ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่ายังไง ครวให้น้องชายคุณ ชำระเงินจะดีกว่าครับ บ.บัตรเครดิต ส่วนใหญ่เค้าจะมีวิธีจัดการอยุ่แล้ว ไม่คุ้มกันหรอกครับ   อีกอย่างนึง  อย่าทำตัวเหมือน พวกล้มบนฟูกเลยยครับ มันน่าเกลียดอ่ะ จากคุณ : tp14d - [ 20 พ.ค. 48 18:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่มีความเห็นครับ แต่ ไงก็ติด black list ไม่คุ้มหรอกครับ จากคุณ : [**_**] - [ 20 พ.ค. 48 18:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 น้องคุณคิดได้ไงนี่แล้วเขาจะมาอยู่ในสังคมโดยไม่เอาเปรียบคนอื่นได้อย่างไร ผมว่าเขาเห็นแก่ตัวไปหน่อยนะบัตรนั่นของเขาเองหรือเปล่าไม่รู้หรือว่าเป็นบัตรเสริม ถ้าบัตรเขาเองก็ปล่อยให้เขาจัดการ เรื่องที่ก็รีบให้โอนกลับก็ไม่เป็นไรเพราะว่ายังไม่ฟ้องเขาไม่มีสิทธิ์ทำอะไร ใครทำก็ให้แก้เองสติปัญญาก็มีและดีด้วยก็ต้องให้เขาแก้เองครับ ถ้าเขาเป็นบัตรหลักเองก็ปล่อยไปได้แต่ให้เขาศึกษากฎหมายให้ดีว่าอายุความกี่ปีเดี๋ยวจะโดนดอกบาน และอีกหน่อยจะเสียเครดิตทำอะไรไม่ได้ผมว่าไม่คุ้ม ถ้าสักสิบล้านค่อยหน้าทำแค่หกแสนหาไม่กี่เดือนก็ได้แล้วมั้ง จากคุณ : sunAus - [ 20 พ.ค. 48 18:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดอกจะพอกพูนเป็นทวีคูณจาก หกแสนบาทกลายเป็นล้านๆๆ  ตามชำระหนี้บริษัทบัตคเครดิตต่างๆไม่แน่จริงเขาอยู่ไม่ได้ เชื่อว่าเหตการเช่นนี้ได้เกิดขึ้นกับบริษัทบัตรเครดิตคิดหรือเขาไม่มีประสพการที่จะจัดการ บริษัทบัตรเครดิตไม่ยอมปล่อยให้ลอยนวลหมดอายุแบบง่ายๆ ศาลตัดสินเมื่อไรก็สามารถยึดทรัพย์สินทุกอย่างที่มีชื่อน้องเป็นเจ้าของ ทางที่ดีเจรจากับน้องให้ขายที่ จขกท เอาเงินไปชำระ เจรจาขอปรับโครงสร้างหนี้เขาอาจยอม hair-cut ดอกเบี้ยค้างซึ่งคิดว่าเป็นดอกของเงินกู้ npl แล้ว รีบจัดการก่อนทุกสิ่งทุกอย่างสายเกินแก้ ด้วยความปรารถนาดี จากคุณ : luck me - [ 20 พ.ค. 48 19:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โธ่ ถ้ามันง่ายแบบนี้บริษัทมันเจ๊งหมดแล้ว ใครเขาก็ทำได้ ไม่เคยดูรายการถึงลูกถึงคนหรือครับ บริษัทไปยึดของที่บ้านได้หมดเลย ขอให้มีชื่ออยู่ในบ้านนั้น(ไม่ใช่เป็นเจ้าของบ้านก็ได้) ไม่รู้ว่าเป็นของใครยึดเอาได้หมด อยากได้คืนต้องไปร้องศาลเอาซะด้วย จากคุณ : solarplexus - [ 20 พ.ค. 48 20:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 black list credit bureau หกปีไม่พอดอก อย่างเสียเครดิตอย่างต่ำประมาณเจ็ดปี แถมอย่างนี้กลับมาเมืองไทยเจ้านายที่ไหนจะจ้างอ่ะคับ ทางที่ดีเอาเงินมาคืนดีกว่า คิดได้ไงระวังจะต่อวีซ่าก็ไม่ได้ด้วย บริษัทบัตรเครดิตไม่ปล่อยไปง่ายๆดอกขอรับ จากคุณ : guyver - [ 20 พ.ค. 48 20:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เอามาคืนเสียคนแน่ๆ จากคุณ : guyver - [ 20 พ.ค. 48 20:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขายอนาคตเปนมูลค่า 6 แสนบาทถ้วน จากคุณ : rnakym - [ 20 พ.ค. 48 20:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มันคิดได้ไงวะเนี่ย แต่ถ้าทางบ้านมีเงินถุง เงินถัง คงไม่มีปัญหาเท่าไหร่หรอกครับ ขายที่ซักแปลงเล็ก ๆ ก็จ่ายได้สบายแล้วครับ จากคุณ : NooM_Suphan - [ 20 พ.