ความคิดเห็นที่ 9
รายได้ 1,200,000 /ปี ถ้าเป็นเงินเดือน 40(1) หักค่าใช้จ่ายได้ 40% ไม่เกิน 60,000 หลังหักค่าใช้จ่าย 1,200,000-60,000=1,140,000 หักลดหย่อนส่วนตัวได้ 30,000=1,110,000 ต้องเสียภาษี ดังนี้ แสนแรก ไม่เสีย 0 +แสนที่สองถึงห้า เสียร้อยละสิบ 40,00 +แสนที่หกถึงล้าน เสียร้อยละยี่สิบ 100,000 + ไม่เกินสี่ล้านเสียร้อยละสามสิบ 33,000 รวมภาษี 173,000 rmf ลดภาษีได้ ไม่เกินร้อยละสิบห้าไม่เกินสามแสน 1,200,000x0.15=180,000
LTF ลดภาษีได้ ไม่เกินร้อยละสิบห้าไม่เกินสามแสน 1,200,000 x 0.15=180,000 หักลดหย่อนภาษี 360,000 เหลือที่ต้องเสียภาษี1,110,000 - 360,000=750,000 ต้องเสียภาษี 40,000(400,000x0.1) +50,000(250,000x0.2)=90,000 ประหยัดภาษีไป 173,000-90,000=83,000 ถ้ามีพ่อ,แม่,พ่อตา,แม่ยาย เงินได้น้อยกว่าสามหมื่นต่อปี ลดได้อีก 120,000
เหลือที่ต้องเสียภาษี 750,000-120,000=630,000 ต้องเสียภาษี 40,000(400,000x0.1) +26,000(130,000x0.2)=66,000 ประหยัดภาษีไป 173,000-66,000=107,000
ประกันชีวิต ลดได้ไม่เกิน 50,000 เหลือที่ต้องเสียภาษี 630,000-50,000=580,000 ต้องเสียภาษี 40,000(400,000x0.1) +16,000(80,000x0.2)=56,000 ประหยัดภาษีไป 173,000-56,000=117,000
บริจาคแบบหนึ่งได้สองไม่เกินร้อยละสิบของรายได้ที่นำมาคิดภาษี 580,000x0.1=58,000 ลดภาษีได้ 58,000x2=116,000 เหลือที่ต้องเสียภาษี 580,000-116,000=464,000 ต้องเสียภาษี 36,400(3640,00x0.1) ประหยัดภาษีไป 173,000-36,400=136,6000
เมื่อเราซื้อ rmf หรือ ltf ควรหมั่นดูแลบ้างอย่างน้อยเดือนละครั้งตรวจสอบผลประกอบการ และย้ายมันไปอยู่ในที่ที่ทำเงินได้มาก(ย้ายไปกองหุ้นเวลาหุ้นขึ้น) ที่ไหนลดค่า(ย้ายออกกองหุ้นเวลาหุ้นลง)ต้องย้ายออก rmf จะได้เปรียบในแง่ย้ายได้มาก ltfย้ายได้น้อย(ถือตราสารได้จำกัด) แต่ได้เปรียบเรื่องอายุที่สั้นทำให้บริหารง่ายขึ้น
จากคุณ :
trakulsom@yahoo.com (trakulsom)
- [
22 ก.ย. 48 19:03:08
]
|
|
|