CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    แมลงเม่าหุ้น มนุษย์หุ้น เซียนหุ้น ในทัศนะของสำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่ง

    สำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่งแบ่งคนเล่นหุ้น  
    แบบไม่เป็นทางการออกเป็น ๓ สปีชี่คือ

    ๑ แมลงเม่าหุ้น  ๒ มนุษย์หุ้น  ๓ เซียนหุ้น

    ใครจะฉีกไปเป็นซับสปีชี่ไหน  ก็ลองต่อยอดกันเอาเอง ฮาๆๆๆ

    ถ้าตีความนักเล่นหุ้นสปีชี่ต่างๆ  
    ไปตามความโลภ และความรู้
    จะได้หลักเกินดังนี้

    ๑ แมลงเม่าหุ้น  

    นักเล่นหุ้นสปีชี่นี้ไม่ค่อยและไม่ยอม
    จำกัดความโลภให้สมดุลกับความรู้ที่ไม่ค่อยมี  
    แต่มักจะเข้าข้างตัวเองว่า
    "มี....... หรือถึงไม่มี ก็เล่นหุ้นได้"
    เพราะหุ้นเป็นการพนัน

    ความจริงก็คือ ต่อให้หุ้นเป็นการพนัน
    และตลาดหลักทรัพย์เป็นบ่อนถูกกฏหมาย
    ไพ่ที่บ่อนนี้เอามาเล่นกัน
    ก็มักจะแพ้ชนะกันด้วยการวัดใจ  
    ไม่ใช่วัดดวง

    ลองนึกดูดีๆ
    " ถ้าบ่อนนี้ไม่มีการโกง"  (ซึ่งมันไม่จริง ฮาๆๆ)
    แทงกอง  ต่างจากเก้าเก  โป๊กเกอร์อย่างไร?

    ที่ต่างกันเห็นๆก็คือ  
    แทงกองไม่สามารถเปลี่ยนผลแพ้ชนะ
    ด้วยพลังใจและพลังเงิน
    แต่เก้าเกกับโป๊กเกอร์สามารถเปลี่ยนผลแพ้ชนะ
    ด้วยการวัดพลังใจและพลังเงิน

    ดังนั้น ต่อให้เราฟลุ๊กได้ไพ่สูงสุดของเก้าเก หรือโป๊กเกอร์
    ก็ไม่ได้หมายความว่า
    เราจะรวยได้ในพริบตาจากไพ่ฟลุ๊กชุดนั้น
    เพราะถึงไพ่ดีที่สุดอยู่ในมือเรา
    แต่คู่ต่อสู้ดันอ่านใจออก  จากสีหน้าหรือการเก
    เขาก็หมอบ  รอเล่นตาใหม่ต่อไป  ฮาๆๆๆๆ

    ความคิดแบบที่ว่า หุ้นไม่จำเป็นต้องมีความรู้
    ไม่จำเป็นต้องมีวิธีการเล่นหรือที่เขาเรียกว่าเทรดโมเดล?
    จะแพร่กระจายอย่างแพร่หลาย
    ในตลาดหุ้นที่เริ่มเป็นขาขึ้นแบบยาวๆ
    และรายย่อยแบบแมลงเม่าหุ้น
    จะพากันเชื่อความคิดนี้มากที่สุด

    "ในช่วงตลาดหุ้นฯขึ้นถึงจุดสูงสุดพอดี"

    ผลจากการไม่ยอมจำกัดปริมาณความโลภ
    ให้สมดุลกับปริมาณความรู้
    แมลงเม่าหุ้นจึงมักจะเป็น
    "เซียนหุ้นในตลาดขาขึ้น"
    ประเภทแทงตัวไหน  ก็ถูกทุกตัว
    เพราะว่าในตลาดหุ้นขาขึ้น
    เงินหมุนเวียนที่ถูกใส่เข้าไปในตลาดหุ้น
    ทั้งจากต่างชาติ  กองทุน และรายย่อย
    จะเป็นตัวชี้ขาดราคาหุ้นทุกตัวที่มีสภาพคล่องคอ
    โดยไม่จำเป็นต้องพูดถึงปัจจัยพื้นฐานแม้แต่นิดเดียว

    ความจริงที่เซียนหุ้นและมนุษย์หุ้นรู้
    แต่แมลงเม่าหุ้นไม่ค่อยอยากรับรู้ก็คือ  
    หุ้นทุกตัวในตลาดฯ
    สามารถขึ้นได้อย่างไร้เหตุผลด้วยประการทั้งปวง
    ถ้าปริมาณเงินมากๆถูกอัดเข้าไปในหุ้นตัวนั้น