ค. 48 20:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 20 พ.ค. 48 20:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 น้องชายคุณคิดอะไรโง่ๆ คิดสั้นและมักง่ายไปหน่อย คุณเป็นพี่ที่ดีมากห่วงน้อง บอกเขาให้ใช้คืนเถอะครับ ขืนไม่ใช้คืนคงไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ เดี๋ยวต้องมาขึ้นศาลแทนหมดอนาคต บริษัทบัตรเครดิตเขาไม่โง่หรอกครับ จะทำให้พ่อแม่ญาติพี่น้องเดือดร้อนใจไปด้วย ไม่คุ้มหรอกครับ จากคุณ : ทำชั่วได้ชั่วแน่ - [ 20 พ.ค. 48 21:05:32 A:61.91.105.239 X: TicketID:001768 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น้องคุณโง่ขนาดนี้ไม่น่าไปเรียนดอกเตอร์เลยครับ จากคุณ : 17247c - [ 20 พ.ค. 48 21:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เคยเห็นอยู่เหมือนกัน คนไทยไปเรียนที่ US ก่อนกลับรูดกระหน่ำจนเต็มวงเงินแล้วบินกลับ ไม่รู้ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างเพราะเลิกคบไปแล้ว เนื่องจากพฤติกรรมน่ารังเกียจเกินไป ไม่ใช่ทำเพราะไม่มีเงินนะครับ แต่เพราะเห็นโอกาศที่จะโกงได้มากกว่า น่าหนักใจแทนสังคมไทยที่เด็กรุ่นใหม่เมีค่านิยมแบบนี้ จากคุณ : น้องกล้วย เศร้าใจ - [ 20 พ.ค. 48 22:20:41 A:203.170.136.241 X: TicketID:074894 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อย่างที่ คคห. ที่ 5 บอก น้องชายคุณคิดง่ายเกินไป ปัญหาหนี้สินไม่ใช่แค่ตัวเขาที่หนีไปก็จะหมดเรื่อง มันจะตกเป็นภาระของญาติพี่น้องที่อยู่ร่วมทะเบียนบ้านเดียวกับเขา เจ้าหนี้สามารถให้ศาลออกหมายเข้ามายึดทรัพย์สินภายในบ้านซึ่งน้องชายคุณมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านได้ โดยหากคุณต้องการทรัพย์สินคืน ต้องไปฟ้องร้องยึนยันกับศาลว่า ทรัพย์ที่ยึดไปนั้นไม่ใช่ของน้องชายคุณ เพราะเขาถือว่า ชื่อลูกหนี้อยู่ในทะเบียนบ้าน  ทรัพย์สินของลูกหนี้ ก็ต้องอยู่ในบ้าน พวกนี้ไม่มีการต่อรอง คุณต้องจ่ายหนี้+ดอกเบี้ยจอมโหด หากคุณยิ่งปล่อยเวลาให้นานไป เพราะนั่นคือวิธีทำธุรกิจของเขา   เขาจะยังไม่ฟ้องร้องคุณตอนนี้ แต่รอให้คดีความใกล้จะหมดอายุ ประมาณ 2 ปี เพื่อให้สามารถคิดดอกเบี้ยจอมโหดได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะดอกเบี้ยทบต้นจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าไปสร้างปัญหาหนี้สินไว้เลยจะดีที่สุด จากคุณ : เพื่อนพูห์ - [ 20 พ.ค. 48 23:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่รู้จะว่าอย่างไร คิดได้ไงเนี่ย จะโกงเขา ? ไม่ฉลาดเอาเลย ได้แต่ .... เข้ามาดู .... เป็นเพื่อนคุณ Mr. Fusion ครับ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ - [ 20 พ.ค. 48 23:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คนโง่แล้วอวดฉลาดอย่างนี้น่ากลัว เหมือนนกกระจอกเทศที่วิ่งหนีศัตรูไม่ทัน จึงเอาหัวมุดทราย คิดเอาเองว่าพ้นภัยไปแล้ว!! เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ทางบริษัทบัตร จะดำเนินการสืบทรัพย์ เพื่อขออำนาจศาลยึดทรัพย์ อายัดเงินเดือน หรืออะไรก็ตามแต่ที่พอจะนำมาชดใช้หนี้สินเขาได้ พร้อมด้วยค่าปรับ ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมอีกบาน ถ้าไม่มีทรัพย์ให้ยึดพอชดใช้หนี้สินได้ ก็จะถูกฟ้องล้มละลาย