกมาจากห้องพิศวงนั้น หิวข้าวไปทานเคเอฟซี  แม่บ่นว่า น้องเขาเตือนทำไม?อยากลอง ก็เลยบอกว่า ไม่ลองไม่รู้น่ะแม่ ดีที่มีแม่ไปไม่งั้นคงหลงไปด้วย เพราะเก่งเหลือเกิน เขาฝึกมาดีมากๆ  ความโลภ มันชวนลุ่มหลง สิ่งที่คิดไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเลยจริงๆ หลังจากนั้น นั่งรถเมล์กลับมาบ้าน คุยกับแม่ตลอดทางว่าเดี๋ยวนี้ คนทำมาหากินตรงๆไม่ได้หรือไง จึงหาวิธีแปลกๆมาหลอกชาวบ้านกัน  บางคนอาจเป็นเพราะในบ้านขาดของหลายอย่าง เลยคิดในใจว่าสินค้านั่นนี่เราขาด มีของแถมสุดคุ้มให้ด้วย เลยหลงกลร่วมรายการด้วย ถ้าเอารายการต่างๆมารวมแล้วจะแพงเกินจริงแถมยังเป็นสินค้าไม่มีชื่อเสียงด้วยยิ่งแล้วใหญ่ บาปกรรมมากที่ใช้วิธีนี้หากิน  พอซื้อแล้วทุกคนย่อมคิดมาก เสียใจ และหวาดระแวง หลังจากนั้นไม่นาน ไอทีวีก็ลงข่าวเป็นข่าวดัง  เกือบไปแล้ว...เรา จากคุณ : สุเกียง - [ 28 เม.ย. 48 14:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พี่ทวนลมฯ น่าจะใช้แค่เป็นตัวชี้วัดว่า มีอากาศผ่านเข้าสู่ร่างกายครับ ผมซื้อหนึ่งต้มหมูอีกหนึ่ง สองเครื่อง 3780 บาทครับ  ฮาๆๆๆ พี่หมอซุงจะเอาใช้เลี้ยงปลาซักตู้ไหมครับ ผมขายให้ราคากากี่นั้ง  500 บาท จากคุณ : endophine - [ 28 เม.ย. 48 14:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้ามีคนขอซื้อต่อ500บาทเฮียขายไหมครับ อย่างกรณีหุ้นเน่ายังขายเอาเศษเงินคืนก็ยังดี ส่งไปพอดีกันเลย ฮาๆๆๆๆๆ คนซื้อต่อก็หวังลมๆแล้งๆว่ามันอาจใช้งานได้จริง เผื่อฟลุ๊คขายต่อได้ราคา สุดท้ายต้องขายเซียงกง แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 15:02:19 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 14:59:36 จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 28 เม.ย. 48 14:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ก็อยากขายอยู่ครับ แต่ขืนขาย ตัวนี้ไปห้าร้อย ตัวที่เหลือ  ก็เท่ากับมีราคา 3280 บาท ดังนั้น  เพื่อรักษาความเจ็บใจให้คงอยู่ต่อไป จะได้ไม่เสียค่าเพิ่มความฉลาดอีก ก็เลยต้อง "ไม่ขาย  ไม่ขาดทุน " ไปแล้วครับ  ต้องพาลูกไปเพิ่มความฉลาดซะหน่อย ฮาๆๆ จากคุณ : endophine - [ 28 เม.ย. 48 15:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าเป็นแบบที่เฮียบอก ผมนับถือเป็นสุดยอดกูรู การตลาดแบบไม่ต้องต่อด๊อกเตอร์เลย กลยุทธ์นี้เรียก การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ทางการตลาด เรียกการ position โดยอาศัย positioning ของ brand name ที่มีอยู่ก่อน ทำให้เราเข้าใจไปเองว่า เป็นสินค้าระดับเดียวกัน 1. เอาไปวางที่คนที่มีฐานะ B+ ขึ้นไปเห็นมากๆ ทำให้ คนเข้าใจว่าของดี มีราคา น่าใช้ เพราะอยู่ในสถานที่ คนเหล่านั้นไป 2. การเลือกวางที่โรงพยาบาล เป็นการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์โดยอ้างอิง คำว่าเพื่อสุขภาพ เหมือนแทบ เอาชื่อเสียงโรงพยาบาลนั้นมาการันตี สินค้าได้เลย 3.การวางขาย แม้เป็นแผงในเซ็นทรัล แต่เวลาใครถามก็บอกซื้อจาก เซ็นทรัล นั่นแหละ เผลอๆมีถุง เซ็นทรัลใส่ให้อีกแหน่ะ 4.เชื่อว่า เซลล์แมนไม่รู้เรื่องหรอก ว่ามันกรองอากาศได้ไม่ได้ ไม่งั้นเวลามันตอแหลจะไม่มั่นใจ พวกนี้เจ้าของ สินค้ามันคงเป่าหูเซลล์จนเชื่ออย่างงั้นจริงๆ โบราณว่าจะหลอกคนอื่นได้ ต้องหลอกพวกเดียวกันให้ได้เสียก่อน คงต้องโกรธเจ้าของมากกว่าคนขายสิบเท่า โฮ่ ๆๆๆ  กลยุทธการขายระดับเหนือเซียนจริงๆ จากคุณ : adrenaline - [ 28 เม.ย. 48 15:33:56 ]

ความคิดเห็นที่ 36 งั้นผมขายให้ 450 ละกัน กดให้ฟลอร์เลย เหอๆๆ จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 28 เม.ย. 48 15:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ทุกวันนี้พบแต่เรื่องที่ทำให้คนเกิดความหวาดระแวงว่าจะถูกหลอกและเอาเปรียบและถูกประนามว่าหน้าโง่  จึงทำให้กลายเป็นคนแล้งน้ำใจ ไม่อยากจะช่วยเหลือใคร ๆ  ครั้งหนึ่งไปกด ATM ตู้มันมองตัวเลขไม่ค่อยเห็นต้องเอามือป้อง  มีสุภาพสตรีที่รอต่อคิวข้างหลัง อาสาช่วย  เพราะความระแวงจึงปฏิเสธอย่างไม่สุภาพ คิดแล้วรู้สึกเสียใจหากเขาเจตนาดีจริง ๆ  เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้หญิงมายืนหลบฝนอยู่ตรงประตูรั้ว  เราเห็นว่า คงจะไม่พ้นสายฝน  มีใจเอื้อเฟื้อเอาร่มไปให้ยืม  บอกพรุ่งนี้จะเอามาคืน  จนบัดนี้ยังไม่ได้คืน  คิดเลยเถิดไป  หากให้เข้ามาหลบฝนในบ้าน เอ...ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น ฯลฯ  เอาคอมพ์ไปให้ช่างซ่อมก็ต้องนั่งเฝ้า (เสียเวลาชะมัด ) ก็เพราะความไม่ไว้ใจช่างนี่เอง ( เพราะเคยโดนมาแล้ว)   สรุป  คนชั่วไม่กี่คนทำให้ คนดี ๆ ที่มีความตั้งใจบริสุทธิ์ ยินดีเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนมนุษย์  ประกอบอาชีพซื่อสัตย์ต้องมารับกรรม จากคุณ : jinvet - [ 28 เม.ย. 48 16:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมก็เริ่มเป็นเหมือนคุณ Jinvet พูดเลยครับ เริ่มไม่ไว้วางใจใครทั้งนั้น เมื่อเช้าน้องยืมรถออกไปซื้อกับข้าว ปรากฏว่าไปดับเพราะน้ำท่วม ผมก็รีบออกไปช่วยเพราะกลัวว่าจะเจอพวกประเภทหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ไปถึงเจอรถกำลังเปิดฝากระโปรงอยู่ มีคนแต่งตัวเป็นช่างมา 2 คนมุงๆอยู่ รู้สึกอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาทันทีเลย ผมก็เลยต้องออกปากบอกน้องให้ไล่ไปแบบสุภาพๆ ทั้งที่เขาอาจจะมาด้วยความประสงค์ดีก็ได้ แต่ด้วยความสัตย์จริง เดี๋ยวนี้ไม่เคยไว้ใจใครเลย ทั้งที่ผมเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นจนแทบจะเป็นสันดาน  แต่เดี๋ยวนี้ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเรากลับไม่ไว้วางใจคนแปลกหน้าเลย จากคุณ : คุณหน่อง - [ 28 เม.ย. 48 16:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไอ้ขวดน้ำปุด ๆ ที่หัวเตียงคนไข้เค้าเอาไว้เพิ่มความชื้นให้อากาศที่จะหายใจเข้าไปน่ะครับเฮีย แถมยังช่วยให้มองเห็น flow ได้ด้วยอย่างที่ว่า ไม่ได้มีเอาไว้ฟอกอากาศแน่นอน 55555 ผมก็เคยเห็นเครื่องแบบเฮียนะ ตอนไปงาน home fair 2-3 ปีก่อนที่อิมแพ่ค เกือบเขวไปเหมือนกันก็ design มันสวยดีนี่เนอะ ยังจำได้ว่าคิดจะซื้อไปติดที่ห้องทำงานเก่า ตอนนั้นกำลังจะได้แยกห้องเดี่ยว พอดีเปลี่ยนแผนไม่ได้ห้องเดี่ยว อิ อิ ไม่งั้นคงโดนเหมือนกัน จากคุณ : ขุนอิน - [ 28 เม.ย. 48 16:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เหอๆๆ หมอยังเคยมีความคิดจะซื้อเลยเหรอ 555 จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 28 เม.ย. 48 17:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ที่บ้านก็มี แต่มีรุ้นที่ทำเป็นหมอกครับ (ตัวทำหมอกเจ๊งประจำ) ซื้อแผ่น piezo disc ตั้งแต่ พัน จนเหลือร้อย เดี๋ยวนี้หยุดละตั้งไว้เฉยๆ (หลังจากเจ๊งไปสามอัน) แต่ที่แน่ๆเฮีย เราต้องซื้อ ในราคา เครื่องทำกลิ่น และเพิ่มความชื้น แต่ ไม่ใช่ราคาเครื่องฟอกอากาศ ผมว่าเฮียสองคอ ได้ราคาถูกแล้วละ (ปลอบใจ) มีคนซื้อราคาดอยกว่านี้อีกนะ ได้ยินแล้วเฮียจะหนาว นี่เขายังมีใจแตกพาร์ให้เฮีย แถมวอร์แรนต์ด้วยนะ จากคุณ : adrenaline - [ 28 เม.ย. 48 17:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เฮียแอนดี้เข้าใจผิดแล้ว เฮียเคลี่เรา ได้แจกวอร์แรนต์มา แล้วแปลง เป็นหัวเชื้อไปเรียบร้อยแล้วไง จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 28 เม.ย. 48 17:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านแล้วเห็นภาพเลยครับ ได้กลิ่นหอมด้วย :) เขียนได้อารมณ์ดีมากเลยครับ *_* จากคุณ : BeSmile - [ 28 เม.ย. 48 17:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ที่ residence place มีไอ้นี่ด้วยเหรอฮะ เพิ่งเห็นที่เฮียเขียนไว้ อืมม เด๋วผมไปเล่าเรื่องนี้ให้เจ้านายฟังดีกว่า เผื่อท่านจะสนใจ ขอบคุณเฮียเคลี่ที่ให้ข่าวคับ ผมเป็นลูกน้องที่ดีต้องรีบแจ้นไปบอก 5555 จากคุณ : ขุนอิน - [ 28 เม.