เมื่อเช้าอ่านหนังสือพิมพ์
เจอเป้าราคาของกลุ่มเดินเรือ
ข้าพเจ้าก็เลยชักสงสัยว่า
แค่ค่าระวางเรือขึ้นสองวัน
ทำไมเป้ามันส่ายไปส่ายมาเร็วจัง
ลองพยายามคิดเล่นๆ
เลยได้หลักคด เอ๊ยหลักคิดไว้เล่นกับเป้าราคาดังนี้
เป้าราคาคือ
๑ เป็นราคาที่ใครก็ได้จะเป็นผู้ซื้อ นอกจากคนที่พูด
๒ คนที่พูดถึงเป้าราคา
ถ้าไม่ซื้อหุ้นตัวนั้นไปแล้ว
ก็ต้องรับซิกจากคนที่ซื้อไปแล้ว ให้พูด
เป็นวิชาเทพที่เข้ากลบเกลื่อนวิชามาร
โดยอ้างอิงปัจจัยพื้นฐานของอนาคตซึ่งไม่มีใครรู้จริง
อย่างมากก็รู้ได้แค่ระดับ "ความน่าจะเป็น"
๓ เป็นการพยายามสร้างปริมาณเงินหมุนเวียน
ให้เพิ่มเข้าไปในหุ้นตัวนั้นโดยตรง
ในลักษณะร่วมด้วยช่วยกัน
โดยเงินที่มีอำนาจซื้อนำจริง
รับอาสาเป็นไกด์ พาเงินที่มีอำนาจซื้อนำเทียม
ไปเที่ยวชมดอย
๔ เป็นการกักปริมาณหุ้นที่มีอำนาจขายนำเทียม
ของพวกรายย่อยให้หยุดขาย
เพราะเริ่มจะเห็นคำว่าเสี่ยหุ้น ลอยอยู่ตรงหน้า
ถือว่าเป็นช่วยชาติ เอ๊ยช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้ามือ
เพราะรายย่อยจะตั้งหน้าตั้งตา
รอใครก็ได้มาซื้อที่ใกล้ๆเป้าราคา เพื่อให้ตัวเองได้ขาย
เรื่องอะไรจะยอมขายตอนนี้ จริงป่าว
๕ หุ้นที่มีอำนาจขายนำจริง ก็ถูกกักเอาไว้เช่นกัน
อันนี้คงไม่ต้องบรรยาย เจ้ามือจะลงมือ
มีหรือจะปล่อยให้หุ้นที่มีอำนาจขายนำออกมาลอยนวล
ให้เปลืองค่าต๋งโดยไม่จำเป็น
(คนเก็บค่าต๋ง อาจจะร่วมด้วยช่วยเป็นเจ้ามือก็ได้)
๖ เติมกันเองเอง มั่วได้แค่นั้นแหละ ฮาๆๆๆๆ
ลองดูภาพประกอบแล้วใส่เป้าราคาเข้าไปแทนราคาปัจจุบันดู
ใครจะเป็นคนเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนเข้าไปซื้อหุ้น
ที่ใกล้ๆราคาเป้าหมายมากที่สุด
ส่วนตรงราคาเป้าหมาย แทบจะไม่ต้องพูดถึง
รายย่อยเกือบทุกคนพร้อมจะขาย
ทำให้อำนาจขายของหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
การจะทำให้รายย่อยยอมซื้อที่ราคาเป้าหมาย
คงจะเป็นเรื่องยากมากๆ
ถ้าเจ้ามือไม่กล้าลากให้เลยเป้า
เพราะรายย่อยแทบจะทุกคนเชื่อว่า
ตนจะเป็นคนสุดท้ายที่เข้าไปซื้อหุ้นตัวนั้น
หลักการสำคัญที่สุดของเกมล่าส่วนเกินทุนขาขึ้นคือ
รายย่อยส่วนใหญ่จะต้องเชื่อว่า
"ตนเองจะไม่เป็นคนสุดท้ายที่ถือหุ้นตัวนั้น
ที่ราคาสูงสุด"
แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 48 08:25:58