ความคิดเห็นที่ 1 ก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งครับ ศึกษาให้ดีก่อนลงทุน  แล้วจะสำเร็จครับ จากคุณ : อาทิตย์จรัสแสง - [ 22 ต.ค. 48 23:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยได้ยินมาว่า กำไรหรือขาดทุน ค่อนข้างมากครับ ถ้าไปเล่นให้ศึกษาให้ดีก่อน แล้วก็ เล่นให้มีระบบ ระเบียบ จากคุณ : Itti_peak - [ วันปิยมหาราช 01:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่นั่นไม่มีนักลงทุนครับ มีแต่นักเก็งกำไร และผู้ประกอบการที่มาป้องกันความเสี่ยง และที่แน่ๆ ตลาดล่วงหน้าสินค้าcommodities เสี่ยงกว่าตลาดหุ้น จากคุณ : แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยอมยิ้ม - [ วันปิยมหาราช 07:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอเตือน ไม่น่าเล่นเลยครับ เพราะรายย่อยจะตายเมื่อเกิดการสวิงแกว่งหนักๆของราคา เนื่องจากมีกฎการ call margin ทันทีที่ขาดทุน 1.50 บาท/ยาง 1 กก. ตย. ... คุณซื้อยางที่ 65 บาท/กก. ถ้าราคาตกเหลือ 63.5 คุณจะต้องเติมเงิน ราคาตกไปที่ 62 บาท คุณต้องเติมเงินอีก ราคาตกไปที่ 60.5 คุณก็ต้องเติมอีก ............................................. ................. .... .. ระหว่างที่คุณเติมเงิน มูลค่ายางในมือคุณก็จะลดลงๆๆๆๆๆๆๆๆจนคุณใจแป้ว ราคาลดลง .1 บาท เงินคุณหายไป 500 บาท/ยาง 1 option (5 ตัน) ราคาลดลง 1 บาท เงินคุณหายไป 5,000 บาท ราคาลดลง 10 บาท เงินคุณหายไป 50,000 บาท และ ราคาลงมาแค่ 1 call margin  คุณรู้สึกขาดทุน ราคาลงมา 2 call margin คุณจะเริ่มกระสับกระส่าย ราคาลง 3 call margin ... คุณรู้สึกกลัว ราคาลดลง 4 call margin ... 5 ... 6 ... ไม่มีจบ ที่ผ่านมา ... ราคาขึ้นไปถึง 73 แล้วก็ทิ้งดิ่งเหลือ 58 บาท ภายในไม่กี่วัน ... หมดตัวเลยนะครับ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 48 10:10:19 แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 48 09:35:04 จากคุณ : แมวม่อน - [ วันปิยมหาราช 09:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณแมวม่อนอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ ว่าจะชำระเงินค่ายางกันเมื่อไหร่ ถ้าเป็นหุ้น 73 เหลือ 58 มันก็ไม่อะไรมากใช่ไหมครับ แต่นี่คุณบอกว่าถึงกับหมดตัว แสดงว่าไม่น่าจะต้องวางเงินเต็มจำนวน (หมายความว่าเทรดได้มากกว่าเงินที่จ่ายหรือเปล่า) จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ วันปิยมหาราช 17:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยินดีอย่างยิ่งเลยครับคุณ TauRuZ_PaSSeRBy แต่เช้านี้ผมไปทำธุระก่อน ผมขอเข้ามาคุยต่อช่วงบ่ายนะครับ จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ต.ค. 48 10:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การชำระเงิน เริ่มแรก คุณต้องเปิดบัญชีเทรดสินค้ากับโบร๊กเกอร์ก่อน และโบร๊กฯจะแนะนำให้คุณทำการตัดเงินนผ่านเข้า/ออกกับธนาคารโดยวิธี ATS หรือไม่ก็ คุณต้องโอนเงินเข้าบัญชีโบร๊กฯโดยตรงก่อนจึงจะมีสิทธิสั่งซื้อ/ขายยางได้ การเริ่มต้นซื้อ/ขาย (คุณจะซื้อหรือขายก่อนก็ได้) ... เป็นหลักการอยู่ว่า โบร๊กฯจะเรียกเก็บเงินค่าสินค้าเพียง 5% ส่วนที่เหลือ 80% เป็นเครดิตที่โบร๊กฯให้ นั่นคือคุณจะจ่ายเงินซื้อ/ขายยางเพียงเงินจำนวนน้อย ตย.