ย. 48 17:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มีข่าวร้ายออกมาแบบนี้ สงสัยต้องเปลี่ยนคำแนะนำจาก "ซื้อ" เป็น "กัดฟันถือ"  ... จากคุณ : เพื่อนพูห์ - [ 28 เม.ย. 48 19:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 46 555 พี่เอ็นดี้จริงใจดี มาเล่าให้ฟัง   เป็นคนอื่นเก็บเงียบไปแล้ว   ถ้าเป็นหุ้นราคาคงเกินพื้นฐานแบบไทยน็อคนะครับ จากคุณ : Joy.BJ - [ 28 เม.ย. 48 20:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณครับพี่เอ็นดี้ โชคดีที่ได้อ่านก่อน ไม่งั้นอาจโดนเหมือนกัน แต่แบบนี้ไม่เรียกว่าโฆษณาครับเฮีย น่าจะเรียกว่าหลอกลวงประชาชนมากกว่า เพราะหลักโฆษณาเค้าบอกแค่ว่า "ทุกเรื่องที่พูดต้องจริง แต่ความจริงทุกเรื่องไม่ต้องพูด จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 28 เม.ย. 48 23:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณครับเฮีย   อ่านแล้วช่วยผมหลุดพ้นโดนหลอกไปได้ แหมเดี๋ยวนี้มันจะไว้ใจกันไม่ได้เลยหรือไง จากคุณ : aeaw - [ 29 เม.ย. 48 00:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณทุกท่านช่วยออกความเห็นครับ มีตติ้งคราวหน้า ผมขอเสนอให้ พี่อาจารย์แอนดี้เป็นวิทยาเกินครับ วิเคราะห์ได้ยอดเยี่ยมแซ่บ แสบกระเป๋าเงินเหลือเกิน  ฮาๆๆๆ จากคุณ : endophine - [ 29 เม.ย. 48 11:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ดูยังไงก็เครื่องฟอกอากาศตั้งแต่แรกแล้ว จากคุณ : คนเพลง - [ 2 พ.ค. 48 19:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อา ขอบคุณพี่ปรัชญาที่นำทางมานี่ครับ เกือบพลาดกระทู้ดีๆ แล้ว รู้สึกต่อมความฉลาดกำลังพยายามจะเริ่มทำงานแล้ว อีกไม่นานคงจะแทนที่ขี้เลื่อยในสมองเราจนหมด 555 เคยสังเกตเห็นน้ำที่ท่อต่ออ๊อกซิเจนในรพ.เหมือนกันครับ แต่ผมเดาว่าเป็นการดักจับไอน้ำซึ่งปนมากับอ๊อกซิเจนไปนั่น แต่คิดว่าน่าจะจริงนะครับ ในตู้เลี้ยงไม้น้ำ เวลาเราเอา คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ปล่อยลงไปในน้ำให้เป็นฟองละเอียด คาร์บอนไดอ๊อกไซด์จะละลายเข้าไปในน้ำครับ อย่างน้อยห้องนอนเฮียเอ็นโดฟีนคงจะคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ น้อยลงไปเยอะ ... คิดในแงบวก ฮา.... จากคุณ : ซีเค - [ 3 พ.