ความคิดเห็นที่ 1 เคยอ่านผ่านๆ รู้สึกว่าจะเป็นอันดับ 3 นะครับ อันดับ 2 น่าจะเป็นบริษัทที่ซื้อ UGP ไป ส่วนนี้เป็นผลการดำเนินงาน  ฉบับปรับปรุงใหม่ครับ สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยประจำปี(F45-3)                          บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)                                               ตรวจสอบ                                             (หน่วย : พันบาท)             สิ้นสุดวันที่  31 ธันวาคม                                               งวด 1 ปี               ปี                            2547        2546      กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    234,937     265,386      กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)            0.36        0.66 ------------------------------------------------------- ส่วนอันนี้อันเก่าครับ สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยประจำปี(F45-3)                          บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)                                               ตรวจสอบ                                             (หน่วย : พันบาท)                                            สิ้นสุดวันที่  31 ธันวาคม                                               งวด 1 ปี               ปี                            2547        2546      กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    735,378     265,386      กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)           1.14        0.66 จากคุณ : GS Mobile - [ 9 ก.ค. 48 23:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนนี้ล่าสุดครับ สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)                        บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)                                                  สอบทาน                                              (หน่วย : พันบาท)                                            สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม                                                ไตรมาสที่ 1               ปี                            2548            2547      กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    71,435         110,584      กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)            0.05            0.18      ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน      แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต จากคุณ : GS Mobile - [ 9 ก.ค. 48 23:21:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สมมติให้ไตรมาสที่เหลือของปี  มีกำไรเท่ากับไตรมาส 1 ปี 2548  ทั้งปี  กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.20 บาท ราคาหุ้น 2.80 บาท PE Ratio เท่ากับ 14 เท่า  สูงเอาการอยู่เหมือนกันนะครับ และยังมีหุ้นเพิ่มทุนอีกเท่าตัวนะครับ  ซึ่งเพิ่มทุนเอาไปใช้ หนี้  ไม่ได้เอาไปใช้ในการขยายธุรกิจ  ดังนั้นก็ไม่ได้ช่วยทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น  เพียงแต่ช่วยประหยัดดอกเบี้ยลงไปเท่านั้น  เมื่อดอกเบี้ยลดลง  ก็ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นมากอีกหน่อย  เพราะรายได้ก่อนภาษีเพิ่มขึ้น สรุปเมื่อรวมจำนวนหุ้นเพิ่มทุนเข้าไปด้วย  PE Ratio ก็ปาไปกว่า  25 เท่าแล้วล่ะครับ (ไม่ 28 เพราะว่าดอกเบี้ยจ่ายลดลง)  ยังจะน่าซื้อถืออยู่หรือเปล่า? ก็ไม่ได้บอกว่าธุรกิจหรือบริษัทเข้าไม่ดีนะครับ  แต่ว่าผู้บริหารไม่โปร่งใส  และราคาเกินจริงไปมาก  (เคยเห็นที่ 20 กว่าบาทต่อหุ้น) ต่อให้หุ้นดีอย่างไร  มันก็ต้องมีราคาที่เหมาะสมครับ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 48 23:30:36 จากคุณ : GS Mobile - [ 9 ก.ค. 48 23:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 PE น่าจะเป็น 21.5 นะครับ จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 1 เท่า แต่ราคาเพิ่มทุน 1.5 ถัวเหลือ 2.15  คิด 2.15/0.10 ยังไม่รวมดอกเบี้ยจ่ายลดลง จากคุณ : *Tan* - [ 9 ก.ค. 48 23:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ GS น่าจะคิดงี้ครับ กำไรของไตรมาส 1 คือ กำไรครึ่งหนึ่งของทั้งปีครับ (ดูจาก 2547) Adjust เป็น Season จะดีกว่า Annualized เลยครับ หมายความว่า ถ้าเชื่อตามนี้ กำไรปี 48 คือ 0.1 บาทต่อหุ้น ตอนนี้ก็ p/e 28 เท่า แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 48 01:30:25 จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 10 ก.ค. 48 00:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ในแง่การลงทุน สองบาทของ ปิคนิค แพงกว่า สองร้อยบาทของ ปูนใหญ่ หรือ ปตท. ถูกหรือแพง ไม่ได้ดูที่ ราคาขาย แต่ต้องดูที่ มูลค่าของกิจการและการเติบโต ปํญหาของปิคนิค ไม่ใช่เรื่องความสามารถของบริษัท แต่เป็นเรื่อง ธรรมาภิบาลผู้บริหาร ซึ่งตรงนี้ ถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่อาจประเมินเป็นตัวเลขได้ ดูตัวอย่าง เอนรอน หรือ รอยเนท ได้ ถ้าดูเฉพาะ ปิคนิค สองบาท ถูก กว่าสิบบาท เด็กอนุบาลก็ดูออก แต่ถ้าถึงวันที่มันเหลือ ห้าสิบตังค์ สี่สิบตังค์ เหมือน JAS สองบาทวันนี้ ก็แพงกว่าวันนั้นอีก สี่ห้าเท่า เหมือนกัน จากคุณ : . - [ 10 ก.ค. 48 04:52:10 A:61.90.5.113 X: TicketID:066940 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อยากเล่นหุ้นตัวสองสามบาทเหรอคับ ไปเล่นตัว พฐ ที่ดีกว่ามีอีกเยอะ SSI, TMB, SIRI ไปจมปลักกับหุ้นแบบนี้ทำไม จากคุณ : WWF 3.16 - [ 10 ก.ค. 48 05:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 10 ก.ค. 48 07:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยังถือ CNTอยู่ ตั้งแต่ก่อนถูกปิดห้ามฃื้อขาย SP เมื่อหลายๆปีที่แล้ว และปรับโครงสร้างหนี้ จนกลับเข้ามา trade ใหม่ ถูกทั้งเพิ่มทุน ลดทุน ลด par อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมดก่อนเข้ามา Trade ใหม่ แต่ก็ไม่เห็นเป็นประโยชน์อะไรต่อรายย่อยๆ อย่างผมเลย   ทำมาทำไปเหลือหุ้นอยู่ 2 หุ้นใน port ก็เลยเก็บไว้ไม่รู้จะขายไปทำไมอีแค่ 2 หุ้น เคยได้รับเช็ดปันผลก็ไม่ได้ทำอะไร  เมื่อไม่กี่วันมานี่ได้รับหนังสือ Annual Report 2004 ของบริษัท ก็รู้สึกสะใจดีเหมือนกันที่ให้มันต้องส่งมาให้ จากคุณ : zz_ok - [ 10 ก.