ความคิดเห็นที่ 5
ความคิดเห็นนี้เหมาะสำหรับบุคคลไม่มีความรู้เรื่องหุ้น ไม่เหมาะพวกเก็งกำไรหรือนักพนัน อย่างไรก็ตามต้องศึกษาค้นคว้าว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นไปได้หรือเปล่า อย่าเชื่อแบบไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร เชื่อคนง่ายจะทำให้เราเสียหายง่ายๆเช่นกัน ต้องเชื่อตัวเอง
จากประสบการณ์ที่อยู่ในตลาดมาก็หลายปี ขอแนะนำด้วยความปรารถนาดี
อย่าคิดยึดเล่นหุ้นเป็นอาชีพหลัก หางานทำการเป็นหลักเป็นฐานของตัวเองและครอบครัว อนาคตอยู่ที่งาน ในขณะเดียวกันหุ้นเล่นได้ควรเล่นเป็นการสะสมออมเงิน ไม่ต้องไปมกมุนกับมันขอเวลาเพียง 5-10 นาทีต่อวันดูข่าวในหนังสือพิมพ์ เข้าอ่านความเห็นในเวปต่างๆเสริมความรู้
ก่อนอื่นต้องศึกษาค้นคว้าหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ เช่นว่า asp, cns, kest, zmico ว่ามีฐานะการเงินศักย์ภาพจ่ายปันผล หุ้นเหล่านี้จะขึ้นลงตามตลาดปริมาณซื้อขายแต่ละวัน ความเคลื่อนไหวราคาในอดีตย้อนหลังไม่ต่ำก่วา 5 ปี ค้นคว้าราคาสูงต่ำแต่ละรอบวงจรวัฏจักรจักพบได้ว่าผลต่างราคาหุ้นระหว่าง low/high ได้ถึง 50% หรืออาจสูงถึง 100% ต้องค้นคว้าดูประวัติในอดีตได้ว่าจุด low และ high ตอนนั้นวอลลุ่มซื้อขาย(จำนวนเงินต่อวัน)เท่าไร หลังศึกษาท่านจะพบว่าราคาขึ้นหรือลงของบริษัทเหล่านี้จะเป็นไปตามปริมาณซื้อขายแต่ละวัน (a) ถ้าปริมาณซื้อขายถดทอยน้อยลง ราคาก็จะซึมๆลงไปเรื่อยๆ ช่วงนี้เป็นขาลง; (b) เช่นเดียวกันกับขาขึ้นราคาก็ขึ้นตามปริมาณซื้อขาย
ระหว่างศึกษาหุ้น ควรเริ่มต้นเก็บสถิติความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของแต่ละวันของหุ้นเหล่านี้ ใช้เวลาวันละไม่กี่นาทีทุกๆวันด้วยความอดทนเป็นเดือนๆปีๆ จริงอยู่สามารถหาดูราคาในอดีตได้ทันทีแต่ว่าจะเป็นเพียงผ่านๆตาแบบไม่มีความทรงจำหรือเข้าใจลึกซึ้ง การเก็บสถิติไม่ต่างไปกับการเรียนหนังสือ เช่นว่า วิชาเลขต้องเริ่มจากอนุบาลไม่รู้อะไรว่าทำตามครูสอนทุกๆวันแบบนกแก้วนกขุนทอง ทำไหม หนึ่งบวกหนึ่งถึงเท่ากับสอง ความรู้จะค่อยๆซึมซับเข้าในตัวเข้าใจขึ้น พอถึงชันประถมเข้าใจมากขึ้นนำสิ่งที่เรียนมาใช้กับชิวิตประจำวัน ใช่ว่าจะพอแง่นี้ยังต้องเรียนต่อถึงมหาวิทยาลัยใช้เวลาเป็นสิบปีขึ้นไป เช่นเดียวกับการเก็บสถิติความเคลื่อนไหวราคาหุ้นจะค่อยๆซึมซับเข้าในตัวคุณค่อยๆเข้าใจถึงความสัมพันธ์ตัวเลขเหล่านี้ขึ้นทุกๆวัน ลึกถึงตัวหุ้นเหล่านี้พร้อมวงจรวัฏจักรขึ้นๆลงๆ ส่งผลให้มีความเชื่อหมั่นว่ากำลังทำอะไรอยู่
