ความคิดเห็นที่ 1 แพงไปนิดแต่ยังพอได้   ไวหน่อยละกันถ้าเห็นท่าตลาดรวมไม่ดี จากคุณ : ckman (ckman) - [ 9 ก.ย. 48 20:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วเท่าไหร่ถึงปลอดภัยล่ะ พี่ จากคุณ : วิ - [ 9 ก.ย. 48 20:39:23 A:203.156.25.208 X: TicketID:107433 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เล่น ลุ้นปลายเดือนนี้ได้ รอผลการทดสอบสัญญาณดาวเทียมไอพีสตาร์ และการเจรจาขายสัญญาณให้จีนกับอินเดีย แต่ถ้าจะถือยาว  ???? ลองพิมพ์คำว่า Wimax ใน google ดู แล้วลองอ่านอย่างละเอียด แล้วเอาไปพิจารณาดู ว่าจะถือยาวหรือเปล่า หรือคลิกที่ my blog ของผมก็ได้ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sungsung&group=3 จากคุณ : S-sung - [ 9 ก.ย. 48 21:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมซื้อเมื่อเดือนที่แล้ว กะจะถือยาวๆ เพราะคิดว่า ดาวเทียมไอพีสตาร์ คงสร้างรายได้ให้ sattel อย่างมหาศาลตามที่คุณบุญคลีบอก  แต่พอได้ยินข่าวเรื่อง Wimax  เช้าวันจันทร์ ผมรีบขาย sattel ทั้งหมดที่มีอยู่  เลิกคิดเลยครับ และก็คงเลิกเล่นกลุ่มสือสารทั้งหมดเลย เพราะมันมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี่ค่อนข้างเร็ว แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 48 23:28:15 จากคุณ : S-sung - [ 9 ก.ย. 48 21:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อืมถ้างั๊น ไม่เสี่ยงดีกว่า เพราะว่าไม่มีเวลามาเฝ้าหุ้นด้วยซิครับ จากคุณ : กก - [ 9 ก.ย. 48 21:19:22 A:203.156.25.208 X: TicketID:107433 ]

ความคิดเห็นที่ 6 12.XX ฟันธง....5555... จากคุณ : แคนนอน - [ 9 ก.ย. 48 22:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าจันทร์อังคารปิดเขียวก็ยังน่าสนใจอยู่นะครับ แต่ถ้าลงมาแดง หลุด ๑๔ บาทก็โยนทิ้งไป ถ้าผมมีอยู่แล้ว จะลุ้นเล่นเด้ง แถวนี้แหละ จากคุณ : แมงเม่ามือใหม่ - [ 9 ก.ย. 48 22:54:52 A:58.136.68.184 X: TicketID:080268 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มีประเด็นนึงที่อยากให้คิดครับ ผู้บริหาร Sattel เคยอธิบายเอาไว้ในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อสองปีที่แล้ว เรื่องของความน่าตื่นเต้นของเทคโนโลยีไร้สายนี้ และการที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนโครงข่าย Wimax รวมถึงเตรียมตัวที่จะขอใบอนุญาตด้วย (ในประเทศไทย) ทำให้ผมรู้จักกับชื่อของเทคโนโลยีนี้เป็นครั้งแรก จากคุณ : Darkside of the White - [ 10 ก.ย. 48 00:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทำไมไม่มองว่า ip-star  + wimax   จะทำให้มีข้อได้เปลียบเหนือคู่แข็งมากกว่า เช่นเชื่อมจังหวัดใช้ ipstar   และภายในจังหวัด ใช้ wimax   อย่านี้เป็นไง.... จากคุณ : นมเย็น - [ 10 ก.