ฯลฯ อีกสารพัดกลยุทธ ที่จะสรรหามาเพื่อรับมือกับคนที่ไม่เคารพเครดิตตัวเอง เมื่อเรียนจบกลับมาทำงานเมืองไทย ก็จะติดแบลคลิสต์ อีกหลายปี ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้ ฯลฯ ยังไม่นับผลกระทบทางสังคม แบบทำให้พ่อแม่ปวดหัว หรือโรคหัวใจกำเริบ ทำให้ญาติพี่น้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ฯลฯ เห็นด้วยกับ คคห ที่ 8 ครับ -- ตีราคาชีวิตตัวเองแค่หกแสน ทั้งๆที่ธนาคารให้เกียรติว่าเป็นคนมีเครดิต ถ้ายากจนก็ว่าไปอย่าง ตั้งใจเป็นคนชั่วชัดๆ ยิ่งถ้าจบดอกเตอร์ ก็จะยิ่งเพิ่มดีกรีอีโก้หนักเข้าไปอีก ตอนนั้นคงไม่ฟังใครแล้วล่ะ กลัวแทนบริษัทที่จะรับเขาเข้าทำงาน กลัวแทนสังคมไทยที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกับพลเมืองแบบนี้เพิ่มขึ้นอีกคน ลองปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนาย แล้วให้ช่วยโทรอธิบายผลเสียให้เขาฟังดูอย่างละเอียดเถอะครับ เสร็จแล้วให้เขาโทรประนอมหนี้กับทางแบงค์ ผ่อนชำระรายเดือนไป เท่าไหร่ก็ได้ เขายอมอยู่แล้วครับ ถ้าจะชำระแทนเขาก็อย่าใช้เงินตัวเอง หรือเงินส่วนกลางเลยครับ เอาส่วนที่เป็นมรดกของเขานั่นแหละ ต้องให้เขาแสดงความรับผิดชอบ และได้จ่ายค่าโง่บ้าง จะได้ไม่ต้องคอยตามล้างก้นให้กันจนตาย จากคุณ : abanibi - [ 20 พ.ค. 48 23:51:20 A:203.156.116.63 X: TicketID:099070 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใช้ส่วนไหนของร่างกายคิด...?( น่าจะต่ำกว่าเอว ) จากคุณ : ที - [ 21 พ.ค. 48 00:32:10 A:203.113.37.12 X:203.151.140.119 TicketID:098776 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าชาตินี้เขาไม่คิดจะกลับมาตายที่เมืองไทย ก็ปล่อยเขาไปเถอะ จากคุณ : อิ..อิ.. - [ 21 พ.ค. 48 01:09:30 A:210.213.41.189 X: TicketID:094073 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สิ่งที่น่าเป็นห่วง ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องทัศนคติ การคิดทำความผิดลักษณะนี้ จะถูกความชั่วร้ายกลืนกิน เหมือนงูเหลือม เพราะจะทำความผิดใหญ่หลวงขึ้น ไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกกลัวโทษทัณฑ์ หรือผลลัพธ์อันน่าเศร้า เหมือนถูกงูกลืนเข้าไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกตัว รู้สึกอีกทีก็อยู่ในท้องงูแล้ว หลายๆคน ที่ก้าวพลาดเสียอนาคต และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ก็เริ่มต้นจากความคิดชั่วเล็กๆ น้อยๆ นั่นเอง น้องคุณอยู่ที่นั่น ก็คงหาเรื่องโกงอีกล่ะครับ แล้วที่ว่าคดีบัตรที่เมืองไทย หมดอายุความ แล้วตามทวงเขาไม่ได้ อาจจะจริงของเขานะครับ เพราะเขาอาจพลาดที่นั่น แล้วติดคุกอยู่นาน --------------------------------------------- การแก้ไขในเรื่องนี้ จะต้องเข้าไปแก้ในจิตใจครับ ให้บอกความจริงแก่พ่อแม่ แล้วแจ้งเขาไปว่า ที่บ้านเสียใจกับความคิดและการกระทำของเขามาก แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนในบ้านให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นและจะร่วมกันชดใช้หนี้ที่มีอยู่ แล้วขออย่าให้เขาทำสิ่งนี้อีก ไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลก คำเตือน : ถ้าคุณไม่บอกความจริงให้พ่อแม่คุณเสียใจน้อยๆ ในวันนี้ ถึงวันนึงทั้งครอบครัวคุณอาจจะต้องเสียใจอย่างใหญ่หลวง ในวันหน้า จากคุณ : . - [ 21 พ.