เช่น ถ้าคุณสั่งซื้อไว้ 1 สัญญาๆละ 5 ตัน (365,000 บาท) คุณก็จ่ายไว้ก่อนเพียง 18,250 บาท จากนั้นคุณก็นั่งรอดูราคายางในตลาด ถ้ายางราคาตก ลงมา 1 ช่วงราคา (call margin อยู่ที่ 1.50 บาท/กก.) เพราะงั้น ถ้าราคายางลดลงเหลือ 71.50 บาท แสดงว่า ยางในมือคุณ 1 สัญญา จะลดมูลค่าลงจาก 365,000 เหลือ 357,500 บาท แสดงว่าคุณขาดทุนเป็นเงิน 7,500 บาท ถึงตรงนี้คุณจะต้องเติมเงินลงไป 7,500 บาท เพื่อรักษาระดับเม็ดเงินของราคายาง 1 สัญญานี้ หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ เขาไม่เสี่ยง ไม่การันตีคุณ หลังจากเติมเงินแล้ว ถ้าหากยางยังราคาตกลงไปอีกจนถึงอีก 1 ช่วง CM. (Call Margin) คุณก็ต้องเติมลงไปอีก โดยคำนวณเงินเหมือนกับที่ผมคำนวณเมื่อกี๊ และต้องไม่ลืมว่า ราคายางในมือคุณก็จะลดมูลค่าลงไปอีก เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 48 09:47:19 แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 22:10:34 แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 15:14:44 แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 14:52:48 จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ต.ค. 48 14:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ความคิดเห็นที่ 5   ถ้าเป็นหุ้น 73 เหลือ 58 มันก็ไม่อะไรมากใช่ไหมครับ แต่นี่คุณบอกว่าถึงกับหมดตัว แสดงว่าไม่น่าจะต้องวางเงินเต็มจำนวน (หมายความว่าเทรดได้มากกว่าเงินที่จ่ายหรือเปล่า) จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy  - [ วันปิยมหาราช 17:43:04 ] ถ้าเป็นหุ้น 73 ราคาตกลงมาเหลือ 58 มันก็สาหัสอยู่ แต่คุณสามารถถือหุ้นนี้ไว้เพิ่อรอขายในราคาสูงได้ คุณจะถือกี่ปี่ก็สิทธิของคุณ แต่ ถ้าเป็นยาง ราคาตกขนาดนี้  ... ตายเลยครับ คุณไม่มีสิทธิจะถือ นอกเสียจากต้องเติมเงินลงไป ซึ่งจากราคา 73 ลงไปถึง 58 คุณจะต้องเติมเงินทั้งหมด 10 ครั้ง ตรงนี้ ... คุณกล้ารับความเสี่ยงหรือ กับของที่เติมเงินไม่รู้จักพอเสียที???? เป็นผม ผมไม่เสี่ยงหรอก เพราะเท่ากะเล่นฝืน trend และถึงคุณจะเติมอย่างไรก็แล้วแต่ คุณต้องรู้ว่า คุณยื้อได้ไม่นาน เพราะยางในมือคุณจะมีอายุแค่สั้นๆ ก็จะถึงกำหนดส่งมอบไม่เกิน 6 เดือนข้างหน้า ถ้าภายใน 6 เดือน trend of price เปลี่ยน คุณก็ชนะ แต่ถ้าไม่เปลี่ยนล่ะ ... คุณพังเลย ผมจะลองคำนวณว่า ... ยาง 1 สัญญากับเงินลงทุน 18,250 บาท (แต่ราคาจริงคือ 73 x 5,000 = 365,000 บาท) ราคาตกจากที่ซื้อไว้ 73 เหลือ 58 นั้น สถานะราคายางในมือคุณจะเป็นอย่างไร ซื้อ/ขายยาง 1 สัญญา ไว้ราคา 73 บาท ราคาจริง 365,000 บาท ... (คุณจ่ายเงินไว้ 18,250 บาท) ยางราคาตกลงมาเหลือ 58 บาท เพราะงั้นราคายางในมือเหลือ 290,000 บาท เพราะงั้น คุณขาดทุน 75,000 บาท แต่คุณจ่ายไว้แล้ว 18,250 บาท เพราะงั้น คุณต้องหาเงินมาจ่ายเพิ่ม 56,750 บาท ถึงจะปิดสถานะสัญญาได้ แต่ถ้าคุณซื้อ/ขายไว้ 10 ... 20 ... 30 ... 100 ... 500 สัญญา คุณก็คูณเข้าไป (เขาตั้งกฎอั้นไว้ไม่ให้ใครๆซื้อเกิน 500 สัญญา เขากลัวปั่นราคา) คุณรับรอง หมดตัวแน่เลยครับ แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 22:15:52 แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 22:12:06 จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ต.ค. 48 15:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ้อ มีค่าคอมมิชชั่นด้วย (คิดราคาถูกกว่าหุ้น) เขาคิด .15% + vat 7% เช่น ยาง 1 สัญญา จ่ายคอม = 365,000 x .15% + 7% = 582.82 จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ต.ค. 48 15:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 (ถ้าจำไม่ผิด) ยางหนึ่งสัญญา  วางเงินประกัน 17000 บาทครับ   1 สัญญา 5000 ก.ก. ราคาปัจจุปัน 68 บาท ดังนั้นราคาจริง  5000*68  =   340000 บาท แต่การเทรด ตลาดสินค้าเกษตร จะเป็นการเทรดสัญญา (ไม่ใช่การซื้อขายจริง) จึงเป็นลักษณะของการ วางเงินประกันสัญญา คือ ถือ 1 สัญญา(ซื้อ หรือ ขายก็ได้   Long or  Short ) จะวางเงินประกัน  17000 (ก่อนหน้านี้วาง  13500) ในหนึ่งวัน ราคายางสามารถเคลื่อนไหวได้ สูงสุด  2.2 บาท ถ้าเรา ซื้อยาง 1 สัญญา ที่ราคา  68 บาท และวันต่อมาลง 1 บาท   จะทำให้เราติดลบทางบัญชี  5000 บาท  (1*5000 ก.ก.) ถ้าหากในวันต่อมา ราคาตกลง 2.2 (ฟลอร์) จะทำให้เราติดลบ  3.2*5000  =   16000 บาท ซึ่ง ตอนแรกเราวางเงินไว้ 17000 จะเห็นว่าเงินต้นเราเกือบหมดแล้ว (ขาดทุน เกือบ  100 %) ดังนั้น ทางโบรก ก็จะเรียกเงินเพิ่ม  Call Margin เพิ่ม  ตามจำนวนที่ติดลบ เพื่อให้เรามีเงินประกันเท่าเดิม หรือเราอาจจะขายสัญญาที่ถือไว้ออกไป เราก็จะแทบจะไม่เหลือเงินเลย เพราะว่าต้องเสียค่าคอม อีก ประมาณ 1000 บ. สรุปก็คือ  ความเสี่ยงสูงมากครับ จากคุณ : นายสำเร็จ (Gigg) - [ 24 ต.ค. 48 21:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาสนับสนุนคุณ Gigg ครับ ตัวเลขขาดทุนนั่นคือการสรุปผลการลงทุน เล่นหุ้นยังไม่รู้สึกเครียดเท่า แต่ในระหว่างการลงทุนราคาล่วงหน้า คุณจะรู้สึกกระวนกระวายใจมากกว่าเล่นหุ้นครับ แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 22:14:40 จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ต.ค. 48 22:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้อ ... มีนิดนึงของคุณ Gigg ครับ ฟลอร์ / ซิลลิ่ง ของยาง ไม่ใช่ 2.2 ตลอดไปครับ มันขึ้น/ลง ไม่แน่นอนครับ บางครั้ง 2.6 บางครั้งแค่ 1.8 ตรงนี้ ทางกสล.บอกว่า จะพิจารณาปรับตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งผมคิดว่า "ไม่แฟร์อย่างยิ่ง" มันส่งผลทั้งดีและเสียต่อนักลงทุน 2 คนครับ คือกฎไม่ตายตัวแน่นอน จะทำให้ ... คนหนึ่งได้ประโยชน์ อีกคนเสียประโยชน์ ผมคิดว่าตรงนี้ถือว่า "ไม่โปร่งใสมากๆ" จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ต.