ย. 48 08:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมก็มองเหมือนคุณนมเย็นครับ ... ใช้ดาวเทียมเชื่อมจุดใหญ่แล้วใช้ชุมสายและเสาโทรศัพท์เคลื่อนที่กระจายคลื่น Wi-maxแบนวิธสูงๆไป 50-60 ก.ม. ที่เป็นของตัวเองแค่นี้ Wi-max เจ้าอื่นก็เสร็จแล้ว ผมว่าเขาได้เปรียบทางด้านต้นทุนหรือรีสอร์ทที่มีทุกด้านเลย บุคคลากรและอำนาจแฝงต่างๆ ผมคิดแบบว่าถ้าผมเป็นเจ้าของและผู้บริหารและวิศวกรระบบด้วยอะครับ ... (คิดเองเออเองอะครับ) อย่าเชื่อแล้วคิดตามนะครับจะไบแอสได้ ... จากคุณ : หลังเขา - [ 10 ก.ย. 48 08:30:53 A:202.47.224.130 X: TicketID:051024 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมมองว่า Wimax คือคู่แข่งครับ ตอนนี้มี ISP หลายเจ้ารวมทั้ง CSL กำลังยื่นขอต่อ กทช. เพื่อทำ Wimax ถ้า sattel ผูกขาดการทำ Wimax อันนี้ อาจจะเสริมการได้ ไอพี่สตาร์ ลงทุนไปถึง 16000 ล้านบาท กว่าจะคุ้มทุน ปรากฏว่ามี  wimax มาขอแชร์ลูกค้า ก็คิดเอาละกัน Wimax --รัศมีการกระจายสัญญาณถึง 30 ไมล์ --ความเร็วทางทฤษฏี 75 MB/s --ติดตั้งอำเภอละ 1 จุด ก็กระจายทั่วประเทศแล้วครับ จากคุณ : S-sung - [ 10 ก.ย. 48 09:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น่าสนุกครับ.. เปิดประเด็นเทคโนโลยี Wimax กันดีกว่า เพราะเราคงต้องได้สัมผัสกับมันแน่ ๆ ผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณนมเย็น และคุณหลังเขาครับ เพราะปัจจุบันนี้ Wimax ยังคิดไม่ตกเรื่องของ "ต้นทุน" ที่สูงมาก (ต่อหนึ่งเสาสัญญาณ) ขนาด BT ผู้ให้บริการรายแรกของโลกที่กำลังทำการทดสอบ อยู่ที่ Kent ในสหราชอาณาจักรยังกังวลกับเรื่องนี้ เรื่องของเรื่องคือการส่งต่อสัญญาณระหว่างเสาไปเสาครับ จะวางเครือข่ายกันอย่างไร?? ระหว่างทางจะต้องใช้ตัวส่งต่อกี่ตัว?? หนึ่งตัวส่งต่อก็คือหนึ่งเสาสัญญาณครับ ต้นทุนของทุกระบบอยู่ตรงนี้ กรณีนี้ถ้าอยู่ในกรุงเทพก็คงไม่เป็นปัญหา.. เพราะผ่านไปจุดไหนก็มีลูกค้า..จะมากจะน้อยก็คงมี ถ้าแต่ละจุดมีลูกค้าของมันเองอย่างนี้ก็พอจะน่าลงทุนครับ แต่สมมุติว่าจากรังสิตไปปากช่อง ระยะทางประมาณ70 กม.ได้มั้ง คงต้องใช้เสาซัก 3-4 เสาส่งสัญญาณต่อเนื่องกันไป เสาต้นทางที่รังสิตก็ต้องมีลูกค้าแน่ ๆ ส่วนหนึ่ง เสาปลายทางที่ปากช่องก็คงมีลูกค้าเหมือนกัน ไม่งั้นจะทำไปทำไม ปัญหาก็คือ เสาระหว่างทางที่ต้นทุนสูงพอ ๆ กัน และช่วยรับส่งต่อสัญญาณไมโครเวฟนั้น จะมีลูกค้าหรือเปล่า??.. ควรจะมีมากแค่ไหนจึงจะคุ้มต้นทุน?? ตรงนี้ละครับที่เป็นประเด็นสำคัญ ((ลองนึกถึงโทรศัพท์มือถือในระยะแรกที่บางพื้นที่มีสัญญาณ บางพื้นที่สัญญาณอ่อน บางที่เป็นกระดูกแขวนคอไปเลย จำกันได้มั้ยครับ.. และผู้ชนะก็คือคนที่วางระบบเครือข่ายได้ทั่วประเทศก่อนเป็นคนแรก)) ในเรื่องของยุทธวิธีการวางเครือข่ายนี่ละครับที่เป็น "หัวใจ" ของระบบการสื่อสารทั้งหมด ธุรกิจการสื่อสารมักจะชี้ชะตากันตรงนี้ครับ ในไม่กี่ปีนี้ Wimax แทบจะกลายมาเป็นเครือข่ายหลัก ของการสื่อสารไร้สายในแหล่งชุมชนเลยก็ว่าได้ ทุกอุปกรณ์ในปี 2007 คงจะต้องติดตั้งตัวรับส่งสัญญาณ เอาไว้เป็นมาตรฐาน แต่เครือข่ายที่ครอบคลุมทั้งหมดยังเป็นประเด็นสำคัญของ ผู้ให้บริการที่จะต้องมาวางกลยุทธ์การลงทุนกันให้ดีครับ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 48 09:45:25 จากคุณ : Darkside of the White - [ 10 ก.ย. 48 09:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เชื่อมต่อระหว่าง cell site ใช้ fiber optic ใช้ ดาวเทียม backup ในไทยวาง fiber optic ตามแนวทางรถไฟ  สายส่งของ EGAT จากคุณ : sutee - [ 10 ก.ย. 48 10:43:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ไม่ต้องกังวลครับ  ไทยคม4 -5 ใช้ 2 -3ปีก้คุ้มแล้ว  กว่า wimax มาก็เปลี่ยนตัวเล่นได้ จากคุณ : sutee - [ 10 ก.ย. 48 13:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เฮ้อ อ่านๆ มา ถึง #14 ค่อยโล่งคอหน่อย จากคุณ : thakoop - [ 10 ก.ย. 48 13:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรียนพี่ sutee ครับ พี่ Sutee อยู่ในแวดวงสื่อสารหรือเปล่าครับ พอดีผม อยากขอความเห็นเพิ่มเติมจากพี่ ๆ ที่ทำงานอยู่ใน ธุรกิจการสื่อสารครับ เนื่องจาก Wimax มีรัศมีทำการไกลมากในพื้นที่ราบ ก็เลยมักจะมีความคิดว่าอย่างนี้ติดแค่ไม่กี่ร้อยเสา สัญญาณก็น่าจะครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว อยากถามความเห็นจากพี่ Sutee ครับว่า - ถ้ามีผู้ได้รับสัมปทานWimaxไป แล้วเขาคิดจะทำทีเดียวพร้อมกันเพื่อให้ได้สัญญาณไปทั่วประเทศจะเป็นการลงทุนที่คุ้มมั้ยครับ (ผู้บริโภคอย่างพวกผมไม่ทราบว่าการสร้างเครือข่ายให้ได้สัญญาณทั่วประเทศต้องใช้เสาสัญญาณมากมายแค่ไหน แล้วก็ต้องลงทุนเป็นเงินกี่หมื่นล้าน) สำหรับตัวผมเองคิดแค่ว่าถ้ามีคนทำ เขาคงจะค่อย ๆ เริ่มเป็นจุด ๆ แล้วใช้ไฟเบอร์หรือดาวเทียมเชื่อมสัญญาณแต่ละจุดไปก่อนสัก 3-5 ปีค่อยมาว่ากันใหม่เพราะต้นทุนมันสูง จะมีลูกค้าเยอะทำให้คุ้มกับรายได้หรือไม่?? อันนี้เป็นสิ่งที่น่าคิด พอดีผมตามเรื่องนี้มาพอสมควร แล้วก็ลงทุนไปกับ Sattel ไปมากมาย (รวมกันทั้งครอบครัวครับ) ตอนนี้มากถึง 1 ใน 5 ของพอร์ตทั้งหมด โชคดีที่ต้นทุนต่ำมากครับ เข้าซื้อตั้งแต่เกิดเรื่องที่กัมพูชา ราคาที่วูบวาบอยู่ตอนนี้ก็ยังถือว่าให้ผลตอบแทนดีใช้ได้อยู่ แต่ความหวังที่จะทำกำไรมาก ๆ ก็มาจากไอพีสตาร์นี่แหละครับ สมมุติว่ามีคนได้รับสัมปทานWimax  ในปี 2006 แล้วเขาสามารถทำได้ทีเดียวทั่วประเทศพร้อมกันทั้งหมดเลย ผมคงจะต้องคิดดูใหม่รีบกลับลำอย่างที่พี่ S-Sung ตั้งประเด็นเอาไว้ แต่ถ้าในเชิงธุรกิจแล้ว Wimax ไม่สามารถทำได้พร้อมกันหมดทันที ผมก็จะใช้แผนเดิมแต่ปรับให้สั้นลงมาหน่อยคือลงทุนต่ออีกซักสองสามปี ขอความเห็นจากพี่ ๆ ในเรื่องการสร้างเครือข่ายสัญญาณ และความคุ้มทุนครับ ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 48 14:02:45 จากคุณ : Darkside of the White - [ 10 ก.