ความคิดเห็นที่ 2
ผมว่าระวังผลประกอบการที่จะออกมาด้วยก็จะดีนะครับ
*************************************
กลุ่มเหล็ก : การผลิตเหล็กของจีนขยายตัวสูงทำให้เกิดอุปทานส่วนเกินมาก ส่งผลกดดันราคาเหล็ก
The International Iron and Steel Institute (IISI) ได้ประเมินแนวโน้มความต้องการเหล็กสำเร็จรูป (Apparent Steel Demand) ของโลก โดยคาดหมายว่าจะเติบโตสู่ระดับ 1,040-1,055 ล้านตัน ในปี ค.ศ. 2006 จากระดับ 971 ล้านตันในปี ค.ศ. 2004 หรือ มีการเติบโตเฉลี่ย 4-5% ในระหว่างปี ค.ศ. 2005 - 2006 โดยเฉพาะความต้องการจากจีนจะขยายตัว 28 ล้านตัน หรือ 10% ในปี ค.ศ. 2005 และ 20-30 ล้านตัน หรือ 7-10% ในปี ค.ศ. 2006 สำหรับประเทศอื่นๆของโลกนอกจากประเทศจีน คาดหมายว่าในปี ค.ศ. 2005 จะมีความต้องการเหล็กสำเร็จรูปใกล้เคียงกับปี ค.ศ. 2004 และ ในปี ค.ศ. 2006 จะเพิ่มขึ้น 20-25 ล้านตัน หรือ 3-3.5%
ทางด้านการผลิตเหล็กดิบ (Crude Steel Production) ของโลก จากข้อมูลของ International Iron and Steel Institute (IISI) ระบุว่า ยอดผลิตเหล็กดิบของจีนในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2548 ขยายตัวสูงถึง 28.2% สู่ระดับ 224.8 ล้านตัน ในขณะที่ประเทศอื่นๆยกเว้นประเทศจีนปรากฏว่าในช่วง 8 เดือนแรก มียอดผลิตเหล็กดิบลดลง 2.4 ล้านตัน หรือ 0.5%
ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่าสัดส่วนความต้องการเหล็กสำเร็จรูปในจีน และ การผลิตเหล็กดิบของจีน มีสัดส่วนที่สูงถึง 30 และ 31% ตามลำดับ การเปลี่ยนแปลงในอุปสงค์ และ อุปทานในจีน จึงย่อมส่งผลสำคัญต่อราคาเหล็กในตลาดโลก ในปี ค.ศ. 2005 ถ้าสมมติให้จีนมีการผลิตเหล็กดิบมีการขยายตัวในอัตราเดียวกับ 8 เดือนแรกซึ่งเท่ากับ 28.2% จะทำให้ยอดผลิตเหล็กรวมในจีนเท่ากับ 349 ล้านตัน เทียบกับความต้องการเหล็กสำเร็จรูปในจีนที่ IISI ประเมินว่าจะขยายตัว 10.3% เป็น 300 ล้านตัน ดังนั้น จึงเกิดการผลิตมากกว่าความต้องการในจีนประมาณ 49 ล้านตัน เทียบกับปี ค.ศ. 2004 ที่การผลิตเหล็กดิบในจีนเท่ากับความต้องการหรือเท่ากับ 272 ล้านตัน ภาวะที่การผลิตมากกว่าความต้องการดังกล่าวนับว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาเหล็กในตลาดโลกยังอยู่ในภาวะซบเซา
จากภาวะซบเซาของราคาเหล็กในตลาดโลก เราคาดหมายว่าจะยังส่งผลลบต่อในระยะสั้นต่อผู้ผลิตเหล็กในประเทศ และ ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสสามจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี เนื่องจากยังมีสต็อกวัตถุดิบราคาแพงที่ติดมาจากช่วงคาบเกี่ยวระหว่างไตรมาสแรกและไตรมาสสอง และทำให้บรรดาพ่อค้าคนกลางคาดว่าจะชะลอตัวการสั่งอยู่
สำหรับคำแนะนำหุ้นในกลุ่มเหล็ก ซึ่งแบ่งเป็น กลุ่มผู้ผลิตเหล็กทรงยาวได้แก่ MS, BSBM และ TYCN และ กลุ่มผู้ผลิตเหล็กทรงแบน ได้แก่ SSI และ NSM เราแนะนำ "ถือ" ทั้ง 5 หลักทรัพย์ โดยคาดหมายว่าผลประกอบการไตรมาสสามจะยังไม่ดี แต่เรายังคาดหวังจะปรับตัวดีขึ้นในปีหน้าหลังจากเริ่มรับรู้ต้นทุนวัตถุดิบที่ถูกลง และ ได้แรงหนุนจากโครงการเมกะโปรเจ็กต์
ที่มา บล.กิมเอ็ง
จากคุณ :
GS Mobile
- [
11 ต.ค. 48 07:22:01
]
|
|
|