ค. 48 03:45:35 A:61.90.5.23 X: TicketID:066940 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขึ้นชื่อว่าบาปแล้ว แม้เพียงเล็กน้อย อย่าได้ทำดีกว่า จากคุณ : sutee - [ 21 พ.ค. 48 08:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ฬนทางกลับกันผมก็ได้ยินมาเยอะว่าพวกนักเรียนแถบออสเตรเลีย นิวซีแลนด ก่อนกลับจะกดเงินจากบัตรให้หมดแล้งชิ่งกลับไทยเลยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนไทยติดแบลกลิสตทำให้ขอบัตรเครดิตและวีซ่ายากขึ้น จากคุณ : ชาติ 4300 - [ 21 พ.ค. 48 11:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมมั่นใจว่าน้องคุณก็คงขอทำบัตรเครดิตที่ฝรั่งเศสอีก แล้วพอก่อนออกก็รูดกระหน่ำ แล้วหนีกลับเมืองไทย ทิ้งหนี้ไว้ให้เด็กไทยรุ่นต่อ ๆ ไปมีปัญหาในการขอทำธุรกรรมการเงินเวลาไปเรียนต่อ เหมือนกับพวกที่ทำ ๆ ไว้ในอังกฤษ อเมกา ...... เลวชาติเลย พ่อแม่คุณสอนมายังไงเนี่ย เห็นแก่ตัวและไร้ความรับผิดชอบได้ขนาดนี้ จากคุณ : สัตว์ - [ 21 พ.ค. 48 13:12:34 A:61.19.218.69 X: TicketID:093909 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ผมก็เห็นเหมือนทุกคนว่าเป็นหนี้เขาก็ต้องจ่าย ซึ่ง ณ ขณะนี้ใครจะจ่ายก็คงไม่สำคัญแล้วเพราะถ้าเขาไม่จ่าย ผมอาจจะต้องจ่ายเอง เพราะไม่อยากให้พ่อแม่รู้ พ่อแม่คงเสียใจที่ลูกท่เป็นความหวังและเป็นคนดีในสายตาเขาทำเรื่องแบบนี้ ผมก็โทรทางไกลไปคุยกับเขาประมาณ 2 ชม.ได้พูดให้เขาเข้าใจ ซึ่งเขาก็มีท่าที "สลด"กับคำพูดผมพอสมควร ก็หวังว่าเขาคงจะสำนึกและไม่ทำเรื่องเช่นนี้อีกในภายหน้า ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยออกความเห็นน่ะครับ จากคุณ : จขกท (sibutramine) - [ 21 พ.ค. 48 13:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ๑.หากมีความสามารถที่จะจ่ายหรือจ่ายแทนได้  ก็ควรต้องจ่าย เพราะหาไม่แล้วก็จะเป็นคนโกงสมบูรณ์แบบ ๒.คดีเรียกให้ชำระเงินคืนในการทดลองจ่าย(คือบริษัทบัตรเครดิตเรียกให้ชำระเงินนั่นแหละครับ) มีอายุความ ๒ ปีนับตั้งแต่เจ้าของบัตรเครดิตนำไปใช้วันสุดท้าย  หากบริษัทไม่ฟ้องคดีภายใน ๒ ปีถือว่าคดีขาดอายุความ     ในกรณีนี้หากบริษัทบัตรเครดิตฟ้องคดีแล้วไม่มีตัวจำเลยต่อสู้  ศาลก็จะพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว  หากแพ้คดีก็จะต้องถูกบังคับคดียึดทรัพย์สินที่ปรากฏชื่อถือกรรมสิทธิมาขายเพื่อชดใช้หนี้     ดังนั้นที่ดินที่ว่าจะต้องถูกยึดแน่ๆครับ ๓.ในอดีตบริษัทบัตรเครดิตฟ้องช้ากว่าเวลา ๒ ปี  ลูกค้ายกอายุความขึ้นต่อสู้ชนะคดีกันมาแล้วหลายราย  ปัจจุบันเค้าคงป้องกันหรือว่าจ้างทนายความข้างนอกให้เหมาทำคดีกันอย่างรวดเร็วแล้ว จากคุณ : กุษาณ - [ 21 พ.