ความคิดเห็นที่ 1 มันมีตัวแปรหลายอย่างอีกนะครับ เช่นถ้ารถใหม่ ตัวคุณก็จะสบายขึ้นด้วย เวลาขับไปไหนก็ไม่ต้องกังวลว่ามันจะเสียอ่ะครับ ถ้าเงินพอมี ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย ป้ายแดงดีกว่าครับ ^^~ จากคุณ : ตอนคุณมองตะวัน ผมมองเจอแต่จัน - [ 25 ส.ค. 48 09:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ซื้อรถผมถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายนะครับ สมมุติคุณซ่อมรถปีละ 50,000 บาท 10 ปี ก็ 500,000 บาท แต่คุณซื้อรถใหม่ราคา 1,000,000 บาท (รวมดอกเบี้ยแล้ว) 10 ปีราคาเหลือ 300,000 บาท maintainance อีกซัก 100,000 บาท สรุปว่า 10 ปีคุณมีค่าใช้จ่าย 800,000 บาท แต่ถ้าเป็นรถใหม่ ไม่ต้องปวดหัวซ่อมบ่อย ขับไปรับสาวเท่กว่า เท่านั้นเองครับ จากคุณ : the nu - [ 25 ส.ค. 48 09:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นอกจากเงินแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัย อาทิเช่น เวลา  การเอาไปซ่อมเสียเวลา  มีรถสำรองใช้รึเปล่า ความปลอดภัย ส่วนปลอดภัย ไม่ควรประหยัดการซ่อม ส่วนจุกจิก หากไม่เสียอย่าไปซ่อม ความเป็นเฟอร์นิเจอร์ เหมือนเสื้อผ้า รถอาจไม่ต้องหรู แต่ควรดูดี และสะอาด เหมาะกับกาละเทศะ อื่นๆ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 25 ส.ค. 48 09:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบคำถามครับ ในทางเศรษศาสตร์ ผมพยายามคิดแบบเศรษฐศาสตร์งูๆปลาๆของผม demand suply ไม่น่าเกี่ยว จุดคุ้มทุน โอ๊ยคิดยากเป็นบ้า ให้คนอื่นคิดแล้วกัน ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้ได้อรรถประโยชน์สูงสุด แบบนี้ก็ต้องใช้รถเก่าสิถ้ามันยังใช้ได้ เท่าที่เจอนักเศรษฐศาสตร์หลายคนก็เป็นในแนวนี้เหมือนกันนะ อย่างคอมพิวเตอร์เขาก็ยังใช้เครื่องเก่า DOS เลยล่ะ ก็ในเมื่องานยังเหมือนเดิม ยังใช้ได้เหมือนเดิม จะเปลี่ยนให้มันเสียเงินทำไมล่ะวะ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 48 18:18:58 จากคุณ : ชาวสวน - [ 25 ส.ค. 48 09:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ารถเก่ามากจนมีสภาพไม่ดี เช่น อาจจะเกิดรถเสียระหว่างทางหรือสภาพรถไม่เหมาะสมกับสถานที่ จะทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสของการใช้รถนั้นสูงมากจนไม่คุ้มได้ จากคุณ : nanaz - [ 25 ส.ค. 48 09:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตามหลักประสบการณ์คับขึ้นอยู่กรณีเดียวซ่อมรถเป้นหรือเปล่าเท่านั้นไม่งั้นโดนฟันหัวแบะและความปลอดภัยสําคัญที่สุด จากคุณ : นายแว่นทอง - [ 25 ส.