คิดว่า เพื่อนๆที่เพิ่งเล่นหุ้น
คงจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า
"ขาขึ้น เซียนเต็มตลาด"
กันใช่ไหมครับ?
เราสามารถใช้มุมมองทางเทคนิค อธิบายคำพูดตรงนี้ได้เช่นกัน
ผมเคยคุยกับรุ่นพี่คนหนึ่งว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
ทั้งๆที่เราก็รู้ว่า เทคนิคนั้น เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในการเลือกจังหวะเข้าซื้อหุ้น และเป็นแค่ความน่าจะเป็นเท่านั้น ข้อสำคัญ กราฟสามารถทำหลอกได้อีกด้วย
หลังจากคุยกันแล้ว ผมได้ข้อสรุปว่า
ในขาขึ้น กราฟจะเกิด error ค่อนข้างน้อย อาจเป็นเพราะ อารมณ์ตลาดตรงนั้น การทำราคาตรงนั้น ณ เวลาที่ตลาดดูดี สามารถชักจูงผู้เล่นให้เข้าสู่เกมส์ได้ง่าย ด้วยความโลภที่ล่องลอยอยู่เต็มตลาด
โวลุ่มก็เพิ่มขึ้นได้โดยง่าย และมีช่วงห่างของราคาให้ทำกำไรมากขึ้น ซึ่งทำให้โอกาสเกิด คอนเวอร์เจนท์ของราคากับโวลุ่มสูงกว่า ซึ่งจะส่งผลคอนเฟริ์มไปในอินดิเคเตอร์ตัวอื่นๆในที่สุดครับ
เพราะคนทำราคา ไม่ต้องรีบชงรีบตบ ค่อยๆลาก ค่อยๆริน ก็ยิ่งทำให้ได้กำไรนานขึ้นไปอีก
ดังนั้น เมื่อเราดูกราฟราคา ก็จะเห็นสิ่งที่มันเสริมกันได้ง่าย และพร้อมที่จะเข้าซื้อเข้าขาย ก็ได้กำไรง่ายครับ
ซึ่งสิ่งนี้ จะเป็นตรงกันข้าม กับขาลงเลย
เพราะสภาวะในช่วงขาลง โวลุ่มน้อย ความอยากเข้ามาในเกมส์ก็น้อย เจ้าต้องรีบชงรีบตบ ทำกราฟหลอกก็บ่อย ลากราคาแล้วตบกินเลย ไม่มีช่องว่างให้เล่น
ดังนั้น ในขาลง หลายคนที่พออ่านกราฟเป็นก็จะยังคงเสียได้อย่างต่อเนื่องครับ
ดังนั้น ตอนนี้ ใครดูกราฟ แล้วบอกว่าตัวไหนดี น่าเล่น ก็จะมีโอกาสได้สูง
แต่เมื่อตอนกลางปี ให้คนคนเดียวกัน ดูตัวไหน ก็อาจจะขาดทุน ได้บ่อยครั้งไป(ยกเว้น เจ้าตัวที่มันนอนนิ่งๆ มาจนเบื่อ ขุดมาที ก็ลิ่งเลย แล้วตบกินวันถัดไปเลย รายย่อยก็โดนกินรวบอยู่ดี)
เห็นไหมครับ ว่าจริงๆแล้ว เทคนิค ก็ผันแปรตามอารมณ์ตลาด
พูดอีกอย่างก็คือ เป็นอารมณ์ตลาด ที่กำหนดความถูกต้องของเทคนิค
ไม่ใช่เทคนิค ที่กำหนดความเป็นไปของราคาครับ
ดังนั้น ในการหาจังหวะลงทุนในหุ้น ถ้าเราเข้าใจอารมณ์ตลาด จิตวิทยามวลชน เราก็มีโอกาสได้กำไร โดยอาจจะไม่ต้องรู้เทคนิคเลยด้วยซ้ำ
ถ้าขาขึ้นนั้นยาวนาน
ต่อให้ลิงปาเป้า ก็ถูกตัวอยู่ดีครับ
ดังนั้น ขาขึ้น เซียนก็เลยเต็มตลาดด้วยประการฉะนี้แล
สิ่งที่ผมพูดทั้งหมดนี้
ตั้งใจจะสื่อว่า ในการเล่นหุ้น เราต้องมีแผนเสมอ เมื่อเราซื้อหุ้น เราต้องกำหนดแผนทันทีว่า ถ้าหุ้นขึ้น เราจะทำอย่างไร และถ้าหุ้นลง เราจะทำอย่างไร เราจะลงทุนในภาวะดังกล่าว ได้เป็นเงินเท่าไร ที่ระดับราคานี้ ของหุ้นตัวนี้ ที่โวลุ่มแบบนี้ ฯลฯ
ตัวอย่างกราฟเซ็ตวันนี้ จากแท่งเทียน และ rsi ถ้าไม่ใช่ช่วงกระทิง ต้องเตรียมทิ้งอย่างเดียวแล้วครับ
ถ้าหุ้นที่เรามีอยู่ ยังขาดทุนอยู่ เราจะทำอย่างไร เราจะขายที่ราคาไหน เมื่อเซ็ตไม่ยอมไปต่อแล้ว เช่นนี้ เป็นต้น
เราต้องตอบตัวเองได้เสมอว่า ถ้าหุ้นไม่เป็นไปอย่างที่หวัง เราจะทำอย่างไร ไม่ให้พอร์ตเสียหายมากนัก เพื่อการทำกำไร เมื่อมีโอกาสครั้งใหม่ได้อย่างมั่นคง
การสร้างระบบที่ดี จะทำให้เราอยู่ในตลาดหุ้นได้นานๆ
ต้องกำหนดความเป็นไปได้เสมอว่า จากทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่เป็นอยู่ ถ้าเคลื่อนไหวไปในทิศทางเช่นนี้ เราควรจะทำอย่างไร ถ้าการเคลื่อนไหวในทิศทางเช่นนี้ โดยกินระยะเวลานานเท่านี้ อะไรน่าจะเกิดขึ้นตามมา ฯลฯ
แล้วก็มาประมวลผล ด้วยความรู้เท่าที่ตนมี พิจารณาความเสี่ยง แล้วปรับเปลี่ยนความเสี่ยงนั้น ให้เหมาะกับอุปนิสัยของตนเองครับ
บางคนไม่รู้เทคนิคเลย แต่รู้จังหวะ รอบ และการบริหารความเสี่ยง ก็สามารถทำกำไรอย่างยั่งยืนได้ถมไปครับ
เทคนิคไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่สุดของการเล่นหุ้น
การบริหารความเสี่ยง ความเข้าใจในจิตวิทยามวลชน และการควบคุมอารมณ์ต่างหากคือสิ่งที่สำคัญกว่าครับ
ดังนั้น กำหนดแผนเสียแต่วันนี้ ก่อนซื้อและขายหุ้นทุกครั้ง ถ้าอยากให้พอร์ตของเรา มีกำไรมากกว่าขาดทุนครับ
เพราะไม่เคยมีคำว่าแน่นอนในตลาดหุ้นครับ
จากคุณ :
แมงเม่ามือใหม่
- [
7 ก.ย. 48 00:10:58
A:58.136.67.90 X: TicketID:080268
]