ย. 48 13:51:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนนี้มีประเทศไหนได้ใช้ Wimax บ้างแล้วครับ จากคุณ : Qoo ซัง - [ 10 ก.ย. 48 18:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนี้เขากำลังทดลองใช้ที่อังกฤษ ให้ใช้ฟรีด้วย Intel ประชุมเรื่องนี้ 3 ครั้ง/สัปดาห์  และกำลังผลิตอุปกรณ์รับสัญญาณตัวนี้เข้าไปใน notebook และmobile phone ****ราคาหุ้น จะเป็นตัวบอก อนาคต**** ***ทำไมหุ้น sattel ถึงร่วงหลังจากยิงไอพีสตาร์สำเร็จ*** ***ช่วงนี้โวลุ่มน้อย ยังไม่มีสัญญาณการเก็บของ*** จากคุณ : S-sung - [ 10 ก.ย. 48 19:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 ก.ย. 48 02:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ทีนี้มามองกันว่าใครจะกล้าลงทุน  และจุดคุ้มทุนอยู่ตรงไหน ต้นทุนเท่าไหร  รายได้ที่จะเกิดเท่าไหร่   หากลงทุนง่ายๆ ผมว่าเดี๋ยวก็เหมือน  adsl ครับ  แข่งกันที่ราคาสุดท้ายก็ กำไรนิดหน่อย   คนที่มี link ต่างประเทศใหญ่สุด + ต้นทุน link นี้ต่ำสุด  น่าจะได้เปลี่ยบครับ .... จากคุณ : นมเย็น - [ 11 ก.ย. 48 08:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอเขียนยาว ๆ อีกซักทีนะครับ .....ครั้งนี้ยาวมากด้วย (ขออภัยเจ้าของกระทู้ และขออภัยทุกท่านเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ) ถ้าเห็นว่าไม่เข้าท่า รบกวนแจ้งลบได้เลยนะครับ พอดีมันมีความขัดแย้งกันเรื่อง Fact และ Emotional อยู่ตรงนี้ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 48 13:10:51 จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เท่าที่ผมสัมผัสมา... Emotional ของตลาดเป็นตัวกำหนดราคาให้นักลงทุนซื้อขาย Emotional เป็นสิ่งที่เปลี่ยนเร็วมาก และทำให้ตลาดแกว่ง อย่างตลาดหุ้นไทย.. จะแกว่งแบบไร้เสถียรภาพเป็นครั้งเป็นคราว.. ตรงนี้ต้องระวังให้ดี ข่าวที่เกิดขึ้นกับบริษัท “ทุกข่าว” มักจะถูกใช้เป็น "ข้ออ้าง" ทำให้เกิด Emotional นั้น ปัญหาก็คือ ข่าวไหนเป็น Fact ?? ข่าวไหนเป็นเรื่องสัพเพเหระ?? ข่าวไหนเป็นสิ่งที่คนเขียนหรือนักวิเคราะห์คิดเอาเอง เพราะ 80% ของข่าว มักจะเป็นเรื่องราวสัพเพเหระที่วนเวียนอยู่รอบ ๆ ข้อเท็จจริง จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 23 **ความหวือหวาของราคาหุ้นบนกระดานเป็นตัวบอกอนาคต** เป็นแนวคิดที่ถูกต้องพอสมควรครับ เพราะจะกำหนดช่วงที่ราคาหุ้นแกว่งด้วย Emotion ราคาหุ้นในตลาดบ้านเราชอบเหวี่ยงตัวตามเรื่องสัพเพเหระที่ว่าในระยะเวลาสั้น ๆ ++ แต่อย่าลืมว่าข้อเท็จจริงทางธุรกิจจะทำให้เกิดแนวโน้มหลัก++ ++กำไรของธุรกิจ คือข้อเท็จจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธได้++ จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หลายครั้งที่ราคาหุ้นบนกระดานผิดทิศทางระยะสั้น ๆ ซึ่งไม่ได้สะท้อนข้อเท็จจริง.. ก่อให้เกิดรูปแบบในการลงทุนสองแบบ... คนที่จับตามองการเคลื่อนไหวของราคา ก็จะมีรูปแบบการลงทุนแบบนึงโดยจับตามอง Emotion ของตลาด คนที่จับตามองข้อเท็จจริงทางธุรกิจก็จะมีการลงทุนอีกแบบ โดยจับตามองที่ "ข้อเท็จจริง" ของบริษัท ข้อควรระวังก็คือ ต่างคนต้อง Keep on track ของตัวเอง..ไม่จับผิดจับถูก นักลงทุนที่มองการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อจะซื้อหรือขายก็ควรใช้เหตุผลว่า... ผมเห็นไล่ราคากันแรงมากแล้ว ผมขายออกแล้วถอยไปดูดีกว่า.. ตอนนี้ขายกันมากไปแล้ว ซักพักจะต้องนิ่งและดีดกลับ ถ้าผมเห็น..ผมจะเข้าซื้อ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 48 13:17:23 จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 นักลงทุนที่มอง Fact ควรจะใช้เหตุผลว่า บริษัทกำลังจะมีธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ คิดว่าจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่สำคัญ.. ผมจะเข้าซื้อ หรือ.. บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว ปรับโครงสร้างหนี้ก็ยุ่งมาก ความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ไม่จบ คนที่เพิ่มทุนเข้ามาใหม่ก็ได้ราคาต่ำมาก ถึงธุรกิจจะน่าสนใจ ทรัพย์สินมากมาย อนาคตดีพอใช้ แต่ถ้าไม่จบปัญหาให้เร็วกว่าที่เป็นอยู่นี้  ผมก็ไม่เข้าไปยุ่งดีกว่า จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ต้องอย่าจับผิดจับถูกเช่น... นักลงทุนที่มองการเคลื่อนไหวของราคาเป็นหลักแต่รีบเข้าซื้อ เพราะได้ยินว่ามีข่าว(ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ) นี่เป็นความเสี่ยงส่วนตัวครับ เพราะเมื่อราคายังไม่ขยับให้เห็น.. หรือIndicator ที่เคยใช้ยังไม่ชัดเจน แต่เข้าซื้อไปแล้วเพราะคิดว่าตัวเองเข้าใจข่าว พอราคาหุ้นมันไม่ค่อยขยับก็ต้องผิดหวัง และตัดขายออกมา... เพราะธรรมชาติในการลงทุนนั้นเขาไม่ใช่คนที่มองข้อเท็จจริงทางธุรกิจ แต่นักลงทุนคนนี้เขาเชี่ยวชาญการแกว่งตัวของราคาต่างหาก ครั้งนี้จับผิด.. ไม่จับ Emotion แต่ดันไปจับข่าว ด้วยความไม่ชำนาญ และรีบร้อนเกินไปก็เกิดความผิดพลาดได้ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 48 13:09:13 จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 นักลงทุนที่มองข้อเท็จจริงก็จับผิดจับถูกอยู่บ่อย ๆ เหมือนกันครับ กลุ่มนี้จะถูก “ราคาหุ้นบนกระดาน” ทำให้เสียสมาธิ หุ้นบางตัวถือมาจนปลวกจะขึ้นแล้ว ห้าหกปีที่ถืออยู่นี่กำไรกันบานเบอะ ข้อเท็จจริงของบริษัทกำลังชี้ให้เห็นว่า กำไรที่เคยมหาศาลเมื่อสองปีก่อน เริ่มชะลอลงทุกไตรมาส.. ยังกำไรอยู่ แต่ไม่มี Growth แล้ว หันมามองธุรกิจ.. อ๋อ จำนวนลูกค้ามันเต็มอิ่มแล้ว เพิ่มได้อีกไม่มากนักหรอก ธุรกิจอื่น ๆ ที่พยายามกระจายออกไปก็ไม่ค่อยเห็นความสำเร็จมากนัก Fact กำลังเปิดเผยให้เห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่ายักษ์ใหญ่ขยายตัวไม่ออก ถึงตรงนี้ควรจะทยอยขายทำกำไร (Sale on facts) ได้แล้ว แต่ราคาหุ้นในกระดานยังหวือหวาอยู่ ยังมีบทวิเคราะห์ที่เพิ่งเขียนเมื่อไม่กี่วันนี้ ให้เป้าหมาย (ใหม่) เท่านั้นเท่านี้... ทนความยั่วยวนไม่ไหว ยังไม่ขาย จะรอจังหวะตลาดไล่ราคาก่อนแล้วค่อยขาย... นี่ก็ไม่เข้าใจธรรมชาติของตัวเอง  ถ้าราคาวูบลงมา ตอนนั้นก็จะขายไม่ทัน เพราะช้าโดยธรรมชาติอยู่แล้ว... เสียหายอีก จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นทุกวัน ทุกนาที ในตลาดหุ้นครับ ยกตัวอย่างนะครับ  จะได้เห็นชัด ๆ (จริง ๆ แล้วยกตัวอย่างมาอธิบายได้อีกหลายร้อยตัวอย่างเลยนะครับ) แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 48 13:13:18 จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:39:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 PTT.. ช่วงที่ราคาครึ่งร้อย คนที่เข้าใจ Fact ของธุรกิจก็น่าจะเข้าซื้อมาตั้งนานแล้ว แต่ตลาดส่วนใหญ่ยังไม่สนใจ.. ผมจำได้ว่ามีฝรั่งคนนึงเคยบอกว่าราคาปตท. ที่เขาประเมินตามพื้นฐานธุรกิจ เอาไว้อยู่ที่ประมาณ 100 บาท นักลงทุนไทยหัวเราะกันทั้งห้อง นักวิเคราะห์ไทยชื่อดังคนหนึ่งถาม  ร้อยนึงนี่สองหุ้นเหรอ?? เรียกเสียงฮา+ปรบมือกันลั่นห้อง หลังจากนั้นหลายเดือนราคาก็ยังไม่ได้โงหัวขึ้นมา นักวิเคราะห์คนเดิมที่เยาะเย้ยเขาก็ออกมาซ้ำบนหน้าจอทีวีอีก "ผมบอกแล้วว่าอย่าซื้อ อย่าซื้อ  หุ้นปตท.ก็เหมือนการบินไทยนั่นแหละ อืดอาด กระจายหุ้นเยอะ หุ้นแบบนี้ขึ้นยาก" คนที่อดทนไม่ได้ต่อความยั่วยวนของราคาที่เหวี่ยงไปมา ก็พยายามหาเหตุผลมาให้ตัวเองขาย ถึงตรงนี้ ราคาหุ้นบนกระดานก็บอกอนาคตจริง ๆ ครับ.. เป็นอนาคตที่ขึ้นอยู่กับว่า ใครเป็นคนมอง และมองไปนานแค่ไหน?? สุดท้าย Fact ก็ยืนยันตัวมันเองด้วยผลประกอบการ ตลาดก็ต้องกลับลำมาไล่ราคา.. จนตอนนี้ร้อนสุด ๆ ใคร ๆ ก็บอกให้ซื้อ นักวิเคราะห์คนที่เคยถามว่าปตท.ร้อยนึงน่ะสองหุ้นเหรอ??   เขียนบทวิเคราะห์ให้ซื้อที่ราคาร้อยสี่สิบกว่าบาท เพราะราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ร้อยเจ็ดสิบกว่าบาท ** ถ้าเป็นเสนาธิการในสงคราม ผู้นำทัพคงต้องจับไปขังคุกขี้ไก่แล้ว** แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 48 13:15:51 จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:39:26 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อีกอันนึงจะได้เห็นง่าย ๆ CPF ... เมื่อปีที่แล้วบริษัทประกาศ Fact ว่าไม่มีปัญหากับหวัดนก คนที่ตาม Fact เชิงธุรกิจก็จะพยายามหาว่าบริษัทพูดจริงมั้ย?? เมื่อข้อเท็จจริงยืนยันว่าใช่ แต่ราคาบนกระดานยังดิ่งลงไม่ยอมหยุด นักลงทุนที่เข้าใจข้อเท็จจริงก็ใจเย็น รอจังหวะทยอยเข้าซื้อ เพราะตลาดกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก ราคาหุ้นรูดลงมาเหลือแค่สามบาทกว่า ๆ (ต่ำกว่า Book Valueไปแล้ว) ใคร ๆ ก็ถามว่า โง่หรือเปล่าที่จะเข้าซื้อ ...ซื้อไปได้ไง?? ถ้ามันดีจริงทำไมถึงลงล่ะ??  ผมไม่รู้จะอธิบายให้เขาฟังยังไง... เรื่องมันยาวอย่างที่คุณอ่านกันมานี่แหละ แต่คนที่มองธุรกิจของบริษัทกลับจะต้องยิ่งตรวจสอบข่าวตลอดเวลา และข้อเท็จจริงที่ได้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง Q1 ปีนี้บริษัทประกาศผลกำไรออกมาดี (ยืนยันFact) แต่ราคาหุ้นบนกระดานที่ยังเมาหมัดอยู่ก็แกว่งตัวอยู่แถว ๆ 4 บาทต้น ๆ อยู่นาน นักวิเคราะห์กับข่าวไม่ค่อยดีก็ยังโหมกระหน่ำ จนกระทั่งบริษัทประกาศผลประกอบการออกมา "ดีมาก" ในไตรมาสที่สอง (เป็นการยืนยัน Fact ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว) ก่อนหน้านี้นิดหน่อยราคาหุ้นเริ่มขยับสูงขึ้นมาบ้างแล้วจากคนบางกลุ่มที่ทยอยเก็บ.. พอตลาดได้รับข่าวและบทวิเคราะห์ก็เฮโลกันเข้ามาไล่ราคา จนทุกวันนี้คนที่ซื้อเมื่อตอนที่ตลาด Panic เกินกว่าเหตุ (ต่ำกว่าสี่บาท) ก็ได้ชื่นใจแล้ว **ช่วงตกต่ำสุด ๆ นักวิเคราะห์คนนึงยังพูดบนเวทีบอกให้ขายตอนสามบาทกว่า ๆ เพราะบริษัทไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ และเรายังกังวลกับผลกระทบจากไข้หวัดนก เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตอนราคาหุ้นห้าบาทสามสิบ ออกบทวิเคราะห์ให้ซื้อทุกราคา เพราะวางเป้าหมายเอาไว้หกบาท นี่ก็ต้องเอาไปเข้าคุกขี้ไก่อีกคนนึง.. จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:40:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 นักล่าที่ดีต้องเข้าใจป่า เข้าใจเกมของตัวเอง และอดทนรอคอยอย่างใจเย็น อย่าพยายามเอาเหตุผลสองอย่างมาปนกัน ซื้อขายด้วยโมเมนตัมของราคาบนกระดานก็มียุทธวิธีหนึ่ง ซื้อขายด้วยข้อเท็จจริงทางธุรกิจก็ต้องใช้อีกยุทธวิธีหนึ่ง จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 การซื้อขายด้วยข้อเท็จจริง.. จะช้ากว่า และดูเหมือนจะเรื่องมากกว่า บางครั้งก็ต้องทนหงุดหงิดกับการแกว่งตัวด้วยข่าวไร้สาระ แต่ก็ต้องอดทนและตรวจสอบ Fact อยู่เสมอ ถ้าทำได้..สามารถทำROI ได้เกิน 50% ในระยะเวลาซักปีนึง ก็ถือว่าน่าพอใจ ถ้าทำได้สม่ำเสมอ ก็เป็นอาชีพที่มั่นคงดีทีเดียวครับ การมองเชิงธุรกิจเป็นวิธีที่ผมเข้าใจมันมากกว่ามอง Emotional ของตลาด และคิดว่าการเข้าใจFact จะง่ายกว่าและทำให้พอร์ตของผมมีความปลอดภัย ผมถึงต้องพยายามหา Fact ตลอดเวลา จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:41:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 **แต่ต้องเข้าใจว่าหลายคนเขาก็สำเร็จอย่างมากจากการ อ่าน Emotional ของตลาดนะครับ ของแบบนี้อยู่ที่ความถนัด.. แต่อย่าเอามาปนกัน ** จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กับ Sattel ผมเจอมาเยอะครับ เริ่มเข้าซื้อตั้งแต่ตลาด Panic จลาจลที่กัมพูชา เจอข่าวเยอะแยะมากมาย เพิ่มทุนไม่หมดมั่งหละ.. ชินไม่เอามั่งหละ.. จรวดยิงไม่ขึ้นแน่นอน.. วงในเขาบอกมา เห็นมั้ย... ต้องเลื่อนอีกแล้ว.. ยิงไม่ขึ้นหรอก “ถ้าดีจริง ทำไมราคาหุ้นในกระดานถึงลงล่ะ??” “ราคาหุ้นในกระดาน เป็นตัวบอกอนาคต..” ผมว่าคำถามพวกนี้ได้รับคำตอบไปพอสมควรแล้วครับ จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พอดีมีการเปิดประเด็นเรื่องข้อเท็จจริงนี้ขึ้นมาซึ่งแน่นอนว่า มันจะเกี่ยวเนื่องกับผลประกอบการของบริษัทอย่างมากในระยะยาว ผมถึงถามหา Fact ที่หวังว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้มาแสดงความเห็นถึง การวางเครือข่าย Wimax ทีเดียวทั่วประเทศว่าจะคุ้มต้นทุนของคนที่ได้รับสัมปทานไปหรือไม่?? สำหรับ Fact เท่าที่ผมค้นหามา.. ยังมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่านี้อีกพอสมควรครับ.. ส่วนราคาหุ้นบนกระดานจะแกว่งลงมาอีกก็ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่ *** SATTEL ไม่ใช่หุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งมากนักอย่างปตท. หรือ ซีพีที่ยกตัวอย่าง แต่เป็นกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต การลงทุนของผมใน Sattel จึงมีมูลค่าประมาณ 1 ใน 5 ของพอร์ตครับ ขออภัยอีกครั้งหนึ่งที่เขียนเยอะมาก แต่ก็อยากอธิบายให้เข้าใจถึงสถานะภาพการลงทุนของผม ซึ่งอาจจะแตกต่างจากหลาย ๆ ท่านไปบ้าง..   แต่ก็เป็นไปเพื่อผลกำไรเช่นเดียวกันครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน... ขอให้ทุกท่านสำเร็จกับการลงทุนครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 48 13:21:54 จากคุณ : Darkside of the White - [ 11 ก.ย. 48 11:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ... ขอบคุณข้อคิดดีๆของคุณ Darkside ครับ จากคุณ : roadtrip - [ 11 ก.ย. 48 17:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โอว.. นี่ก็อีก ท่านที่ต้องเอาแบบอย่าง จากคุณ : virust - [ 11 ก.ย. 48 19:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณครับ คุณ darkside of the white ได้ความรู้มากๆครับ จากคุณ : แมงเม่ามือใหม่ - [ 11 ก.ย. 48 21:30:56 A:58.136.65.57 X: TicketID:080268 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณมาก ๆ คะ จากคุณ : mkt - [ 12 ก.ย. 48 20:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ip star / wimax  ชิดซ้ายตกท่อไปเลย อีก 3 ปี  spox จะมาแล้ว ถูกกว่า แถมคลื่นยังชอนใชใต้ดินทะลุโลกได้อีกด้วย 55555555555555 จากคุณ : เด็กดีดี500 - [ 13 ก.ย. 48 16:05:10 ]