ค. 48 22:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นหลักการอยู่ว่า โบร๊กฯจะเรียกเก็บเงินค่าสินค้าเพียง 20% ส่วนที่เหลือ 80% เป็นเครดิตที่โบร๊กฯให้ นั่นคือคุณจะจ่ายเงินซื้อ/ขายยางเพียงเงินจำนวนน้อย ตย.เช่น ถ้าคุณสั่งซื้อไว้ 1 สัญญาๆละ 5 ตัน (365,000 บาท) คุณก็จ่ายไว้ก่อนเพียง 18,250 บาท 20% น่าจะเป็นเงิน 73,000 นะครับ เอาละครับ พอ get แล้ว ขอบคุณคุณแมวม่อนที่เสียสละเวลามาอธิบายมากครับ จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 25 ต.ค. 48 09:26:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ในฐานะที่คุณจะเข้ามาซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้านั้น ทุกคนควรจะศึกษาให้ดีเสียก่อนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น กลไกของหลักการวางเงินประกัน จากความเห็นข้างต้นนั้นที่บอกว่าต้องเรียกเงินประกันเพิ่มหลายครั้ง เนื่องจากผู้ที่เข้ามาซื้อขายยังไม่เข้าใจเรื่องความเสี่ยงอย่างเพียงพอ สมมุติ คุณเข้ามาซื้อยาง 1 สัญญา (5000 กิโล ราคากิโลละ 68) มูลค่าเต็มคือ 340000 บาท วางเงินประกัน 18000 บาท ผู้ที่เข้ามาซื้อขายต้องเข้าใจว่าตัวเองต้องรับความเสี่ยงตามมูลค่าสัญญา คือ 340000 ไม่ใช่ เงินประกัน 18000 บาท เท่านั้น ดังนั้นหากราคามีความผันผวนมาก เงินประกันที่คุณนำมาวางก็จะไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นของธรรมดา การที่ตลาดล่วงหน้าใช้ระบบเงินประกันในการซื้อขายก็เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาซื้อขายไม่ต้องนำเงินเต็มจำนวนเข้ามาซื้อขายเต็มมูลค่า ผมลองให้ตัวอย่างใน 2 แง่มุมแล้วกันครับ วันนี้ราคายาง 68 บาท มูลค่า 340000 บาทต่อสัญญา คุณทำสถานะซื้อ 1 สัญญา วางเงินประกันไว้กับโบรกเกอร์ 18000 บาท หากพรุ่งนี้ราคาขึ้น 1 บาท ต่อกิโลกรัม กำไร 5000 บาท คิดเป็น 27 % ของเงินประกัน โอ้โหกำไรตั้ง 27 % ราคาเปลี่ยนจาก 68 เป็น 69 แต่ถ้าราคาลง 1 บาท คถุณก็จะขาดทุน 27% เหมือนกันนะ อันนี้เข้าข่าย High Risk High Return เพราะฉนั้น ถ้าคุณมีเงิน 18000 บาท แนะนำ อย่ามาเล่นเลยครับแนะนำ หัวใจวายเปล่าๆ เพราะคุณเอาเงิน 18000 มารับผิดชอบของมูลค่า 340000 ไม่ไหวหรอก จากคุณ : คนผ่านมา - [ 25 ต.ค. 48 09:35:27 A:58.11.35.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 อีกอย่างครับเรื่องการปรับ ceiling floor ผมว่าเค้ามีแบบอย่างจากตลาดต่างประเทศครับ มันมีหลักว่าหากวันนี้มีการซื้อขายแล้ว ceiling หรือ floor ในวันรุ่งขึ้นจะมีการปรับให้ ceiling หรือ floor ให้มากขึ้น เหตุผลที่ให้คือ การขยาย ceiling floor นั้นทำให้โอกาสในการล้างสถานนะเกิดขึ้นได้มากขึ้น เพราะหากเกิดภาวะทุกคน offer ที่ floor สมมุติว่า -2.2 โดยไม่มีผู้ซื้อเลย ในวันนั้นคนที่อยากขายตัดขาดทุนอาจทำไม่ได้ แต่การที่ขยาย ไปเป็น -2.7 จะทำให้มีโอกาสที่จะขายได้มากขึ้น นี่คือสิ่งที่ได้รับรู้มานะครับ แล้วส่วนตัวผมก็ว่ามีเหตุผล แต่ใครมีความเห็นไม่เหมือนก็บอกกันได้นะครับ (หลายหัวดีกว่าหัวเดียว) ผมอาจมองไม่เห็นในแง่มุมอื่นก็อาจเป็นไปได้ จากคุณ : คนผ่านมา - [ 25 ต.