    ๒ มนุษย์หุ้น

    นักเล่นหุ้นสปีชี่นี้  จะต้องพยายาม
    จำกัดปริมาณความโลภให้สมดุลกับความรู้ที่มีอยู่จริงๆให้ได้
    มนุษย์หุ้นก็จะเริ่มจำกัดปริมาณความโลภอย่างระมัดระวัง
    เมื่อคิดว่าหุ้นขึ้นอย่างไร้เหตุผลในสามัญสำนึกของตัวเอง

    และเริ่มปลดล็อกปริมาณความโลภเข้าตลาดหุ้นฯ
    เมื่อคิดว่าหุ้นลงอย่างไร้เหตุผลเช่นกัน

    ของผมมีวิธีจำกัดปริมาณความโลภให้สมดุลกับความรู้ที่มีอยู่
    ด้วยการทำคลายเครียดเรโช
    ที่สำคัญที่สุดคือ  คลายเครียดเรโชระดับมหภาค
    มันสำคัญกว่าระดับจุลภาคอีก
    เพราะมันทำให้ผมสามารถอยู่ในตลาด
    ในฐานะมนุษย์หุ้นได้ไปจนตายแน่ๆ
    (นอกจากว่าไทยจะกลายเป็นอาร์เจนติน่า)

    http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/I2526480/I2526480.html

    มนุษย์หุ้นจะต้องรู้ตัวเองให้ได้ว่า
    มีความสามารถเพียงแค่ไหน
    แล้วก็เล่นเท่าที่ความสามารถมีอยู่จริงๆ
    ไม่ทึกทักเอาว่า ไม่จำเป็นต้องมีความรู้อะไร
    ก็สามารถเล่นหุ้นให้ได้เงิน
    ซึ่งในตลาดขาขึ้นสมบูรณ์แบบ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
    หุ้นทุกตัวขึ้นได้เพราะปริมาณเงินเหมุนเวียนที่อัดกันเข้าไป
    ทำให้หุ้นขึ้นไปได้เรื่อยๆ  
    จนกว่าจะมีการชักปริมาณเงินหมุนเวียนออกจากตลาดฯ

    ถ้าใครอ่านที่ผมโพสมาเรื่อยๆ
    จะรู้ดีว่า  ผมมีความรู้เรื่องหุ้นน้อยมากๆ
    โดยเฉพาะความรู้เรื่องหุ้นแบบเป็นวิชาการ
    ไม่ว่าปัจจัยเท็คนิคหรือว่าปัจจัยพื้นฐาน  แทบจะไม่มี
    ใครถามหุ้นที่ผมไม่ได้ถืออยู่
    หรือต่อให้เป็นหุ้นที่ผมถืออยู่
    ถ้าทำคลายเครียดเรโชไปแล้ว
    ผมก็ยังรู้น้อยอีกเช่นกัน

    ยิ่งใครมาถามหุ้นที่ผมไม่เคยเล่น
    ผมจะตอบไม่ได้เลย
    เพราะไม่ได้มีความรู้อย่างแท้จริงในหุ้นตัวนั้น  ฮาๆๆๆ

    ๓ เซียนหุ้น  

    นักเล่นหุ้นสปีชี่นี้
    "ไม่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณความโลภ"

    คนที่รู้ซึ้งตลาดฯอย่างทะลุปรุโปร่ง
    และฝึกปรือพลังจิต และพัฒนาเครื่องมือมาตรฐานประจำตัว
    จนพร้อมจะรับมือกับตลาดหุ้น
    ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนๆ
    คนนั่นแหละคือเซียนหุ้นตัวจริงเสียงจริง

    ผมเชื่อมั่นที่สุดว่า
    ไม่มีเซียนหุ้นตัวจริงเสียงจริงแม้แต่คนเดียว
    ที่คิดว่าตลาดหุ้นเป็นบ่อนการพนัน

    "ที่แพ้ชนะกัน ด้วยการเล่นไพ่กันแบบวัดดวง"

    ทีนี้ ถ้าแบ่งสปีชี่นักเล่นหุ้น
    ไปตามเครื่องมือที่ใช้เล่นหุ้น
    และวัดผลลัพธ์ของเครื่องมือที่ใช้
    จะได้ดังนี้

    ๑ แมลงเม่าหุ้น

    นักเล่นหุ้นสปีชี่นี้
    ใน ๑๐ คน  จะมีคนใช้เครื่องมือมาตรฐานประจำตัว
    ในการเล่นหุ้นแค่ ๒ คน

    และอีก ๘ คนที่เหลือจะใช้เครื่องมือ
    แบบไม่มีมาตรฐาน และแบบง่ายที่สุดคือ
    เล่นตามมาร์เก็ตติ้ง  ตามเพื่อน    
    เล่นตามนักวิเคราะห์ตามสื่อแบบไม่มีการคิดเอาเอง  
    เล่นตามข่าววงในตามห้องค้า มือถือ และเวปบอร์ดหุ้น

