CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    จับตา-แปรรูปกฟผ.

    จับตา-แปรรูปกฟผ.
    ขบวนการปล้นชาติ
    สร้างอาณาจักรใหม่
    ขย่มตลาดหุ้นดิ่ง-ดับ


    “วุฒิพงษ์” แฉให้จับตาแปรรูป กฟผ. เข้าข่าย “ขบวนการปล้นชาติ” หวังเป็นอาณาจักร “Shin Energy” แยบยลเชื่อมไฟเบอร์ออพติคเข้าเสาไฟฟ้า หวังขยายเครือข่ายโทรศัพท์คาดเม็ดเงินสูง 6 หมื่นล้านบาท พร้อมเขย่าตลาดหุ้นให้ดิ่งหรือดับได้ในกำมือ แขวะต่อไปคนรวยที่สุดในโลกไม่ใช่ “บิลเกทส์” อีกแล้ว แต่อยู่ใกล้ๆ แถวนี้ ส.ว.ร้อนใจเตรียมแถลงข่าวประจานอย่างเป็นทางการ!

    วันที่ 13 ต.ค. 2548 ที่ห้องประชุมกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา ที่มี นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานี เป็นประธานได้จัดพิจารณาเรื่องการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) โดยเชิญนายวุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษและนักวิชาการอิสระ เข้าชี้แจงต่อกมธ.

    นายวุฒิพงษ์กล่าวว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลชุดนี้ถือเป็นเดิมพันทางธุรกิจครั้งใหญ่ โดยพาดพิง 4 ส่วนด้วยกันคือ
    1. ปตท. ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาดหลักทรัพย์มีมูลค่า 5 ล้านล้านบาท
    2. ปิโตรเคมี มีมูลค่าตลาด 3 แสนล้านบาท
    3. ธุรกิจโทรคมนาคมอีก 5 แสนล้านบาท แค่รวมสามส่วนนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลถึง 2.1 ล้านล้านบาท
    4. กฟผ.ซึ่งยังไม่ได้เข้าตลาดจึงยังไม่รู้ว่ามีมูลค่าเท่าไหร่ แต่คาดว่าใกล้เคียงกับ ปตท.

    ทั้ง 4 ส่วนนี้น่าจะเป็นมูลค่า 3.4 ล้านล้านบาทเกินกว่ามูลค่าครึ่งหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ แสดงให้เห็นว่าระบบเศรษฐกิจของไทยครึ่งหนึ่งอยู่ในภาคธุรกิจพลังงาน แสดงให้เห็นว่าการทำธุรกิจการเงินนี้แหลมคมลุ่มลึกมากขึ้น ขณะเดียวกันแบบคลาสสิคอย่างหักหัวคิวอย่างสนามบินสุวรรณภูมิก็ยังมีอยู่

    ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษได้ตั้งข้อสังเกตต่อที่ประชุมว่า การพิจารณาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูป ปตท.จะพบว่า คนพวกนี้เคยขายบางจากมาก่อนแล้ว และต่อไปก็จะมาทำการแปรรูป กฟผ.นี้ด้วย รัฐบาลจัดทีมชุดนี้วิ่งรอกตามชุดต่าง ๆ ที่ต้องการแปรรูป

    นายวุฒิพงษ์กล่าวว่า ในส่วนของโทรคนาคมนั้นมาเกี่ยวพันเป็น 1ใน 4 ของธุรกิจพลังงานได้ก็เพราะว่า เสาไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ในส่วนของแกนสายได้สอดไฟเบอร์ออพติคไว้แล้ว ถือเป็นโครงข่ายโทรคมนาคมที่วิเศษที่สุด ดีกว่าโครงข่ายของ กสท. เสียอีก เพราะว่า กฝผ.สามารถเข้าไปในบางพื้นที่ ที่กสท.เข้าไปไม่ได้ ตรงนี้ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะฉีกออกไปเป็นอีกหนึ่งบริษัทคือ อีแก็ต-เทเลคอม ได้สบายเพราะเป็นเจ้าของสายไฟเบอร์ออพติคที่แพร่ขยายไปตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ ลองคิดดูว่าคอมลิงค์ซึ่งวิ่งตามเฉพาะทางรถไฟ ในแต่ละภูมิภาคจะมีสายหลักอยู่เส้นเดียวยังสร้างความร่ำรวยได้มหาศาลแล้ว โครงข่ายของกฝผ.วิ่งเป็นกระดูกสันหลังที่ดีที่สุดในประเทศ จะมีมูลค่าขนาดไหน จริงอยู่ว่าสายไฟของกฟผ.ยังไม่สามารถเชื่อต่อมายังบ้านได้ จำเป็นต้องหาพันธมิตรเพื่อมาทำการเชื่อมต่อตรงนี้ ซึ่งการเชื่อมต่อมายังบ้านมี 2 แบบใหญ่ ๆ คือแบบมีสายซึ่งก็คือการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งคงมีการคิดกันแล้วว่าจะต้องมีการรวมกันเป็นรัฐวิสาหกิจหนึ่งแห่งก่อนแล้วค่อยนำไปขายในตลาดหลักทรัพย์ และการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งอย่างหลังก็คือบริษัทโทรศัพท์มือถือต่าง ๆ นั่นเอง

    ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษกล่าวต่อว่า นอกจากนี้เทคโนโลยีในอนาคตนั้นจะทำให้ปลั๊กไฟบ้านสามารถเสียบสายโทรศัพท์ เพราะฉะนั้นสายไฟฟ้านอกจากจะจ่ายไฟฟ้ายังสามารถส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์ได้ หากรวม กฟผ., การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) จะยิ่งใหญ่กว่าเครือข่ายของดีแทคและเอไอเอส เพราะบริษัทเอกชนทั้งสองได้แต่ฝันเพราะทำอย่างไรก็ไม่ทางทำได้ขนาดนี้

    “ผมขอพูดเป็นสมการแบบง่าย ๆ อย่างสมการแรก ทีเอ็มบี (ธนาคารทหารไทย) บวกไอเอฟซีที (บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) บวกดีบีเอส (ธนาคารดีบีเอส) จะเท่ากับ “Shin Bank” ส่วนกรณี EGATT (กฟผ.) บวก PTT (ปตท.) จะเท่ากับ “Shin Energy” ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ “Shin Telecom” เป็นอาณาจักรใหญ่ ซึ่งใหญ่กว่าครึ่งหนึ่งของระบบเศรษฐกิจประเทศ การนำ กฟผ.เข้าตลาดหุ้นจึงเป็นจิ๊กซอว์ใหญ่ ที่จะทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ กฝผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อไหร่ก็Game Over”นายวุฒิพงษ์กล่าว

    ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษกล่าวต่อว่า เกิน 1 ถึง 2 ปีจากนี้ เราคงเห็นค่าไฟจากหน่วยละ 10 สลึงกลายเป็น 4 บาท ไม่ต่างอะไรจากราคาน้ำมันในขณะนี้ หากมีการขึ้นค่าไฟฟ้าหน่วยละ 1 บาทเงินจะไหลเข้ากระเป๋าเจ้าของ กฝผ. ซึ่งเวลานี้ยังนึกไม่ออกว่าเป็นใคร 1 แสนสองหมื่นล้านบาทต่อปีตรงนี้เฉพาะค่าไฟเท่านั้นยังไม่รวมประโยชน์จากไฟเบอร์ออพติค ต่อไปนี้คนที่รวยที่สุดในโลกคงไม่ใช่บิลเกตส์อีกแล้วแต่จะเป็นคนใกล้ตัวแถวนี้ การแปรรูปการไฟฟ้าจะร้ายแรงกว่า ปตท.มาก เพราะในบ้านเรากิจการการค้าน้ำมันยังผูกขาดไม่สมบูรณ์มีหลายเจ้าที่ค้าน้ำมันแข่งกัน แต่สำหรับไฟฟ้านั้นหากเราไม่ซื้อไฟจาก กฝผ.ก็ต้องไปซื้อถ่านไฟฉายตราแมวดำมาใช้

    “ไม่มีการปล้นชาติครั้งใดหอมหวานเท่าครั้งนี้ เป็นการทำให้อำนาจทางการเมืองควบรวมกับอำนาจทางเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาเราก็เห็นตัวอย่างจากการกระจายหุ้น ปตท.แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น หนึ่งในสามของหุ้น ปตท. ถือครองโดยหน่วยลงทุน 2 หน่วยจากสิงคโปร์ ใครก็ตามที่จะเป็นเจ้าของของหน่วยลงทุนทั้ง 2 หน่วยนี้จะได้ผลประโยชน์ถึง 6 หมื่นล้านบาท ที่สำคัญสามารถทำให้หุ้นขึ้นหรือลงได้แทบทุกวัน แค่บอกว่าจะขยายโรงกลั่นหรือ สร้างโรงไฟฟ้า หุ้นก็พุ่ง พออีกอาทิตย์บอกว่าทบทวนมติครม.หุ้นก็ดิ่ง เวลานี้บ้านเมืองกำลังถูกปลาหมึกยักษ์กิน วิธีการสู้กับปลาหมึกยักษ์ เขาว่าอย่าไปแหย่ที่หนวดให้แทงที่หัว”นายวุฒิพงษ์กล่าวและว่า ในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ทำอะไรร้าย ๆ กับไฟฟ้าและพลังงานเยอะ แต่ก็ยังไม่ร้ายและโจ๋งครึ่มเท่าครั้งนี้

    หลังจากพิจารณาในประเด็นนี้เสร็จสิ้น นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า วันที่ 14 ต.ค.นี้ ตนและเพื่อน ๆ ที่ทำการศึกษาเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ จะเข้าร่วมรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ซึ่งรายการจะย้ายจากเดิมจัดที่หอประชุมใหญ่มาหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นจัดที่หอประชุมเล็กที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แทน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักจากพิจารณาประเด็นนี้เสร็จสิ้น ทางกมธ.จะดำเนินการพิจารณาถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่เกี่ยวกับการแปรรูปกฝผ.ในครั้งนี้ โดยมีบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทับซ้อนเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายและเกี่ยวพันทางด้านการเมือง ซึ่งประเด็นนี้ทางกมธ.จะแถลงให้ทราบครั้งต่อไป

    จากคุณ : huron - [ 15 ต.ค. 48 08:22:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป