ผมเป็นคนหนึ่งที่เล่นหุ้นโดยดูการสะสมหุ้นเสมอ
เพื่อที่จะได้รู้คร่าวๆว่า หุ้นตัวนั้นมีความเสี่ยงในการเข้าซื้อมากน้อยเพียงไหนครับ
ผมไม่ได้มีความรู้ หรือตีความหมายของสิ่งเหล่านี้ ได้ตามหลักวิชาการ แต่ผมสังเกต เท่าที่ผมเข้าใจ อาจจะถูกบ้าง หรือผิดบ้างไปตามเรื่อง ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
(ผู้ที่เข้าใจเรื่อง obv และ rsi อย่างดีแล้ว ผ่านไปเลยก็ได้ครับ ขอผมโชว์วัวนิดหนึ่ง)
หลายคนบอกว่า ในการพิจารณาเรื่องการสะสมหุ้น obv คืออินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งที่มีความแม่นยำมาก
ส่วนตัวแล้ว ผมให้ความสำคัญ obv น้อยกว่า rsi เสียอีก
เพราะ obv บางครั้งก็ทำให้เราเขวได้มากๆ
เพราะ ณ ราคากรอบแคบๆใด กรอบหนึ่งที่มีการซื้อขายกันนานๆด้วย โวลุ่มมากๆ เราจะเห็นค่าของ obv เคลื่อนไหวในแนวโน้มที่สูงขึ้นเสมอ แต่นั่น ก็ไม่ได้หมายความว่า ณ ราคาแถวนั้น เกิดการสะสมหุ้นแต่อย่างใด
มันหมายความแค่เพียงว่า ณ ราคาแถวนั้น มีการซื้อขายมากๆต่างหาก
จุดที่เป็นทั้งจุดดี และด้อย ในเวลาเดียวกันของ obv คือ ในแต่ละวัน การเปลี่ยนแปลงจะถูก weight ด้วยโวลุ่ม
สำหรับผมที่ส่วนใหญ่เล่นหุ้นที่ถูกทำราคาขึ้นมาเล่นเป็นช่วงๆ
การสังเกต obv จะให้ประโยชน์น้อยมาก เพราะในช่วงก่อนขึ้น obv จะมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก(เพราะอยู่ในช่วงสะสมหุ้น หลังราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาอย่างยาวนาน โวลุ่มจะน้อย จึงส่งผลต่อ obv น้อย)
ซึ่งหุ้นแบบนี้ จะเริ่มสังเกตเห็น obv ก็หลังจากหุ้นได้ขึ้นมาแล้วครับ(ซึ่งเสี่ยงที่จะไปไล่ตามราคาแล้ว)
สิ่งนี้ กลับไม่เกิดขึ้น ใน rsi เพราะในขณะที่ หุ้นเหล่านี้ มีการสะสมอย่างค่อยเป็นค่อยไป rsi ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ในสโลปที่ชันขึ้นเป็นระยะ และถ้าการสะสม หุ้นนั้น มีระยะเวลายาวนาน การพักตัวของ rsi เป็นขั้นๆ ยิ่งส่งผลให้ภาวะการขึ้นนั้น ชัดเจนมากขึ้นไปอีก
และสามารถทำกำไร ให้ผู้ที่สังเกต ได้อย่างสม่ำเสมอพอควรครับ
ดังนั้น ในขณะที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลง แต่ค่า rsi มีสโลปชันขึ้น และมีการพักฐานเป็นระยะ โดยไม่เคยกลับมาเล่นในกรอบต่ำอีก โดยราคาเปลี่ยนแปลงไม่มาก อันนี้ ก็เป็นการตีความว่ามีการสะสมหุ้นที่ชัดเจนได้ดีทีเดียวครับ
ตัวอย่าง obv ไม่สามารถอธิบายการสะสมหุ้นได้ เช่น หุ้น bnt ในช่วงเดือนมีนาคมถึง มิถุนายน obv พุ่งขึ้นสูงตลอด โดยที่ราคาไม่ไปไหน-อันนี้ กลับเป็นสัญญาณอันตรายไป เพราะหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาระยะหนึ่งก่อน แสดงถึงการไม่สามรถหาที่ลงได้ของคนทำราคา จึงต้องวนเวียนทำการซื้อขายในปริมาณมากๆต่อไป เพื่อให้คนไม่รู้หลงเข้าไปซื้อ
ส่วน rsi ได้แต่ทำไซด์เวย์อยู่ในกรอบแคบๆ ไม่เคยขึ้นไปทำขั้นบันไดใหม่ไดสักทีครับ
ตัวอย่าง rsi บอกถึงการสะสมหุ้น เช่น
us-w1 ตลอดเดือน กรกฎาคม
และ kce ในเดือนพฤษภาคม ต่อต้นเดือนมิถุนายน ก่อนขึ้นครับ
ขอให้โชคดี รวยๆครับ
จากคุณ :
แมงเม่ามือใหม่
- [
21 ส.ค. 48 15:22:01
A:58.136.74.106 X: TicketID:080268
]