ค. 48 18:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อนาจครับ คนจะเรียนโท-เอกคิดได้แค่นี้ ฝากบอกน้องชายคุณด้วยนะครับ กลับมาไถนา กินหญ้าแบบเดิมเหอะครับ ฉลาดแบบโง่ ๆ จากคุณ : enishi - [ วันวิสาขบูชา 01:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ลืมไป เข้ามาด่าแต่ลืมเสนอแนะ เอาเป็นว่ายังไงถ้าคุณมีเงินจ่ายแทนหรือมีหลักทรัพย์ที่พอจะขายแล้วเอาเงินไปใช้แทนได้เนี่ย คุณทำเถอะครับ เพราะยังไงคุณก็นามสกุลเดียวกัน มันจะเสียเครดิตกันทั้งตระกูลครับ จากคุณ : enishi - [ วันวิสาขบูชา 01:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถามท่านผู้รู้นะคะ ธนาคารสามารถสั่งยึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนลูกหนี้ได้หรือไม่ หากยังไม่มีหมายจากศาลหรือถึงกำหนดวันฟ้อง คือต้องให้ศาลพิพากษาก่อนหรือเปล่า หรือว่าธนาคารสามารถสั่งการใดๆก็ได้เกี่ยวกับตัวลูกหนี้เพื่อให้ลูกหนี้ปฏิบัติตาม โดยที่ศาลไม่จำเป็นต้องรับรู้ ในแต่ละขั้นตอนระหว่างเจ้าหนี้(ธนาคาร)กับลูกหนี้บังเอิญค้างชำระสินเชื่อบุคคลอยู่ อ๋อ! หางานทำอยู่ค่ะ จากคุณ : ไม่เอาตัวเข้าแลกแน่นอน - [ วันวิสาขบูชา 18:22:16 A:221.128.74.62 X: TicketID:077891 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอบ 27 ต้องรอศาลพิพากษาก่อน แล้วจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการบังคับคดี การอายัดเงินเดือนจึงจะกระทำได้ จากคุณ : . - [ วันวิสาขบูชา 21:12:38 A:61.91.82.101 X: TicketID:066940 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มีเกร็ดเล็ก ๆ นิดนึงครับ สำหรับลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดอัตราเพดานดอกเบี้ยสำหรับลูกหนี้ประเภทนี้ไว้ที่ร้อยละ 75 ต่อปี (อ่านว่า ร้อยละเจ็ดสิบห้า ต่อปี) และด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอก (ซึ่งก็จะติดปีละ 2 ครั้ง ๆ ละ 37.5 % ) ก็จะทำให้ต้นงอกออกเป็น 2 เท่า (100 เพิ่มเป็น 200) ได้ภายใน 1 ปี โหดรากเลือดดีไหมครับ แนะนำวิธีหนึ่ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้หรือเปล่า ขอทุกท่านให้ความเห็นด้วยครับ คือ ผมสังเกตุว่า หลาย ๆ ธนาคารจะมีโปรแกรมการรับโอนหนี้ หรือ การให้กู้โดยปราศจากหลักทรัยพ์ค้ำประกัน และมีการจัดโปรโมชั่นประเภท ดอกเบี้ย 0 % 3 เดือน 6 เดือน (ของที่ผมทำอยู่นี่ 3 เดือน แต่มีเฉพาะบัตรเครดิต) ถ้าหากคุณตั้งใจจะจ่ายจริง ๆ อาจจะโอนหนี้ หรือ หมุนหนี้ สร้างวงเงิน เพื่อต่อสู้กับดอกเบี้ย 18 % ต่อปี (แน่นอน คิดทบต้น ทบดอก) จะดีไหม (ผมเองไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เพราะไม่มีประสบการณ์ อยากลองถามถึงความเป็นไปได้จากทุก ๆ ท่านด้วยครับ....? จากคุณ : @power - [ 23 พ.ค. 48 08:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่าคุณควรบอกให้พ่อแม่ของคุณรู้พฤติกรรมของน้องคุณด้วย บางทีการปกปิดไม่ใช่เรื่องดี  ยังไงคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องให้อภัยลูก  บอกเขาซะให้รู้ถึงพฤติกรรมของลูกจะได้อบรมสั่งสอนให้เป็นคนดีของสังคมต่อไป กลับตัวกลับใจตอนนี้ยังทัน จากคุณ : สรกฤช (สรกฤช) - [ 24 พ.ค. 48 10:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มันคิดได้แค่เนี้ย... มันไปเรียนที่ฝรั่งเศสได้งัยเนี่ย.. งง... ลำดับแรก บอกพ่อแม่ก่อนเลยครับ... ลำดับสอง บอกมันว่า ตรูบอกพ่อแม่แล้วเฟ้ยย.. ลำดับสาม บอกมันว่า จ่ายหนี้ด้วยเฟ้ย... จากคุณ : JUICE - [ 25 พ.ค. 48 12:27:21 A:unknown X:202.57.155.69 TicketID:074686 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จ่ายคืนเขานะครับไม่ว่าจะด้วยวิธีใด  บาปกรรมครับทำแบบนี้ อีกอย่างเขาจะฟ้องศาลแล้วมายึดที่ดินของน้อง คุณแน่คราวนี้จะยุ่งกันใหญ่  ถ้าเป็นผมและพอจะมีเงินอยู่บ้างผมจะใช้หนี้แทนน้องครับ และอบรม เขาไม่ให้ทำแบบนี้อีกไม่ว่าที่ไหนในโลกผลเสียมีมากเกินกว่าจะคิดนะครับ ค่อยเอาคืนจากน้องคุณทีหลังครับ จากคุณ : คนเพลง - [ 25 พ.ค. 48 12:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถึงแม้จะลอยนวลหมดอายุความบัตรเครดิต 2 ปี ....แต่อายุกรรมแห่งบาปจะติดตัวไปหลายชาติ ..กฎแห่งกรรมมีจริง   จากคุณ : goodboy.ok - [ 25 พ.ค. 48 20:12:07 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ที่ผมสนใจมากกว่าตัวหนี้ คืออนาคตของน้องชายคุณมากกว่าครับ... จากคุณ : Papercut - [ 25 พ.ค. 48 22:47:03 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ควรบอกพ่อแม่ก่อน แล้วช่วยใช้หนี้แทน เมื่อน้องกลับมาแล้วให้ใช้คืนด้วย หากติดแบล็กลิสต์ ก็ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อีกนาน หมดโอกาสทำมาหากิน ที่สำคัญ หากไม่รีบแก้ไข จะทำให้น้องคุณหลงผิด และสำนึกได้ยาก อย่าลืม สั่งสอนน้อง ให้แน่ใจว่าเขาสำนึกจริงๆ และให้ถือเป็นบทเรียน อย่าคิดและทำอะไรชั่วๆ อีก จากคุณ : ข้าวกระเพรา - [ 26 พ.ค. 48 08:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 36 นอกจากจะเห็นด้วยกับ ทุก คคห. ข้างบนแล้ว ขอแนะนำให้คุณ จขกท. กรุณาส่ง link ของกระทู้นี้ ให้เจ้าน้องชายตัวดีอ่านด้วยครับ จะได้คิดได้บ้าง จากคุณ : หมูตะกายตึก - [ 26 พ.ค. 48 10:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หุหุ นี่อะนะคนที่จะใช้ ดร. นำหน้าชื่อในอนาคต จากคุณ : สิบสี่มิล - [ 26 พ.ค. 48 15:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ศาลดูเจตนาคับ ไม่ใช่ดูแค่ตัวหนังสือ จงใจแบบนี้ ฟ้องเป็นคดีฉ้อโกงให้เสียทรัพย์ เป็นคดีอาญามั้ยคับ ถ้าจำไม่ผิด อาญาอายุความเป็นสิบปี จบ ดร.มา โดนเข้าคุกไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เข้าคุกเพราะโกงเงินต้นแค่หกแสน ขำๆ อะ จากคุณ : นักดูดาว - [ 26 พ.ค. 48 16:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อยากได้เงิน  600000 ทำไมไม่บอก   จะสอนวิธีเล่นหุ้นให้ จากคุณ : Clorets - [ 26 พ.ค. 48 18:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อึ้ง..........ทำไปด้ายยยย จากคุณ : เดอะไรท์ - [ 26 พ.ค. 48 19:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 41 พวกบัตรเครดิต มีวิธี ตามน่ากลัวกว่าที่น้องคุณคิดเยอะครับ  เค้าไม่โง่ขนาดรอหมดอายุความหรอก  แนะนำให้รีบใช้คืนด่วน จากคุณ : Lucid - [ 26 พ.ค. 48 20:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ...ใช้หนี้เขาเถอะ จากคุณ : แป้นบาส - [ 26 พ.ค. 48 22:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พวกบัตรเครดิต..พวกนี้เสือนอนกิน..โกงไปเถอะ.. บริษัทฯ ทำธุรกิจมีกำไร-มีขาดทุน..ตามหนี้ไม่ได้.. ก็ตัดเป็นหนี้สูญ...เด๋ว พวกมันก็ไปโขกดอกเบี้ยพวกผิดชำระให้หนี้แทนเองละ โฮ่..คิดมาก..แค่ 6 แสน บริษัทพวกนี้ไม่ซีเรียดหร๋อก.. จากคุณ : เสือใบ - [ 27 พ.