เริ่มสถิติตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปใน excel ประกอบไปด้วย column: (1) Date; (2) SET; (3) Volume; (4) ASP; (5) CNS; (6) KEST; & (7) ZMICO Column (1) & (2) ไม่มี column ย่อยตัวเลขปิดสิ้นสุดของแต่ละวันของ ดัชนีและปริมาณซื้อขาย Column (2) - (7) ใต้มี column ย่อยเก็บราคาหุ้น (a) High; (b) Low; (c) Close ของแต่ละวัน
หลังจากสังเกตความเคลื่อนไหวครบหนึ่งวงจรจุดซื้อซึ่งอาจไม่ใช่จุดต่ำสุด (เทวดาก็ไม่รู้) ถึงจะลงต่ำอีกก็ไม่มาก ซื้อแล้วอยู่เฉยดูหนังสือพิมพ์ที่มีการรายงานหุ้นว่าปริมาณซื้อขายเท่าไร ระหว่างรออย่าไปได้ตื่นเต้นกับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่ซื้อไว้ (a) ถ้าราคาขึ้นมาได้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ขาย อย่าไปฟังนักวิเคราะห์ว่าดัชนีหรือราคาหุ้นจะไปเท่านั้นเท่านี้ อีกนั้นและถ้าราคาหุ้นจะไปต่ออย่าเสียใจ เพราะได้ประสพความสำเร็จ goal ของเรา; (b) เอาเงินเข้าแบงค์ไม่ซื้อหุ้นเด็ดขาด; (c) ใจเย็นรอด้วยความอดทน ทำงานทำการงานอาชีพอย่างดีเพื่อความเจริญก้าวหน้าของตัวเอง รอวันซื้อต่อเมื่อวอลลุ่มซื้อขายลงมาที่เป้าตั้งไว้แต่ต้น ขออย่างเดียวพอถึงเวลาเป้าหมายต้องกล้าๆซื้อไม่ต้องไปวิตกต่อข่าวร้ายต่างๆซึ่งจะมีเข้ามาทำให้กลัวอย่างมากมาย ขอย้ำใจกล้าๆซื้อแล้วรอขายตามเป้า
1. จุดซื้อจุดขาย
จากประสบการณ์ในอดีต วอลลุ่มต่ำสุดอยู่ที่ 1,000 ล้านบาทตอนเศรษฐกิจฟองสะบู่ เนื่องจาก market caps ใหญ่ขึ้นมาร่วมล้านล้านบาทโอกาศที่จะเห็น 1,000 ล้านบาทย่อมเป็นไปค่อนข้างยาก คิดว่าจุดซื้อ 7,000-7,500 ล้านบาท แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขวอลลุ่มค่อยๆซึมลงๆเป็นเดือนๆและผู้คนจะออกมาแสดงความเห็นเบื่อหน่าย กระทู้ที่ว่าเซียนๆทั้งหลายจะหดหายไปจากเวปต่างๆ การเข้าอ่านความเห็นในเวปต่างๆมีประโยชน์แต่อย่าให้อารมย์คล้อยตามความเห็นต่างๆที่อ่านมา
2. สะสมออกทรัพย์