ค. 48 08:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ zz_ok มี CNT กี่หุ้นก่อน SP ครับถึงเหลือ 2 หุ้น จากคุณ : solarplexus - [ 10 ก.ค. 48 09:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แวะมาดูครับ จากคุณ : คนเพลง - [ 10 ก.ค. 48 10:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อไม่กี่วันมานี่ได้รับหนังสือ Annual Report 2004 ของบริษัท ก็รู้สึกสะใจดีเหมือนกันที่ให้มันต้องส่งมาให้ ------------- ชอบตรงนี้ มากๆครับ แก้แค้นคืนเสียบ้าง จากคุณ : งำงำ มีดบิน - [ 10 ก.ค. 48 14:49:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แนะนำอีกตัวที่ราคาเกือบสองบาทคือ SMM ตัวนี้ ไม่ขอกล่าวถึงแต่แนะนำไว้ว่า ซื้อเก็บในราคาที่ใกล้เคียงสองบาทเอาไว้ล่ะกัน จากคุณ : Myth&Miracle - [ 10 ก.ค. 48 15:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับ บ.ห่วยๆ Annual Report เป็นเล่มหรือเป็น CD ครับ ถ้าเป็นเล่มเอาไปชั่งกิโลขาย หรือฉีกเป็นแผ่นๆแล้วพับถุงให้ป้าแช่มเอาไปใส่กล้วยทอด ถ้าเป็น CD นี่ เอาไปแขวนไล่ยุงครับ คงพอจะมีประโยชน์บ้าง จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 10 ก.ค. 48 16:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 2000 หุ้น ตอนนั้นหุ้นถูกลดลงเหลือ หนื่งสตางค์ จากคุณ : zz_ok - [ 10 ก.ค. 48 19:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราไม่เคยดู picnic อะไรจะขนาดนั้น จาก 10 บาทกว่าเหลือ 2 บาทเนี่ยนะ แต่เราก็กระเป๋าฉีกเหมือนกัน เพราะติดอยู่หลายตัว จากคุณ : nuch - [ 10 ก.ค. 48 20:42:00 A:202.57.183.184 X: TicketID:012895 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมโง่เองครับ!! ผมถูกความโลภบังตา!!!! ผมคาดไม่ถึงว่าระบบตรวจสอบของ ตลาดหลักทรัพย์, ระบบการทำงานของ บล.ที่Underwrite กิจการเข้าตลาดหุ้นใน พศ.นี้จะไร้ประสิทธิภาพและไม่มีคุณภาพ!!!! ผมคาดไม่ถึงว่าจริยธรรมของผู้ทำบัญชี,ผู้ตรวจสอบบัญชี, กรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ จะทรยศต่อวิชาชีพ ไร้จริยธรรมถึงขนาดนั้น!!! วันแรกที่หุ้น PICNI ปลด SP ผมดูท่าทีในช่วงเช้าแล้วเห็นลงประมาณ  ๓๘ เปอร์เซ็นต์กว่าๆ  ผมจึงคิดว่าราคา ๗ บาทกว่าๆน่าจะพอรับได้ โดยปรกติผมไม่เคยเข้าซื้อหุ้นทำนองนี้ จะซื้อแต่หุ้นที่ดูแล้วว่าในอีก ๓ ปีข้างหน้ามันยังไม่เจ๊ง  โดยผมแบ่ง PORT ออกเป็น ๓ ส่วน   ส่วนที่ ๑.หุ้นพื้นฐานดี   ส่วนที่ ๒ หุ้นประเภทเก็งกำไรเล็กๆ (แต่ต้องทำธุรกิจจริงๆ ไม่ใช่มีแต่ธุรกิจกระดาษ) หลีกเลี่ยงธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรและอีเล็คโทรนิคส์(ด้วยเหตผลไม่ชอบเป็นการส่วนตัว)  ส่วนที่ ๓.เก็บเป็นเงินสดเพื่อไว้ซื้อเพิ่มหรือซื้อเฉลี่ยหุ้นประเภที่ ๑     หุ้นหวือหวาที่สุดที่เคยซื้อขายก็มีเพียง TPI เป็นหลัก เมื่อความโง่และความโลภ ตลอดจนความเชื่อว่า พ.ศ.นี้ผ่านวิกฤติปี ๒๕๔๑ และ พรบ.การบัญชี พ.ศ.๒๕๔๔ บังคับใช้แล้ว คงไม่มีใครกล้าโกงในตลาดหุ้นอย่างโจงครึ่มรวมทั้งเชื่อทฤษฎีว่าให้ซื้อในเวลาที่คนอื่น PANIC     จึงเข้าไปรับที่ราคา ๗.XX บาทเกือบครึ่งแสนหุ้น  พอบ่ายแก่ๆจึงรู้ว่าอาตมานี่โง่มหาศาลเลย        ณ   บัดนี้จึงติดหุ้น TPI ในจำนวน และ ราคา ข้างต้นอยู่หลายแสนบาท  ก็ต้องหาหนทางแก้ไขต่อไป แต่ในช่วงนีโอกาส Cutt loss หรือ Short against port ผ่านไปแล้ว  โชคดีที่เงินทั้งหมดเป็นเงินเย็นจริงๆ คงต้องซื้อหุ้นเพิ่มทุนมาถัวเฉลี่ยราคา   ซึ่งหลังเฉลี่ยราคาแล้วคงเหลือราคา ๔.XX กว่าๆ  พอจะถูไถทำอะไรได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพลาดไปแล้วก็ไม่กลัว และถือคติตลอดมาว่า  ทุกหุ้นที่ซื้อหากขาดทุนจะไม่ยอมขายอย่างเด็ดขาด  เว้นแต่หุ้นตัวนั้นถูกไล่ออกจากตลาดเท่านั้น!!! ก้อ-ขอเล่าให้เพื่อนๆได้ทราบเป็นบทเรียน ว่า ความโลภ,การตัดสินใจชั่ววูบ และ การซื้อขายเองผ่านอินเตอร์เน็ท  ทำให้เกิดอาการมือไว-ใจเร็วขึ้นได้ แล้วมานั่งด่าตัวเองและเสียดายโอกาสภายหลังครับ!! แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 48 22:53:11 จากคุณ : กุษาณ - [ 10 ก.ค. 48 22:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นกำลังใจให้คุณ กุษาณ ความเห็นที่ 17 ครับ ถ้าหุ้นไม่ออกจากตลาด คงมีโอกาสได้คืนบ้างครับ จากคุณ : จดและจำ - [ 11 ก.ค. 48 00:43:47 A:61.91.220.51 X: TicketID:019312 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แรกๆ ดิฉันถือแต่ UGP (ปันผลมากกว่า pttep 4 เท่าแต่ราคาถูกกว่าครึ่งนึง = กำไรมากกว่า 8 เท่า) เช้าก่อนวันเกิดเหตุเครื่องบินชนตึก world trade ดิฉันเทขายหุ้นตัวอื่นๆหมด port ทั้ง 3 ports เก็บตัวนี้ไว้ตัวเดียว ก็ได้ปันผล + credit ภาษี ตกปีละตั้ง 25% สูงที่สุดบนกระดาน จะขายไปทำไม ตกลงมาสิดี ได้ซื้อเพิ่มอีก แต่เจ้าของเธอ (เป็นผู้หญิง) ขายเกลี้ยงยกบริษัทให้ BP (British Petolium ซื่งเล่นวิธีเปิดบริษัลูกที่ออสเตรเลีย แล้วข้ามมาถือหุ้นเปิดบริษัทกับคนไทย ต่อมา ฮุบแก๊ซอะไรไม่รู้ ในตลาดไป จำไม่ได้ เลยกลายเป็นเจ้าของ พอออกจากตลาด ก็หลุดจากการควบคุม แล้วก็จัดการเพิ่มทุนเข้ามามหาศาล เสร็จแล้ว ก็จ้องฮุบแก๊ซตัวต่อไป คือ UGP  เหมาจากเจ้าของก่อน (อย่างเงียบเชียบ เพราะตัวแรกข่าวรั่ว หุ้นถูกไล่ราคาสูง ทำให้ต้องซื้อแพง) การรับซื้อ ใช้เงินสด ไม่มีการกู้ยืมมาด้วย   หลายปีผ่านไป ก็ไม่เห็นเขาจะสนใจเจ้าแก๊ซ picni นี่สักกะนิด ทั้งที่บริษทแม่น่ะ ใหญ่ติดอันดับโลกด้วยซ้ำ จะขนเงินเข้ามาเหมาซื้อเมื่อไรก็ได้ พวกฝรั่ง เขาทำ research ได้ในเชิงลึกมากจริงๆ จากคุณ : prettypetite - [ 11 ก.ค. 48 10:45:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ้อ ตอนซื้อ UGP ราคาตอนนั้นแพงที่สุดบนกระดาน คือ 120 บาท ในขณะที่ราคา pttep อยู่ที่ 70 กว่าบาท พอขาย UGP ไป ก็หาตัวต่อไป ได้ ptt มา ราคา 28.25 แต่ไม่ได้ถือยาว เพราะปันผลไม่ถึง 10% (ตอนนั้น ดอกเบี้ยยังสูงอยู่) ยิ่งราคาตอนนี้ คิดปันผล ได้ไม่ถึง 3%  ซื้อ bonds ของธนาคารชั้นนำของโลก ยังได้เยอะกว่าอีก กลุ่ม coomunication ซื้อ advance ขายหมดเดือนมีนาคม แล้วเมื่อปลายเดือนพฤษภา ได้มา 90 บาท ขายไป 97 ยังไม่ซื้อคืน เพราะต่ำสุดที่ผ่านมา 87 เท่านั้น แต่ตอนที่ true ลงมา 3.56 ก็รีบๆรับซื้อไว้ (พวกนักวิเคราะห์บอกให้ขาย) เพราะใช้ true hi speed กลุ่มธนาคาร bbl-f จะเป็นตัวหลัก รอบนี้ได้มาราคา 102 บาท (มีการลงต่อ 101 แต่พอจะซื้อ ก็ไม่ได้) แค่หุ้นตัวนำในแต่ละกลุ่ม เงินก็ไม่พอจะซื้อแล้ว เลยไม่เคยเข้าไปเล่นหุ้นปั่น หรือพื้นฐานไม่ดีเลย แม้ตัวเดียว จากคุณ : prettypetite - [ 11 ก.ค. 48 11:05:24 ]