ค. 48 10:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าตอบแบบหลักการ ก็ต้องตอบด้วย economic life ครับ เอาปัจจัยเรื่อง value ที่คุณได้ออกไปก่อนนะ ถ้าคิด cost อย่างเดียว ก็ต้องคิด cost of acquisition, cost of ownership,  expected salvage value at sales cost of ownership นี่ก็รวมค่าซ่อมค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน ค่าน้ำมัน อะไรพวกนี้ครับ ลองคิดๆดู รถใหม่ หรือ รถเก่าที่ไม่เก่ามาก อาจจะคุ้มกว่า จากคุณ : Muffin - [ 25 ส.ค. 48 10:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณค่ะ คือกำลังเปรียบเทียบกับตัวเองอยู่ว่า รถที่ใช้ตอนนี้อายุ 10 ปีแล้วแต่ขับไปได้ประมาณ 120,000 km. ตอนที่ซื้อมาซื้อมือสองตอนรถอายุได้ 2 ปี แต่ซื้อมาในราคาถูกกว่าที่ควรจะเป็นอยู่ประมาณ 100,000 แต่เนื่องจากปัจจุบันรถมีอายุมากแล้วทำให้ต้องเปลี่ยนอะไหล่ที่เสียตามสภาพซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาจ่ายไปแล้วประมาณ 100,000++ บาทแล้ว ซึ่งซ่อมโดยศูนย์บริการตลอด เนื่องจากซ่อมรถเองไม่เป็นและไม่อยากมานั่งเจ็บใจเวลาโดนช่างข้างนอกหลอก กลายเป็นเสียน้อยเสียยาก อะไรแบบนี้น่ะค่ะ ส่วนเรื่องความเท่ห์ในการขับรถใหม่นั้นตัดไปได้เลยค่ะ ตอนนี้อยากประหยัดอย่างเดียว ทีนี้ลองมานั่งคิดดู ไม่รู้ว่าตัวเองโง่หรือเปล่าที่ไม่ยอมซื้อรถใหม่ตอนที่รถเสียจนต้องซ่อมแพงๆ คือพอเปลี่ยนอะไหล่ไปชุดใหญ่แล้วมันก็จะรู้สึกเสียดายไม่อยากขายแล้ว ส่วนเรื่องความปลอดภัยคิดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะไม่ได้ขับไกล อยากรู้ว่าคนส่วนใหญ่คิดยังไงกัน แต่ที่ตัวเองคิดคือไม่อยากเป็นหนี้ ส่วนในเรื่องความคุ้มนั้นมันคิดลำบากน่ะค่ะ ยังไงก็ขอบพระคุณนะคะที่กรุณาแนะนำ ปล. รถหนูยี่ห้อ nissan ค่ะ จากคุณ : เด็กจน - [ 25 ส.ค. 48 11:15:45 A:210.213.22.6 X: TicketID:094100 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รถใหม่ไม่ค่อยเสียรถเก่าต้องซ่อมบ่อย ถ้ารถเสียแล้วก่อให้เกิดความยากลำบากหรืออันตรายมากน้อยแค่ไหน ตัวแปรต่างๆที่น่าจะนำมาคิดเช่น พฤติกรรมการใช้รถเดินทางใกล้ไกลแค่ไหน เวลาที่ใช้มากน้อยแค่ไหน ช่วงเวลาที่ใช้เช่นแค่เช้าเย็นหรือดึกแค่ไหน ถ้ารถเสียระหว่างทางจะทำให้เสียงานเสียการหรือเปล่า จากคุณ : แสนสุขสม - [ 25 ส.ค. 48 11:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท คล้ายๆผมนะ แต่ผมซื้อมือ1 ป้ายแดง ตอนนี้ก็เกือบๆ 10 ปีแล้ว วิ่งก็แสนกว่าๆ เหมือนๆกัน เริ่มเสียเหมือนๆกัน แต่ผมซื้อมามือ 1 ย่อมแพงกว่า แต่ก็ได้ของใหม่ และดูแลมันอย่างดีมาตั้งแต่ต้น ของ จขกท มือสอง ผ่านมา 2 ปี ไอ้ 2ปีที่ไปอยู่ในมือเจ้าของเก่า อันนี้ก็ไม่ทราบว่าเขาทำอะไรมาบ้าง ถึงทำให้ต้องเสียค่าซ่อมเป็น แสน ในระยะเวลาที่ผ่านมา รถผม ปีๆ ใช้มา เพิ่งมาเจอหนักที่สุดก็คือ ไดชาร์จ พัง ของแท้ก็ หมื่นปลายๆ มือสองของเก่า ก็พันกว่าๆ ผมก็เล่นของเก่ามือสองพันกว่าๆ ใช้มา ครึ่งปียังไม่มีปัญหาอะไร(อันนี้ก็เสี่ยงเอา เพราะของแท้ 1 อัน ได้ของมือสอง เกือบสิบอัน) นอกนั้น อะไหล่เบาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะยางรถยนต์ ที่ปัดน้ำฝน ไส้กรองน้ำมัน กรองอากาศ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำยาแอร์(เคยเปลี่ยนครั้งเดียว ไม่เห็นมันหมดอีกเลย) ผมก็ทำตามคู่มือนะ ของพวกนี้ รถญี่ปุ่น ไม่แพงเลย แม้จะเข้า ศูนย์บริการ ผมก็มานั่งคิดเหมือนกันว่า อยากถอยรถใหม่ป้ายแดง เพราะคิดว่า คันนี้มันเริ่มเก่ามากแล้ว กลัวว่าจะต้องมีการซ่อมใหญ่เกิดขึ้นและเรื่อยๆๆๆ แม้สภาพโดยรวมดีมาก เพราะดูแลมาตลอด แต่อย่างว่าแหละ เครื่องจักร มันก็ต้องมีชิ้นส่วนที่หมดอายุ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอมานั่งคำนวณดู รถเก๋งป้ายแดงราคาถูกสุด 5 แสนบาท(แทบไม่มีอะไรเลย) รถเราขายได้อย่างเก่งก็ 2.5 แสน(อุปกรณ์เพียบ เครื่องก็ใหญ่กว่า) ทำไมเราต้องควักเงินอีก 2.5 แสน เพื่อได้รถที่เล็กกว่าและออฟชั่นน้อยกว่า ต้องเหนื่อยหาเงินอีก 2-3 แสน รถเราทุกวันนี้ ปีๆ ก็เสียแต่ค่า น้ำมันเครื่องกับไส้กรองเป็นหลัก นอกนั้นก็น้ำมันเกียร์ ไส้กรองอากาศ รวมๆแล้วปีๆ ตกไม่ถึง 5 พันบาทด้วยซ้ำไป นี่ขนาดของแท้ศูนย์นะเนี่ย ผมก็เลยคิดว่า ใช้รถเก่าดีกว่า อย่างน้อยผมก็รู้ใจมัน ผมว่า ไอ้ 2.5 แสนที่ผมต้องควักไปใส่คันใหม่ มันก็มีค่าเท่ากับรถผมคันปัจจุบัน ดังนั้น ถ้าอีก 4 ปี มันจะมีค่าเป็น 0 บาท ผมก็ถือว่าคุ้มแล้ว จากคุณ : เดามั่ว - [ 25 ส.ค. 48 11:55:54 A:210.86.156.196 X: TicketID:104600 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อย่าลืมนะ รถใหม่ล้อหลังแตะพื้น ขับกลับไปคืนราคาหายไปหลาย % *แต่ผมไม่ทราบสภาพรถคุณนะ ส่วนมาก คนที่เล่นมือสอง เขาจะไม่เก็บไว้นาน ใช้ๆ พอถึงจังหวะ เขาก็จะขายทิ้ง แล้วไปเอามือสองรุ่นอื่นมาใช้ต่อ พวกนี้เขารู้จังหวะเวลา ที่ไม่ทำให้รถราคาตกมาก และราคาที่เสียไปถือว่าคุ้มยิ่งกว่าไปเช่ารถมาขับ* จากคุณ : เดามั่ว - [ 25 ส.ค. 48 11:59:13 A:210.86.156.196 X: TicketID:104600 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้ามีความรู้บ้าง รู้จักช่างดี ซื้อมือสองคุ้มกว่าครับ ถ้าไม่มีสองอย่างข้างบนผมซื้อใหม่ครับ ความรู้สำคัญครับ รู้เรื่องรถ รู้จักช่าง แปรเป็นเงินที่ประหยัดได้โดยไม่เสียคุณค่าในการใช้งาน ขับทางไกล อย่างปลอดภัยได้ จากคุณ : trakulsom (trakulsom) - [ 25 ส.ค. 48 12:17:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ทางที่ดีที่สุดสำหรับความคุ้มค่าคุ้มทุน ต้องหาเพื่อนหรือแฟนที่คอยช่วยเหลือกันตลอดชีวิตผมว่าคุ้มสุดคุ้มครับ เวลารถเสียเขาก็มาช่วยดูแลให้ เวลาอยากได้รถใหม่เขาก็อาจจะมาช่วยแชร์ให้ เวลา...เขาก็ดูและเอาใจใส่เราตลอดกาล มีข้อแม้อยู่ข้อเดียวเท่านั้นคือ ตาดีได้ของดี ตาร้ายได้ของเสียนะครับ ถ้าหลงผิดได้ของเสียนี่ มันจะกวนใจเราเบียดบังเราจนอาจต้องขาดทุนทั้งกายใจและทรัพย์จนอาจหมดเนื้อหมดตัวในที่สุดได้ จากคุณ : ~เฮ้อ... - [ 25 ส.ค. 48 12:25:44 A:203.188.10.97 X: TicketID:075991 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าตอบแบบทางเศรษฐศาสตร์ ผมว่าขับรถเก่าคุ้มกว่า เพราะแม้จะต้องเสียค่าบำรุงรักษาเป็นระยะ แต่ความคุ้มค่า ที่ทางเศรษฐศาสตร์เรียกว่า อรรถประโยชน์จากการใช้มาในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น ประโยชน์จากการไม่ต้องเบียดหรืออารมณ์เสียจากการขึ้นรถเมล์ ประโยชน์จากความสะดวกสบายที่ได้รับ ความรวดเร็ว น่าจะทำให้คุ้มทุนไปแล้ว แต่ถ้าซื้อรถใหม่ซื้อเช้าวันนี้ ขายตอนเย็นมูลค่าก็ตกลงไปแล้วทันที และยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนขับรถใหม่อาจตีเรื่องของความสุขใจจากการได้ขับรถใหม่ ได้โชว์รถใหม่ ความเท่ห์ เป้นฺอรรถประโยชน์ของตัวเองด้วยก็ได้ จากคุณ : มดง่าม - [ 25 ส.ค. 48 13:13:27 A:203.155.9.133 X: TicketID:003096 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอแจมมั่ง ในทางเศรษฐศาสตร์ รถเก่าสิบปีคุ้มกว่าครับ คนที่ได้ประโยชน์จากรถคันนี้ นอกจากคุณแล้วยังมี ช่างเครื่อง ช่างซ่อม ช่างไฟ ร้านยาง 9ล9 ได้ค่าจ้างเวลารถอีแก่งอแง น้ำมันน่าจะกินมากกว่าเยอะ ประโยชน์ตกแก่เด็กปั้ม จากคุณ : หิวบ่อย - [ 25 ส.ค. 48 13:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อืมถ้าเป็นตอนนี้ผมแนะนำให้ซื้อรถใหม่นะครับหากมองเรื่องการเงินและมองเรื่องกระแสเงินสดรถเก่าอาจจะคุ้มกว่าแต่มันคุ้มเพราะตัวเลขที่คุณประเมินนั้นอาจจะต่ำไปค่าใช้จ่ายที่คุณประเมินมันมีความเสี่ยงในตัวมันเองอยู่เช่น ราคาซ่อมที่คุณประเมินไว้อาจจะต่ำกว่าราคาซ่อมจริงในอนาคตในขณะที่ค่าผ่อนรถมันแน่นอนกว่า และความเสี่ยงค่าซ่อมจะยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อรถคุณอายุมากขึ้น (ยิ่งเก่ายิ่งโอกาสเสียมากขึ้น) ตอนนี้ผมแนะนำให้ผ่อนรถเพราะเงินเฟ้อ 5 % แต่ดอกเบี้ยผ่อนรถไม่น่าจะเกิน 4 % (ผมไม่แน่ใจตัวเลขนะ)ถือว่าเป็นการออมอย่างนึง รถตอนนี้ใครซื้อเงินสดก็ขาดทุนแต่ต้องซื้อตอนนี้นะเพราะอัตราดอกเบี้ยกำลังจะเป็นขาขึ้น ในทางเศรษฐศาสตร์เราจะไม่ดูทางด้านการเงินอย่างเดียว ครับสมมุติว่าคุณส่งซ่อมวันที่คุณไม่มีรถคุณก็เกิดค่าเสียโอกาสที่ไม่ได้ใช้รถแล้วหากวันที่เสียคุณไปทำงานก็เกิดค่าเสียโอกาสในวันนั้นอาจจะมีค่าเสียหายที่เกิดจากการผิดนัดในวันนั้นๆอีก และยิ่งนานเข้ามูลค่ารถของคุณก็ยิ่งต่ำลง(ราคาตลาด) ผมคิดว่าซื้อรถใหม่คุ้มค่ากว่านะครับการขับรถเก่ามันอาจจะดูประหยัดก็จริงแต่หากมองดูดีๆคุณจะเห็นว่าความประหยัดนั้นตั้งอยู่บนความเสี่ยงการประเมินค่าซ่อมของตัวคุณเองบวกกับภาวะเงินเฟ้อตอนนี้ผมว่าน่าซื้อรถใหม่นะครับ (แต่ต้องมั่นใจว่ามีรายได้ประจำหรือเงินเก็บพอที่จะผ่อนนะครับ) หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ จากคุณ : XP (EinsteinXP) - [ 25 ส.ค. 48 14:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แหมมม ถามโดนใจ เลยเข้ามาอ่าน  ว่าแต่  ค่าน้ำมันรถนะจิ ที่ไม่ค่อยมีเติม แหะๆ จากคุณ : angy_11 - [ 25 ส.ค. 48 15:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมชอบรถเก่าครับ เพราะไม่มีตังก์ซื้อรถใหม่ ... จากคุณ : roadtrip - [ 25 ส.ค. 48 19:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดูจากที่คุณพูดมา คุณใช้รถไม่เยอะ (ปีล่ะ 12,000 กิโล เอง) สภาพรถแค่ 120,000 กิโล ถ้าดูแลเข้าศูนย์ตลอด ถือว่ายังใช้ได้อีกนานมาก ถ้าเปรียบกับคนอายุยังวัยรุ่นอยู่เลย ราคารถใหม่ป้ายแดงของไทยแพงเกินไปเทียบกับค่าครองชีพ การก่อหนี้มีความกดดันกว่ากันเยอะ ส่วนการซ่อมบำรุงบางครั้งไม่จำเป็นต้องเข้าศูนย์หรอกครับ อู่ ดีดี ถูกกว่าศูนย์ และช่างเก่งกว่าก็มีมากมาย จากคุณ : ตี๋เล็ก (s36013177) - [ 25 ส.ค. 48 21:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อยู่ที่ว่ารถเป็นเครื่องมือหาเงินของคุณหรือเปล่า ถ้าคุณเป็น sale หรือทำธุรกิจส่วนตัว จำเป็นต้องใช้รถ ผมคิดว่ารถใหม่ หรือ รถมือสองที่ใหม่กว่า น่าจะเหมาะกว่าครับ เพราะ เวลาและเงินที่เราเสียไปเวลาซ่อมรถ จะไม่คุ้มกัน เช่น คุณอาจรถเสียกลางทางในขณะไปหาลูกค้าสำคัญ หรือ ถ้าคิดตามการกินน้ำมันแล้ว รถเก่าจะกินน้ำมันมากกว่า ถ้าคุณวิ่งเยอะ ก็เปลืองน้ำมัน รวม ๆ กันเผอญ ๆ จะมากกว่าดอกซะอีกครับ ส่วนเรื่อง มือหนึ่งหรือมือสอง ผมมองว่า ถ้าพอมีเงิน ก็ซื้อมือสองสภาพดีสดไปเลยจะดีกว่า เพราะถ้าซื้อมือสองผ่อนต้องบวก vat อีก 7% ก็อ้วกแล้วครับ แต่ถ้ายังไม่มีก็ควรซื้อใหม่ผ่อนเอาดีกว่า จากคุณ : HaHaHa - [ 25 ส.ค. 48 22:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมว่าน่าจะใช้วิธีคิดต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งจะแตกต่างจากต้นทุนทางบัญชี คือเศรษฐศาสตร์จะมีต้นทุนค่าเสียโอกาสเพิ่มขึ้นมา คือไม่ได้มองเฉพาะต้นทุนทางตัวเลขเท่านั้น การที่ใช้รถเก่าๆไม่ได้เสียเฉพาะค่าซ่อมรถ คุณยังเสียเวลาซึ่งเวลาก็เป็นต้นทุนอย่างนึงซึ่งเวลาที่คุณเสียไปอาจจะส่งผลต่อหน้าที่การงานของคุณ จากคุณ : น้องต้นไม้ - [ 26 ส.ค. 48 16:03:30 ]