ค. 48 08:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เดี๋ยวนี้ คนทำของมาขาย เล่นกันแบบนี้เลยหรือ บอกตรงๆ ช่างไร้จรรยาบรรณจริงๆ (แปลว่า ด่า ก็ได้) เป็นผม คงจะถามตามประสาอาชีพ ว่าช่วยอธิบายหน่อย ว่ามันกรองได้อย่างไร ไอ้อากาศธาตุของคุณเนี่ย ตอบไม่ ชัด ไม่เคลียร์ ผมซักแหลก พวกนี้ไม่เคยขายของผมได้ เลยสักชิ้น แถมยังเชียร์ให้ไปไกลๆ อีก เพราะว่าคอย bid เอ๊ย! คอยถามไปถามมา ทำให้ตั้ง offer ขายใครไม่ได้ ฮา... จะหาว่าผมบ้าก็ว่าเถอะ ถ้ามันฟอกได้จริงๆ ผมก็คงจะถามต่ออีก ว่า Air Flow ของ เจ้าเครื่องนี้มันกี่ CFM, กรองอะไรได้บ้าง Organic หรือ Inorganic, อายุใช้งานเท่าไร, กินไฟแค่ไหน (อันนี้เจ้า หน้าที่วิเคราะห์.. เอ๊ย! คนขาย คงตอบได้ไม่ยาก), ใส่น้ำ น้อยมากมีผลอย่างไร, ใส่น้ำหอมกับไม่ใส่ อันไหนกรอง ได้ดีกว่ากัน... ฯลฯ นั่นแหละ ที่ผมโดนไล่ออกมาประจำจากบูธต่างๆ ที่แต่งตัว ออก IPO.... เอ๊ย! แต่งตัวของมาหลอกกันแบบนี้... แหะๆ อยู่กับหุ้นมากไปหน่อย... จากคุณ : มือเก่าหัดขับ - [ 3 พ.ค. 48 22:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณค่ะ นับถือจริงๆ  ที่คุณจขกท. กัดฟัน เอาเรื่องแสบๆ คันๆ ของตัวเองมาตีแผ่ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ทุกท่าน ขอบคุณ คุณ adrenaline มาก สำหรับ การวิเคราะห์เรื่องชาเขียว  เห็นภาพชัดแจ๋ว เมื่อเปรียบเทียบกับ ผงซักฟอก ตอนยังเรียนอยู่ปี 2 จำได้ว่า อจ. ได้ยกเคส ผงซักฟอกนี้มาเล่าให้ พวกเราอึ้ง ทึ่ง ตะลึง  ว่าผู้บริโภคจะมึนงงอะไรขนาดนั้น  ขนาดซื้อโอ่งมังกรมาตุนผงซักฟอก เพียงเพื่อโปรโมชั่นใหญ่ยักษ์ ซึ่งน้อยคนมาก ที่จะมีโอกาสได้  (คงใช้ผงซักฟอกกันเพลินอีกหลายปี) แต่ในที่สุด พอเรียนจบก็ลืมเลือนไป  เมื่อคุณ adrenaline  ยกชาเขียวมาเปรียบเทียบ จึงเห็นภาพอย่างชัดเจนที่สุด แสดงว่า  อนาคต เด็กการตลาด คงได้มีตัวอย่างเด่นๆ อีกอันแน่ๆ แถมอีกอันนะคะ อจ.เล่ามา สมัยก่อนโน้นนน  ผ้าอนามัย ยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ (จำไม่ได้ค่ะ)  มีการแถมๆๆๆ ซึ่งเปลี่ยนของแถมตลอด บ้างก็ช้อน  เดี๋ยวก็จาน หวี แปรง กระจก เปลี่ยนของแถม สลับไปมา เพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ  จำบทลงเอยไม่ได้เหมือนกัน   คิดแล้วฮามาก..   เป็น 2 เคสที่ประทับใจมาก ตอนเรียนค่ะ เฮ้อออออ.... เงินนี่หายากจริงๆ ((มาจบลงตรงนี้ได้ไงเนี่ย)) จากคุณ : ส้มสีส้ม - [ 3 พ.ค. 48 23:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ให้คำตอบเครื่องที่ติดที่ ฝาในห้องผู้ป่วยที่ รพ. มันไม่เป็นตัวกรอง ครับ แต่มันเป็นตัวให้ความชื้นกะอากาศที่ ให้กะผู้ป่วย เพราะ ถ้าเอาอากาศแห้งๆ เป่าไปที่จมูก ก็ทำให้ผนังโพรงจมูกเกิดปัญหาได้ ครับ  มิได้ เอาไว้กรองสิ่งใดๆ จากคุณ : kugkai - [ 4 พ.ค. 48 13:27:57 ]