ความคิดเห็นที่ 4
วันครบกำไนดรับเงินหรือจ่ายเงินจะตกวันที่สามนับจากวันซื้อหรือขายไม่นับวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดทำการ ที่เรียกกัน t + 3 เช่นว่าซื้อหรือขายหุ้นวันนี้ครบกำหนดจ่ายหรือรับจะเป็นวันพุทธที่ 5 ตุลาคม 2548 (ไม่นับวันที่ 1 & 2 เพราะเป็นวันเสาร์อาทิตย์) ถ้าเป็นการหักบัญชีผ่าน ats จะต้องมีเงินเหลือพอจ่ายในวันที่ 5 ตุลาคม 2548 จะหักเวลาไหนก็แล้วแต่ละโบรก ส่วนใหญ่แทบเป็นเวลาเดียวกับที่เปิดธนาคาร ฉะนั้นการที่เอาเงินเข้าวันนั้นอาจไม่ทัน นั้นหมายความว่าผิดนัดจ่ายเงินจะถูกปรับ 500 บาท บวกดอกเบี้ยตาม
จขกท มีพอร์ตวงเงิน หนึ่งล้านบาท Trade เท่าไรก็ได้ในวงเงิน 1,000,000 แต่ไม่เกินวงเงินที่ที่เหลือ นั้นหมายความว่าหักเงินที่ค้างจ่ายหรือยังไม่ครบกำหนด เช่นว่า ท
1. จขกท ซื้อหุ้นวันนี้ 30 กันยายน เป็นเงิน 300,000 บาทรวมค่าคอมม์แล้ว ครบกำหนดจ่ายในวันที่ 5 ตุลาคม ในวันจันทร์จะซื้อได้อีกไม่เกิน 700,000 บาทสำหรับค่าหุ้นบวกคอมม์
2. หุ้นที่ซื้อวันนี้ขายในวันจันทร์ 3 ตุลาคม เงินที่จะได้รับ 306,000 บาทเงินจะเข้าบัญชีวันที่ 6 ตุลาคม หลังวันครบกำหนดที่จะต้องจ่าย 300,000 บาทสำหรับหุ้นที่ซื้อวันนี้ จขกท ต้องเอาเงินให้ทันมิฉะนั้นแล้วโดนค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย
3. ระหว่างนี้ถึงวันครบกำหนดถ้ามีการขายหุ้น credit line ก็จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามจำนวนเงินที่จะได้รับจากการขายหรือซื้อหุ้น ซื้อได้ตามเงินที่เหลือแต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท 4. ซื้อขายภายในวันเดียวกัน จำนวนเงินหักลบส่วนเหลือหรือขาดจะนำเข้าบัญชีหรือหักบัญชีในวันครบกำหนด
โบรกไม่มีการออกเงินล่วงหน้าให้ มีแต่จะขอเงินมัดจำจากลูกค้าถ้าวงเงินในพอร์ตเกิน 1,000,000 บาท ฉะนั้นถ้ามาร์จะเพิ่มวงเงินให้อีกอย่ารับ รายละเอียดเกี่ยวกับมัดจำให้สอบถามมาร์
สงสัยอะไรถามมาร์และต้องทำความเข้าใจ ถ้าถูกปรับมันเป็นเงิน จขกท ถึงเวลานั้นไม่มีใครช่วยได้
สติปัญญาเท่านั้นนำความสำเร็จร่ำรวยสู่ตัวเราเอง ขอให้โชคดีรวยๆๆๆ
จากคุณ :
luck me
- [
30 ก.ย. 48 17:59:42
]
|
|
|