การเล่นหุ้นเป็นการเสี่ยงตลอดเวลา แต่วิธีว่านี้เป็นการสะสมออมทรัพย์ ความเสี่ยงแทบไม่มี อยากให้เล่นแบบสบายๆไม่เครียดมาเป็นห่วงกับมันตลอดเวลา คิดว่าเงินจำนวน 10,000 ถึง 50,000 บาทที่สามารถปันมาเล่นหุ้นต้องการให้เป็นเงินล้านๆในอนาคตซึ่งจะต้องการเงินอย่างมากๆ นั้นหมายถึงว่าต้องไม่แตะต้องเงินจำนี้เป็นสิบปีขึ้นไป ระหว่างนี้ไม่เอาไปใช้อย่างอื่นนอกจากลงทุนในหุ้น มาลองคำนวนเล่นๆว่าเงินท่าน(50,000)จะพอกพูนขึ้นเท่าไรในสิบปีข้างหน้า สมมติว่าท่านจะซื้อขาย 2 รอบใน 3 ปี ในระยะเวลาสิบปีท่านจะซื้อขายเพียง 7 รอบๆละกำไร 50% ขอคำลองคำนวน 50,000 x 1.5 x 1.5 x 1.5 x 1.5 x 1.5 x 1.5 x 1.5 นี้คือจำนวนเงินที่มีโอกาสที่จะทำได้ ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝันมันเป็นฝันที่สามารถเป็นความจริได้ สำเร็จหรือไม่อยู่ที่ความสามารถเฉพาะตัวแต่ละท่านมีความอดทนวินัยอย่างเคร่งครัดตลอดเวลา หลุดเมื่อไรจบเมื่อนั้น 3. จุดจบกลางคัน
ขอย้ำวิธีดังกล่าวเป็นการสะสมทรัพย์ค่อยเป็นค่อยไป มีความอดทนไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดๆทั้งสิ้น เริ่มต้นด้วยเงินเท่าไรก็ให้เป็นเท่านั้น ข้อสำคัญไม่มีการเพิ่มเงินอย่างเด็ดขาด ถ้าเพิ่มเงินเมื่อไรจะไม่เป็นอันกินอันนอนมีความวิตกกังวลเงินที่ลงไป จิตใจจะมกมุนจดจ่ออยู่กับหุ้นตลอดเวลาไม่มีกะจิตกะใจทำงาน ถึงตอนนั้นได้เปลี่ยนจากสะสมทรัพย์มาเป็นนักพนันเต็มรูปแบบ นี้คือจุดจบสิ่งที่หวังไว้ก็จบเพียงเท่านี้
สร้างกรุงโรมใช่ว่าสร้างวันเดียวเสร็จ เราคิดใหญ่เงินหมื่นเป็นเงินล้านต้องใช้เวลาก็ต้อง อดทน ใจเย็นๆ ยิ่งเริ่มต้นตอนเข้าทำงานใหม่ๆอายุไม่ถึงสามสิบ เวลาสิบยี่สิบปีไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ทำได้หรือไม่เท่านั้นเอง
4. ไม่มีอะไรเสีย
ขอให้นั่งคิดดีๆว่ามีอะไรที่จะเสียวิธีนี้ ถ้าวอลลุ่มลงมาไม่ถึงเป้ก็ไม่ซื้อเงินก็ยังอยู่ในกระเป้า รอขายขาขี้นแล้วอยู่เฉยๆไม่ซื้ออย่างเด็ดขาด โอกาศติดหุ้นบนยอดดอยตัดทิ้งไปได้เลย หุ้นลงมาที่เป้าเงินอยู่ครบทุกบาททุกสตางค์พร้อมที่จะซื้อ ราคาที่ซื้อเป็นราคาต่ำสุดๆ(เท่าที่เข้าใจ) แน่นอนลงไปอีกได้แต่ไม่ต้องตกใจวิตกกังวลเพราะมันเป็น "เนินเตี้ย" ย้ำ "เนินเตี้ย" ไม่นานเกินรอก็ภาวะ "หมี" จะหวนกลับภาวะ "กระทิง" ตามภาวะตลาดหุ้นสัจจะธรรมความจริงของสิ่งสากโลกขึ้นๆลงๆสลับกันไปสลับกันมาไม่สิ้นสุด สติปัญญาคุณเท่านั้นที่จะนำความสำเร็จพร้อมๆกับร่ำรวยสู่ตัวท่าน
ขอให้นำสิ่งที่กล่าวข้างต้นไปคิดถึงความเป็นไปได้ ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระก็ขอให้ลืมเสมือนหนึ่งไม่เคยได้เห็นได้อ่านเลย
ขอให้โชคดีรวยๆๆๆ
จากคุณ :
luck me
- [
12 ก.ย. 48 21:32:09
]
|
|
|