ค. 48 09:48:01 A:58.11.35.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอโทษด้วยครับคุณ TauRuZ_PaSSeRBy ตัวเลข 20% ของผมผิดครับ ที่ถูกต้องคือ 5% ครับ ผมเข้าไปแก้ไขไว้แล้วครับ จากคุณ : แมวม่อน - [ 25 ต.ค. 48 09:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุยกับคุณ คนผ่านมา ที่ #14 นะครับ การเล่นยางจะรวยหรือขาดทุนเป้นไปตามการเก็งกำไรของคนเล่นอยู่แล้ว ตรงนี้ถือว่า ขึ้นกับการตัดสินใจ ช่วยไม่ได้ที่ใครจะเจ๊ง แต่ที่ผมไม่แนะนำให้เล่นเพราะ - ตลาดยังเล็กเกิน คนซื้อไม่กี่คน ถ฿งกสล.จะพยายามออกกฎป้องกันการปั่นราคา แต่อย่าลืมว่า คนเล่นน้อยราย ยังไงก็ยังปั่นราคาได้ - กฎเกณฑ์ซิลลิ่ง/ฟลอร์ ที่ขยับได้นั้น ไม่โปร่งใสครับ  ถึงแม้กสล.จะอ้างว่าเพื่อช่วยให้มีแรง bid แต่ผมคิดว่า นั่นแค่อ้างครับ - ผมบอกแต่แรกเลยว่า การสวิง ทำให้เกิดการ call margin นั่นแหละจุดตายของคนเล่น จากคุณ : แมวม่อน - [ 25 ต.ค. 48 09:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณทุกท่านจริงๆครับ ที่มาให้ความรู้ ผมก็ว่าเหมือนคุณแมวม่อนนะ ที่วอลุ่มน้อย ทำให้เล่นยาก แถมโดนปั่นราคาได้ง่ายๆอีกต่างหาก จากคุณ : คำรณ หวังหว่างขา - [ 25 ต.ค. 48 11:34:03 A:158.108.25.45 X: TicketID:106549 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เออ คุณแสนหัม เอ๊ย แสนหก เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดAFET ในนี้บ่อยๆหน่อยซิครับ จากคุณ : คำรณ หวังหว่างขา - [ 25 ต.ค. 48 11:36:23 A:158.108.25.45 X: TicketID:106549 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอิ๊ก เอิ๊ก กกก คุณคำร๊ณ มาเรียกผม "แสนหัม" แสดงว่าต้องรู้จักกันมาก่อน และต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามแนวความคิดด้วย เรียกผมเพราะๆหน่อยซี่ เดี๋ยวจะมีนิทานชีวิตมาเล่าให้ฟัง เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวผมจะแตกประเด็นกระทู้นี้ไปตั้งใหม่ จะเอาเรื่องที่ผมเคยคุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่หลดตัวเพราะหลงเข้าเล่นยางในช่วงที่หุ้นตก เมื่อไม่กี่เดือนนี้เองแหละ นิทานชีวิต!!!! จากคุณ : แมวม่อน - [ 25 ต.ค. 48 11:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 48 17:41:13 จากคุณ : แมวม่อน - [ 25 ต.ค. 48 13:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 48 13:48:35 จากคุณ : แมวม่อน - [ 25 ต.ค. 48 13:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แตกประเด็นกระทู้มาที่ลิงค์นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I3831647/I3831647.html แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 48 17:40:43 แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 48 13:49:41 จากคุณ : แมวม่อน - [ 25 ต.ค. 48 13:46:16 ]