    ลักษณะเด่นของแมลงเม่าหุ้น
    มักจะชอบเล่นหุ้นแบบเสี่ยงดวง

    สำหรับแมลงเม่าหุ้นอีก ๒ คน
    พร้อมจะอัพเกรดขึ้นไปเป็นมนุษย์หุ้นได้สบายมาก  
    เพราะมีเครื่องมือมาตรฐานประจำตัวอยู่แล้ว
    เพียงแต่ไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องมือนั้น  
    ทั้งๆที่มันผิดพลาดซ้ำซาก

    นักลงทุนในสปีชี่แมลงเม่าหุ้น  
    ไม่ว่าจะมีเครื่องมือมาตรฐานประจำตัวหรือไม่ก็ตาม

    ลงทุน ๑๐ ครั้ง
    จะได้ ๑ - ๔ ครั้ง  เสีย ๙ - ๖ ครั้ง
    ถ้าเสียทั้ง ๑๐ ครั้ง  ไปขายเต้าฮวยดีกว่า

    ๒ มนุษย์หุ้น

    มนุษย์หุ้นทุกคนจะต้องมีเครื่องมือมาตรฐานประจำตัว
    ไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง  
    เป็นเครื่องมือแบบง่ายๆ
    เป็นที่รู้กันอย่างแพร่หลายทั่วไป
    แม้แต่ข่าววงใน  มนุษย์หุ้นก็จะเอามาเล่นแบบรู้เท่าทันว่า
    ตลาดหุ้นไม่ใช่องค์การกุศล  จะได้มีคนเอาเงินมาแจก
    มนุษย์หุ้นจะใช้ข่าววงใน

    "เป็นเครื่องมือในการเล่นหุ้น"

    ในขณะที่  แมลงเม่าหุ้น

    "จะตกเป็นเครื่องมือของข่าววงใน จนโดนหุ้นเล่น"

    มนุษย์หุ้นจะยอมประเมินตัวเองว่า
    เครื่องมือที่ใช้อยู่ ยังได้ผลหรือไม่
    ถ้าเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้มานานๆแล้ว  
    ยังได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
    และไม่สามารถต่อยอดหาเครื่องมือแบบใหม่ๆได้
    ก็จำเป็นต้องใช้เครื่องมือเดิมไปเรื่อยๆ

    "เพราะมันยังทำให้ได้เงิน  มากกว่าเสียเงิน"

    มนุษย์หุ้นจะไม่ข้ามเส้นไปเล่นหุ้นในแนวทางที่ตัวเองไม่ถนัด
    โดยไม่มีเครื่องมือใหม่ๆมาเพิ่มเติมเครื่องมือเดิม

    สำหรับตัวผมเอง
    เครื่องมือที่ผมใช้เล่นหุ้น
    จะอ้างอิงกับผลประกอบการของบริษัทนั้นๆ
    ตอนนี้ต่อยอดเพิ่มด้วยหลักสมเกินของสำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่ง

    ผลลัพธ์ของการเล่นหุ้นของมนุษย์หุ้น
    ไปตามเครื่องมือมาตรฐานประจำตัวคือ

    เล่นหุ้น  ๑๐ ครั้ง
    จะได้  ๕ - ๗ ครั้ง
    เสีย  ๕ - ๓ ครั้ง
    ระดับสูงสุดของนักเล่นหุ้นสปีชี่นี้
    ผมให้ได้แค่ ได้ ๗ ใน ๑๐ ครั้ง  
    ถ้าเกินกว่านั้นถือว่าเป็นเซียนหุ้น  
    เอ๊ะ  งั้นผมก็จัดอยู่ในสปีชี่มนุษย์หุ้น ฮาๆๆๆๆ

    ๓ เซียนหุ้น

    เซียนหุ้นจะต้องมีเครื่องมือมาตรฐานประจำตัว
    ที่ไม่ยอมบอกให้ใครรู้ตามสื่อมวลชน  
    และไม่บอกให้ใครรู้ แบบไม่จำกัดคนรับรู้
    ไอ้ที่บอกให้รู้ทั่วๆไป  
    เขาก็บอกแบบ คูณสิบหารด้วยร้อย  ฮาๆๆๆ

    ผลลัพธ์จากการใช้เครื่องมือของเซียนหุ้น
    เล่นหุ้น ๑๐ ครั้ง

    ได้ ๘ - ๙ ครั้ง
    เสีย ๒ - ๑ ครั้ง
    ถ้าลงทุน ๑๐ ครั้งได้ทั้ง ๑๐ ครั้ง
    ผมว่าอย่าอยู่เป็นเซียนหุ้นเลย
    ไปเล่นหวยรุ่งกว่าเยอะ ฮาๆๆๆๆๆ

    แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 48 10:21:52

    แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 48 10:16:07

    แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 48 08:45:04

    จากคุณ : endophine - [ 27 มิ.ย. 48 08:34:56 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป