ผมเล่นหุ้นเพื่อเก็งกำไรอย่างเดียวครับ ไม่เคยถือลงทุน ประสบการณ์ผมยังน้อยมาก เพียงแค่ปีเดียวเองครับ(พี่ๆหลายคนเก่งกว่าผมเยอะครับ และก็มีประสบการณ์มากๆ หลายคนก็พูดกันไปเยอะแล้ว ช่วงนี้ เห็นมีคนใหม่ๆเข้ามากันเยอะครับ เป็นธรรมดาของขาขึ้นครับ ก็เลยอยากจะลองแนะนำบ้างเท่าที่ทำได้ครับ) ผมยังเป็นแมงเม่าอยู่นะครับ ยังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะ ก็ขออภัยถ้ามีข้อผิดพลาดมากมายครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
เท่าที่สังเกต คนที่ได้กำไรเพราะการเก็งกำไร คือคนที่มีระบบในการเทรดอย่างชัดเจน รู้ว่าเวลาไหนควร let profit run รู้ว่าเวลาไหนควร stop loss ไม่กระทำตามอารมณ์ตลาดที่เร่งเร้าเพียงถ่ายเดียว และมีแผนก่อนการเข้าเทรดหุ้นแต่ละตัวเสมอ และควรเป็นแผนที่ยืดหยุ่นได้บ้าง
และการ take profit จะใช้ได้กับหุ้นเก็งกำไรบางตัวที่มีนิสัย ลากมาเชือด ซึ่งเราต้องรู้ธรรมชาติของหุ้นตัวนั้นพอสมควร (เช่น thl เท่าที่สังเกต วันไหนลากเกิน ๑๐ เปอร์เซนต์ ต้องมีขายทำกำไรทันที เพราะหุ้นจะปรับตัวเสมอประมาณ ๑ ใน๓ ของทางที่ขึ้นมา เช่นนี้เป็นต้น อันนี้ ต้องขอบคุณพี่ ผมเองครับ ที่ตั้งข้อสังเกตประมาณนี้ไว้)
การเล่นเก็งกำไรก็ต้องทำการบ้าน เช่นกันครับ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดที่หุ้นตัวที่เราถือนั้นๆจะเอื้ออำนวย และไม่ทำให้เสียอารมณ์มากเกินไป
ทั้งๆที่ผมเล่นเก็งกำไร แต่เวบหุ้นที่ผมอ่านมากที่สุด คือ เวบของ tvi(thai value investor ครับ)
แม้ว่า ผมแทบจะไม่เคยเล่นหุ้นที่พี่ๆที่นั่นถือลงทุนกันอยู่เลย
ส่วนหนึ่งก็เพราะ ที่นั่นมีข้อมูล ที่เป็น noise น้อยมากครับ และผมเคารพความสามารถของพี่ๆหลายคนจริงๆเลยครับ
ไม่ใช่แค่ความสามารถในการวิเคราะห์หุ้นเท่านั้น
ที่มากกว่านั้น คือ ความสามารถในการบังคับจิตใจของตนเองครับ
ความสามารถนี้ คือ ความใจเย็น อดทน และเฝ้ารอในผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นตามระบบของตนเอง ซึ่งที่ tvi นี้ มักจะใช้ ผลประกอบการและความคาดหวังในการเติบโตของกิจการในอนาคต เป็นกรอบมากกว่าอย่างอื่น
คนที่เล่นหุ้นได้อย่างใจเย็นเท่านั้น ถึงจะเป็นคนที่ได้กำไร อย่างสม่ำเสมอครับ ไม่ว่าจะนักลงทุน หรือนักเก็งกำไร
นักเก็งกำไร อาจมีข้อจำกัดทางด้านเวลาในการตัดสินใจอยู่บ้าง คือ ต้องรวดเร็วฉับไว
แต่เราจะไม่ถูกจำกัดมากนัก ถ้าเรารู้จักรอคอยอย่างใจเย็น ทำการบ้านสม่ำเสมอ และเชื่อในระบบ เพื่อให้การตัดสินใจซื้อขายหุ้นนั้นเกิดขึ้นได้อย่างกระชับ และไม่ยึดติด กับกำไร-ขาดทุนมากนัก
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราซื้อหุ้นตัวหนึ่ง โดยที่ระบบของเรามันบอกว่า ซื้อได้แล้ว แต่หุ้นมันกลับไม่ไป แล้วอยู่เฉยๆ ในขณะที่ตลาดกลับเป็นกระทิง บางคนอาจจะเดือดเนื้อร้อนใจแล้ว ว่าทำไมหุ้นเรามันไม่ไปอ่ะ หุ้นตัวอื่นมันไปแล้วนะ(ฮ่าๆ ซึ่งจริงๆมีไม่กี่ตัวเองในช่วงที่ผ่านมาที่ดันตลาดอ่ะคับ)
สิ่งที่ตามมา คือความทุกข์และกระวนกระวายใจ อันเกิดจากการเปรียบเทียบแท้ๆ
ทั้งๆที่หุ้นของเราก็ไม่ได้ตกไปไหนเลย ขำๆ ไหมครับ
ที่สำคัญ สำหรับ นักเก็งกำไร เราจะต้องพิจารณาจากทางเลือกที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์กับกระแสเงินสดของเรามากที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องมีระบบ พอสมควรครับ
จากตัวอย่าง ถ้าระบบของเรา บอกว่า หุ้นตัวอื่นที่ขึ้นๆอยู่ มีแนวโน้มที่จะทำกำไร ได้เร็วกว่า รวดเร็วกว่า โดยมีความเสี่ยงน้อยกว่า หุ้นที่เราถืออยู่แล้วไม่ไป และไม่ถูกจำกัดด้วยวงเงินที่เท่ากัน ถ้าเป็นผมก็คงจะตัดสินใจขายหุ้นตัวนั้น ทันที แล้วเปลี่ยนไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่เห็นแล้ว เชื่อว่าน่าสนใจกว่า โดยไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่า ขาดทุนหรือกำไร จากการขายครั้งนั้นครับ
แต่ถ้าระบบ ยังคอนเฟริ์ม อยู่ว่า หุ้นตัวที่เราถือ มีโอกาส และความเสี่ยงน้อยกว่า ตัวที่ขึ้นไปแล้ว โดยมีโอกาสทำกำไรไม่น้อยกว่ากัน ผมก็จะไม่สนใจตัวที่ขึ้นไปแล้วนั้น และมาตั้งใจดูผลลัพธ์ของมันต่อไปครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่มือใหม่เป็นกันมาก ในสภาวะที่หุ้นเปลี่ยนจากหมีมาเป็นกระทิงแล้ว ทำใจไม่ได้ รีบขาย take profit ทั้งๆที่หุ้นยังไม่ได้แสดงตัวเลยว่าจะกลับตัวแล้ว รวมทั้งไม่ใช่ หุ้นเก็งกำไรสุดกู่ที่มีนิสัยลากมาเชือดอีกด้วย
ถ้าใช้ elliot wave คนส่วนใหญ่ มักซื้อหุ้นที่ขาขึ้นปลายเวฟ ๕ ขายคลื่นปรับตัว abc ซื้ออีกทีขาขึ้นต้นเวฟ ๑ ขายเวฟ ๒ พอเวฟ ๓ ซึ่งเป็นกระทิงที่ปลอดภัยที่สุดกลับไม่ยอมซื้อ เพราะเห็นว่าราคาแพงกว่าเดิมที่เวฟ ๑ น้ำลายหก แล้วค่อยไปซื้อปลายเวฟ ๕ กันอีกที วนเวียนไปเช่นนี้แล
สรุปว่า จะเก็งกำไร ก็ต้องรู้จักความอดทนเช่นกันครับ(อดทน let profit run และ เด็ดขาด เมื่อ stop loss)
หาระบบของตนเอง ที่เหมาะสมกับเวลา นิสัย และงานของตนเองให้เจอครับ
ขอให้โชคดี รวยๆ ในการลงทุนหุ้นทุกท่านครับ
จากคุณ :
แมงเม่ามือใหม่
- [
3 ก.ย. 48 04:32:08
A:58.136.64.36 X: TicketID:080268
]