PANTIP.COM : I3669880 Solar เป็นไปได้ไง!!!! []

ความคิดเห็นที่ 7

มันพัวพันกันตรงนี้ครับ

แกะรอย "3 เซียน" ใต้ร่มเงา "คูหาเปรมกิจ" "อัศวิน-อุษณีย์-สุคนธ์" ปั๊มวอลุ่มให้ "GBX"

เส้นทางโตของ "โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์" (GBX) มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจ เพราะเบื้องหลังความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจาก "คนใกล้ชิด" กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นผู้ที่สร้าง "วอลุ่ม" จำนวนมากให้กับบริษัท เป็นหนึ่งในแผนสร้างแบรนด์โกลเบล็กให้ "ติดตลาด" ขึ้นชั้นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านการ "ปั้นหุ้น" (ไอพีโอ) ที่ประสบความสำเร็จ "เบอร์ 1" ที่บรรดาเซียนหุ้นยกนิ้วให้

แต่ทว่ากว่าจะมีวันนี้ได้ตระกูล "คูหาเปรมกิจ" ก็มีเครือข่ายนักเล่นหุ้นที่ทรงพลังรอบกายหลายต่อหลายคนทั้งที่เป็น "ญาติสนิท" และเป็น "นอมินี" (ตัวแทน) จุดประกายให้คิดต่อได้ว่าในที่สุดแล้วทางไหลของเม็ดเงิน (กำไร) จากการซื้อขายหุ้นอาจไหลไปสู่กระเป๋าเดียวกันใช่หรือไม่

ในรายงานของ ก.ล.ต. เป็นข้อมูลที่แน่ชัดว่า "อัศวิน ลีลายนะ" เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่ม "คูหาเปรมกิจ" โดยเขาเป็นญาติของ "โอฬาร คูหาเปรมกิจ" และ "กีรติพงษ์ คูหาเปรมกิจ"..2 พี่น้องผู้ก่อตั้งอาณาจักรโกลเบล็ก และร้านทอง "จิ้นไถ่เฮง" (แม่ไฉน) ย่านวรจักร

หากสืบประวัติการลงทุนของ "อัศวิน" จะพบว่าชายผู้นี้ไม่ธรรมดา ต้องบอกว่าเขาเป็นนักเล่นหุ้นรายใหญ่ (มาก) ปีหนึ่งเทรดหุ้นในระดับ "หมื่นล้านบาท" เลยทีเดียว..เมื่อปี 2546 "อัศวิน" เทรดหุ้นผ่าน บล.โกลเบล็ก เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 9,252.53 ล้านบาท จ่ายค่านายหน้า (คอมมิชชั่น) ให้กับบริษัทจำนวน 23.13 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้นยังเคยมีธุรกรรมให้กู้ยืมเงินระยะสั้นแก่ "โกลเบล็ก โฮลดิ้ง" จำนวน 110 ล้านบาทอีกด้วย

เมื่อย้อนรอยเส้นทาง "เซียน" ยังพบด้วยว่าชายผู้นี้ได้รับจัดสรรหุ้นจอง (IPO) หลายบริษัทที่มี "โกลเบล็ก แอ็ดไวเซอรี่" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน หรือไม่ก็มี "บล.โกลเบล็ก" ร่วมจัดจำหน่าย อาทิ หุ้น SOLAR, SMIT, KTECH, GBX, NNCL, และ TNX

กรณีของหุ้นนวนคร (NNCL) "อัศวิน" ได้รับจัดสรรอันดับ 3 จำนวน 796,500 หุ้น มูลค่า 19.91 ล้านบาท แม้จะมี "ดีเอส พรูเดนเชียล แมเนจเมนท์" เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแต่ผู้จัดจำหน่ายหลัก คือ บล.โกลเบล็ก ส่วนกรณีได้รับจัดสรรหุ้นไทยน๊อคซ์ สเตนเลส (TNX) จำนวน 15 ล้านหุ้น มูลค่า 31.50 ล้านบาท เขาถูกตั้งประเด็นว่าอาจมีความเกี่ยวพันกับ "ประยุทธ มหากิจศิริ" ด้วยเนื่องจากมีหมายเหตุต่อท้ายว่า "มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้บริหาร" ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส

ในระหว่างปี 2545-2546 มีข้อมูลบันทึกไว้ที่ก.ล.ต.ว่า "อัศวิน ลีลายนะ" เข้าไปซื้อขายหุ้นในลักษณะเก็งกำไรในหุ้น 3 บริษัท ได้แก่ APC, CVD และ MLINK

ในปี 2547 แผนถูกเปลี่ยน "มือปั้นวอลุ่ม" ถูกส่งไม้ต่อจาก "อัศวิน ลีลายนะ" มาให้กับ "อุษณีย์ พลอยพรหมมาศ" ญาติทางฝั่งของ "โอฬาร-กีรติพงษ์ คูหาเปรมกิจ" อีกคนหนึ่ง และ "สุคนธ์ กาญจนหัตถกิจ" ญาติทางฝั่ง "กาญจนา คูหาเปรมกิจ" (ภรรยาของ กีรติพงษ์ คูหาเปรมกิจ)

ทั้ง "อุษณีย์-สุคนธ์" ขึ้นชั้นรายใหญ่ที่มีระดับของวงการ..ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพวกเขาเหล่านี้ต้องมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

ในปี 2547 "อุษณีย์" สร้างวอลุ่มให้ บล.โกลเบล็ก จำนวน 272.70 ล้านบาท ส่วน "สุคนธ์" ปั๊มวอลุ่มให้บล.โกลเบล็ก จำนวน 751.20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเครือญาติที่ "มือหนัก" อีกคนที่เป็นญาติสนิทกับ "สุคนธ์" คือ "วุฒิสาร กาญจนหัตถกิจ" เขาเทรดหุ้นผ่านบล.โกลเบล็ก จำนวนมากถึง 161.98 ล้านบาท

แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็ตรงที่ "อุษณีย์-สุคนธ์-วุฒิสาร" มาเทรดหุ้นกันสนั่นในช่วง 2 วันสุดท้ายของไตรมาส 1 (30-31 มี.ค.2548) ช่วงที่หุ้น "โซลาร์ตรอน" (SOLAR) เข้าเทรด..โดยมี "โกลเบล็ก แอ็ดไวเซอรี่" เป็นคน "ชง" (เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน) ส่วน "โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์" เป็นคน "ตบ" (เข้าไปเทรดเอง) และสร้างวอลุ่มให้ราคาหุ้นพุ่งกระฉูดแบบฉุดไม่อยู่

เมื่อพลิกดูรายชื่อ "รายใหญ่" ที่ได้รับจัดสรรหุ้นจอง SOLAR ปรากฏรายชื่อ "ซ้ำๆ กัน" เรียงเป็นแถวทำให้อดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่าหลายคนอาจเป็น "นอมินี" เข้ามาถือหุ้นแทนใครบางคนเป็นแน่

เช่น "อัศวิน ลีลายนะ" ได้รับจัดสรรหุ้น SOLAR จำนวน 795,200 หุ้น มูลค่า 6.36 ล้านบาท "อุษณีย์ พลอยพรหมมาศ" ได้รับจัดสรร 746,500 หุ้น มูลค่า 6.97 ล้านบาท รวมถึง "ขาประจำ" ที่เห็นรายชื่อมาเคียงคู่กันตลอด ได้แก่ "ซุยลิ้ม แซ่จิว", "จรัล อินทะกัลยา", "สุนทร วงศ์อุไร", "ศิริพร เจริญงาม" และ "พิชัย นิจโรจน์เสถียร"

แต่เบื้องหลังยิ่งกว่านั้นหลังจากหุ้น SOLAR เข้าเทรดวอลุ่มของบล.โกลเบล็ก ก็เติบโตขึ้นในอัตราเร่งอย่างน่าจับตา..ในรายงานของ ก.ล.ต. ระบุว่า "อุษณีย์ พลอยพรหมมาศ" ทั้งปี 2547 เทรดหุ้นกับบล.โกลเบล็ก 272.70 ล้านบาท แต่ไตรมาส 1/2548 เพียงไตรมาสเดียววอลุ่มเทรดสูงถึง 222.36 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวอลุ่มเทรดทั้งปี 2547 เลยทีเดียว

ส่วน "สุคนธ์-วุฒิสาร กาญจนหัตถกิจ" ทั้งปี 2547 เทรดหุ้นผ่านบล.โกลเบล็ก รวมกัน 913.18 ล้านบาท เพียงแค่ไตรมาสแรกปีนี้ทำวอลุ่มเทรดไปแล้ว 557.70 ล้านบาท และยังพบด้วยว่า "สุคนธ์ กาญจนหัตถกิจ" ในขณะนี้ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน SOLAR จำนวน 2 ล้านหุ้น หรือ 0.67% ด้วย

ทั้งหมดนี้ คือ "ร่องรอย" ที่พวกเขาทิ้งเอาไว้ภายหลัง "โกยกำไร" จากหุ้น SOLAR ออกไปแล้วจำนวนมาก..ล่าสุดพบ "อุษณีย์ พลอยพรหมมาศ" ถือหุ้นใหญ่ TKS จำนวน 2.10 ล้านหุ้น หรือ 0.85% ส่วน "ซุยลิ้ม แซ่จิว" และ "จรัล อินทะกัลยา" ถือหุ้นใหญ่ GBX รวมกัน 27.44 ล้านหุ้น หรือ 2.58%

ยิ่งต่อจิ๊กซอว์ทีละชิ้นบนกระดานกลยุทธ์ยิ่งต้อง "ร้องอ๋อ" เพราะพบว่าตระกูล "คูหาเปรมกิจ" เหนือชั้นจริงๆ..

จากคุณ : adrenaline - [ 15 ส.ค. 48 15:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8

ถอดโจทย์อนาคต..'โกลเบล็ก โฮลดิ้ง' 'หุ้นใหญ่' ซ่อนแผน 'รวยเงียบ' 1,488 ล้าน

เปิดเส้นทางเสี่ยง 'โกลเบล็ก โฮลดิ้ง' (GBX) โบรกเกอร์ที่บรรดา 'เซียนหุ้น' ยกนิ้วให้ในฐานะ 'นักปั้นหุ้น' ไอพีโอมือโปร..'กรุงเทพธุรกิจ BizWeek' พบตระกูล 'คูหาเปรมกิจ' ซ่อนแผนออก 'วอร์แรนท์' (ฟรี) โกยกำไรเข้ากระเป๋าเหนาะๆ 1,488 ล้านบาท

ตัวเลขกำไรจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ จำนวน 100.38 ล้านบาท ที่ปรากฏในงบการเงินรวมสิ้นสุด ณ 30 มิ.ย.2548 ของ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) หรือเทียบได้กับ 35.23% ของรายได้รวมงวดครึ่งปี 2548 จำนวน 284.89 ล้านบาท

แสดงให้เห็นทั้ง 'ความเก่ง' และ 'ความเสี่ยง' กับวิธีคิดของผู้บริหารบริษัท

เส้นทางได้มาซึ่งกำไรอย่างรวดเร็วในสัดส่วนที่ 'น่าทึ่ง' จริงๆ แล้วมาจากหุ้น 'โซลาร์ตรอน' (SOLAR) เป็นส่วนใหญ่ เพราะตั้งแต่วันแรกที่หุ้น SOLAR เปิดเทรด GBX เข้าไปซื้อ-ขายในลักษณะ 'เก็งกำไรระยะสั้น' และสร้างวอลุ่มอย่างตั้งใจ..คล้ายๆ กับที่พยายามจะทำกับหุ้น เพิ่มสินสตีลเวิคส์ (PERM) แต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย

แต่หุ้น SOLAR เพียงตัวเดียวที่ 'โกลเบล็ก' เปิดประเด็น 'ปั้น' จนกลายเป็น 'หุ้นร้อน' แห่งปี ก็สร้างชื่อให้โบรกเกอร์แห่งนี้ก้าวจาก 'โนเนม' สู่ 'แบรนด์เนม' อย่างรวดเร็ว

จาก 'มาร์เก็ตแชร์' ที่ย่ำแย่เหลือเพียง 2.57% ในเดือนมีนาคม 2548 เพียงเดือนเดียวที่หุ้น SOLAR เข้าเทรด 'มาร์เก็ตแชร์' ของ บล.โกลเบล็ก ก็พุ่งกระฉูดขึ้นไปเป็น 3.14% ในเดือนเมษายน และทะยานต่อขึ้นไปเป็น 4.01% ในเดือนพฤษภาคมภายหลัง 'โกลเบล็ก แอ็ดไวเซอรี่' เอาหุ้น สหมิตรเครื่องกล (SMIT) เข้าเทรดอีกตัว

ผลงานที่โดดเด่นของ บล.โกลเบล็ก ทำให้ 'ช่วงชัย นะวงศ์' เคยออกมายอมรับถึงความสำเร็จครั้งนี้ ว่า เฉพาะไตรมาสแรกก็สามารถสร้างรายได้ในส่วนของพอร์ตลงทุนเพิ่มขึ้น 26% และมีกำไรสูงถึง 76 ล้านบาท จากมูลค่าพอร์ตบริษัทจำนวน 500 ล้านบาท พร้อมทั้งยืนยันว่า ในปีนี้จะเน้นสร้างรายได้จากพอร์ตลงทุนให้มากขึ้น

แต่ด้วยธรรมชาติของหุ้นที่ 'ฉาบฉวย' หุ้น PERM และ SMIT ดีดตัวขึ้นเพียงระยะสั้นแล้วก็เข้าสู่วงจร 'ขาลง' อย่างรวดเร็ว ขณะที่หุ้น SOLAR แสดงอาการว่า กำลังถูก 'เลี้ยงไข้' ด้วยข่าวดีที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ ไม่ต่างกับกลยุทธ์ที่ใช้กับหุ้น โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) ที่ทะยานขึ้นจากราคาจอง (IPO) หุ้นละ 2.30 บาทขึ้นไปสูงสุดที่ 9.45 บาท

ขณะที่ 'บล.เอเซียพลัส' ให้ราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้น GBX ไว้ต่ำมากเพียงแค่ 1.53 บาทเท่านั้น

ที่ราคาตลาด 7.55 บาท/หุ้น GBX มีค่าพี/อี เรโช 58 เท่า และมีมูลค่ากิจการ (มาร์เก็ตแคป) ประมาณ 8,000 ล้านบาท สูงกว่า บล.ภัทร, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) และบล.ซีมิโก้ ทั้งๆ ที่พื้นฐานธุรกิจด้อยกว่ามาก

เพราะฉะนั้นถ้าประเมินโดยอิง 'ปัจจัยพื้นฐาน' แทบจะฟันธงได้เลยว่าอนาคตหุ้น GBX นับจากนี้มีแค่ 2 ทาง คือ หนึ่ง..จะลงอย่าง 'ซอฟท์' (นุ่ม) หรือ สอง..จะลงอย่าง 'ฮาร์ท' (แรง)

คำตอบขึ้นอยู่กับการปรับกลยุทธ์ของตระกูล 'คูหาเปรมกิจ' เพียงอย่างเดียว

หากประเมินจากสถานการณ์ ล่าสุด 'ฤดูมรสุม' ของโกลเบล็กเริ่มตั้งเค้าแล้วเมื่อ 'ตลาดหลักทรัพย์' และ 'ก.ล.ต.' ซ่อนแผนตัดเส้นทางลำเลียงผลประโยชน์ก้อนโตที่เตรียมส่งไปเข้ากระเป๋า 'ผู้บริหาร' ผ่านแผนการออก 'วอร์แรนท์' อายุ 5 ปีจำนวน 3 ล็อตใหญ่รวมกัน 395 ล้านหน่วย

โดย ก.ล.ต.สั่ง 'ชะลอ' แผนการออกวอร์แรนท์ดังกล่าว และเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการซื้อ-ขายหุ้นของโกลเบล็กอย่างเงียบๆ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ใช้กลยุทธ์ขึ้นเครื่องหมาย 'ALERT' เตือน 'รายย่อย'

การรุกคืบแบบ 2 ประสานครั้งนี้ จึงค่อนข้างแจ่มชัดว่า นี่คือ สัญญาณไฟเหลืองจาก 'ก.ล.ต.' ต้องการส่งสัญญาณเตือนไปยัง 'ผู้ถือหุ้น' ของบริษัท

เมื่อทีมงาน 'กรุงเทพธุรกิจ BizWeek' ตามแกะรอยเหตุผลการออก 'วอร์แรนท์' (GBX-W1) ล็อตใหญ่ก็ปรากฏความจริง ว่า นี่คือเกมธุรกิจเพื่อใช้ 'ต่อสายป่าน' ทางการเงินให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ 'ตระกูลคูหาเปรมกิจ' และ 'คีย์แมน..ช่วงชัย นะวงศ์' จะเป็นผู้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ

โดย ล็อตแรก..ออกให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 355 ล้านหน่วย ใช้สิทธิแปลงสภาพที่ราคา 2.30 บาท ตัวแปรอยู่ที่หุ้นในส่วนของตระกูล 'คูหาเปรมกิจ' ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 850 ล้านหุ้น หรือ 79.80% (ไม่รวมที่ถือผ่านนอมินี)

ถ้าผู้บริหารสามารถผลักดันให้ออก 'วอร์แรนท์' (ครั้งนี้) เป็นผลสำเร็จ ตระกูลคูหาเปรมกิจ จะได้รับ GBX-W1 ครั้งนี้ไปในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 283.33 ล้านหน่วย จากทั้งหมด 355 ล้านหน่วย ณ ราคาตลาดที่ 7.55 บาท/หุ้น พวกเขาจะมีกำไรทันที 1,488 ล้านบาท (7.55-2.30 คูณ 283.33)

ส่วน ล็อตสอง..ออกให้กับกรรมการ และพนักงาน (กลุ่มที่ 1) จำนวน 20 ล้านหน่วย ใช้สิทธิแปลงสภาพที่ราคา 2.30 บาท ล็อตสาม..ออกให้กับกรรมการ และพนักงาน (กลุ่มที่ 2) จำนวน 20 ล้านหน่วย ใช้สิทธิแปลงสภาพที่ราคา 1 บาท

วอร์แรนท์ทั้ง 2 ล็อตหลังที่ออกให้กับ 'กรรมการ' และ 'พนักงาน' รวมกัน 40 ล้านหน่วย มีวัตถุประสงค์เพื่อการตอบแทนเหล่า 'ขุนศึก..นายกอง' ของบริษัท ขณะที่ประมุขกลุ่ม 'โอฬาร คูหาเปรมกิจ' ก็ได้ด้วยในฐานะประธานกรรมการจำนวน 800,000 หน่วย (2%) และบุตรชาย 'ภูมิพงษ์ คูหาเปรมกิจ' ได้ในฐานะกรรมการจำนวน 300,000 หน่วย (0.75%)

แต่โฟกัสของผลประโยชน์ก้อนโต 'จงใจ' จ่ายให้กับแม่ทัพใหญ่ที่ชื่อ 'ช่วงชัย นะวงศ์' ซีอีโอ บล.โกลเบล็ก จำนวน 3 ล้านหน่วย (7.50%) ซึ่งจะได้สิทธิ 1.5 ล้านหน่วยแรกแปลงสภาพที่ 2.30 บาท/หุ้น และอีก 1.5 ล้านหน่วยหลังแปลงสภาพที่ 1 บาท/หุ้น

ถ้าคำนวณจากราคาหุ้น GBX ณ ราคาปิดที่ 7.55 บาท/หุ้น 'ช่วงชัย นะวงศ์' จะได้ 'กำไร' จากวอร์แรนท์ (จำนวน 3 ล้านหน่วย) ไปทั้งสิ้น 17.70 ล้านบาท..ขณะเดียวกัน ในปี 2547 เขาได้ค่าเหนื่อยในรูป 'เงินเดือน+โบนัส' จากโกลเบล็กไปแล้วทั้งสิ้น 6,333,943 บาท หรือได้รับผลตอบแทนเดือนละ 527,828 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงมากอยู่แล้ว

ส่วนวิธีการทำเงินแบบบูรณาการจาก GBX-W1 ครั้งนี้ 'กรุงเทพธุรกิจ BizWeek' ตั้งข้อสังเกตไว้ล่วงหน้า ว่า 'ผู้ถือหุ้นใหญ่' กลุ่มคูหาเปรมกิจน่าจะใช้วิธี 'ขายหุ้นแม่' (GBX) ราคาแพงออกไปก่อน แล้วค่อยนำวอร์แรนท์ไปแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ 'คืน' ในภายหลังที่ราคา 2.30 บาท..หรืออีกวิธี คือ ไปรอทำกำไรจากตัววอร์แรนท์ (ฟรี) ในตลาด เหมือนกับที่ตระกูล 'ลาภวิสุทธิสิน' โกยกำไรจาก 'PICNI-W1' ก็เป็นไปได้

จากคุณ : adrenaline - [ 15 ส.ค. 48 15:19:02 ]