ค. 48 05:20:03 A:202.129.13.173 X: TicketID:033566 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ส่งกระทู้นี้ไปให้น้องชายดูสิครับ น้องเค้าจะได้รู้ซะทีว่าเรื่องของการเงินไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ิ่้้ สงสัยกลับมาเค้าคงต้องมาเริ่มใหม่ สมบัติที่แม่ให้น่าจะถูกยึดนะ จากคุณ : tv3579 (tv3579) - [ 27 พ.ค. 48 06:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อีกอย่างครับ บอกน้องเค้าแล้วหากว่าเค้ายังไม่อยากจ่าย ผมว่าพี่ไม่ต้องไปจ่ายให้หรอก ใครทำก็ควรรับผิดชอบ แฮะแฮะ ไม่ใช่บกพร่องโดยสุจริตนะพี่ ถ้าเค้าไม่จ่ายต้องบอกแม่ และให้แม่เอาที่ดินคืนหากว่าแม่โอนให้แบบมรดกไม่ได้ทำแบบซื้อขาย ถ้าไม่เอาคืนตอนนี้  คงหมดครับ จากคุณ : tv3579 (tv3579) - [ 27 พ.ค. 48 06:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่เห็นด้วยกับการไปชำระหนี้แทนน้องชายครับ เพราะ side effect ที่คุณจะให้กับเขาคือ การขาดวินัยทางการเงิน ขาดความรับผิดชอบขั้นรุนแรง . ถ้าไม่ให้เขารู้จักรับผิดชอบตั้งแต่วันนี้ นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาก่อเรื่อง เขาจะคิดแบบวัยรุ่นไทยสมัยนี้หลายท่านคือ คิดว่าเงินนั้นหาง่าย ไม่รู้จักเก็บออม ไม่รู้จักวางแผนการใช้เงิน . ช่วยเขาครั้งที่หนึ่ง ต่อไปก็จะมีครั้งที่สอง ที่สาม ครอบครัวคุณจะล่มจมในที่สุด คุณเองจะตั้งตัวไม่ได้เอา . พับผ่าสิ ผมมองโลกในแง่ร้ายดีไหม จากคุณ : ดอกมะลิซ้อน (ดอกมะลิซ้อน) - [ 27 พ.ค. 48 18:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 47 In the US, many of uneducated persons underestimate and do not understand significance of credit powers. Special groups are trying to educate them about credit. In the US without credit can lead to a miserable life.. can not buy a house, can not rent a car, etc. With good credit you can buy a house in the US for as little as 5% down payment and 30-year fixed loan at lower rate. After a few years house price goes up.... . คุณ : sibutramine .. In your case. You should find a way to pay the bank as soon as possible for your own good as well as your mom and your brother. There is no other way around it. Period. จากคุณ : isvasu - [ 1 มิ.ย. 48 15:53:22 A:68.50.217.176 X: TicketID:084617 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แล้วถ้าเค้าทำอีกคุณก้อจะตามใช้หนี้ให้เค้าไปเรื่อยๆเหรอค่ะอยากมีพี่อย่างคุณจัง แต่เสียดายน้องชายคุณต่างกะคุณคนละขั้วเลยอ่ะ จากคุณ : Fjord - [ 1 มิ.ย. 48 15:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หนี้สินบัตรเครดิต ทุกชนิด... ถ้าถึงที่สุดแล้ว ให้ไปทำยอมในศาล รับรองดอกก็ไม่เสีย...หรือบางทีอาจได้ เงินต้นด้วย (เรียนถึ่ง ดร.ถ้าไม่มีวิธิคิดก็แมวมา...jerseyture@hotmail.com ) เออ..ดอกเบี้ยที่ธนาคิดไม่เกิน อัตราดอกเบี้ยสูงสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย  อยู่แถว.. สิบกลาง..  (คดีแพ่งไม่มีปัญหา) แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 48 09:57:38 แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 48 09:56:29 จากคุณ : kaewjai (kaewjai) - [ 5 มิ.ย. 48 09:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ทุกวันนี้ พวก nonbank ปล้นผู้ใช้บัตรต่าง ๆ โดยวิธีเก็บเงินจากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ มันทำทุกวิธีแหละ..เพราะฉนันถ้าคิดจะมีเครดิต ให้ใช้บริการของ bank ไทย..  ค่าธรรมเนียมบางแห่งก็ไม่เสีย เบี้ยปรับก็ถูก ใครยากทราบอะไรก็แมวมากัน (ความเห็นที่ 49) จากคุณ : kaewjai (kaewjai) - [ 5 มิ.ย. 48 09:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อยู่เมืองไหนเนี่ยะ...พอดีผมเรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส จะได้ไม่บังเอิญไปคบเข้าซวยตายเลย.... ยังไงเงินก็ไม่ใช่ของเรานะ คนอื่นเขาหากันมายากลำบาก ยังไงก็เอาไปคืนซะเถอะ... เป็นนักเรียนทุน จบ ดร.ไป คงหาตังค์ใช้ไม่ยากหรอกนะ รักษาตัวไว้ดีกว่า... จากคุณ : ปอมปิเย่ - [ 8 มิ.ย. 48 04:04:51 A:82.234.26.30 X: TicketID:101010 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ถ้าไม่คืน เขาจะฟ้อง หากแพ้ เขาจะบังคับเอากับบรรดาทรัพย์ที่มี ยกเว้นว่า จะถ่ายโอนทรัพย์นั้นไปเป็นชื่ออื่นเสียก่อน โดยศาลท่านเห็นว่า คนรับ ไม่ทราบความด้วย ก็จะรอดตัวไป หากศาลท่านเห็นว่าเป็นการฉ้อฉล ท่านจะให้ บังคับขายทอดตลาด แล้วเอาเงินคืนแก่เจ้าหนี้ หากเหลือเท่าใด ส่วนที่เหลือนั้นก็คืนแก่เจ้าของ ส่วน Black list  นั้นวันนี้มัปรากฎให้เห็นแล้ว และจะมีตลอดไปตลอดชั่วชีวิต จากคุณ : น้าพร - [ 20 มิ.ย. 48 17:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 53 รู้แต่ว่าเค้าคิดสั้นน่ะค่ะ...มองอะไรแค่ตื้น ๆ ทั้ง ๆ ที่จบตั้งสูง จริง ๆ ตัวเองก่อนจากเมืองไทยมา ก็มีหนี้บัตรเครดิตพอประมาณ แต่จำนวนก็ไม่ได้มากมายอะไรแค่หลักหมื่นเอง แต่ก็ติดต่อกับแบงค์ตลอด โอนเงินไปให้หลานจ่ายให้ทุก ๆ เดือน ค่อย ๆ ทยอยจ่ายไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนขั้นต่ำ ในที่สุดก็ค่อยปลดหนี้ได้ เพื่อรักษาเครดิตตัวเองไว้ เพราะอนาคตคนเราไม่แน่นอน เกิดอยากกลับไป ทำธุรกรรมอะไรที่เมืองไทยเราอีก เราก็ย้งหลงเหลือ เครดิตของตัวเองไว้บ้าง เราจะได้ติดต่อกับแบงค์ง่ายขึ้นหน่อย จริง ๆ ก่อนมา ก็มีคนพูดเปรย ๆ ให้ฟังว่า หนี้บัตรเครดิตนั้น มีหลายคนที่หนีไปต่างประเทศ แล้วไม่จ่ายคืน ทางแบงค์ก็ตามทวงเราไม่ได้ แต่ไม่เคยคิดจะทำแบบนั้นเลย เพราะมองไปไกล ๆ น่ะ ยิ่งติด black list แล้วคิดว่ามันไม่คุ้มเลย แถมมานึกถึงคนที่อยู่เบื้องหลังอย่างพ่อแม่พี่น้องแล้ว ไม่อยากให้พวกเค้าต้องมาคอยกังวลกับเราอีก กับใบทวงหนี้ต่าง ๆ.. รู้สึกว่าน้องชายคุณเห็นแก่ตัวจังเลยค่ะ นึกถึงแต่ตัวเองน่ะ.. อีกอย่างธนาคารมันก็อยู่ในประเทศตัวเอง โกงธนาคาร มันก็คือการโกงประเทศไทยด้วยน่ะแหละ จากคุณ : JC2002 - [ 21 มิ.ย. 48 00:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้าจะชำระหนี้แทน .. อย่าลืมบังคับให้น้องชายคุณยกเลิกบัตรเครดิตทั้งหมดด้วย .. ถ้าเค้าไม่ยอม ก็คุยกับบริษัทบัตรโดยตรงเลย .. ไม่อย่างนั้น จ่ายไปแล้ว น้องคุณไปรูดอีก จะหนาว .. จากคุณ : แม่มดพันปี - [ 24 มิ.ย. 48 19:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 55 มันเป็นบัตรที่อันตรายจริงๆ... ขอให้น้องคุณสำนึกตัวได้ในเร็ววันครับ ผมกรรมที่เค้าก่อไว้นี่มันตามมาหาเค้าแน่ๆในไม่ช้า... จากคุณ : dogdoy (dogdoy) - [ 6 ก.ค. 48 07:57:07 ]